ในยุคสมัยที่การร่วมทุนกันพัฒนาโครงการกับพันธมิตรผู้พัฒนาอสังหาฯจากต่างชาติ ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ โดยเฉพาะดีเวลลอปเปอร์จากญี่ปุ่น ที่ทยอยเข้ามาปักหลักพัฒนาโครงการร่วมกับดีเวลลอปเปอร์บิ๊กเนมของไทยอย่างต่อเนื่องในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา…แต่สำหรับผมแล้วดีลล่าสุดที่เกิดขึ้นระหว่าง Raimon Land และ Tokyo Tatemono (บริษัทโตเกียว ทาเทโมโนะ) ดูจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเซอร์ไพร์ส เนื่องจากนับตั้งแต่ที่ไรมอน แลนด์ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2530 บริษัทฯที่เน้นในการพัฒนาโครงการคอนโดระดับไฮเอนด์แห่งนี้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้บริหารที่ค่อนข้างถี่ แถมหัวเรือใหญ่ก็มักจะเป็นชาวต่างชาติ ไล่เรียงตั้งแต่ ไนเจิล คอร์นิค, อูแบร์ วิริออท, จอห์นสัน ตัน, ไลโอเนล ลี จนมาถึง เอเดรียน ลี…ซึ่งดูแล้วตัวผมเองก็แอบคิดว่าหากไรมอน แลนด์ จะร่วมหัวจมท้ายกับพันธมิตรต่างชาติสักราย ชาตินั้นก็น่าจะเป็นคนบ้านเดียวกัน ที่ถนัดนักในการสร้างคอนโดอย่างสิงค์โปร์เป็นแน่แท้

แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ก็เล่นเอาผู้ถือหุ้นหลายๆคนของ RML เป็นกังวลสงสัยอยู่ไม่น้อย เนื่องจากคิดว่าไอ้ร่วมทุนน่ะ ยังไงคงจะร่วมอยู่แล้ว แต่จะร่วมกับใครนี่คือเรื่องที่ต้องลุ้น เพราะเมื่อช่วงต้นเดือนกพ.ที่ผ่านมาทาง บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (CGH) ได้เข้าซื้อหุ้น RML จำนวน 250 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 6.99% ที่ราคาหุ้นละ 1.10 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 275 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับหุ้นสามัญของ RML ที่ทาง CGH ถือครองอยู่จึงทำให้ CGH ถือครองหุ้นสามัญ RML จำนวนทั้งสิ้น 435.4 ล้านหุ้น คิดเป็น 12.18% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ RML กลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ขึ้นมาทันที…แต่เมื่อวันที่ 18 เมย.ก่อนวันแถลงข่าวความร่วมมือกับ Tokyo Tatemono แค่วันเดียว ก็กลับมีดีล Double Surprise ขึ้นมาอีกครั้งจาก CGH เมื่อบริษัทฯขายหุ้นสามัญของ RML จำนวน 375 ล้านหุ้น คิดเป็น 10.49% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ RML โดยขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ผ่านรายการบิ๊กล็อตให้แก่นายจิรวุฒิ คุวานันท์ ซึ่งมิได้เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท และในรอบระยะเวลา 6 เดือน บริษัทได้ขายหุ้น RML ผ่านตลท.จำนวน 86.27 ล้านหุ้น รวมเป็นมูลค่า 547.63 ล้านบาท โดยหลังการทำรายการ บริษัทคันทรี่ กรุ๊ป จะเหลือหุ้นในบริษัท ไรมอน แลนด์ฯ 19,472,800 หุ้น ร้อยละ 0.54 ในขณะที่นายจิรวุฒิ ซึ่งมีสายสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีกับกลุ่มตระกูลลี ถือหุ้น RML รวม 690.011 ล้านหุ้น คิดเป็นเป็น 19.30% กลับมาเป็นผู้ถือหุ้นลำดับสองอีกครั้ง…ถือว่าเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนอย่างงดงามของ CGH และ secure อำนาจในการบริหารงานของตระกูลลีให้มีความเสถียรภาพมากกว่าเดิม

วันนี้ (19 เมษายน 2561) หลังจากเจรจากับพันธมิตรมากหน้าหลายตาเป็นเวลากว่า 2 ปี ก็ถึงเวลาที่ไรมอน แลนด์ จะประกาศให้คนทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นหลักของ RML ที่ฟุบมานานว่า Tokyo Tatemono คือ The Chosen One ราวกับว่าเป็นบุฟเฟสันนิวาสก็ไม่ปาน ด้วยเหตุผลที่ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลยว่าทั้ง 2 บริษัท ล้วนแต่มีความคล้ายคลึงกันในหลายๆด้าน โดยเฉพาะในเรื่องวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจ และความพร้อมที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ที่มีมากกว่า 120 ปีของ Tokyo Tatemono ในธุรกิจ Residential และ Non Residential Real Estate เพื่อให้ทั้งคู่ได้สยายปีกรุกธุรกิจอสังหาฯทุกเซกเมนต์ในแบบ Think Global, Act Local

นายเอเดรียน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมี่ยมชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามสัญญาร่วมทุนกับ บริษัทโตเกียว ทาเทโมโนะ (Tokyo Tatemono) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงการที่พักอาศัย ทำเลย่านสาทร ซอย 12 มูลค่าโครงการ 4.2 พันล้านบาท และโครงการบนถนนสุขุมวิท โดยใช้เวลาเดินเพียง 2 นาที จากรถไฟฟ้าสถานีพร้อมพงษ์ ด้วยมูลค่า 4.9 พันล้านบาท หรือมูลค่ารวมกว่า 9.1 พันล้านบาท

โครงการที่ Sathorn 12 น่าจะใช้แบรนด์ The Lofts เป็นตัวทำตลาดหลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับโครงการ The Lofts Silom ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว โดยมี Key Magnet สำคัญของย่านคือสถานีรถไฟฟ้าศึกษาวิทยา ที่มีกำหนดจะสร้างเสร็จในปีหน้า

โครงการที่สุขุมวิท 26 น่าจะเป็นแบรนด์ใหม่ ทีอยู่ในเซกเมนต์ Super Luxury ไม่แพ้ 185 ราชดำริ และคอนโดอื่นๆในย่านพร้อมพงษ์ ปัจจุบันเป็นที่จอดรถประจำของร้านก๋วยเตี๋ยวรางวัลมิชลิน ซอยสุขุมวิท 26 มีอัตราการขายคอนโดที่สูงมาก ถ้าเทียบกับบริเวณริมถนนใหญ่สุขุมวิท เนื่องจากเป็นซอยที่ร่มรื่น ทะลุออกพระรามสี่ได้ง่าย รถไม่ติดเหมือนถนนหลัก และคนต่างชาติมักจะมองว่าอยู่สุขุมวิท ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ริมถนนใหญ่…เออ จริงแฮะ ผมเห็นคอนโดติดสถานีรถไฟฟ้า ริมถนนใหญ่ย่านทองหล่อขายดีสู้ตัวที่อยู่ในซอยทองหล่อ หรือในซอยฝั่งเลขคู่ไม่ได้

“การร่วมทุนระหว่างไรมอน แลนด์ และโตเกียว ทาเทโมโนะ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นถือเป็นโอกาสทองที่จะขยายธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ร่วมกันของทั้งสองบริษัท รวมทั้งยังคงมองหาความเป็นไปได้ และศึกษาความรู้สำหรับการพัฒนาโครงการในอนาคตร่วมกันในฐานะหุ้นส่วนระยะยาว เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและผลักดันการเติบโตให้เกิดประโยชน์กับทั้งสองบริษัท ในอีก 5 ปีข้างหน้า (พ.ศ.2566) ไรมอน แลนด์ คาดการณ์ว่าธุรกิจจะมีรายได้ประมาณ 10-12 พันล้านบาท การเติบโตนี้ได้รับการสนับสนุน และการบริหารการจัดการงบดุลที่แข็งแกร่งโดยมี D/E อยู่ที่ 0.67 ” เอเดรียน ลี กล่าว

คุณเอเดรียน เสริมในมุมมองของ 5 Year Strategy ที่เน้นย้ำทุกครั้งที่มีงานแถลงข่าวว่า การร่วมทุนกับ TTA ในครั้งนี้มีแผนที่จะเปิดโครงการที่มีมูลค่า 8,000 – 10,000 ล้านบาทต่อไป เฉลี่ยปีละ 2 โครงการ ในขณะที่ธุรกิจ F & B เองก็มีการร่วมกับบ้านหญิงในการเปิดร้านอาหารที่สิงค์โปร์ไปแล้ว ยังเหลือที่ริมแม่น้ำในโครงการ The River ที่น่าจะเป็นร้านอาหารระดับ Hi-end ในขณะที่โรงแรมก็ดอดไปซื้อโรงแรมแถวภาคใต้แล้วเพียงแต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด และธุรกิจ Commercial ก็เพิ่งจะเผยโฉมหน้าอาคาร 548 Ploenchit ไป…จะเหลือก็แต่ Digital Platform ที่เป็น Property Market Place ที่ยังอุบไต๋อยู่ว่าจะทำอะไร กับใคร และตอนไหน นั่นเองครับ นับว่าเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ไฟแรงมากๆเลยทีเดียว

จริงๆแล้วทางผมและคุณฮัท ได้เคยเดาว่าโครงการ 548 Ploenchit น่าจะเป็นโครงการแรกที่พัฒนาร่วมกันมากกว่าโครงการคอนโด เนื่องจากทาง TTA นั้นมีประสบการณ์อย่างมากในการพัฒนาโครงการ Commercial และ Office Building โดยเฉพาะบริเวณรอบสถานีโตเกียว…แต่สาเหตุที่มาลงทุนในโครงการคอนโดก่อนนั้น ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพราะตลาด Office Building ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้ น่าจะมี Supply มากกว่า 1 ล้านตารางเมตร จากทั้งโครงการ One Bangkok, Singha Complex, 548 Ploenchit และ The Super Tower ซึ่งหากเป็นแบบนั้นจริง Occupancy Rate คงไม่ได้สูงถึง 80 – 90% อย่างในปัจจุบัน อีกทั้งตลาดอสังหาฯที่ประเทศญี่ปุ่นกับกรุงเทพฯนั้นต่างกันสุดขั้ว กล่าวคือที่ญี่ปุ่นนั้นยังต้องการ Office Building เนื่องจากอาคารหลายแห่งเริ่มเก่าจนต้องทำการ Redevelopment แต่ Residential Project For Sale ยังไงก็ไม่ค่อยจะถูกจริตชาวญี่ปุ่นรุ่นใหม่ ที่ไม่ค่อยอยากควักเงินซื้อของแพง จ่ายค่าภาษีแพง แถมยังเป็นภาระให้ลูกหลานในเรื่องของภาษีมรดกในอนาคต

นายคะทสึฮิโตะ โอซะวะ กรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหัวหน้าฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ บริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ เปิดเผยว่า “การตัดสินใจเข้าร่วมทุนกับไรมอน แลนด์ มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ เนื่องด้วยความสนใจในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะเพื่อการอยู่อาศัย การได้จับมือกับหุ้นส่วนที่เหมาะสมอย่างไรมอน แลนด์ จะทำให้สามารถพัฒนาการเป็นหุ้นส่วนระยะยาวร่วมกัน โดยใช้ทั้งความรู้ และประสบการณ์เพื่อสร้างผลกำไรสูงสุดในอนาคต”

Tokyo Tatemono เป็นบริษัทอสังหาฯจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว มี Port ด้านอสังหามากมาย โดยมี Residential Project for lease ภายใต้แบรนด์ Brillia นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอาคารสำนักงาน ที่จอดรถ ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ บริการดูแลเด็ก ฯลฯ โดยรายได้ของบริษัทในปี 2560 เท่ากับ 77.8 พันล้านบาท เป็นกำไรถึง 12,800 ล้านบาท

คอนโดของ TTA ภายใต้แบรนด์ Brillia ซึ่งเป็นแบบ Leasehold กระจายตัวรอบๆโตเกียวได้แก่ Brillia Tower Ikebukuro, Brillia Tama New Town, Brillia Towers Meguro, Brillia Bloomoi, Brilia City Mitaka

โครงการ Brillia Tower Ikebukuro

ในด้านการลงทุนพัฒนาโครงการในต่างประเทศ ต้องบอกว่า TTA คือผู้บุกเบิกอย่างแท้จริงเพราะเค้าเริ่มไปสร้างโครงการที่เทียนจิน ตั้งแต่ร้อยกว่าปีก่อน!! ก่อนที่จะถอยออกจากเมืองจีนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

และในปัจจุบันก็มีการลงทุนในหน่วนธุรกิจต่างประเทศมากมาย ทั้งในจีน พม่า เวียดนาม สิงค์โปร์ และล่าสุดที่ไทย

ซึ่งเป็นที่คาดการณ์กันว่าในอนาคตอันใกล้นี้ทาง RML และ TTA ยังคงมีแผนการณ์ในการพัฒนาโครงการอสังหาฯเพื่อผู้สูงอายุ ตามเทรนด์ของประชากรในเมืองไทย ที่เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยเหมือนอย่างเช่นที่ญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน เฉกเช่นกับบริษัทร่วมทุนอื่นๆที่กำลังจับจ้องตลาดนี้ด้วยสายตาอันเป็นประกายเจิดจรัส

ปล. ถ้าจะให้ไล่เรียง 10 อันดับของดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำในญี่ปุ่น ที่เป็นพันธมิตรกับดีเวลลอปเปอร์ไทยก็จะมีถึง 6 บริษัททีเดียว ซึ่ง Tokyo Tatemono ก็ติดอันดับที่ 9 ในเชิงรายได้

1. Mori Building (ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Mori Trust แล้ว) ยังไม่ได้ Join กับใคร
2. Mitsubishi Estate x AP
3. Mitsui Fudosan x Ananda
4. Sumitomo Realty & Development ยังไม่ได้ Join กับใคร
5. Tokyu Land Corporation x Sansiri
6. Daikyu ยังไม่ได้ Join กับใคร
7. Nomura Real Estate x Origin
8. Nakano Corporation ยังไม่ได้ Join กับใคร
9. Tokyo Tatemono x Raimon Land
10. Daiwa House x WHA

นอกจากนี้ยังมี Developer ชั้นนำในโอซาก้าหลายราย ที่เข้ามาเป็นพันธมิตรกับคนไทยอีกเช่น Shinwa ที่เปิดบริษัทขึ้นมาเป็นเอกเทศ และพัฒนาโครงการร่วมทุนกับดีเวลลอปเปอร์หลายๆราย, Hankyu x Sena, Sankyo Home และ Keihan ที่ร่วมกันพัฒนาโครงการคอนโดที่เอกมัย 12