พาชมโครงการ Tokyo TORCH และอาคาร Tokiwabashi Tower โครงการที่พัฒนาบนแนวทาง Inclusive Living

เกริก บุณยโยธิน 09 August, 2023 at 10.44 am

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


Inclusive Living ตามความหมายของบริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน) พันธมิตรจากญี่ปุ่น คือแนวทาง ‘การออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อทุกคน’ ซึ่งหากดูเผินๆอาจจะมีความหมายคล้ายกับ Universal Design ซึ่งเป็นการออกแบบที่ให้ผู้คนทุกวัยทุกสภาพร่างกายสามารถเข้าถึงการใช้งานในทุกมุมของพื้นที่ได้สะดวกเท่าเทียมกัน แต่จริงๆแล้วนิยามของ Inclusive มีการลงลึกถึงรายละเอียดในเชิงไลฟ์สไตล์และวัฒนธรรมของผู้ใช้งานไปในดีเทลการออกแบบด้วยครับ

 

ดังนั้น เมื่อพูดถึง ‘การออกแบบพื้นที่เพื่อทุกคน’ (Inclusive Living) ในคอนโดมิเนียมหนึ่งโครงการนั้น มีความซับซ้อนในการออกแบบที่มากกว่าการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วไปที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม บนความเชื่อว่า ‘ทุกคนล้วนมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน’ อาทิ ช่วงวัย ไลฟ์สไตล์ ความจำเป็นพิเศษทางกายภาพ หรือวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นต้น

 

ซึ่งหากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สามารถทำความเข้าใจเงื่อนไขและความต้องการที่ซ่อนอยู่ของลูกค้าเพื่อเป็นพื้นฐานในการต่อยอดมาสู่การออกแบบพื้นที่อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้คนทุกเพศทุกวัย สามารถ ‘เลือก’ ใช้ชีวิตที่ดีและมีคุณภาพ บนพื้นที่อิสระ สภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายและปลอดภัย ตลอดจนประสบการณ์ที่ถูกจัดสรรให้กับทุกกิจรรมของชีวิต รวมไปถึงตอบสนองการใช้ชีวิตที่มีข้อจำกัดของร่างกาย โดยที่ยังรักษาคุณค่าในตัวเองของทุกคนเอาไว้ ก็มีส่วนในการสร้างความเชื่อมั่นอันจะนำมาสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจ

ซึ่งในวันนี้ทาง AP และ Mitsubishi Estate Group ก็ได้พาเรามาชมผลลัพธ์ของจริงที่เกิดขึ้นจากการนำแนวคิด Inclusive Living มาใช้ถึง 2 โครงการคือ Tokiwabashi Tower และ THE PARKHOUSE NISHI SHINJUKU TOWER 60 ซึ่งเดี๋ยวจะแยกมาอีกโพสนึงนะครับ

 

จุดหมายปลายทางถัดไปของทริปนี้ก็คือโครงการ Mega Project ขนาดใหญ่และมีความสูงมากที่สุดในย่าน Marunouchi ซึ่งเรียกได้ว่านอกจากจะเป็นถิ่นฐานหลักของ Mitsubishi Estate Group แล้วก็ยังเป็น Iconic Flagship Project ของบริษัทฯด้วยเช่นกัน กับโครงการ Tokyo TORCH

ตัวโครงการตั้งอยู่ในย่านธุรกิจอันโดดเด่นของโตเกียวอย่างย่าน Tokiwabashi District อันเก่าแก่ ซึ่งทำหน้าที่เป็นประตูสู่ปราสาทเอโดะ และเป็นที่ตั้งของหน่วยงานรัฐบาล ช่วงต้นยุคใหม่มายาวนานกว่า 3 ศตวรรษ ต่อมาก็กลายเป็นจุดชื่อมต่อหลักของเครือข่ายรถไฟแห่งชาติของญี่ปุ่น สถานีโตเกียวสร้างเสร็จเมื่อปี 1914 ในช่วงทศวรรษที่ 1960 พื้นที่ดังกล่าวได้ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ (Re-Development) ด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่และโครงสร้างพื้นฐานของเมืองแบบผสมผสานและยังเป็นตัวการหลักหลักในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของใจกลางเมืองโตเกียวมาหลายทศวรรษ

โครงการ Tokyo Torch คาดว่าจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 2028 โดยจะประกอบด้วย Tokiwabashi Tower ตึก 38 ชั้น สูง 212 เมตร สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2021 และตึก Torch Tower ตึก 62 ชั้น สูงกว่า 390 เมตร ที่มีกำหนดการสร้างแล้วเสร็จในปี 2027 ซึ่งจะกลายเป็นตึกที่มีความสูงที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ทีมออกแบบนำโดย Koji Matsuda ในฐานะหัวหน้าทีมการออกแบบ สำนักงานของโครงการ Tokyo Torch จาก Mitsubishi Jisho Sekkei Inc. ร่วมกับสถาปนิกและนักออกแบบภูมิทัศน์รุ่นใหม่ โดยมี Sou Fujimoto (สวนชั้นบน) Yuko Nagayama (สวนชั้นล่าง) และ Takanori Fukuoka (โซนพลาซ่า) ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางด้านการออกแบบของทีม ซึ่งทางทีมผู้ออกแบบได้นำเสนอวิสัยทัศน์ในการสร้างสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมที่สมบูรณ์อย่างแท้จริง ผ่านความคิดสร้างสรรค์และทักษะทางเทคนิคและมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ Torch Tower ตึกระฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อผู้คน โดยที่ธรรมชาติ, สถาปัตยกรรมและกิจกรรมต่างๆของมนุษย์สามารถรวมตัวเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

เพื่อให้ได้ตึกระฟ้าที่มีความสูงเป็นประวัติการในประเทศที่มีการเกิดแผ่นดินไหวและพายุไต้ฝุ่นอยู่บ่อยครั้ง ทาง Mitsubishi Jisho Sekkei Inc. จึงหันไปใช้ประสบการณ์และทักษะอันโดดเด่นของวิศวกรโครงสร้างในการผสมผสานโครงสร้างที่สามารถควบคุมการสั่นสะเทือนภายนอก เพื่อหอหุ้มอาคารทั้งหลังเหมือนเปลือกหอย การออกแบบที่ลดการแกว่งไหวได้อย่างมากในกรณีเกิดแผ่นดินไหวหรือลมแรง จึงทำให้มั่นใจได้ถึงระดับการต้านทานแผ่นดินไหวที่สูงที่สุดในประเทศ ตึกของพลาซ่าเองก็จะมีการติดตั้งป้ายโฆษณาอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่และ wi-fi เพื่อช่วยในการให้บริการของพื้นที่โดยรอบและเป็นฐานสำคัญในการกู้คืนความเสียหายต่างๆจากกรณีฉุกเฉินและยังมีห้องโถงอเนกประสงค์ที่สามารถใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับทุกสภาพอากาศได้

 

เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ที่ถูกควบคุมเป็นพื้นที่พิเศษ (National Strategic Special Zone) ให้เป็นพื้นที่ Hub ศูนย์กลางด้านธุรกิจและการเงินของญี่ปุ่นแห่งใหม่ โดยนอกเหนือจากอาคาร Torch Tower และอาคาร Tokiwabashi Tower แล้ว ยังมีกลุ่มอาคารอย่างเช่น อาคารสถานีไฟฟ้าย่อย(Electrical Substation Building) อาคารสำนักการระบายน้ำและประปา(Sewerage & Waterworks Bureau Building) สวน Tokyo Torch Park และ สวน Tokiwabashi Park ในส่วนอาคารเก่าที่ชำรุดทรุดโทรมในพื้นที่ ซึ่งมีอยู่ 4 อาคาร กำลังถูกรื้อถอน และทำการปรับปรุงด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งไฟฟ้าและประปา(Urban Renewal) ใหม่

อีกหนึ่งไฮไลท์ในอนาคตของโครงการ Tokyo Torch ก็คือผู้พัฒนาโครงการอย่าง Mitsubishi Estate และ Tokyo Century Corporation ประกาศว่า Dorchester Collection จะบริหารโรงแรม Ultra Luxury บนตึกที่มีความสูง 390 เมตร จำนวน 62 ชั้น ชื่อว่า Torch Tower ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีโตเกียว โรงแรมแห่งนี้เป็นของ Brunei Investment Agency ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงแรม Beverly Hill, Plaza Athene ในกรุงปารีส และ The Dorchester ในกรุงลอนดอนเป็นต้น โดยพื้นที่โดยรวมของโรงแรมถูกแพลนไว้ให้มีมากถึง 21,400 ตารางเมตรโดยมีห้องพักถึง 110 ห้องบนชั้น 53-58 มีสระว่ายน้ำ สปา และห้องออกกำลังกายอยู่ที่ชั้น 54 และล็อบบี้อยู่บนชั้น “Sky Hill” โดยทาง Mitsubishi ได้มีการประกาศว่าชั้น 59 และชั้น 60 จะมีอพาร์ตเมนต์สุดหรูให้เช่าเป็นแห่งแรกของเขต โดยอพาร์ตเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดคาดว่าจะมีขนาดประมาณ 400 ตารางเมตร (4,300 ตารางเมตร) และผู้เช่าอพาร์ตเมนต์อาจจะได้รับสิทธิประโยชน์ในการใช้บริการของทางโรงแรมด้วยเช่นกัน (ประมาณ Branded Residences เลยครับ)

 

ซึ่งวันนี้เราจะมาดูอาคาร Tokiwabashi Tower ตึก 38 ชั้น สูง 212 เมตร ที่สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2021 กันก่อนว่ามีความพิเศษ และน่าตื่นตาตื่นใจแค่ไหนครับ ตัวอาคารมีความสูงประมาณ 212 เมตร ประกอบด้วย ชั้นใต้ดิน 5 ชั้น และชั้นปกติ 38 ชั้น มีพื้นที่โครงการทั้งหมดประมาณ 146,082 ตารางเมตร และมีพื้นที่สำหรับเช่าทำออฟฟิศอยู่ที่ประมาณ 75,300 ตรม. หรือ 22,800 เสื่อ (Tsubo) สำหรับความสูงจากพื้นสู่ฝ้าของแต่ละชั้นจะอยู่ที่ 2.85 เมตร โดยมีชั้นพิเศษคือ 8, 22 และ 30 ที่จะมีความสูง 3 เมตร มีการออกแบบที่น่าสนใจภายในตัวอาคาร คือ มีการตกแต่งผนังภายในของตัวอาคาร(terrazzo wall) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมากจาก ปราสาทเอโดะ(Edo Castle) และ งานหินของสะพาน Tokiwa Bridge ซึ่งจะปรากฎบนกำแพงในตัวอาคาร บริเวณ ชั้น 2 ชั้น 3 ชั้น 8 และชั้น 9 ซึ่งการใช้วัสดุธรรมชาติที่มีการใช้มาอย่างยาวนาน มีความคุ้นเคยในสถาปัตยกรรมญี่ปุ่น อย่างเช่น ไม้และหิน เป็นสิ่งที่ช่วยให้การทำงานมีความ Productive และสร้างความพึงพอใจต่อผู้ร่วมงานมากขึ้น…โดยโครงการนี้ได้ออกแบบโดยมีความคำนึงถึง Inclusive Living ผ่าน ความโดดเด่นในการออกแบบ Public Space ส่วนกลางที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาดทางเดิน สัดส่วนพื้นที่ วัสดุ ราวจับ ไปจนถึงการดีไซน์ความลาดชัน สัญลักษณ์ เพื่อให้การเดินทางทุกรูปแบบสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างง่าย และใช้งานได้สะดวก อาทิ

 

– Ground Floor การออกแบบทางเข้าหลัก พร้อมวัสดุปูพื้นเบรลล์บล็อก (Braille Block) และวัสดุปูพื้นแผ่นปูกันลื่น

– Basement Floor ดีไซน์ทางลาดพร้อมติดตั้งราวจับพื้นที่เชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน

– Landscape พื้นที่สีเขียวดีไซน์พิเศษ พร้อมดีไซน์ทางลาดและราวจับ ด้วยสัดส่วนที่กว้างขวางเพียงพอเพื่อความสะดวกในการใช้งานรถเข็นทุกประเภท เป็นต้น

– ห้องน้ำสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ราวจับ อุปกรณ์ฉุกเฉิน

 

รวมถึงลิฟต์โดยสารขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับรถเข็น และปุ่มกดระดับพิเศษที่สามารถกดเรียกและเลือกชั้นได้อย่างสะดวกสำหรับทุกคน เป็นต้น

 

สำหรับรายละเอียกในการออกแบบคร่าวๆจะมีดังนี้ครับจากภาพอาคารจะเห็นว่าพื้นที่ 2 ชั้น (1-2) ของอาคารจะถูกนำมาใช้เป็น Common Area ของพนักงานทุกคนในอาคาร มีไฮไลท์เป็น Tokyo Torch Park ซึ่งเป็นลาน Plaza พร้อมสวนหย่อม และพื้นที่พักผ่อนริมแม่น้ำ Nihonbashi ขนาดรวม 7,000 ตรม. ชั้นใต้ดิน B1-3 จะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ส่วนชั้น 3 จะเป็น cafeteria lounge ที่ชื่อว่า “MY Shokudo” มีชั้น 9 เป็น Services Office ทั้ง Floor พร้อมห้องประชุมกลางขนาดใหญ่ และชั้น 8 จะเป็น Lounge กับ Meeting Room ที่ทำหน้าที่เป็น Breakout Area (xLINK) ของพนักงานได้ทุกออฟฟิศทั้งอาคาร ซึ่งค่อนข้างให้พื้นที่ส่วน Public มากกว่าโครงการอาคารสำนักงานอื่นๆในโตเกียว และดูคอนเซปท์คล้ายๆกับอาคาร OCC ที่เพลินจิตมากๆ

 

ลักษณะของรูปร่างอาคารจะมีลักษณะเป็น Blade cutting คือในส่วนของผิวด้านบนอาคาร จะออกแบบเป็นตาราง Grid ที่สร้างให้เกิดมิติแสงและเงา มีความตื้นและลึก ซึ่งเป็นดีไซน์ที่เหมาะกับการเป็นศูนย์กลางการเงินระดับนานาชาติ โดยการออกแบบผิวภายนอกอาคารที่เป็นตาราง Grid จะมีการออกแบบที่เหมือนกับ “Kigoshi” หรือการขัดแตะโครงไม้ และ “Shoji” หรือ ประตูบ้านเลื่อนที่ปิดด้วยกระดาษ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ถ่ายทอดมาอย่างยาวนาน และเป็นการสื่อถึงการเชื่อมต่อสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกอาคาร

 

#APxMEC10YearofPartnership

#APFromStrengthToStrength

เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์

นิว เอปิค อโศก-พระราม 9

นิว คอร์ คูคต สเตชัน

ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์

ทำเลฝั่ง “ธนบุรี” ในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง...

6 November, 2024

ศุภาลัย ธาม เจริญนคร

เป็นคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ของศุภาลัย ที่เป็นผู้เชี่ย...

2 November, 2024

นิช ไพรด์ เอกมัย

Unimaginable Life ชีวิตเกินจินตนาการใจกลางเอกมัย หาก...

21 October, 2024

ศุภาลัย บลู สาทร-ราชพฤกษ์

ทำเลสถานีบางหว้า คือสถานี Interchange สำคัญของชาวฝั่...

17 October, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง