GEN-AI SEARCH คือช่องทางการค้นหาซื้อบ้านวิธีใหม่ที่นักการตลาดอสังหาฯ ต้องเริ่มทำได้แล้ว!
Propholic.com สังเกตว่าในอดีต พฤติกรรมการค้นหาข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เริ่มต้นจากการพิมพ์คำใน Google เช่น “บ้านเดี่ยวโซนบางนา” หรือ “คอนโดใกล้รถไฟฟ้า” แล้วค่อยๆ คลิกเข้าไปดูเว็บไซต์ของแต่ละโครงการทีละหน้า การแข่งขันของธุรกิจอสังหาฯ ในเวลานั้นคือการทำให้เว็บไซต์ของตัวเอง “ติดหน้าแรกของ Google” ผ่านกลยุทธ์ที่เรียกว่า SEO (Search Engine Optimization) ใครติดอันดับแรกๆ ย่อมมีโอกาสขายได้ก่อนคนอื่น แต่ในปี 2025 เป็นต้นไป เกมนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะโลกของการค้นหากำลังถูกขับเคลื่อนด้วย “AI Search” หรือการค้นหาด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์
ทุกวันนี้ผู้คนไม่ได้ค้นหาแค่ด้วยคีย์เวิร์ดอีกต่อไป แต่พูดคุยกับ AI เหมือนเพื่อนคนหนึ่ง เช่น ถามกว้างๆ ว่า “ปี 2025 มีคอนโดไหนน่าซื้อที่ใกล้รถไฟฟ้า ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบ้าง” หรือไปจนถึงคำถามที่เฉพาะเจาะจงอย่าง “ช่วยแนะนำคอนโดใกล้รถไฟฟ้า ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ไม่ต้องมีสระว่ายน้ำก็ได้ แต่มีที่จอดรถเยอะๆ เพราะกลับบ้านดึก” หลังพิมพ์เสร็จกด enter แล้ว Gen-AI จะสรุปคำตอบให้ทันที โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกเข้าไปดูเว็บไซต์หลายแห่งเหมือนเดิม ซึ่งหมายความว่าในอนาคตอันใกล้ “ประตูแรกของลูกค้า” จะไม่ใช่หน้า Google อีกต่อไป แต่คือ “คำตอบจาก AI” และถ้าแบรนด์ของคุณไม่ปรากฏอยู่ในคำตอบนั้น ก็เท่ากับว่าคุณ “หายไปจากตลาด” โดยไม่รู้ตัว
ภาพจาก https://gemini.google.com/
ทาง McKinsey บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจระดับโลก เอ่ยขานเรียกปรากฏการณ์ใหม่นี้ว่า การเปลี่ยนผ่านจาก SEO สู่ GEO หรือ Gen-AI Engine Optimization ซึ่งหมายถึงการทำให้ AI เข้าใจแบรนด์ของคุณมากพอที่จะเลือกมันเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบ การปรับตัวเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องของเทคนิคเพียงอย่างเดียว แต่คือการสร้างตัวตนดิจิทัลที่ชัดเจน โปร่งใส และมีข้อมูลครบถ้วนเพียงพอให้ระบบอัจฉริยะนำไปใช้ในการสรุปคำตอบให้ผู้ค้นหา
สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นี่คือช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ เพราะลูกค้าในวันนี้เริ่มต้นการค้นหาที่ “คำถาม” ไม่ใช่ “เว็บไซต์” ดังนั้น Realestate Developer ที่ยังคิดว่าแค่ซื้อโฆษณาออนไลน์ หรือจ้างเอเจนซี่ทำ SEO ก็เพียงพอ อาจพบว่าผลลัพธ์ของตนเองไม่เคยถูกพูดถึงในบทสนทนาของ AI แม้จะอยู่ในทำเลทองก็ตาม เว็บไซต์ที่ไม่มีข้อมูลโครงสร้างชัดเจน ไม่มีคำอธิบายที่เข้าใจง่าย หรือไม่มีคอนเทนต์ที่มีคุณค่าเชิงข้อมูล จะไม่ถูก AI หยิบไปอ้างอิงในคำตอบเลย
ในทางกลับกัน โครงการที่ให้ข้อมูลครบถ้วน ใช้ภาษาธรรมดาๆ มีการอธิบายรายละเอียดของพื้นที่ สิ่งอำนวยความสะดวก ขนาด ราคา จุดเด่น และกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน จะมีโอกาสสูงมากที่ AI จะมองเห็นว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่ “น่าเชื่อถือ” และนำไปแนะนำต่อให้กับผู้ค้นหา เช่นเดียวกับบทความหรือคอนเทนต์ที่ให้ความรู้จริง ไม่ใช่เพียงขายของตรงๆ ก็จะถูกจัดอันดับให้มีน้ำหนักมากกว่า เพราะ AI ถูกออกแบบมาให้ตอบ “สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้” มากกว่า “สิ่งที่เจ้าของแบรนด์อยากพูด”
ลองจินตนาการว่า ถ้าคุณคือเจ้าของโครงการชื่อ “The zero metre BM Condo” ที่ตั้งอยู่แนบชิดติดสถานีรถไฟฟ้า แต่เมื่อมีคนถาม AI ว่า “คอนโดติดรถไฟฟ้าอันไหนน่าซื้อในกรุงเทพปี 2025 มีอะไรบ้าง” แล้วระบบตอบแต่ชื่อของโครงการคู่แข่งเท่านั้น นั่นไม่ใช่เพราะโครงการคุณไม่ดี แต่เพราะ AI ยังไม่รู้จักโครงการคอนโดของเราเลยต่างหาก



