เปิดทางรอดธุรกิจอสังหาฯ ฝ่าโควิด-19 “ราคา”จูงใจผู้ซื้อเสริมตลาดปล่อยเช่าเจาะนักลงทุน
บริษัท พร็อพทูมอร์โรว์ จำกัด ได้จัดเสวนาเรื่อง “กรุงเทพจตุรทิศ : อสังหาฯฝ่าคลื่นเศรษฐกิจ วิกฤตินี้ยาวแค่ไหน…? โดยมีวิทยากรจากสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ,บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN และบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP โดยมีผู้ประกอบการ และนักลงทุน เข้าร่วมฟังสัมมนา
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยถึงทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 ว่า เดิมทุกครั้ง ตนเองจะมองภาพเป็นบวก แต่ครั้งนี้ พูดยาก ซึ่งผู้ประกอบการที่เคยผ่านวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี2540 มาแล้ว จะทราบว่าหนักสาหัส แต่เหตุการณ์ปี 2563 นี้ จากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เหมือนโรคมะเร็ง ที่ทยอยออกอาการ แต่ภาพใหญ่ของผลกระทบจากโควิด-19 ไม่ได้มีเพียงประเทศไทยที่เดือดร้อนประเทศเดียว แต่เดือดร้อนและสาหัสไปทั่วโลก
ขณะที่ราคาที่ดิน ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าขณะนี้ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2562 จะบังคับใช้แล้ว ซึ่งราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น เป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการกังวล เนื่องจากจะส่งผลต่อต้นทุนในการพัฒนาโครงการที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ รัฐบาลมีการผ่อนปรนในการจัดเก็บภาษีลงเหลือ 90% แต่ปี 2564 ไม่แน่ใจว่า จะมีมาตรการต่อเนื่องหรือไม่ ขณะที่โครงการที่อยู่อาศัยที่เหลือขาย หากภายในระยะเวลา 3 ปี ยังไม่มีการจำหน่าย อาจจะต้องมีภาระทางภาษีเพิ่มขึ้น
“ในสถานการณ์ที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว และขายยาก การจะไปบวกราคาเพิ่มเหมือนในภาวะที่ตลาดขายดีๆ คงเป็นเรื่องที่ยาก ซึ่งเราจะเห็นว่า ราคาที่ดินในไตรมาส 2 ของปี 2561 ปรับสูงขึ้นประมาณ 15% ส่งผลให้ราคาห้องชุดต้องปรับขึ้นตามต้นทุนประมาณ 5% และราคาที่ดินชะลอตัวลง และกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง ในไตรมาส 4 ของปี 2562 รวมถึงสินค้าประเภททาวน์เฮาส์ราคาปรับขึ้นเช่นกัน หมายความว่า กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ชนชั้นกลาง จะหาที่อยู่อาศัยอาจจะลำบาก เนื่องจากรายได้ไม่สามารถรับกับโอกาสในการมีที่อยู่อาศัย ดังนั้นรัฐบาลควรจะมองเรื่องการที่จะทำตลาดปล่อยเช่าให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ดี จากผลของโควิด-19 ทำให้ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ทั้งกลุ่มประเภทคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว ราคาปรับลดลง” นายพรนริศ กล่าว
ทั้งนี้ภาพของจำนวนโครงการที่อยู่อาศัย ที่เปิดขายใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ตามข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ระบุว่า บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด โดยในครึ่งปีแรก ตลาดรวมมีการเปิดตัว 126 โครงการ กว่า 57.1% มาจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีหน่วยขายที่ออกสู่ตลาดมากถึง 63.5% จากหน่วยที่ออกสู่ตลาดรวม 26,301 หน่วย มูลค่าการเปิดโครงการรวม 159,470 ล้านบาท สัดส่วนของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯประมาณ 35.8%