ครั้งแรก! ชินส์ แกลเลอรี่ จับมือ JWD Art Space กลางกรุง จัดแสดงนิทรรศการเดี่ยวของ 5 ศิลปินคอนเทมโพรารี่ชื่อดัง จากหลายมุมโลก ไว้ในที่เดียว
ชินส์ แกลเลอรี่ จัดโซโล่โชว์ของ 5 ศิลปินร่วมสมัยแถวหน้ากับกว่า 40 ผลงาน ร่วมกับ JWD Art Space ใจกลางเมือง นำโดยศิลปินเปี่ยมประสบการณ์กับนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรกในไทยของ โยฮัน เดคแมน (Johan Deckmann) จากเดนมาร์ก และ ริชาร์ด โคลแมน (Richard Colman) จากสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังได้ศิลปินชื่อดังมากประสบการณ์ในวงการอย่าง จอร์แดน นิคเคิล จากสหรัฐฯ และ แม็กซ์เวล แมคมาสเตอร์ รวมถึงรุ่นเก๋าสไนป์วันจากญี่ปุ่น มาร่วมสร้างประสบการณ์สุดพิเศษในครั้งนี้ด้วย เตรียมค้นหาความหมายของชีวิตผ่านงานศิลป์จากต่างประเทศ บนพื้นที่กว่า 400 ตร.ม. ที่ JWD Art Space ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน
อรศิรี ชินกำธรวงศ์ ผู้ก่อตั้ง ชินส์ แกลเลอรี่ (Chin’s Gallery) กล่าวถึงงาน “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวงการศิลปะในประเทศไทย แกลเลอรี่ของเราก่อตั้งบนความตั้งใจที่อยากมีส่วนร่วมกับ urban contemporary art ที่ผสานทั้งความสนุก หลากหลาย เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา สำหรับงานนี้เราต่อยอดความตั้งใจด้วยการจัดโซโล่โชว์ของศิลปินชื่อดังถึง 5 ท่าน โดยร่วมมือกับ JWD Art Space เราหวังว่างานของศิลปินชั้นนำผนวกความสะดวกสบายด้านการเดินทางจะถูกใจแฟนเบสและทุกคนที่มาร่วมงานครั้งนี้ค่ะ”
ศิลปินที่มาจัดงานแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ได้แก่ โยฮัน เดคแมน (Johan Deckmann) จากเดนมาร์ค และ
ริชาร์ด โควแมน (Richard Colman) จากสหรัฐอเมริกา รวมถึงศิลปินมากประสบการณ์ เช่น จอร์แดน นิคเคิล (Jordan Nickel) แม็กซ์เวล แมคมาสเตอร์ (Maxwell McMaster) จากสหรัฐอเมริกา และ สไนป์วัน (Snipe1) จากญี่ปุ่น
ศิลปินท่านแรก โยฮัน เดคแมน มากับนิทรรศการ The Art of Embracing Chaos จากโคเปนเฮเกน ที่เปรียบเสมือนแรงกระตุ้นให้ค้นหาความชัดเจนและจุดมุ่งหมายของมนุษย์บนเส้นทางชีวิตที่ล้วนอนิจจัง เปิดประตูผ่านงานศิลป์เพื่อเพิ่มแรงบันดาลใจและค้นหาตัวตนผ่านการค้นลึกไปในจิตใจ เดคแมนสร้างสรรค์ผลงานผ่านตัวอักษรเพราะเขาเชื่อว่าตัวอักษรเป็นศิลปะทรงพลังเปี่ยมความหมาย ไม่ต่างจากงานศิลปะแนวอื่น เดคแมนผสานความสามารถด้านการวาดภาพ บทกวี และหลักจิตวิทยา อย่างแยบยล เพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะด้วยการดำดิ่งสู่ความหมายของชีวิตอันซับซ้อน ผ่านผลงานตัวอักษรบนปกผ้าห่อหนังสือ โดยหวังให้ผู้อ่านได้สะท้อนคิด งานของเดคแมนโยงใยเรื่องราวโดยปราศจากปัจจัยด้านเพศ วัฒนธรรมและอายุ จึงเป็นลูกเล่นที่เรียบแต่ทรงพลังบนพื้นฐานของถ้อยคำที่ความงดงามและสมถะ
“ผมรู้สึกตื่นเต้นกับงานแสดงผลงานครั้งแรกในไทยและเฝ้ารอกระแสตอบรับจากผู้เข้าชม งานครั้งนี้ นอกจากจะมีคุณค่าทางจิตใจสำหรับผมแล้ว การที่ผมมีผู้ชมจากอีกมุมโลก ก็สร้างแรงบันดาลใจได้มาก งานของผมสื่อสารถึงทุกคนที่อยู่ในความสัมพันธ์ ทั้งกับตนเองและผู้อื่น พวกเราล้วนได้รับของขวัญของการมีชีวิตอยู่ แม้จะมีทั้งด้านบวกและลบผสมกันไป งานของผมนั้นใช้ถ้อยคำบอกเล่าหลากหลายเรื่องราวโดยหวังกระตุ้นต่อมความคิด ในงานนี้ ผมเลือกเนื้อหาที่เกี่ยวกับความหวังอันโยงใยถึงกำเนิดมนุษย์ ความสำเร็จ เป้าหมายในชีวิต แอลกอฮอล์ รวมถึงความกังวลต่ออนาคตของมวลมนุษยชาติ ผมมักได้แรงบันดาลใจจาการสังเกตพฤติกรรมมนุษย์ และต่อยอดไปถึงโลกใบนี้ที่นับวันจะมีแต่ความผันแปร ผมจะชอบตั้งคำถามชวนให้คิด เช่นว่า มนุษย์จะฝึกจิตใจให้ดำรงอยู่ท่ามกลางความโกลาหลนี้ได้อย่างไร การหลีกหนีนั้นเป็นทางออกที่ยั่งยืนหรือไม่ มนุษย์ถือกำเนิดมาจากที่ใด แล้วเรายังควรมีหวังต่อไปหรือไม่ เมื่อผมสวมหมวกนักจิตบำบัดแล้วผมจะชอบตั้งคำถามชวนสะท้อนคิดอยู่เสมอ” เดคแมนกล่าวเพิ่มเติม