Shake Shack vs In-N-Out สงครามเบเกอร์จากฝั่ง West-East
ถ้าพูดถึงแบรนด์ฟาสต์ฟูดส์อย่างแฮมเบเกอร์คนทั่วโลกย่อมต้องนึกถึง McDonalds หรือไม่ก็ Burger Kings แต่สำหรับคนอเมริกันแล้วอาจจะรู้จักชื่อของ
Shake Shack แบรนด์เบเกอร์ชั้นนำจากฝั่งตะวันออก แต่ถ้าเป็นชาวฝั่งตะวันตกทางแคลิฟอร์เนียก็จะคุ้นเคยกับชื่อของ In-N-Out แทน
จะเรียกได้ว่า Shake Shack คือตัวแทนจากฝั่งตะวันออกและ In-N-Out คือตัวแทนจากฝั่งตะวันตกก็ว่าได้ โดยทั้งสองแบรนด์ยังมีกลยุทธ์และจุดยืนทางธุรกิจที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
จากร้านเล็กๆในเมดิสัน สแควร์ พาร์คสู่ตลาดหุ้น
จุดเริ่มต้นของ Shake Shack เป็นเพียงร้านขายฮอตดอกเล็กๆตั้งอยู่บริเวณ
เมดิสัน สแควร์ พาร์ค ในนิวยอร์ก เมืองเอกทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ก่อนจะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานออฟฟิศจนมีการขยายสาขาไปทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งสามารถเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์คได้สำเร็จ ทั้งๆที่เพิ่งเปิดร้านมาในปี 2001 เท่านั้น
ปัจจุบัน Shake Shack มีสาขาทั่วโลกเกือบ 400 สาขา ทั้งในสหรัฐฯ ยุโรปและเอเชีย มีมูลค่าตลาดกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ รายได้รวมในปีที่ผ่านมา 740 ล้านดอลลาร์ ขอเป็นตัวแทนของชาวฝั่งตะวันตก
ด้าน In-N-Out ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1948 ที่ เมืองบอลด์วินพาร์ก รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเริ่มต้นจากการเป็นธุรกิจภายในครอบครัวของตระกูล Snyder และปัจจุบันได้สืบทอดต่อสู่ทายาทในรุ่นที่สาม จึงเรียกได้ว่าเป็นธุรกิจครอบครัวอย่างแท้จริง
In-N-Out ยึดมั่นในหลักการที่จะไม่มีการขายแฟรนไชส์ให้กับผู้อื่นไปบริหารโดยจะทำการควบคุมภาพจากศูนย์กลางเท่านั้น ปัจจุบันมีจำนวนสาขารวมประมาณ 300 สาขาเท่านั้นและตั้งอยู่เฉพาะฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯเท่านั้น
ยึดมั่นกับการจับตลาดพรีเมียม
ถ้าแบ่งเซกเมนต์ของตลาดแฮมเบเกอร์ที่มีรูปแบบเป็นเชน ไม่ใช่ร้านที่เป็นรูปแบบสแตนด์อะโลนเน้นเปิดเพียงไม่กี่สาขาหรือไม่มีสาขา กลุ่มที่เป็นตลาดแมสก็คือ McDonalds จากการที่มีจำนวนสาขามากที่สุดและมุ่งเน้นราคาประหยัดแม้จะมีโปรดักต์พรีเมียมมาทำการตลาดเป็นระยะๆแต่ตลาดหลักของ McDonalds ก็ยังคงเป็นระดับแมส
ขณะที่ตลาดบนขึ้นมาจะเป็นของ Burger Kings ที่แม้ช่วงหลังมีการปรับกลยุทธ์หันมาจับตลาดแมสมากขึ้นจากการที่มีการขยายสาขามากขึ้นแต่ยังเน้นโปรดักต์ที่มีคุณภาพและราคาที่สูงกว่า McDonalds