“NocNoc” ชี้เทรนด์แต่งบ้าน 2025 ‘เอิร์ธโทน – มินิมอล – เพอร์ซันนอล- เทคออฟโฮม’ มาแรง ดึง AI เสริมความแม่นยำ รู้ใจทุกดีมานด์ พร้อมขานรับนโยบาย “Easy e-Receipt 2.0” กระตุ้นค้าปลีก และช้อปออนไลน์คึก เริ่ม 16 ม.ค. – 28 ก.พ. 68
NocNoc แนะเทรนด์แต่งบ้านมาแรงรับปี 2025 กับการแต่งบ้าน แนวสีเอิร์ธโทน และการแต่งบ้านเฉพาะบุคคล พร้อมชวนคนไทย ช้อปแต่งบ้านรับต้นปีภายใต้นโยบาย “Easy e-Receipt 2.0” คุ้มค่าแบบสองต่อได้ลดหย่อนภาษี และช้อปคุ้มผ่านโปรโมชั่น ลดสูงสุด 70% รับคูปองส่วนลดเพิ่มสูงสุด 2,000 บาท พร้อมผ่อน 0% นานสูงสุด 6 เดือน ส่งตรงถึงหน้าบ้านทั่วไทย ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ NocNoc
นายอนุพงศ์ ทะสดวก รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด หรือ NocNoc ศูนย์รวมสินค้าและบริการเรื่องบ้านออนไลน์ เปิดเผยว่าในปี 2568 แนวโน้มการเติบโตของตลาดตกแต่งบ้านในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น อาจแตะที่มูลค่ากว่า 10,300 ล้านบาท จากตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าคนไทยยังคงสนใจ และชื่นชอบการตกแต่งบ้าน เพื่อปรับพื้นที่ให้เหมาะกับความต้องการการใช้งาน และสร้างบรรยากาศใหม่ให้บ้าน โดยเฉพาะในช่วงต้นปีที่มักจะมีเทรนด์การแต่งบ้านใหม่ๆที่น่าสนใจ และอาจสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริโภคได้ลองนำเทรนด์การตกแต่งที่อยู่อาศัยมาปรับเข้ากับสไตล์ของตนเองด้วย
NocNoc ยังได้ทำการศึกษาแนวโน้มความต้องการสินค้า และเทรนด์การตกแต่งบ้าน ซึ่งสำหรับปี 2025 เทรนด์การตกแต่งบ้านที่คาดว่าน่าจะได้รับความนิยมคือ การตกแต่งโดยอิงกับสีประจำปี โดยปีนี้ pantone คือ Mocha Mousse หรือสีโทนน้ำตาลอมชมพู ทำให้การตกแต่งโดยใช้สีสันในโทนสีน้ำตาล รวมไปถึงสีเอิร์ธโทน มีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะสามารถนำไปแมทช์เข้าได้กับสไตล์แต่งบ้านอย่าง Scandinavian , Japandi และ Minimalซึ่งเป็นสไตล์การแต่งบ้านที่คาดว่าจะได้รับความนิยมมากในปี 2025 เช่นเดียวกัน รวมถึงการตกแต่งที่อยู่อาศัยในสไตล์มินิมอล ที่เน้นการออกแบบพื้นที่ให้โปร่ง โล่ง สร้างความรู้สึกสบายตา เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันที่หลากหลายในชิ้นเดียวเพื่อลดทอนการตกแต่งที่ไม่จำเป็น การตกแต่งในสไตล์นี้จะช่วยสร้างพื้นที่พักผ่อนที่มีเหมาะสม ตอบโจทย์คนทำงานที่ต้องการหลีกหนีความเครียดจากการทำงาน หรือความวุ่นวายรอบข้าง
การตกแต่งที่มีความเฉพาะบุคคล หรือ Personalized เป็นอีกเทรนด์ที่น่าจะมาแรงในปี 2025 เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญกับพื้นที่อยู่อาศัยที่สามารถสะท้อนตัวตน รสนิยม ไลฟ์สไตล์ และตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตได้มากขึ้น อย่างเช่นผู้ที่ทำงานแบบ work from home เป็นหลักก็อาจจะปรับพื้นที่ในโซนทำงานให้เป็นโฮมออฟฟิศ เน้นพื้นที่เพื่อการทำงาน เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ ที่เอื้อต่อการจัดเก็บเอกสาร หรืออุปกรณ์การทำงานอย่างเป็นสัดส่วน รวมไปถึงการเลือกใช้สี โทนสบายตา อย่างเช่นสีขาว น้ำตาล หรือสีเขียว หรือสีที่มีผลต่อช่วยสร้างโฟกัสในการทำงานอย่างเช่น สีเทา หรือสีน้ำเงิน
นอกจากนี้เทรนด์การใช้เทคโนโลยีสำหรับที่อยู่อาศัย หรือ Smart Home Technology ก็ยังมาแรงในปีนี้เช่นเดียวกัน ซึ่งเทคออฟโฮมเหล่านี้จะมีส่วนเข้ามาประกอบเสริมฟังก์ชันต่างๆ สำหรับพื้นที่อยู่อาศัย ที่ช่วยตอบโจทย์เรื่องการอำนวยความสะดวก เช่น ระบบสวิตช์ไฟอัตโนมัติ หรือระบบการสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชัน ระบบ smart lock ระบบกล้องวงจรปิดที่สามารถเช็คความปลอดภัยได้ผ่านสมาร์ทโฟน และสามารถแจ้งเตือนภัยได้ ไปจนถึงระบบผู้ช่วยส่วนตัวในรูปแบบ AI ที่ผู้ใช้งานสามารถสั่งงานผ่านเสียงเพื่อให้จัดการสิ่งต่างภายในบ้าน เป็นต้น เทคโนโลยีเหล่านี้ก็จะเข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้พื้นที่อยู่อาศัยน่าอยู่ และเป็นพื้นที่สำหรับ การพักผ่อนอย่างแท้จริง