เราจะสร้างอสังหาไปอีกทำไมในเมื่อ “โลกของเราอาศัยอยู่ไม่ได้” รีวิวหนังสือ The Uninhabitable Earth ที่ CEO ของ White Peak Real Estate แนะนำให้อ่าน
กระแสความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติถูกพูดถึงขึ้นมาเป็นระยะ นับตั้งแต่เหตุการณ์พะยูนมาเรียมขวัญใจชาวไทยรวมถึงสัตว์ทะเลมากมายเสียชีวิตจากการกินพลาสติก ไฟไหม้ป่าอเมซอน ไปจนถึงการออกมาพูดสุนทรพจน์ที่สร้างความสนใจให้แก่ผู้คนครั้งใหญ่ของหนูน้อยเกรตา ธันเบิร์ก ในเวทีประชุมโลกร้อน
เราทุกคนต่างรู้สถานการณ์ความเป็นไปของโลกกันอยู่แก่ใจว่าสภาพอากาศวิปริตแปรปรวนไปแค่ไหน รู้ว่าน้ำแข็งที่ขั้วโลกกำลังละลาย รู้ว่ามีแมลงหลายชนิดหายไปจากโลกใบนี้ ทุกคนรู้ดีกันว่าต่อไปในรุ่นลูก รวมไปถึงรุ่นหลาน หากทุกคนยังคงปล่อยปละละเลยและไม่กล้าหาญพอที่จะลุกขึ้นมาลงมือทำอะไรสักอย่าง อนาคตในวันข้างหน้าคงหนีไม่พ้นเหตุการณ์อันเลวร้ายอย่างการที่เมืองซึ่งอยู่ติดชายฝั่งทะเลหายสาบสูญไป เกิดพายุ ไฟป่า น้ำท่วมครั้งใหญ่ ฟังดูเลวร้ายใช่ไหม หากใช่ ก็แปลว่าคุณมีความตระหนักและสนใจประเด็นนี้ในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่คุณรู้และเข้าใจนั้นมันใกล้เคียงกับความเป็นไปได้ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นมากเพียงใด David Wallace-Wells ผู้เขียนหนังสือ The Uninhabitable Earth: Life after Warming ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังสือที่ผู้บริหารคนหนึ่งในวงการอสังหาริมทรัพย์แนะนำให้อ่านในปี 2019 นาย Jesper Jos Olsson ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ White Peak Real Estate จะชี้ให้ทุกคนได้เห็นว่าในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือมันเลวร้ายมากกว่าที่ทุกคนคิดหลายเท่าตัว It is worse, much worse, than you think.
David Wallace-Wells อาชีพผู้สื่อข่าว ผู้เขียนหนังสือ The Uninhabitable Earth: Life after Warming
Jesper Jos Olsson ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ White Peak Real Estate
ภาพปกหนังสือ The Uninhabitable Earth: Life after Warming