มีอะไรน่าสนใจใน Art Basel Hong Kong 2025
ก่อนจบทริปกับทาง City Dynamic ในครั้งนี้ ผมได้มีโอกาสเข้ามาร่วม Private Tour ในงาน Art Basel 2025 ซึ่งเป็นหนึ่งในนิทรรศการศิลปะร่วมสมัยชั้นนำของโลกที่ Hong Kong Convention and Exhibition Centre ครับ
สำหรับ Basel (บาเซิล) นั้นนับว่าเป็นเมืองสำคัญที่มีจำนวนประชากรมากเป็นลำดับ 3 ของสมาพันธรัฐสวิส รองจาก Zurich และ Geneva โดยในปัจจุบันเมือง Basel ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเมืองแห่งศิลปะ วัฒนธรรม ที่เต็มไปด้วย Art Museum & Exhibition ทั้ง Outdoor และ Indoor รวมถึงงานสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัย และอารยธรรมเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์ที่เป็นผลผลิตมาจากชาวเยอรมัน และฝรั่งเศส ในแง่มุมทางศิลปะ Basel มีจุดเปลี่ยนในด้าน Art Culture ที่สำคัญในช่วงปี 1967 โดยชาวเมืองได้ออกเสียงให้ซื้อผลงานศิลปะของ Pablo Picasso 2 ภาพวาด คือ Les deux frères (1906) และ Arlequin assis (1923) เพื่อนำมาจัดแสดงใน Kunstmuseum Basel โดยมีแคมเปญสโลแกนว่า “All you need is Pablo” ซึ่งก่อนหน้านั้นภาพวาดดังกล่าวได้ถูกให้ยืมมาจัดแสดงจากมูลนิธิของนักธุรกิจที่เป็นเจ้าของภาพ แต่ในปี 1967 เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่นำไปสู่การล้มละลายของกลุ่มธุรกิจ Staechelin ที่เป็นเจ้าของภาพดังกล่าวจนต้องนำผลงานศิลปะหลายชิ้นมาขายเพื่อชำระหนี้ แต่เพื่อป้องกันไม่ให้ภาพวาดเหล่านี้ถูกขายไปต่างประเทศ คนหนุ่มสาวในเมือง Basel จึงได้จัดการประท้วงครั้งใหญ่ พวกเขาโน้มน้าวผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเมือง Basel ให้อนุมัติเงินทุนของรัฐมากกว่า 6 ล้านฟรังก์สวิส สำหรับการซื้อภาพวาดเหล่านี้ Picasso จึงรู้สึกซาบซึ้งใจกับความสำเร็จของแคมเปญและการแสดงความรักของคนในเมือง Basel มากจนเขาบริจาคผลงานอีกสี่ชิ้นให้กับเมืองโดยผลงานศิลปะของ Picasso ยังคงจัดแสดงอยู่จนถึงทุกวันนี้บนชั้นสองของอาคารหลักของ Kunstmuseum Basel ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งอิทธิพลต่อชาวเมืองในด้านความคิด การแสดงออก และการเปิดกว้างทางศิลปะมาถึงในยุคปัจจุบัน ที่เรียกได้ว่า Basel คือเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Graffiti Hot Spot ของสวิส ที่เต็มไปด้วย Urban Art, Street Art และลวดลายศิลปะแบบกราฟิตี้ทั่วเมืองในแบบที่ต้องมีการจัดทัวร์พาเดินชม
ส่วนจุดเริ่มต้นของงาน Art Bsel นั้น ต้องย้อนไปที่ปี 1970 เมื่อตัวแทนจำหน่ายหอศิลป์แห่งบาเซิล 3 แห่ง คือ เอิร์นสท์ เบเยเลอร์, ทรูดี้ บรู๊คเนอร์ และบาร์ตซ์ ร่วมกันจัดนิทรรศการศิลปะนานาชาติครั้งแรกที่จัดโดย Balz Hilt มีหอศิลป์ 90 แห่งและสำนักพิมพ์ศิลปะ 30 แห่งจาก 10 ประเทศเข้าร่วม ดึงดูดผู้เข้าชมได้ 16,000 คน ถือเป็นเหตุการณ์แรกที่สร้างแรงกระเพื่อมครั้งสำคัญให้กับแวดวงงาน Art Exhibition ก่อนที่จะ Evolve เป็นงานในรูปแบบอื่นทั้งการประกวดภาพถ่าย ฉายภาพยนตร์ จนกลายมาเป็นงานภายใต้คอนเซปท์ “Unlimited” ที่ทำลายรูปแบบการจัดบูธแบบเดิมๆ และเปิดพื้นที่จัดนิทรรศการสำหรับศิลปะร่วมสมัยและสื่อใหม่ประเภทต่างๆ กับงาน Art Basel Miami Beach Fair ซึ่งเป็นงานนิทรรศการครั้งแรกมีแกลเลอรี 160 แห่งจาก 23 ประเทศเข้าร่วมและดึงดูดผู้เข้าชม 30,000 คน และในปี 2010 Art Basel ได้เผยผลงานในเอเชียครั้งแรกที่ฮ่องกง ก่อนที่จะกลายเป็นงาน Art Fair ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเมืองบาเซิล ฮ่องกง ไมอามี่บีช และปารีส โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเชื่อมโยงนักสะสม แกลเลอรี และศิลปินจากทั่วทุกมุมโลก พร้อมทั้งส่งเสริมการทำงานร่วมกันกับชุมชนศิลปะนานาชาติ โดยมีไฮไลต์ที่สำคัญนอกเหนือจากการจัดแสดงผลงานก็คือ การเผยแพร่รายงาน The Art Basel and UBS Survey of Global Collecting ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมซึ่งเผยแพร่เป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2017 และ ‘Intersections: The Art Basel Podcast’ นำเสนอโดย UBS ซึ่งเป็นพอดแคสต์ที่รวบรวมบุคคลสำคัญทางวัฒนธรรมเพื่อเจาะลึกความหลงใหลในงานศิลปะของพวกเขา/ การร่วมกับ Samsung เปิดตัวคอลเลกชันผลงานศิลปะประจำฤดูกาล 4 ชุดใน Samsung Art Store คอลเลกชันแรกซึ่งประกอบด้วยภาพกว่า 15 ภาพจากแกลเลอรี Art Basel และเปิดให้ผู้ใช้ Art Store ทั่วโลกซื้อได้ (ผมก็ชอบเข้าไปดูบ่อยๆในหน้าเมนูของทีวี Samsung The Frame ครับ) ความร่วมมือกับ Samsung ครั้งนี้ทำให้ Art Basel สามารถขยายขอบเขตการเข้าถึงได้กว้างขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยขยายการเข้าถึงแกลเลอรีชั้นนำและผลงานสำคัญต่างๆ ตั้งแต่ศิลปินที่มีชื่อเสียงไปจนถึงศิลปินรุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์/ Art for the Oceans งานศิลปะเพื่อมหาสมุทร ที่ทุก 1 ดอลล่าร์ของการบริจาคจะถูกนำไปใช้ในการกำจัดขยะพลาสติก 1 ปอนด์ / และการประกาศรางวัล MGM Discoveries Art Prize ในงาน Art Basel Hong Kong