แสนสิริ ประกาศแผนปี 68 “Dynamic Growth” เปิดตัว 29 โครงการใหม่ เป้ายอดขาย 53,000 ลบ. ยอดโอน 46,000 ลบ.
“…ปีที่ผ่านมาความสำเร็จของเรามาจากโครงการในระดับ Medium ถึง 43% รองลงมาคือ Premium 35% และ Affordable 22% ทั้งหมดนี้เป็นสัดส่วนแนวราบ 60% และคอนโด 40% นับว่าเป็นการเติบโตในด้านยอดขายเพิ่มขึ้นมา 2% ท่ามกลางปีที่มีแต่ความท้าทายอันยากลำบากจนทำให้ยอดขายคอนโดตกลงไปบ้าง ในทางกลับกันหากมองในด้านยอดโอนเรามีการเติบโตขึ้นถึง 13% จากยอดโอนคอนโดมากถึง 14 โครงการ และแบรนด์บ้านสำคัญอย่างนาราสิริ และเศรษฐสิริ ซึ่งหากนับจากยอด 9 เดือนของปีที่ผ่านมา เรามี Outstanding Performance ใน 4 ด้าน ทั้ง Revenue, Sustainable Profitability, High Dividened Yield และ Strong Assets Foundation ด้วยยอดขายรวมถึง 50,000 ล้านบาท และยอดโอน (รวมโครงการร่วมทุน) อยู่ที่ 43,700 ล้านบาท สามารถ Sold Out ได้ถึง 25 โครงการ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท นอกจากนี้ไฮไลต์ความสำเร็จในปีที่ผ่านมา แสนสิริยังรุกหนักแผน Strategic Location โดยชู “ภูเก็ต” และ “เชียงใหม่”เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการขยายธุรกิจในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้แสนสิริสร้างยอดขายในตลาดต่างจังหวัดได้ถึง 10,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 120% …” นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
จากความสำเร็จดังกล่าว จึงนำมาซึ่งแผนธุรกิจใหม่ในปีนี้ภายใต้กรอบแนวคิด Dynamic Growth เติบโตแข็งแกร่ง ด้วยการวางแผนเปิดตัว 29 โครงการใหม่ มูลค่า 52,000 ล้านบาท (แนวราบ 14 โครงการ และคอนโดมิเนียม 15 โครงการ) ตั้งเป้าหมายยอดขาย 53,000 ล้านบาท เป้าหมายยอดโอน 46,000 ล้านบาท แม้จะมีจำนวนโครงการน้อยลง แต่ภายใต้กลยุทธ์ที่เน้นไปที่โครงการ Premium มากถึง 57% ทำให้มูลค่าโครงการโดยรวมสูงกว่าเดิมถึง 12%
สำหรับคอนโดมิเนียม เตรียมเปิดตัวรวม 15 โครงการ มูลค่า 20,400 ล้านบาท เร่งขยายพอร์ตคอนโดในเมืองและ Strategic Location ประเดิมโครงการใหม่ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในขณะนี้คือ พีทีวาย เรสซิเดนซ์ สาย 1 (PTY Residence Sai 1) หนึ่งเดียวที่ไม่มีใครเหมือน บนถนนพัทยา สาย 1 (Only Step to the Beach*) มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท ราคาเริ่ม 6.99 ล้านบาท และครั้งแรกของการเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ในทำเล “นางลิ้นจี่” ทำเลที่เป็น Hidden Gem กลางเมืองโลเคชันที่หายาก มูลค่า 3,100 ล้านบาท อีกหนึ่งโครงการที่ทุกคนจับตามองคือคอนโดมิเนียมใจกลางสุขุมวิท “เวีย สุขุมวิท 34” มูลค่า 1,300 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมแบรนด์ HAUS โครงการล่าสุดใน T77 มูลค่า 2,800 ล้านบาท ที่จะเติมเต็ม Portfolio แสนสิริให้แข็งแกร่งและครอบคลุมทุกความต้องการและระดับราคามากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ในขณะที่โครงการแนวราบเดินหน้าเปิดตัว 14 โครงการ มูลค่า 31,600 ล้านบาท ครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปี ที่แสนสิริบุกตลาดพรีเมี่ยมและมีเดียมครอบคลุมทุกทำเลมากที่สุด ไฮไลต์ คือ บ้านเดี่ยวแบรนด์ “นาราสิริ” 3 โครงการใหม่ ครอบคลุมมุมเมืองรอบกรุงเทพฯ อาทิ นาราสิริ บางนา กม.10 ราคาเริ่ม 60-150 ล้านบาท อยู่ใน SANSIRI 10 EAST ลักซ์ชัวรีคอมมูนิตี้ใหม่ในย่านบางนา (พรีเซลมีนาคมนี้) ถัดมา “DEMI” (เดมี) ลักซ์ชัวรี เรสซิเดนท์แนวคิดใหม่ หลังประสบความสำเร็จจากโครงการแรก เดมี สาธุ 49 ตอกย้ำผู้นำตลาดอสังหาฯ ลักซ์ชัวรีไทย กับ เดมี พระราม 9 เหม่งจ๋าย ราคาเริ่ม 27.9 ล้านบาท (พรีเซลไตรมาส 2) และการกลับมาของแบรนด์ “บุราสิริ” หลังจากลูกค้ารอคอยมานาน กับบุราสิริ จตุโชติ ราคา 13.5-25 ล้านบาท(พรีเซลไตรมาส 3) อยู่ในจตุโชติ คอมมูนิตี้ ขนาดกว่า 184 ไร่ และครั้งแรกกับเศรษฐสิริ เกาะแก้ว (ภูเก็ต) ราคา 12-20 ล้านบาท (พรีเซลไตรมาส 3)