“บริทาเนีย” ผนึกบิ๊กแลนด์ลอร์ดเจ้าของ “ม.เกษมบัณฑิต” ลุยพัฒนาโครงการบ้าน “แกรนด์ บริทาเนีย กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า”
บมจ.บริทาเนีย หรือ BRI โชว์ศักยภาพ หลังประกาศเปิดกว้างร่วมทุนแลนด์ลอร์ดทั่วประเทศพัฒนาโปรเจกต์อสังหาฯ สร้างโอกาสเติบโตแบบ Win-Win ปิดดีลร่วมทุนบิ๊กแลนด์ลอร์ด กลุ่ม เกษมบัณฑิต ผู้รับใบอนุญาตและก่อตั้ง “มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต” เตรียมเนรมิตที่ดินกว่า 34 ไร่ ปั้นโครงการบ้านเดี่ยว “แกรนด์ บริทาเนีย กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า” มูลค่าโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท ตอกย้ำความเชื่อมั่นก้าวสู่ผู้นำ “B To The Top”
นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ผู้พัฒนาบ้านจัดสรรภายใต้แนวคิด “CRAFT a life you love” ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทได้ประกาศโมเดลธุรกิจ “Your Land to New Business” เปิดโอกาสให้เจ้าของที่ดินในทำเลศักยภาพทั่วประเทศ ได้ร่วมทุน (Joint Venture) พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรร่วมกัน เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน ล่าสุด บริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับบริษัท เกษมบัณฑิต จำกัด เจ้าของที่ดินผืนศักยภาพฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออกตระกูลดัง “สุวรรณดี” ผู้ริเริ่มและก่อตั้งมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร “แกรนด์ บริทาเนีย กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า” (Grand Britania Krungthep Kreetha – Romklao)
โครงการดังกล่าวออกแบบเป็นโครงการบ้านเดี่ยว และบ้านซีรีส์ใหม่ 2 ชั้น ระดับ High-End ด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอย 205 – 285 ตารางเมตร จำนวน 128 ยูนิต โดยมีพื้นที่ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ บนถนนร่มเกล้า สามารถเลือกเดินทางได้หลากหลายเส้นทาง เชื่อมกับถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า และถนนมอเตอร์เวย์ เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 8.5 กม. รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์เพียง 10 กม. ใกล้โรงพยาบาลสิรินธร โรงเรียนสารสาสน์ วิเทศน์ร่มเกล้า โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง มีแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งบิ๊กซี The Paseo Mall โรบินสัน โดยโครงการมีจุดเด่นที่ดีไซน์และการออกแบบให้เป็นบ้านของคนยุคใหม่ ที่มีนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
“การร่วมทุนกับกลุ่มเกษมบัณฑิตในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของพันธมิตรในศักยภาพของ BRI กับการเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ ชั้นนำของประเทศที่มุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความสุขให้แก่ผู้อยู่อาศัย และวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่มีความชำนาญ เข้าใจดีมานด์ของตลาด มุ่งมั่นในการปรับและพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบสนองความความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุคปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจอย่างก้าวกระโดด และช่วยผลักดันให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศ” นายสุรินทร์ กล่าว