ถอดบทเรียนแผ่นดินไหว !! ประชาชนรับมืออย่างไร จากใจวิศวกร

เกริก บุณยโยธิน 23 April, 2025 at 11.54 am

ประกาศที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา


จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมาร์ จนส่งผลกระทบถึงประเทศไทยในพื้นที่หลายจังหวัด และเกิดความเสียหายต่ออาคารบ้านเรือนเป็นวงกว้าง เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ทำให้ประชาชนไทยส่วนใหญ่ไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างปลอดภัย

รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฏฐ์ ลีละวัฒน์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านระบบสารสนเทศการจัดการภัยพิบัติและความเสี่ยง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสมาชิกศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช) ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการภัยพิบัติได้เผยวิธีการรับมือในแบบฉบับประชาชนที่สามารถปฏิบัติได้ ทั้งระหว่างและหลังเกิดเหตุว่าควรต้องปฏิบัติตนอย่างไรเพื่อให้อยู่รอดปลอดภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้

– การปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว

หากผู้ประสบภัยอยู่ภายในอาคารควรหาที่กำบังที่แข็งแรงเป็นอันดับแรก เช่น ใต้โต๊ะ เพื่อปกป้องศีรษะและร่างกายจากสิ่งของที่อาจตกกระทบใส่ร่างกายจนบาดเจ็บหรือร้ายแรงกว่านั้น ทั้งสิ่งของหนัก หลอดไฟ ฝ้าเพดาน พัดลม ผู้ประสบภัยควรหลบอยู่จนกว่าการไหวหรือการสั่นสะเทือนจะหยุดลง จึงเริ่มอพยพออกจากอาคาร ไม่ควรรีบอพยพขณะที่มีการสั่นสะเทือนอยู่เพราะนอกจากอันตรายของสิ่งของที่จะตกใส่เราแล้ว การสั่นไหวจะทำให้เราไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างปลอดภัย อาจเกิดการหกล้ม พลัดตกขั้นบันไดจนได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นการอพยพจำเป็นต้องอาศัยดุลยพินิจของผู้ประสบภัยด้วย หากการสั่นไหวสงบเพียงชั่วคราวแล้วมีการไหวต่อก็ยังไม่ควรอพยพ ควรรอจนกว่าจะสงบถึงจะอพยพ และหากเกิดการสั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง ต้องรีบหาที่กำบังทันที

อย่างไรก็ตาม ผู้ประสบภัยต้องไม่ลืมที่จะตั้งสติให้ดีด้วย เพราะก่อนการอพยพยังคงต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆเพิ่มเติม เช่น การสวมใส่เสื้อผ้าปกติ ไม่เปลือยเปล่าในที่สาธารณะ และสวมรองเท้าเพื่อป้องกันการบาดเจ็บระหว่างอพยพ พกเครื่องมือสื่อสาร และพกบัตรแสดงตัวตนเสมอ เผื่อกรณีฉุกเฉิน เช่น ขณะอพยพเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บจนหมดสติ จะสามารถระบุตัวตนได้

– ขั้นต่อไปหลังออกมาอยู่นอกอาคาร

ผู้ประสบภัยควรไปรวมตัว ณ จุดรวมพลที่เจ้าหน้าที่กำหนดว่าเป็นสถานที่ปลอดภัย ไม่ควรยืนอยู่บริเวณใกล้อาคาร หรือยืนขวางหน้าประตูทางเข้า ซึ่งถือว่ายังไม่พ้นเขตอันตรายเพราะอาจมีชิ้นส่วนของอาคารหลุดร่วงลงมาทับหรือกระแทกจนเกิดอันตรายได้ นอกจากจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยแล้วในจุดรวมพลที่เจ้าหน้าที่กำหนดจะมีหน่วยพยาบาลคอยให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับการบาดเจ็บระหว่างอพยพอยู่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น เช่น อุปกรณ์ยังชีพหรือน้ำดื่มสะอาดอีกด้วย ผู้ประสบภัยควรอยู่ในจุดรวมพลจนกว่าจะมีประกาศจากเจ้าหน้าที่ว่าสามารถกลับเข้าสู่อาคารได้อีกครั้งหนึ่ง

– หลังเหตุการณ์สงบ ต้องตรวจสอบความปลอดภัยของบ้านก่อนเป็นอันดับแรก

โดยปกติแล้วหากอาคารมีความเสียหายรุนแรงจนเห็นได้ชัดจากภายนอก ผู้อยู่อาศัยจะมีวิจารณญาณที่จะไม่กลับเข้าไปในตัวบ้านอยู่แล้ว โดยเฉพาะการสังเกตความเสียหายจากตัวโครงสร้างบ้าน เช่น อาคารทรุด โครงสร้างบิดเบี้ยว เสาบ้านหัก กร่อน เห็นโครงเหล็กภายใน ถือว่ามีความเสี่ยงสูง และเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ถ้าไม่จำเป็นอย่างยิ่งก็ไม่ควรกลับเข้าไป หรือถ้าจำเป็นอย่างเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่หรือมีผู้อื่นร่วมเข้าไปด้วยเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือได้

การตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นนอกจากการสังเกตการณ์ภายนอกแล้ว การสำรวจภายในจะดูที่รอยร้าวของอาคาร โดยสามารถพิจารณาได้จากลักษณะดังนี้ คือ ขนาดรอยร้าว ลักษณะของการร้าว ความลึกของรอยร้าว แต่การพิจารณาเบื้องต้นสำหรับประชาชนทั่วไปให้สังเกตจากรอยร้าว โดยขออ้างอิงหลักการอย่างง่ายจาก รองศาสตราจารย์ ดร.ฉัตรพันธ์ จินตนาภักดี อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมาชิกศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านระบบสารสนเทศการจัดการภัยพิบัติและความเสี่ยง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสมาชิกศูนย์วิจัยแผ่นดินไหวแห่งชาติ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช)  ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโครงสร้าง ว่า “หากรอยร้าวเป็นเส้นเล็กเทียบเท่าเส้นผม ยังถือเป็นระดับความเสียหายที่ไม่รุนแรง  แต่ถ้ารอยร้าวเทียบเท่าเส้นสปาเก็ตตี้ ถือว่าเริ่มอันตรายแล้ว” โดยหากรอยร้าวที่เกิดเทียบเท่าเส้นสปาเก็ตตี้หรือใหญ่กว่า จำเป็นต้องมีวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญมาร่วมตรวจสอบ

นอกจากการตรวจสอบรอยร้าวตามผนังบ้านแล้ว ยังจำเป็นต้องตรวจสอบด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น การตรวจสอบบ้านเอียง องศาของตัวบ้านที่ผิดปกติ หรือบ้านมีอาการทรุดหรือไม่ พื้นและเพดานมีลักษณะวัสดุหลุดร่อนหรือรอยแตกหรือไม่ ทั้งหมดนี้ถือเป็นเรื่องโครงสร้างหลักของตัวบ้าน

– นอกจากโครงสร้าง “ระบบอื่น ๆ” ในบ้านก็สำคัญไม่แพ้กัน

เมื่อโครงสร้างหลักปลอดภัย ถัดมา คือการตรวจสอบระบบต่างๆที่อยู่ในบ้าน

1. ระบบไฟฟ้า ไฟฟ้ายังสามารถเปิดปิดหรือทำงานได้อย่างปกติหรือไม่ มีจุดบกพร่องใดๆหรือไม่ สายไฟฟ้าขาด มีจุดไฟฟ้ารั่ว

2. ระบบน้ำประปา น้ำไหลปกติหรือไม่ มีน้ำรั่วหรือไม่ สังเกตจากมิเตอร์น้ำ หากปิดน้ำในทุกจุดแล้วมิเตอร์น้ำยังวิ่งอยู่ อาจหมายถึงมีจุดที่น้ำรั่วอยู่จากการเกิดแผ่นดินไหว

3. ประตูและหน้าต่างเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จำเป็นต้องตรวจสอบ เพราะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถบ่งชี้ได้ว่าบ้านเรามีความผิดเบี้ยวผิดรูปไปจากเดิมหรือไม่ เช่น ประตูหน้าต่างติดไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ หรือมีอาการฝืด คือสัญญาณที่บอกว่าโครงสร้างมีความบิดเบี้ยวไปแล้ว

ขั้นตอนสุดท้ายคือการประเมินความเสียหาย โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ เล็กน้อย ปานกลาง และรุนแรง

– ระดับเล็กน้อย สามารถอยู่อาศัยได้ตามปกติ อาจต้องการการตกแต่งภายในเพิ่มเติมอยู่บ้าง แต่ไม่อันตรายต่อการอยู่อาศัย

– ระดับปานกลาง มีรอยร้าวเทียบเท่าเส้นสปาเก็ตตี้ หรือมีความเสียหายต่อโครงสร้างหลักของบ้าน

จะส่งผลในระยะยาว จำเป็นต้องมีวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาเพื่อดำเนินการซ่อมแซมต่อไป

– ระดับรุนแรง โครงสร้างหลักได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง แตกร้าวจนเห็นโครงเหล็กภายใน หรือโครงสร้างมีลักษณะเอียงหรือทรุดไปแล้ว ไม่สามารถพักอยู่อาศัยได้ จำเป็นต้องดำเนินการซ่อมแซม หรือรื้อถอนก่อนกลับเข้าไปอยู่อาศัยอย่างปลอดภัย

– ผู้เชี่ยวชาญที่มีบทบาทในการดูแลให้คำปรึกษามีใครบ้าง

วิชาชีพที่ถือเป็นพระเอกในการให้คำปรึกษาที่ตรงที่สุดคือ วิศวกร โดยจะแบ่งออกได้เป็น 2 สายดังนี้

1. วิศวกรโยธา ดูแลรับผิดชอบงานในด้านโครงสร้างอาคาร ประเมินตรวจสอบความเสียหายของอาคารอย่างรอยร้าวและความมั่นคงของโครงสร้าง ความปลอดภัยในการใช้งานอาคาร

2. วิศวกรโครงสร้าง คืออีกผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลเรื่องความแข็งแรงของโครงสร้างโดยเฉพาะ มีความเชี่ยวชาญในการวางแผนด้านโครงสร้างเพื่อความมั่นคงต่อการใช้งาน คำนวณการรับน้ำหนักของอาคาร และวางแผนการใช้วัสดุต่าง ๆ โดยเฉพาะอาคารที่ต้องอาศัยความแข็งแกร่งของโครงสร้างเป็นสำคัญ

ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างแผ่นดินไหว วิศวกรโยธาและวิศวกรโครงสร้างเป็นที่ต้องการอย่างมาก อาจทำให้ไม่สามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้ จึงขอแนะนำอีกทางหนึ่งที่เป็นคำตอบให้เราได้คือ วิศวกรอาสา หมายถึง กลุ่มวิศวกรอาสาสมัครเฉพาะกิจ จัดตั้งโดย วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เพื่อช่วยประเมินความเสียหายอาคารในเบื้องต้น สามารถติดต่อได้ที่ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) หรือ กรมโยธาธิการและผังเมือง นอกจาก 2 หน่วยงานหลักนี้ ปัจจุบันท่าน รองศาสตราจารย์ ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้อำนวยความสะดวกเพิ่มทางแอปพลิเคชัน Traffy Fondue (IOS / Android) โดยมีทีมวิศวกรอาสาสมัครให้ความช่วยเหลือและประเมินความเสียหายเบื้องต้นผ่านการส่งรูปในแอปพลิเคชัน ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยคลายกังวลในด้านความปลอดภัยของอาคารในเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี

 

– คำแนะนำจากวิศวกรจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น

1. สิ่งที่ประเทศไทยเรายังขาดอยู่คือ “ภัยพิบัติศึกษา” ประเทศไทยยังไม่ค่อยให้ความสำคัญเรื่อง การเรียนรู้ภัยพิบัติและการปฏิบัติตนระหว่างเผชิญภัยพิบัติ การฝึกซ้อมปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติ เช่น การซ้อมอพยพเมื่อเผชิญกับภัยพิบัติในรูปแบบต่าง ๆ ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันและ กลางคืน

2. การจัดการระบบสารสนเทศ จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาเห็นได้ว่าประชาชนมีการส่งต้อข้อมูลที่ไม่ได้ถูกตรวจสอบข้อเท็จจริง เป็นการสร้างข่าวเท็จที่ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกในวงกว้างกว่าความเป็นจริง ดังนั้นในฐานะประชาชนคนหนึ่งจึงควรมีความรับผิดชอบในการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนเผยแพร่ส่งต่อข้อมูลเท็จ

3. ควรมีการเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินเอาไว้ก่อน เมื่อเกิดเหตุจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้ เช่น อาหารแห้ง น้ำดื่ม อุปกรณ์ส่องสว่าง ยาสามัญประจำบ้าน ชุดแต่งกายสะอาดสำรองอย่างน้อย 1 ชุด (เผื่อในกรณีที่ไม่สามารถกลับเข้าไปในอาคารได้ยังสามารถผลัดเปลี่ยนชุดที่สะอาดใช้ได้อยู่) อุปกรณ์สื่อสาร บัตรหรือเอกสารแสดงตัวตน

4. “นกหวีด” อุปกรณ์น้อย ๆ แต่สำคัญมากชิ้นหนึ่งที่อาจารย์ณัฏฐ์แนะนำให้พกติดตัวไว้เป็นพิเศษเพราะในสถานการณ์ภัยพิบัติ ผู้ประสบภัยมีโอกาสที่จะไม่สามารถอพยพออกมาได้อย่างปลอดภัย การส่งสัญญาณเสียงนกหวีดในการขอความช่วยเหลือจะช่วยให้ทีมกู้ภัยสามารถรับรู้การมีอยู่และสามารถระบุตำแหน่งคร่าว ๆ ของผู้ประสบภัยได้ ทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

เหตุภัยพิบัติเป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น แต่หลายครั้งมันก็เกิดขึ้นโดยที่เราไม่สามารถรับรู้ล่วงหน้าได้เลย สามารถสร้างความเสียหาย และการสูญเสียให้แก่ทุกคนโดยไม่มีการแบ่งแยก ดังนั้นการเรียนรู้และเตรียมความพร้อมอย่างถูกวิธี ทำให้เราสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้อย่างมีสติ ช่วยลดความรุนแรงที่ได้รับจากเหตุการณ์ลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

เกริก บุณยโยธิน

เกริก บุณยโยธิน

ผู้ก่อตั้งเวปไซต์แบ่งปันความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ในวงการอสังหาฯ พร็อพฮอลิค ดอทคอม..หลังจากที่ใช้เวลามากกว่า 10 ปี ในการวนเวียน เข้าๆออกๆ ในสายงานด้านการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ ของบริษัทอสังหาฯ และเอเยนซีโฆษณาชั้นนำหลายแห่ง (โดยที่ไม่รู้ว่าทำไมต้องจับสลากเจอลูกค้าสายอสังหาฯทุกที)...จนถูกครอบงำโดยจิตใต้สำนึก ให้ถีบตัวเองออกจากกรอบการทำงานแบบเดิมๆ เพื่อออกมาจุดประกายความคิดที่ถูกต้อง และนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ให้กับกลุ่มคนที่สนใจในธุรกิจอสังหาฯ

เว็บไซต์

เรฟเฟอเรนซ์ เกษตร ดิสทริค

นิว โคสต์ คูคต สเตชัน

ศุภาลัย เอสเซ้นส์ บางนา - สุวรรณภูมิ

“เราเชื่อว่าบ้านที่ดีที่สุด คือบ้านที่ทำให้รู้สึกคิด...

4 March, 2025

นิว เอปิค อโศก-พระราม 9

โครงการ NUE EPIC ASOK – RAMA 9 ตั้งอยู่บนถนนอโศก-ดิน...

6 January, 2025

นิว คอร์ คูคต สเตชัน

NUE Core Khu Khot Station เป็นคอนโดใหม่เพียงหนึ่งเดี...

20 December, 2024

ศุภาลัย แกรนด์ เอสเซ้นส์ อรุณอมรินทร์

ทำเลฝั่ง “ธนบุรี” ในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง...

6 November, 2024

สอบถามโครงการ

ได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
ขอบคุณอย่างยิ่งที่สนใจครับ
จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ

ขออภัย
ไม่สามารถส่งข้อมูลได้
กรุณาลองใหม่อีกครั้ง