อย่าให้ฝนรั่ว เช็คบ้านให้ชัวร์ ก่อนต้องเสียเงินซ่อมซ้ำซาก
ในช่วงฤดูฝนของทุกปี นอกจากจะต้องระมัดระวังสุขภาพร่างกายแล้ว “สุขภาพบ้าน” ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านไม่ควรมองข้าม เพราะน้ำฝนที่มาพร้อมกับความชื้น อาจกลายเป็นต้นเหตุของหลายปัญหา ตั้งแต่หลังคารั่ว รางน้ำอุดตัน ผนังชื้น สีลอก ไปจนถึงอุบัติเหตุจากพื้นที่ลื่น หรือปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรจากปลั๊กที่ไม่ได้มาตรฐาน แม้เจ้าของบ้านจำนวนมากตระหนักถึงความจำเป็นในการซ่อมแซมเพื่อเตรียมรับหน้าฝน แต่ความกังวลเรื่องการหาช่าง วัสดุ และงบประมาณ กลับเป็นอุปสรรคที่ทำให้หลายคนยังไม่กล้าลงมือ
5 จุดเสี่ยงที่ต้องรีบเช็ค ก่อนบ้านพัง-เงินปลิว
1. หลังคา จุดเริ่มต้นของน้ำรั่ว ปัญหาของฝ้าซึม น้ำหยด คือผลจากรอยรั่วบนหลังคาที่คุณอาจไม่ทันสังเกต ควรตรวจเช็คให้ดีว่ากระเบื้องไม่แตก ตะปูไม่ผุกร่อน และรีบทาน้ำยากันซึมหรืออุดรอยรั่วก่อนฝนจะเท เพราะถ้าไม่รีบดูแลจัดการ ค่าเปลี่ยนฝ้าเพดานอาจไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
2. รางน้ำ อย่าปล่อยให้อุดตัน ในช่วงหน้าฝน เศษใบไม้ กิ่งไม้หรือฝุ่นที่สะสมในรางน้ำ คือสิ่งเล็กๆ ที่เมื่อฝนตกหนักทีไร น้ำก็อาจสามารถไหลย้อนเข้าบ้านได้ การหมั่นเช็คล้างทำความสะอาด และติดตะแกรงกันเศษอย่างง่ายๆ ก็ช่วยได้มาก เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ก็จะยิ่งเป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรก หรืออาจทำให้เกิดเชื้อราตามฝ้าผนังบ้านได้อีก
3. ผนังภายนอก สีลอก เชื้อราขึ้น ผนังภายนอกบ้านที่โดนฝนซัดทุกปี ถ้าไม่เคลือบสีกันน้ำ หรือใช้สีกันเชื้อรา จะเกิดคราบด่างและลอกเป็นแผ่น ซึ่งดูไม่สวยงามและทำให้บ้านทรุดโทรมเร็วขึ้น การซ่อมทาสีรอบบ้านต้องเสียค่าใช้จ่ายหลายหมื่น ดังนั้นการป้องกันไว้ก่อนดีที่สุด
4. ปลั๊กไฟ เพราะไฟช็อตไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ความชื้นกับไฟฟ้าอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต หากปลั๊กใกล้พื้นที่เปียก หรือใช้งานกลางแจ้ง ควรหากล่องกันน้ำมาติดตั้ง และเช็คสภาพสายไฟให้ปลอดภัย อย่าเสี่ยงกับเหตุไฟดูดหรือไฟไหม้ เพราะความประมาทจากเรื่องเล็กน้อย และเลือกใช้อุปกรณ์ปลั๊กไฟ สายไฟที่ได้มาตรฐาน
5. ทางเดิน ทำให้ลื่นล้มแบบไม่ตั้งใจ พื้นระเบียง ลานจอดรถ หรือพื้นทางเข้าบ้าน หากเปียกฝนแล้วลื่น อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุแบบไม่ทันตั้งตัว สามารถป้องกันได้ด้วยพรมกันลื่นหรือเคลือบน้ำยากันลื่นไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะบ้านที่มี ผู้สูงวัย หรือเด็กเล็ก ยิ่งไม่ควรมองข้ามความปลอดภัยดังกล่าว