MQDC เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ” (MULBERRY GROVE)
MQDC บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ดำเนินกิจการพัฒนา ลงทุน และจัดการอสังหาริมทรัพย์ ประกอบไปด้วย บ้าน คอนโดมิเนียม และโครงการมิกซ์ยูสชั้นนำระดับสากล พร้อมดำเนินธุรกิจภายใต้คำมั่นสัญญา ‘For All Well-Being’ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ” (MULBERRY GROVE) by MQDC อย่างเป็นทางการ โดยเป็นแบรนด์ที่อยู่อาศัยระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนซ์ แบรนด์แรกของไทยที่ผ่านการพัฒนาเพื่อให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของครอบครัวหลากหลายช่วงวัย ที่จะสามารถสานความสุขให้คนทุกเจเนอเรชั่นได้อย่างสมบูรณ์ ภายใต้แนวคิด “NURTURING INTERGENERATION HAPPINESS สานความสุข ให้ทุกเจเนอเรชั่น”
ทั้งนี้ ที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ” (MULBERRY GROVE) มีจุดเด่นที่สำคัญ 4 ด้าน ได้แก่
1. “Designed for Intergenerational Harmony” ที่อยู่อาศัยที่ออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยแบบครอบครัว Intergeneration ครั้งแรกของที่อยู่อาศัยที่ออกแบบภายใต้แนวคิดอันเกิดจากการสนับสนุนให้เกิดการใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว เพื่อสร้างช่วงเวลาแห่งความสุข โดยคิดผ่านการกระบวนการออกแบบจริงร่วมกับครอบครัวและนำนวัตกรรมต่าง ๆ มาสร้างที่อยู่อาศัยให้กับครอบครัวแบบ Intergeneration พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการที่จะตอบสนองความต้องการของสมาชิกในครอบครัวทุกช่วงวัย
2. “Caring Community” ชุมชนการอยู่อาศัยแบบ Intergeneration ที่มีความอบอุ่น สร้างสายสัมพันธ์และเกื้อกูลกันทั้งในครอบครัวและชุมชน “มัลเบอร์รี่ โกรฟ” ออกแบบพื้นที่ให้ทุกคนในครอบครัวและชุมชนได้ทำกิจกรรมร่วมกัน รวมถึงสามารถจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ เพื่อให้คนในครอบครัวที่ต่างช่วงอายุได้พัฒนาความคิดและจิตใจ ทั้งยังได้แลกเปลี่ยนความคิดอันจะก่อให้เกิดไอเดียการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ รวมถึงได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อนำมาซึ่งความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นจนเกิดเป็นความสุขทั้งในครอบครัวและชุมชนแห่ง Intergeneration
3. “Value Creation Neighborhood” การสร้างคุณค่าให้กับครอบครัวหลากหลายช่วงวัยและชุมชน โดยการอยู่อาศัยร่วมกันแบบ Intergeneration จะเป็นการเชื่อมโยงคุณค่าแห่งวัฒนธรรมการอยู่อาศัยของไทยในอดีตที่อยู่กันแบบครอบครัวใหญ่และมีความกตัญญูเกื้อกูลต่อกัน เข้ากับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งสังคมผู้มีอายุยืน (Aging Society) และการขยายของสังคมเมือง (Urbanization) ผ่านการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ครอบครัวหลายช่วงวัย สร้างคุณค่าในด้านเศรษฐกิจและด้านจิตใจให้กับทั้งครอบครัวและสังคม
4. “5 Dimensional Well-Being” ส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตของครอบครัวให้ดีขึ้นในทุกมิติ นำไปสู่ความสุขอย่างยั่งยืน ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งสังคมที่อยู่อาศัยที่คำนึงถึงความสุขอย่างยั่งยืนนั้น จะสนันสนุนความสัมพันธ์ของสังคมกับธรรมชาติ เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ชุมชนเพื่อนบ้าน รวมไปถึงสังคมและธรรมชาติให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัย เลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทั้งต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม มีการออกแบบให้เหมาะสมกับทุกคนและทุกช่วงวัย (Universal Design) ให้ทุกเจเนอเรชั่น สามารถใช้พื้นที่แห่งความสุขร่วมกันได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ นำมาสู่การรับประกันของโครงการที่นานถึง 30 ปี