สิ่งที่ต้องรู้ของ Jeddah Tower ตึกที่กำลังจะสูงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในประเทศซาอุดีอาระเบีย

หลังจากความไม่แน่นอนในตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในที่สุด ตึกที่มีชื่อว่า Jeddah Tower ก็พร้อมกับมาสร้างอีกครั้ง โดยเดิมทีนั้นตัวตึกได้ออกแบบให้เป็นตึกระฟ้าที่จะมีระดับความสูง 1 กิโลเมตร แห่งแรกของโลก แต่ในด้านธรณีวิทยาของพื้นที่กับไม่เหมาะสมกับความสูงระดับนี้ จึงต้องถูกชะงักไปในช่วงปี 2018

แต่ในเดือนมกราคม 2025 ที่ผ่านมา การก่อสร้างได้กลับมาดำเนินการอีกครั้ง โดยมีแนวโน้มที่จะสูงกว่า Burj Khalifa ที่ดูไบ ซึ่งคาดว่าเมื่อสร้างเสร็จแล้วอาคารแห่งนี้จะมีความสูงอย่างน้อย 3,280 feet หรือประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งถูกออกแบบโดย Adrian Smith + Gordon Gill Architecture และตัวตึกคาดว่าจะสร้างสำเร็จในปี 2028 เดี๋ยวบทความนี้จะมาสรุปรายละเอียดเบื้องต้นของอาคารนี้กันว่ามีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง

ภาพจาก: Architizer

อาคารที่กำลังจะสูงที่สุดในโลก – ซึ่งเคยรู้จักกันในชื่อ Kingdom Tower โดยตัวอาคารมาพร้อมกับจุดเด่นของระเบียงที่ยื่นออกมานอกตัวอาคารโดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมากถึง 98 ฟุต หรือประมาณ 30 เมตร ซึ่งตั้งใจให้เป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์ (Helipad)

ภาพจาก: Architizer

ฐานราก (The Foundation) – ในส่วนฐานรากของตัวอาคาร มาพร้อมกับเสาอาคารต้นนึงที่มีขนาดใหญ่พอๆกับห้องเล็กๆ 1ห้อง หรือมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ประมาณ 10 feet (หรือ ประมาณ 3 เมตร) และความยาวมากถึง 360 feet (หรือประมาณ 109 เมตร)

การใช้งาน (Function) – รูปทรงอาคารที่สอบลงมีหน้าที่ต้านทานลมและแรงโน้มถ่วง ดังนั้นชิ้นส่วนทั้งสามด้านจึงได้รับการออกแบบให้มีความลู่ลม นอกจากนี้รูปทรงที่สอบลงยังช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งาน ให้มีพื้นที่เช่าได้สูงอีกด้วย ขณะเดียวกันรูปทรงแบบนี้ยังช่วยลดแกนกลางให้แคบลง ทำให้ได้พื้นที่มากขึ้น

ภาพจาก: Architizer

รูปทรง (Form) – รูปร่างรูปทรงของอาคารนี้ดูล้ำอนาคตเมื่อเทียบกับอาคารขนาดใหญ่ทั่วๆไป โดยแผนผังตัวอาคารจะมีรูปทรงลักษณะคล้ายๆ รูปตัว Y ยื่นออกไปเป็นขาทั้ง 3 ด้าน โดยรูปร่างนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากใบไม้ที่พับงอของพืชทะเลทรายที่เพิ่งเติบโต รอยหยักของตัวอาคารช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับ Façade ภายนอกอาคารอีกระดับหนึ่ง แต่ดีไซน์อาคารภายนอกโดยรวมก็ยังกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมในเมืองได้เป็นอย่างดี

ภาพจาก: Architizer

การสัญจรภายในอาคาร – โดยตัวอาคาร Jeddah Tower จะมีลิฟท์ทั้งหมด 59 ตัว และบันไดเลื่อนอีก 12 อัน โดยมีลิฟท์ 5 ตัวที่เป็นลิฟท์ 2 ชั้นหรือที่เรียกว่า Double Decker ลิฟต์จะไม่เร็วเท่ากับลิฟต์ทั่วไป เนื่องจากความกดอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระดับดังกล่าวอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัว หรือคลื่นไส้ได้

เทคโนโลยีขั้นสูงในอาคาร – โดยตัวอาคารจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นระบบผนังภายนอกประสิทธิภาพสูง รวมถึงกระจกที่มีค่าการนำไฟฟ้าต่ำ ซึ่งจะช่วยลดการใช้พลังงาน ด้วยการลดพลังงานความร้อน

ภาพจาก: Architizer

ระบียงอาคาร – มาพร้อมกับระเบียงสุดเท่ 3 ด้าน แต่ละด้านจะสร้างร่มเงาแตกต่างกัน ซึ่งพื้นที่ outdoor มอบวิวทิวทัศน์ของเมือง Jeddah และทะเลสาบแดง (Red Sea) สุดสายตา

โครงสร้างหลัก – ด้วยโครงสร้างที่มีขนาดใหญ่มหึมา อาคารแห่งนี้ต้องใช้เหล็กที่มีน้ำหนักกว่า 80,000 ตัน ประกอบกับคอนกรีตหนาหลายเมตรบริเวณแกนกลางอาคาร

ภาพจาก: Architizer

อ้างอิง

Architizer: 10 Facts About Jeddah Tower, the Soon-To-Be Tallest Building in the World – Architizer Journal