โครงการศุภาลัย เอสเซ้นส์ ลาดพร้าว Urban Home ดีไซน์ใหม่ บนทำเลศักยภาพ ฟังก์ชั่นครบหลายรูปแบบ จากศุภาลัย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กระแสการพัฒนาแนว Vertical อย่างคอนโดดูท่าจะมาแรง และให้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุดสำหรับนักพัฒนาโครงการในเมือง รวมทั้งชานเมืองกรุงเทพฯ การจะหาโครงการแนวราบอาจต้องยอมจ่ายในราคาสูงแลกกับที่ดินในเมือง หรือไม่ก็ต้องยอมตัดใจไปอยู่ชานเมืองเชื่อมปริมณฑลกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่ช่ำชองการพัฒนาโครงการมาอย่างยาวนาน อย่างศุภาลัยเอง ก็ไม่ค่อยมีการเปิดตัวโครงการแนวราบที่เป็นที่ Talk of the town เท่าไหร่นัก เพราะในช่วงหลังเน้นพัฒนาโครงการคอนโดใน scale ใหญ่และหากเป็นโครงการบ้านก็มักจะเป็นแบบบ้านที่อาจจะมีดีไซน์ที่ไม่ถูกจริตกลุ่มคน Generation ใหม่เท่าไหร่นัก เนื่องจากไปเน้นจับกลุ่ม End user วัยทำงานที่ค่อนข้างมีความมั่นคง มีครอบครัวขนาดใหญ่ เพราะในช่วงที่ผ่านมาคนที่พร้อมซื้อบ้านส่วนใหญ่ มักมีความต้องการจากปัจจัยด้านการขยายครอบครัว ที่มองหาความจำเป็นระยะยาวในการซื้อบ้าน ต้องการ Space ที่มากกว่าเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า และที่สำคัญโครงการบ้านของศุภาลัยในช่วงที่ผ่านมามักจะอยู่นอกเมือง และต่างจังหวัดซะส่วนใหญ่ด้วย

แต่ในปีนี้ ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ ในแง่ของความต้องการ แนวคิด และกำลังซื้อแตกต่างไป เพราะเป็นยุค young millionaire คือคนรุ่นใหม่ที่มีฐานะ และมีแนวคิดที่จะอยู่เป็นครอบครัว แต่อยู่ในทำเลใจกลางเมือง เช่นเดียวกับที่คุณไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวไว้ว่า แนวโน้มตลาดอสังหาฯ แนวราบในปี 2561 นี้เป็นปีที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะการแข่งขันด้านนวัตกรรมการออกแบบเพื่อที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคนในครอบครัว ในรูปแบบที่อยู่อาศัยแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านรุ่นใหม่ และทาวน์โฮม ที่ตลาดน่าจะมีการแข่งขันสูง และก็น่าจะเป็นไปตามการคาดการณ์ที่ทางศุภาลัยได้กล่าวไว้ เพราะ เมื่อวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดจองโครงการใหม่บนพื้นที่ใจกลางเมืองย่านลาดพร้าว ภายใต้แบรนด์ “ESSENCE” นั้นคือ โครงการศุภาลัย เอสเซ้นส์ ลาดพร้าว โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ ที่เปิดให้จองในเฟสแรก และก็ได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากลูกค้า เพราะเพียงวันเปิดจอง ก็สามารถโกยยอดขายไปได้กว่า 300 ล้านบาท คิดเป็น 70% เพราะรูปแบบของโครงการ ที่มีรูปแบบบ้านให้เลือกถึง 3 แบบ 3 สไตล์ คือ บ้านเดี่ยว บ้านรุ่นใหม่ และทาวน์โฮม ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด THE SCENT OF YOUR ESSENCE การสะท้อนทุกด้านของตัวคุณ เพราะจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จของแต่ละคนจะเริ่มต้นที่ “บ้าน” ทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ที่โครงการได้บรรจงพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและงบประมาณที่แตกต่างมาให้อย่างครบครันกับ ราคาเพียง 4 – 15 ล้านบาท

กับทำเลที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และ ซึ่งเฟสแรกนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นอย่างมาก และสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัยได้อย่างหลากหลาย เพราะโครงการตั้งอยู่บนทำเลกลางเมืองอย่างลาดพร้าว พื้นที่ใจกลางเมืองที่สามารถเชื่อมต่อสู่ทุกศูนย์กลางธุรกิจ รายล้อมด้วย facility ชั้นนำของย่านนี้อย่าง Foodland, Big C, Central East Ville, CDC, เดอะมอลล์บางกะปิ, โรงพยาบาลเวชธานี, มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต (RBAC), โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) พร้อมการคมนาคมที่มีศักยภาพสูง เพราะสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ต่างๆด้วย ถนนลาดพร้าว ถนนรามคำแหง ถนนและทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ และยังมีรถไฟฟ้าในอนาคตถึง 2 สาย คือ สายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว 101 สายสีเทา สถานีฉลองรัช และ MRT สถานีลาดพร้าว สายปัจจุบัน

โครงการศุภาลัย เอสเซ้นส์ ลาดพร้าว ตั้งอยู่บนซอยลาดพร้าว 107 (ซอย ม. RBAC) เป็นซอยที่เชื่อมกับซอยลาดพร้าว 101 แยก 38 ทำให้ตัวโครงการสามารถเข้าออกสู่ถนนลาดพร้าวได้ถึง 2 ทาง ซึ่งทำเลนี้ยังไม่ค่อยมี Supply แนวราบเกิดใหม่ ส่วนใหญ่เป็นคอนโดแนวตั้งบริเวณถนนลาดพร้าวเป็นส่วนใหญ่ หรือหากเป็นในซอยนี้ก็เห็นจะมีเพียงแค่อพาร์ทเมนท์ หอพักที่ตั้งอยู่เรียงรายสองฝั่งทางเพื่อรองรับดีมานท์ของกลุ่มนักศึกษาละบุคคลากรของ RBAC ซึ่งถ้าเป็นที่พักอาศัยแนวราบใกล้ๆย่านนี้ ส่วนใหญ่ก็ต้องไปแถวเกษตรนวมินทร์ หรือรามอินทรา

โดยตัวโครงการศุภาลัย เอสเซ้นส์ ลาดพร้าว (Supalai Essence Ladprao) ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 26 ไร่ จำนวน 190 แปลง มูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาท ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว 16 แปลง อยู่โซนหน้าค่อนไปกลางโครงการ และทาวน์โฮม 112 แปลง อยู่โซนด้านในของโครงการ โดยระยะจากทางเข้าถึงโซนทาวน์โฮมอยู่ในระยะ 800 เมตร

โครงการฯมาพร้อมระบบความปลอดภัย CCTV หน้าทางเข้า-ออก และภายในโครงการ ซึ่งลูกบ้านสามารถ เข้า – ออก โครงการด้วยระบบ Easy Pass

มีอาคารสำนักงานนิติบุคคลพร้อมสระว่ายน้ำที่ด้านหน้าติดทางเข้าออกโครงการ

ภายในแบ่งเป็นพื้นที่นิติบุคคล

สระว่ายน้ำรูปทรงฟรีฟอร์ม

พร้อมที่นั่งพักผ่อนริมสระ

ถัดจากโซนทางเข้า เป็นสะพานข้ามคลอง เข้าสู่พื้นที่โซนที่พักอาศัยหลัก

ตีนสะพานมีสวนส่วนกลาง “Space” Garden & Play Zone

ไว้รองรับกิจกรรมภายในครอบครัว ที่มีทั้งส่วนเครื่องเล่น และสวน

ภายในโครงการเชื่อมกันด้วยถนนกว้างถึง 12 เมตรในโซนด้านหน้า และกว้าง 9 เมตรที่โซนด้านในโครงการ

ส่วนรูปแบบบ้าน เป็นการออกแบบสไตล์ Modern สูง 3 ชั้น โครงการให้ Wallpaper ทุกห้องนอนสำหรับแบบบ้านเดี่ยวและบ้านรุ่นใหม่ ห้องน้ำ สวน และถังน้ำพร้อมเครื่องปั๊มที่ด้านหลังบ้าน

เราเริ่มต้นด้วยการไปชมบ้านเดี่ยว “ศุภศิริ” บ้านเดี่ยว 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 321 ตร.ม. บนที่ดินขนาดประมาณ 52 ตร.ว.ขึ้นไป ราคาเริ่มต้น 10.9 ล้านบาท (ราคาช่วงเปิดตัว ปัจจุบันเริ่มประมาณ 11.7 ล้านบาท)

Type นี้มี 5 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องmulti-purpose 1 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำแยก

พื้นที่จอดรถกึ่ง out door ด้านหน้าบ้านที่โครงการปูพื้นลานจอดรถไว้พร้อมใช้งาน สามารถจอดรถได้ 4 คัน

ด้านซ้ายของบ้านเป็นทางเข้าออกหลัก โครงการให้ประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอนซ้ายขวา

เข้ามาเปิดรับด้วยโถง living area ที่เป็น Grand Vertical Living Room กับเพดานสูงถึง 6 เมตร

เชื่อม living room และพื้นที่อเนกประสงค์และชานพักที่ด้านบนเข้าไว้ด้วยกัน

พื้นที่ living กว้างและเป็นสัดส่วนด้วยพื้นที่เพดานสูง ที่สามารถวางโซฟาพร้อมโต๊ะกลางสำหรับ 3-4 ที่นั่ง

และชั้นวางทีวี ที่ผนังสูงด้านซ้ายติดทางเข้า ซึ่งสามารถตกแต่งเป็นผนังโชว์งานอาร์ท หรือสไตล์ที่คุณชอบได้หลากหลาย

ติดพื้นที่ living เป็นส่วนของพื้นที่ครัว

แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร สำหรับ 6 ที่นั่ง ที่ด้านซ้าย เข้ามุม กับประตูบานกระจกทั้งด้านข้างและด้านหลังบ้าน

ส่วนพื้นที่ด้านขวาเป็นพื้นที่ทำครัว ที่มาพร้อมครัวปิด เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ ที่ต้องประกอบอาหารสำหรับทุกคนในครอบครัว (โครงการไม่ได้แถมครัวมาให้)

หรือจะเปิดเป็นกึ่งเคาท์เตอร์ตามบ้านตัวอย่าง ก็ดูจะเปิดพื้นที่เชื่อมถึงกัน มีพื้นที่กึ่งเคาท์เตอร์บาร์เพิ่มขึ้น

เพราะสามารถออกแบบให้แยกเคาท์เตอร์ประกอบอาหาร และเตรียมอาหารที่ฝั่งซ้ายของครัว

และพื้นที่ล้าง และเก็บอุปกรณ์ที่ด้านขวาของครัวได้

ภายในครัวมีทางเข้าออกสู่พื้นที่หลังบ้าน ที่เป็นส่วนซักล้าง

ที่เชื่อมสวนด้านหลังและด้านข้างบ้าน

รวมทั้งเชื่อมพื้นที่ห้องแม่บ้าน แยกพื้นที่เข้าออกได้อีกทางหนึ่ง

ติดห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนชั้นล่างที่มีไว้รองรับผู้สูงอายุ

หรือปรับเป็นห้องทำงานสำหรับครอบครัวขนาดเล็กได้

ติดกันเป็นห้องน้ำ ภายในแบ่งเป็นส่วนแห้ง ติดทางเข้า

มีเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่

และโถสุขภัณฑ์วางบนพื้นลายไม้ แยกพื้นจากส่วนเปียก

ที่ส่วนเปียกโครงการให้ Hand shower และ Rain shower ของ COTTO พร้อมช่องระบายอากาศที่ผนัง

ระหว่างครัวและห้องนอนด้านล่างเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 และ 3 ที่ปูด้วยไม้โทนสีอ่อน พร้อมราวจับ

ที่โถงบันไดมีช่องแสงขนาดใหญ่ สูงจากชั้น 1 จรดชั้น 3 นำแสงเข้ามาเพิ่มความอบอุ่นภายในบ้านได้อย่างทั่วถึง

ที่ชั้น 2 มีชานพักขนาดใหญ่ เชื่อมพื้นที่ Grand Vertical จากชั้น 1

ที่ชั้นนี้แบ่งเป็นพื้นที่ 2 ส่วน คือ ห้องเอนกประสงค์ขนาดใหญ่สำหรับทำกิจกรรมทุกรูปแบบที่โซนด้านหลังบ้าน

สามารถปรับเป็นห้องดูหนังสำหรับใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว

หรือเป็นบาร์สำหรับปรับเปลี่ยนเป็นห้องรับแขก ปาร์ตี้ ได้ในบางช่วงเวลาดีๆ

หรือปรับเป็นห้องใช้ประโยชน์อื่นๆตามความสนใจและlifestyleของคุณ

ส่วนพื้นที่โซนด้านหน้าเป็น master bedroom ห้องน้ำในตัว

เป็นห้องนอนใหญ่ที่เปิดรับแสงเข้าสู่ภายในห้องแบบโปร่งและโล่ง เพราะที่ปลายห้อง เป็นระเบียงยาว อีกทั้งพื้นชั้นบนเป็น Engineering Wood ด้วย

และด้านขวาของห้องเป็นโซนพื้นที่พักผ่อน วางเตียงนอน ที่มาพร้อมกระจกบานยาวทั้งสองข้างของหัวเตียง

ระยะห่างกว้างพอให้วางเตียง King size ได้พอดี

ที่ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวี หรือฉากกั้น

ไว้แบ่งการใช้งานพื้นที่โซนพักผ่อน กับโซนแต่งตัวติดทางเข้าห้องน้ำ

พื้นที่แต่งตัวสามารถตกแต่งเป็น Walk-in closet ติดกระจกบานfixเชื่อมพื้นที่ระเบียง และเปิดรับแสง เหมาะกับการแต่งหน้า แต่งตัวในทุกๆวัน

ติดพื้นที่ walk-in closet เป็นห้องน้ำสำหรับห้องนอนใหญ่

ภายในแบ่งเป็นส่วนแห้ง ติดทางเข้าด้านซ้าย

มีเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่

และโถสุขภัณฑ์เข้ามุม

ที่ส่วนเปียกโครงการกั้น Shower glass แบบ Temper ให้

ให้อ่างอาบน้ำวางเข้ามุม พร้อม Hand shower

และพื้นที่อาบน้ำที่ให้ทั้ง Rain Shower และ Hand shower ของ COTTO

มีหน้าต่างระบายอากาศให้ที่มุมผนังทั้ง 2 ด้าน

ที่ชั้น 3 เป็นพื้นที่ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และมีพื้นที่ living ส่วนกลาง ที่ชานพักบันได

และพื้นที่ระเบียงที่สามารถเข้าออกได้จากพื้นที่ living

โซนด้านหน้าของบ้านเป็นห้องนอน 3 มีห้องน้ำในตัว ขนาดห้องจริงๆ สัดส่วนพื้นที่พักผ่อนพอๆกับห้องนอนใหญ่ แต่พื้นที่ส่วนแต่งตัวและห้องน้ำเล็กกว่า

ที่ห้องนี้ ด้านขวาของห้องเป็นตำแหน่งวางเตียง สามารถวางเตียงได้ขนาดใหญ่ถึง King size แบบมีพื้นที่รอบเตียงเหลือ ให้วาง day bed หรือปรับเป็นมุมทำงานส่วนตัวได้

ที่หัวเตียงด้านขวามีหน้าต่างบานสูงเชื่อมกับพื้นที่ระเบียงด้านนอก

ที่ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวี หรือฉากกั้น

ไว้แบ่งการใช้งานพื้นที่โซนพักผ่อน กับโซนแต่งตัวติดทางเข้าห้องน้ำ

พื้นที่แต่งตัวสามารถตกแต่งเป็น Walk-in closet เข้ามุม

ติดพื้นที่ walk-in closet เป็นห้องน้ำสำหรับห้องนอนนี้

ภายในแบ่งเป็นส่วนแห้ง ติดทางเข้า

มีเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจก

และโถสุขภัณฑ์เข้ามุม

ที่ส่วนเปียกโครงการกั้น Shower glass ให้

มาพร้อม Hand shower และ หน้าต่างระบายอากาศที่ผนังด้านบน

ส่วนพื้นที่โซนด้านหลังบ้าน เป็นห้องนอน 2 ห้องและห้องน้ำสำหรับใช้ร่วมกัน

ที่อยู่ระหว่างห้องนอน 4 และระเบียง

ภายในแบ่งเป็นส่วนแห้ง ติดทางเข้า

มีเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่

และโถสุขภัณฑ์เข้ามุม

พื้นที่ส่วนเปียกอยู่ด้านในสุด โครงการกั้น Shower glass ให้

ให้ Hand shower และ Rain shower พร้อมที่นั่งและที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ

ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้อง มีขนาดพอๆกัน แบ่งเป็นห้องแรกที่ซ้ายมือ

ขนาดพื้นที่ส่วนนอนและพักผ่อน มีขนาดพอๆกับห้องนอนใหญ่และห้องนอนที่3 ที่กล่าวไปแล้ว คือพื้นที่ส่วนวางเตียงนอน กว้างพอที่จะวางเตียงsizeใหญ่ ขนาด King size ได้

แต่พื้นที่ที่ต่างจากห้องนอนทั้งสองห้องแรกคือพื้นที่แต่งตัวที่สามารถวางตู้เสื้อผ้าไว้ที่ผนังติดประตูทางเข้า

และมีพื้นที่ระเบียงที่มุมห้องด้านซ้าย

ส่วนห้องนอนห้องสุดท้าย แปลนห้องจะสลับกับห้องด้านขวา คือ มีพื้นที่สำหรับวางเตียงนอนที่กว้างพอให้วางเตียง King size ได้

พื้นที่แต่งตัว สามารถวางตู้เสื้อผ้าไว้ที่ผนังติดประตูทางเข้า

และมีพื้นที่ระเบียงที่มุมห้องด้านขวา

บ้านนี้เรียกว่ารองรับสำหรับครอบครัวขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ หรือคนที่กำลังขยับขยายครอบครัว มีห้องและพื้นที่เผื่อสำหรับปรับเปลี่ยนและใช้งานให้ตรงตามความต้องการของแต่ละครอบครัว แถมยังมีพื้นที่ส่วนกลางเล็กๆที่กระจายอยู่ทุกชั้น ไม่ว่าจะภายในและภายนอกบ้าน ให้ได้ใช้งานร่วมกันในครอบครัว รวมทั้งได้พื้นที่ Vertical living room ที่โปร่งโล่ง แต่ยังคงคอนเซปต์ของความอบอุ่นในครอบครัวกับการออกแบบที่ทำให้ห้องอเนกประสงค์และห้องรับแขกสามารถเชื่อมถึงกันได้อีกด้วย

แต่ถ้าบ้านเดี่ยว 3 ชั้นหลังแรกนั้นใหญ่ไปสำหรับคุณ ลองลดขนาดมาดูบ้านรุ่นใหม่ ขนาดกลาง หรือบ้าน “ศุภศิลป์” กับพื้นที่ใช้สอย 243 ตร.ม. บนที่ดินขนาดประมาณ 38 ตร.ว. ขึ้นไป ราคาเริ่ม 7.7 ล้านบาท

ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์ และมีไฮไลท์ที่เป็นจุดเด่นของบ้าน Type นี้ อยู่ที่ระเบียงลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่ชั้น2

บ้าน Type นี้ share ผนังชั้น 1 ชั้น 2 ร่วมกัน ด้านหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 3 คัน ด้านข้างมีสวนขนาดเล็กเชื่อมถึงพื้นที่หลังบ้าน ทางเข้าออกหลัก โครงการให้ประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอนซ้ายขวา

เข้ามาเปิดรับด้วย living area ที่ล้อมด้วยกระจกเข้ามุม และหน้าต่างบานใหญ่

พื้นที่ living กว้างพอให้วางโซฟาพร้อมโต๊ะกลางสำหรับ 3-4 ที่นั่ง

และชั้นวางทีวี ที่ผนังทางขึ้นบันได หรือสามารถปรับเปลี่ยนให้มีชั้นกลางกั้นระหว่างพื้นที่living และพื้นที่ครัวด้านหลังตามแต่ละ lifestyle

ติดพื้นที่ living เป็นส่วนของพื้นที่ครัว

แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร สำหรับ 6 ที่นั่ง ที่ด้านซ้าย เข้ามุม กับประตูบานกระจกทั้งด้านข้างและด้านหลังบ้าน

ส่วนพื้นที่ด้านขวาเป็นพื้นที่ครัวปิด

ครัวสำหรับ Type นี้มีขนาดกะทัดรัด

สามารถออกแบบให้จัดวางเคาท์เตอร์เข้ามุม

ภายในครัวมีทางเข้าออกสู่พื้นที่หลังบ้าน ที่เป็นส่วนซักล้าง

ที่เชื่อมสวนด้านหลังและด้านข้างบ้าน

ด้านขวาของห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนชั้นล่างที่มีไว้รองรับผู้สูงอายุ

หรือปรับเป็นห้องทำงานสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก

ผนังปลายสุดมีหน้าต่างเปิดสู่พื้นที่สวนหน้าบ้าน

ตรงข้ามห้องนอนชั้นล่างเป็นห้องน้ำ ภายในแบ่งเป็นส่วนแห้ง ติดทางเข้า

มีอ่างล้างหน้าแบบแขวน พร้อมกระจกบานใหญ่

และโถสุขภัณฑ์วางติดกัน

ส่วนพื้นมีพื้นลายไม้ แยกเป็นส่วนเปียกที่ต่ำกว่า

ที่ส่วนเปียกโครงการให้ Hand shower ติดผนังของ COTTO

ระหว่างบันไดขึ้นชั้น 2 บริเวณชานพักมีหน้าต่างกระจกเปิดรับแสงเชื่อมกับระเบียงลอยฟ้า

ที่ชั้น 2 แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ ห้องเอนกประสงค์ สำหรับทำกิจกรรมทุกรูปแบบที่โซนด้านหลังบ้าน

เป็นห้องอเนกประสงค์ที่ติดระเบียง sky terrace

สามารถปรับเป็นห้องดูทีวี พักผ่อนสำหรับใช้เวลาร่วมกันในครอบครัว

หรือเป็นห้องทำงาน หรือห้องหนังสือกับมุมเงียบสงบของบ้านก็ได้

หรือปรับเป็นห้องใช้ประโยชน์อื่นๆตามความสนใจและlifestyleของคุณ

ส่วนพื้นที่โซนด้านหน้าเป็น master bedroom ห้องน้ำในตัว

เป็นห้องนอนใหญ่ที่เปิดรับแสงเข้าสู่ภายในห้องแบบโปร่งและโล่ง

เพราะที่ปลายห้อง เป็นระเบียงยาวขนาดตัวห้อง

และด้านขวาของห้องเป็นโซนพื้นที่พักผ่อน วางเตียงนอน King size พร้อมโต๊ะหัวเตียงได้

ที่หัวเตียงด้านขวา เป็นพื้นที่แต่งตัว

ที่สามารถตกแต่งเป็น Walk-in closet ได้ 2 ฝั่งขนานทางเข้าห้องน้ำ

ที่ห้องน้ำสำหรับห้องนอนใหญ่ ภายในแบ่งเป็นส่วนแห้ง ติดทางเข้า

มีเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่

และโถสุขภัณฑ์วางติดกัน

ที่ส่วนเปียกโครงการกั้น Shower glass ให้

ให้ Hand shower พร้อมที่นั่งและที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ

ที่ปลายเตียง มีพื้นที่กว้างพอให้จัดเป็นมุมพักผ่อน

สามารถวางโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่ง

และตั้งชั้นวางทีวีไว้ที่ผนังฝั่งตรงข้ามได้

ด้านข้างมีประตูกระจกบานเลื่อนออกสู่  “Sky Terrace” หรือระเบียงลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงพื้นที่ภายในและภายนอกเข้าหากันได้อย่างลงตัว

สามารถออกแบบได้ตามใจ ให้เป็นสวนขนาดใหญ่

เป็นพื้นที่ปาร์ตี้หรือทำกิจกรรมของครอบครัวได้

ส่วนที่ชั้น 3 เป็น 2 ห้องนอน ห้องน้ำในตัว ห้องแรกอยู่ที่โซนด้านหน้าบ้าน

ขนาดห้องใกล้เคียงกับห้องนอนใหญ่ที่ชั้น 2 แต่ไม่มีพื้นที่ walk-in closet ขนาดใหญ่ เท่ากับพื้นที่ห้องนอนใหญ่

ด้านซ้ายของทางเข้าห้อง เป็นพื้นที่ตั้งเตียงนอน ที่สามารถตั้งเตียง King size ได้ แบบมีพื้นที่เหลือรอบเตียง

ข้างเตียงเป็นประตูกระจก ออกสู่ระเบียงยาวเต็มความกว้างห้อง

ที่ปลายเตียงมีพื้นที่กว้างพอให้วางโต๊ะทำงาน เป็นมุมทำงานเล็กๆ

พร้อมโซฟา และมุมนั่งดูทีวีแยกเป็นสัดส่วนจากพื้นที่พักผ่อน

ข้างมุมนั่งดูทีวี เป็นห้องน้ำ ภายในแบ่งเป็นส่วนแห้ง ติดทางเข้า

มีเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่ และโถสุขภัณฑ์วางติดกัน

ที่ส่วนเปียกเป็นพื้นที่เข้ามุม โครงการให้ Hand shower และหน้าต่างระบายอากาศ ที่ด้านบนผนัง

ส่วนห้องนอนสุดท้าย ด้านซ้ายติดทางเข้า เป็นพื้นที่สำหรับมุมแต่งตัว ติดหน้าต่างเข้ามุม

หรือตกแต่งเป็นมุมนั่งเล่นสำหรับเด็กๆได้

ติดกันเป็นทางเข้าห้องน้ำ ที่ภายในแบ่งเป็นส่วนแห้ง ติดทางเข้า

ให้อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่ และโถสุขภัณฑ์วางติดกัน

ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก โครงการให้ Hand shower และหน้าต่างระบายอากาศ ที่ด้านบนผนัง

ส่วนด้านขวาของห้องเป็นพื้นที่สำหรับตั้งเตียง เป็นมุมพักผ่อนสำหรับลูกๆ ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ในอนาคต

บ้านนี้เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีพื้นที่การใช้งานหลักเพียงพอและรองรับทุกคนในครอบครัว และน่าจะเหมาะกับคนที่ชอบพื้นที่กึ่ง out door ที่สามารถใช้งานได้จริงกับพื้นที่ sky terrace ที่ชั้น 2

และบ้าน Type สุดท้ายเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น บ้าน “ศุภวิชญ์” พื้นที่ใช้สอย 181 ตร.ม. บนที่ดินขนาดประมาณ 20 ตร.ว. ขึ้นไป ราคาเริ่ม 3.99 ล้านบาท (ราคาช่วงเปิดตัว ปัจจุบันแปลงกลางขายหมดแล้ว เริ่มเป็นแปลงมุมเนื้อที่ 29 ตร.ว. ประมาณ 5.5 ล้านบาท)

ประกอบด้วย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ

ที่หน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน

มีจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบให้ห้องนอนทุกห้องมีขนาดใหญ่พอที่จะจัดวางเป็น Master Bedroom ได้เหมือนกันหมด และห้องเอนกประสงค์บริเวณชั้นสองที่ทางศุภาลัยเรียกว่า “Peace & Joy Room”

เข้ามาเปิดรับด้วย living area เชื่อมยาวถึงพื้นที่ครัวที่ด้านหลังบ้าน

พื้นที่ living กว้างพอให้วางโซฟาพร้อมโต๊ะกลางสำหรับ 3-4 ที่นั่ง

และสามารถวางชั้นวางทีวี ที่ผนังทางติดขึ้นบันได

ติดพื้นที่ living เป็นส่วนของพื้นที่ครัว

แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร สำหรับ 4 ที่นั่ง ที่ด้านซ้าย เข้ามุม กับประตูบานกระจกทั้งด้านข้างและด้านหลังบ้าน

ที่หลังบ้านโครงการปูพื้นให้เต็มพื้นที่สำหรับเป็นพื้นที่ซักล้าง

ส่วนพื้นที่ด้านขวาเป็นพื้นที่ครัวปิด กระจกเข้ามุม

ครัวสำหรับ Type นี้มีขนาดกะทัดรัด เหมือน Type บ้านรุ่นใหม่

สามารถออกแบบให้จัดวางเคาท์เตอร์เข้ามุม

ติดห้องครัวเป็นห้องน้ำ มีเฉพาะส่วนแห้ง

โครงการให้อ่างล้างหน้าแบบแขวน พร้อมกระจกบานใหญ่

และโถสุขภัณฑ์วางติดกัน

ที่ชั้น 2 แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ ห้องพักผ่อนส่วนตัว “Peace & Joy Room” ที่โซนด้านหลังบ้าน

ที่สามารถปรับเป็นห้องทำงาน หรือมุมอ่านหนังสือได้

หรือปรับเป็นพื้นที่ห้องเอนกประสงค์อื่นๆตามการใช้งานของแต่ละคน

ส่วนพื้นที่โซนด้านหน้าเป็น master bedroom ห้องน้ำในตัว

ห้องนอนใหญ่เปิดรับแสงเข้าสู่ภายในห้องด้วยประตูกระจกยาวขนานระเบียง

ด้านซ้ายของห้องสามารถวางเตียงนอน King size พร้อมโต๊ะหัวเตียงได้

ที่ปลายเตียงเป็นพื้นที่แต่งตัวที่สามารถตกแต่งได้ยาวเต็มพื้นที่

และติดประตูทางเข้า เป็นห้องน้ำสำหรับห้องนอนใหญ่ ที่สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง คือจากห้องนอนและจากทางเดิน

ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนแห้ง ติดทางเข้า

มีอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่

และโถสุขภัณฑ์วางติดกัน

พื้นที่ส่วนเปียกอยู่ด้านในโครงการให้ Hand shower ติดผนัง

ส่วนที่ชั้น 3 เป็นตำแหน่งของ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ

ห้องนอนแรกอยู่โซนด้านหน้าบ้าน ห้องนี้เหมือนห้องนอนใหญ่ที่ชั้น 2 ขนาดห้องเท่ากัน คือ มีประตูออกระเบียง เปิดรับแสงเข้าสู่ภายในห้องด้วยประตูกระจกยาวขนานระเบียง

ด้านซ้ายของห้องสามารถวางเตียงนอน King size พร้อมโต๊ะหัวเตียงและโต๊ะทำงานได้

ที่ปลายเตียงเป็นพื้นที่แต่งตัวที่สามารถตกแต่งได้ยาวเต็มพื้นที่

และติดประตูทางเข้า เป็นห้องน้ำสำหรับห้องนอนใหญ่ ที่สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง คือจากห้องนอนและจากทางเดิน

ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนแห้ง ติดทางเข้า

มีอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกบานใหญ่

และโถสุขภัณฑ์วางติดกัน

พื้นที่ส่วนเปียกอยู่ด้านในโครงการให้ Hand shower ติดผนัง

ส่วนห้องนอนสุดท้ายอยู่โซนด้านหลังบ้าน ขนาดพื้นที่พักผ่อนเท่ากับห้องนอนสองห้องแรก แต่ไม่มีห้องน้ำในตัว

ภายในห้องนี้ ที่ด้านขวาของห้องสามารถวางเตียงนอนได้ใหญ่ถึงขนาด King size

ที่ปลายเตียงเป็นพื้นที่แต่งตัว

ที่สามารถปรับเปลี่ยน เพิ่มเติมมุมทำงาน หรือพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวได้ตามการใช้งาน

บ้านหลังนี้เหมาะสำหรับคนที่กำลังสร้างครอบครัว หรือมีครอบครัวขนาดเล็ก กับงบที่สามารถมีบ้านอยู่ใจกลางเมืองในงบที่ไม่สูงเกินไป แต่ได้ฟังก์ชั่นการใช้งานสำหรับทุกคนครบถ้วนและลงตัว

ต้องขอบอกตามตรงว่าในครั้งแรกที่ทางศุภาลัยมาถามผมว่าสนใจเข้าไปดูโครงการบ้านแนวใหม่ คิดใหม่ทำใหม่หมดที่ โครงการ ศุภาลัย เอสเซ้นส์ ลาดพร้าว หรือเปล่าเพราะว่าโครงการนี้น่าจะเป็นโครงการที่สร้างเซอร์ไพร์ส และน่าจะมีหลายอย่างที่ตรงจริตกลุ่มคุณผู้อ่านเวปพร็อพฮอลิคได้พอสมควร…ผมเองก็ได้ใช้เวลาคิดทบทวนอยู่นาน และก็หวนกลับไปดูโครงการบ้านที่ทางศุภาลัยเคยพัฒนามาหลายต่อหลายแบรนด์ทั้งพรีโม เบลล่า โมด้า ฯลฯ ก็กลับพบว่าทั้งหมดล้วนแต่เป็นโครงการที่ทางศุภาลัยดูจะไม่กล้าฉีกรูปแบบการดีไซน์ออกจากกรอบเดิมๆ เนื่องจากการจะเป็นห่วงในเรื่องของ STP (Segmentation, Target, Positioning) ในสไตล์ที่ค่อนข้างจะ Conservative ออกไปทาง Preserve the Status Quo เคยชินกันทั้งคนซื้อ และคนขาย ดังนั้นดีไซน์และฟังก์ชั่นหลักของโครงการแนวราบก็อาจเรียกว่าถูกแช่แข็งอยู่กลายๆในรอบหลายปีที่ผ่านมา สวนทางกับการออกแบบโครงการแนวสูง ที่มีการปรับขนาด ปรับดีไซน์ เสริมฟังก์ชั่น แต่ราคาเท่าเดิมจนเป็นที่ถูกอกถูกใจเหล่ากำลังซื้อหน้าใหม่มาหลายโครงการ

โครงการศุภาลัยเบลล่า

โครงการศุภาลัยพรีโม

แต่ที่ผมตอบตกลงที่จะแวะเข้าไปมาดูก็เพราะว่าเห็นโฆษณา TVC ตัวใหม่ที่ทางศุภาลัยเค้าเข็นออกมาใช้กับงานพรีเซลในช่วงเดือนกพ.ที่ผ่านมา ว่า Mood & Tone มันช่างดูเป็นบ้านที่สร้างมาเพื่อกลุ่มคนYoung at heart ไฟแรง ที่โหยหา Space ในการใช้ชีวิตงานและอยู่อาศัยที่มากกว่าการอยู่คอนโด หรือบ้านที่มีแต่ Space แต่ไม่ค่อยมีฟังก์ชั่น โดยที่ยังไม่หลุดคอนเซปท์ของการใช้ชีวิตใจกลางเมืองโดยเฉพาะ

https://www.youtube.com/watch?v=NPz-j4X5ukY

ศุภาลัย เอสเซ้นส์ ลาดพร้าว คือโครงการแนวราบแบรนด์ใหม่ที่ทางศุภาลัยเคลมว่ามีการดีไซน์ใหม่ทั้งหมด และตั้งอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างจะใกล้เมือง (อยู่ลาดพร้าว 107 ถัดจาก RBAC มานิดนึง) โดยรวมแล้วที่นี่มีการวาง Unit Mix ที่ค่อนข้างครบทุก type กวาดทุกความต้องการในการอยู่อาศัยที่แตกต่าง คือ มีรูปแบบบ้านให้เลือกทั้ง ทาวน์โฮม, บ้านรุ่นใหม่ (บ้านแฝด) และบ้านเดี่ยว ในระดับราคาตั้งแต่สี่ล้านต้น จนถึง 15 ล้าน และใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน ที่บริเวณแถวๆหน้าหมู่บ้านซึ่งเป็นโซนบ้านเดี่ยว โดยพื้นที่โครงการจากท้ายหมู่บ้านซึ่งเป็นโซนทาวน์โฮมจนมาถึงหน้าหมู่บ้านซึ่งเป็นโซนบ้านเดี่ยวมีระยะทางประมาณ 800 เมตร ที่สำคัญก็คือที่นี่เป็นโครงการแนวราบที่ทางศุภาลัยให้พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะ แตกต่างจากการพัฒนาโครงการเดิมๆที่ส่วนมากจะเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าศุภาลัยก็ไม่ได้หลุดกระแสในการพัฒนาบ้านแนวสูง (Vertical Home) แบบที่มีดีเวลลอปเปอร์หลายรายนิยมพัฒนากันในย่านกลางเมืองแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดีการจัดวางรูปแบบบ้านแบบผสมผสานกันแบบนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากว่าไม่ได้มีการบริหารพื้นที่ส่วนกลาง และจัดระเบียบค่าใช้จ่ายพื้นที่ส่วนกลางให้เหมาะสมกับจำนวนยูนิตของบ้านแต่ละแบบ และก็คงจะ perfect มากหากว่าศุภาลัยจะจัดสระว่ายน้ำส่วนตัวให้มาลงที่บ้านเดี่ยวเพื่อเป็นการทดแทนกับค่าส่วนกลางที่แปรผันตามขนาดบ้าน และจำนวนยูนิตของทาวน์โฮมที่มีค่อนข้างเยอะกว่าบ้านเดี่ยวมาก

แต่ถ้าดูในเรื่องของการดีไซน์ และการจัดวางเลย์เอาท์ห้อง ต้องบอกว่าแปลนห้องในส่วนของบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดทำได้ค่อนข้างดี มี Practical & Extra Space อย่าง Double Volume และ Sky Terrace และกระจกเข้ามุมหลายด้านในเกือบทุกห้องนอน เพื่อสร้างบรรยากาศที่โปร่งโล่ง เช่นเดียวกับ Option ในการเลือกปรับตามความต้องการของผู้พักอาศัย แต่ในส่วนของทาวน์โฮมด้วยการที่มีข้อจำกัดในเรื่องของ Space ที่น้อยกว่าบ้านแบบอื่นๆ ก็เลยไม่ค่อยจะมีฟังก์ชั่นอะไรที่ดูโดดเด่นกว่าคู่แข่งในตลาดส่วนใหญ่ แต่จุดขายที่สำคัญที่สุดก็คือราคาที่ค่อนข้างถูกมากคือราวๆสี่ล้านกว่าๆถึงห้าล้านบาท แต่ได้ทาวน์โฮมสามชั้น พร้อม 3 ห้องนอน (ถ้ารวมห้องเอนกประสงค์ไปก็จะได้ถึงสี่ห้องนอน) น่าจะถูกใจกำลังซื้อส่วนใหญ่ในท้องที่มาก เพราะจะว่าไปในย่านนี้หากจะหาซื้อทาวน์โฮมก็มักจะมีราคามาตรฐานอยู่ที่ 6-7 ล้านบาท

ทิศทางในการพัฒนาโครงการอสังหาในย่านนี้ ต้องบอกว่าทำเลนี้คือทำเลของทาวน์โฮมราคาราวๆ 5-7 ล้าน และอาจรวมถึงคอนโด low rise แบบ super economy เพราะย่านนี้เต็มไปด้วยหอพักราคาไม่แพงเลยเนื่องจากใกล้ RBAC ตลอดเวลาที่นั่งอยู่ประมาณ 3 ชม.พบว่าคน walk-in เยอะมาก คือเฉลี่ย 20 นาทีต่อครอบครัว ทั้งๆที่ไม่ได้มีป้ายโฆษณาอะไรเลย ซึ่งผมมองว่าน่าจะเป็นเพราะกลยุทธ์ในการตั้งราคาเป็นหลัก กล่าวคือมีเงิน 7 ล้านกว่าๆซื้อได้แค่ทาวน์โฮมที่อื่น แต่ที่นี่ได้บ้านแฝด ในขณะที่หากอยากได้ทาวน์โฮมมีเงินแค่ 4 ล้านกว่าๆก็ซื้อได้แล้ว และดูจะคุ้มกว่าการจ่ายเงินเพื่อซื้อคอนโด Low rise ในซอยแบบ 2 ห้องนอนติดกันด้วยซ้ำ….แต่สำหรับผมโครงการหน้าถ้าปรับสัดส่วน Unit Type เลือกแยกทาวน์โฮมออก หรือไม่ก็แยกส่วนกลาง รวมถึงทางเข้าซะ และเสริมแกร่งให้บ้านแฝด กับบ้านเดี่ยวมากกว่านี้หน่อย แถมชุดครัวให้ โดยเฉพาะบ้านเดี่ยวที่ให้ที่ดินน้อยเหลือเกินได้มีพื้นที่ยอดนิยมอย่าง Private Courtyard หรือ Private Pool ผมว่าจะปังกว่านี้มาก

ศุภาลัย เอสเซ้นส์ ลาดพร้าว เรียกว่าเป็นมิติใหม่ของแบรนด์ศุภาลัย กับโครงการใหม่ที่เปิดตัวได้อย่างน่าจดจำ กับรูปแบบบ้านสมัยใหม่ แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของความเป็นครอบครัวไว้ กับรูปแบบบ้านที่มีให้เลือกถึง 3 Type แตกต่างกันตามงบประมาณ ขนาดครอบครัว และจุดเด่นของการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่ครบครันในทุกหลัง อีกทั้งยังเป็นทำเลที่พักอาศัย ที่หาที่พักอาศัยแนวราบ เปิดตัวใหม่ ครบครันและราคาจับต้องได้ บนทำเลลาดพร้าวได้ค่อนข้างยาก ซึ่งยอดจองที่เปิดตัวมาก็น่าจะการันตีได้ว่า บ้านแนวราบบนทำเลนี้ น่าจะเป็นที่ต้องการและเป็นที่สนใจของคนในย่านนี้อยู่ไม่น้อย สำหรับท่านใดที่สนใจชมบ้านตัวอย่าง สามารถเข้าชมได้ทุกวัน ที่สำนักงานขายโครงการ หรือสอบถามข้อมูลโทร.1720