“บริดจ์ แคปปิตอล” เปิดตัว ‘ธุรกิจสินเชื่อระยะสั้น และร่วมลงทุนในหนี้ที่มีอสังหาริมทรัพย์ค้ำประกัน’ พร้อมตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อมีมูลค่า 250 ล้านบาทภายในปีแรก
บริษัท บริดจ์ แคปปิตอล แมเนจเม้นท์ จำกัด (บริดจ์ แคปปิตอล) ภูมิใจนำเสนอธุรกิจสินเชื่อระยะสั้นและผลิตภัณฑ์ร่วมลงทุนในหนี้ที่มีอสังหาริมทรัพย์ค้ำประกัน (Secured Private Credit Business and Real-Estate Investment Participation Product) แห่งแรกในประเทศไทย โดยบริดจ์ แคปปิตอลจะเป็นทั้งผู้ร่วมลงทุนและเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างนักลงทุนรายย่อยที่มองหาการลงทุนในสินเชื่อที่มีอสังหาริมทรัพย์ค้ำประกันที่ให้ผลตอบแทนที่ดีและมีความเสี่ยงต่ำ กับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการสภาพคล่องและเงินทุนหมุนเวียนในระยะสั้น ด้วยเครือข่ายทางธุรกิจที่กว้างขวาง พร้อมทั้งประสบการณ์ทำงานและความเชี่ยวชาญอันยาวนานของผู้ร่วมก่อตั้ง บริดจ์ แคปปิตอลตั้งเป้ามูลค่าพอร์ตสินเชื่อจะเติบโตอยู่ที่ 250 ล้านบาทภายในปีแรกที่เปิดดำเนินการ ทั้งนี้ บริษัทก่อตั้งโดยผู้บริหารที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจการเงิน ได่แก่ ผู้บริหารจากบริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ แคปปิตอล ลิ้งค์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทางการเงินชั้นแนวหน้าของประเทศไทย อีกทั้งยังมีนายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ผู้ก่อตั้ง บมจ. ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นผู้ร่วมลงทุนเชิงกลยุทธ์อีกด้วย
นายฐิติวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริดจ์ แคปปิตอล แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า “ด้วยประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจการเงินมายาวนานกว่าหลายสิบปี เราเล็งเห็นโอกาสในการจัดตั้งธุรกิจสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือและมีความโปร่งใส่ เพื่อให้บริการปล่อยสินเชื่อภาคเอกชนแก่ผู้ที่มีอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพในประเทศไทยเป็นหลักประกัน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราพบว่าผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กจำนวนมากยังประสบปัญหาในการขอเงินกู้จากแหล่งสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม แม้ว่าจะมีอสังหาริมทรัพย์มาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันก็ตาม ด้วยเหตุนี้หลายครั้งที่ผู้ประกอบการจึงหันไปพึ่งการกู้เงินนอกระบบ ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าทั่วไป เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว เราจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ลงทุนที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการและนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนที่ดี โดยบริดจ์ แคปปิตอลจะเป็นผู้ดำเนินการปล่อยสินเชื่อระยะสั้นที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันในวงเงินสินเชื่อจำนวน 10-50 ล้านบาท ที่อัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด มีกำหนดระยะเวลาชำระคืนภายใน 1-2 ปี และมีอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพในทำเลที่ดีเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งรวมถึงที่ดินเปล่า อาคารพาณิชย์ ทาวน์โฮม อาคารและห้องชุดอยู่อาศัย เป็นต้น ภายใต้เงื่อนไขอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (Loan-To-Value) ไม่เกินร้อยละ 50 ของมูลค่าหลักทรัพย์ค้ำประกัน