เอาอีกแล้ว! รับฟังร่างกฎหมายใหม่ที่พัก airbnb-friendly Law รอบ 2 วันนี้วันสุดท้าย!
ในวันที่รัฐประกาศ “เปิดรับฟังความคิดเห็น” ต่อร่างพระราชบัญญัติสถานที่พักแรม พ.ศ. … (ครั้งที่ 2)
วันนี้วันสุดท้าย (3 ธ.ค. 2568) คลิกแสดงความเห็นที่นี่ https://law.go.th/listeningDetail?survey_id=Nj E1MURHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ=
หลายคนอาจคิดว่านี่เป็นเพียงขั้นตอนปกติของการออกกฎหมาย แต่ความจริงคือ นี่อาจเป็นหนึ่งในกฎหมายที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของคนเมืองและผู้อยู่อาศัยคอนโดมากที่สุด โดยเฉพาะในยุคที่ OTA อย่าง booking agoda trip Airbnb รวมถึงแพลตฟอร์มเช่าระยะสั้นก็เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งที่กฎหมายไทยยังไม่ได้จัดการปัญหานี้อย่างเป็นระบบ
การเปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ ซึ่งกำหนดวันสุดท้ายไว้ในวันที่ 3 ธันวาคม 2568 จึงเป็นเหมือนการ “เร่งผ่าน” อีกก้าวหนึ่งท่ามกลางความกังวลว่า กฎหมายฉบับนี้กำลังสร้างความชอบธรรมให้โมเดลเช่าระยะสั้น โดยที่คนอยู่คอนโดและผู้ประกอบการรายย่อยกลับเป็นฝ่ายต้องรับภาระตามมา
https://unsplash.com/photos/graphical-user-interface-application-zq0K6AVDtu8
คอนโดมิเนียมทั้งหลายกำลังถูกดันเข้าสู่ธุรกิจ Airbnb โดยไม่ถามความสมัครใจ
หนึ่งในประเด็นสำคัญของร่างกฎหมายฉบับแก้ไขคือ การตัด “คอนโดมิเนียมและหมู่บ้านจัดสรร” ออกจากสถานที่พักขนาดกลาง ซึ่งเดิมถูกกำกับดูแลใกล้เคียงกับโรงแรม การตัดออกครั้งนี้ทำให้สภาพเหมือนรัฐกำลังบอกเป็นนัยอนาคตว่า “ถ้ากฎหมายอาคารชุดอนุญาต ก็ให้ปล่อยเช่าระยะสั้นได้แบบไม่มีใครควบคุมอีกต่อไป” ทั้งที่การตีความตามกฎหมายอาคารชุดในปัจจุบันระบุชัดว่า อาคารชุดมีวัตถุประสงค์เพื่ออยู่อาศัย ไม่ใช่เชิงพาณิชย์แบบโรงแรม ความคลุมเครือนี้ทำให้อนาคตคอนโดจำนวนมากเสี่ยงถูกแปรสภาพเป็นพื้นที่รับแขกแบบรายวันโดยที่คนส่วนใหญ่ในอาคารไม่ได้เห็นด้วย ส่งผลให้ชุมชนที่เคยสงบต้องเผชิญกับคนแปลกหน้าที่เข้าออกทุกวัน ความปลอดภัยที่เคยมีเริ่มถูกบั่นทอน ความเป็นส่วนตัวลดลง และผู้พักอาศัยถาวรกลายเป็นคนส่วนน้อยที่ไม่มีเสียงในพื้นที่ที่ตนเองจ่ายค่าบำรุงสาธารณะทุกเดือน
ความรุนแรงของปัญหาไม่ได้อยู่ที่เสียงรบกวนหรือพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงภาระส่วนกลางที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ลิฟต์ที่สึกหรอเร็วขึ้น พื้นที่ส่วนกลางที่ถูกใช้งานหนักโดยคนที่ไม่จ่ายค่าส่วนกลาง และค่าซ่อมแซมที่ส่งตรงกลับมาหาผู้อยู่อาศัยในรูปของเงินในกระเป๋าที่หายไปทีละน้อย นี่ไม่ใช่เพียงความไม่สะดวก แต่คือการบิดเบือนหลักการสิทธิ์ซึ่งคอนโดกำลังกลายเป็นเหยื่อของโมเดลเช่าระยะสั้นที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ตั้งอยู่บนพื้นที่อยู่อาศัยแต่แรก
https://pixabay.com/th/photos/airbnb-อากาศ-bnb-อพารทเมน-ใหเชา-3399753
ผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อย รัฐอ้างว่าเปิดโอกาส แต่จริง ๆ กำลังทำให้รายเล็กล้ม ก่อนรายใหญ่และทุนต่างชาติจะเข้ามายึดตลาด
ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องคอนโดมิเนียม ร่างกฎหมายใหม่มีการจัดประเภทสถานที่พักออกเป็นสามระดับ ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ พร้อมแนวคิด “ใบอนุญาตหลัก” หรือ Super License ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ แต่ในความเป็นจริงกลับสร้างภาระให้ผู้ประกอบการรายย่อยอย่างเห็นได้ชัด การประกาศว่าที่พักขนาดเล็กต้อง “จดแจ้ง” ก่อนเปิดให้บริการ ฟังดูเหมือนไม่ยุ่งยาก แต่เมื่อพิจารณาบทลงโทษที่ระบุไว้ ค่าปรับสูงสุดถึงห้าแสนบาทพร้อมค่าปรับรายวัน ก็ทำให้เห็นชัดทันทีว่า นี่คือความเสี่ยงที่เกินกำลังของผู้ประกอบการตัวเล็ก ซึ่งอาจพลาดหรือตีความไม่ถูกต้องเพียงครั้งเดียวก็หมดตัวได้
ในขณะที่ผู้เล่นรายใหญ่ ทุนต่างชาติ หรือธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์สามารถตั้งทีมกฎหมาย ทีมวิศวกร และทีม compliance มาจัดการเอกสารได้อย่างไม่ลำบาก ผู้ประกอบการรายย่อยกลับต้องรับมือกับเอกสาร ระบบราชการ และบทลงโทษที่รุนแรงจนแทบไม่หลงเหลือพื้นที่ให้แข่งขันได้อย่างเท่าเทียม ผลลัพธ์คือรายเล็กอาจต้องถอนตัว ขณะที่แพลตฟอร์มหรือผู้เล่นขนาดใหญ่กลายเป็นผู้ได้ประโยชน์เต็ม ๆ ซึ่งสวนทางอย่างยิ่งกับวาทกรรม “สนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อย” ที่ภาครัฐมักกล่าวอ้าง




