AWC ผลประกอบการ 9 เดือนแข็งแกร่ง ด้วยกำไรจากการดำเนินงานกลุ่มโรงแรมเติบโต ก้าวกระโดดร้อยละ 42 เทียบปีก่อน เปิดตัว ‘EA’ Rooftop at The Empire ปรากฏการณ์แลนด์มาร์กใหม่ของประเทศ ขับเคลื่อนการเติบโตท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
– ผลประกอบการ 9 เดือน ปี 2567 เติบโตต่อเนื่องอย่างแข็งแกร่ง ด้วยรายได้รวมและกำไรสุทธิตามงบการเงินที่ 15,122 ล้านบาท และ 3,991 ล้านบาท ตามลำดับจากการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ
– กลุ่มธุรกิจโรงแรมเติบโตแข็งแกร่งทุกเซ็กเมนต์ โดยเฉพาะกลุ่มประชุมสัมมนา (MICE) และโรงแรมในกรุงเทพฯ ด้วยกำไรจากการดำเนินงาน (Hotel EBITDA) ในไตรมาส 3 ที่ 983 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 79 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ด้วยกลยุทธ์ผลักดันรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) ในช่วง 9 เดือนแรกสูงถึง 4,072 บาทต่อห้อง และในไตรมาส 3 เติบโตร้อยละ 16 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
– เปิดตัว ‘EA’ Rooftop at The Empire (เอ-ญ่า รูฟทอป แอท ดิ เอ็มไพร์) แลนด์มาร์กใหม่สู่การเป็น AWC’s Lifestyle Destination และสร้างรายได้เป็นอันดับหนึ่งให้กับธุรกิจ F&B ของบริษัทฯ พร้อมต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงปลายปีกับโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ เตรียมเปิด “Okura Cruise” และพัทยาเตรียมเปิด โรงแรม “Melia Pattaya Aquatique Destination”
– กลยุทธ์การเติบโต พัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มคุณภาพทรัพย์สินดำเนินงาน โดย ณ ไตรมาส 3 บริษัทมีทรัพย์สินดำเนินงาน 148,934 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 79 จากปี 2562 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยกลยุทธ์ผลักดันผลตอบแทน (Yield) ทรัพย์สินดำเนินงานแข็งแกร่งถึงร้อยละ 7
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2567 เติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกแข็งแกร่งแม้อยู่นอกฤดูกาลท่องเที่ยว ด้วยรายได้รวมและกำไรสุทธิ 9 เดือนตามงบการเงินอยู่ที่ 15,122 ล้านบาท และ 3,991 ล้านบาท ตามลำดับ จากผลการดำเนินงานอันยอดเยี่ยมของกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่เติบโตได้ดีในทุกเซ็กเมนต์และสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 3 ที่ 983 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 79 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 โดยโรงแรมกลุ่มประชุมสัมมนา (MICE) และโรงแรมในกรุงเทพฯ มีกลยุทธ์ผลักดันรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) ในช่วง 9 เดือนแรกถึง 4,072 บาทต่อห้อง และในไตรมาส 3 เติบโตร้อยละ 16 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รวมถึงมีค่า RGI Index ของโรงแรมในพอร์ตโฟลิโอสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดอยู่ที่ 105 โดยมีโรงแรมที่มีค่า RGI โดดเด่น อาทิ โรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ มีค่า RGI เท่ากับ 195 โรงแรม แบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ มีค่า RGI เท่ากับ 174 และโรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพ ที่มีค่า RGI เท่ากับ 149 นอกจากนี้ รายได้อาหารและเครื่องดื่มของธุรกิจโรงแรมและการบริการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าเป็นผลจากกลยุทธ์การบูรณาการจุดแข็งทางธุรกิจของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและกลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลเข้าด้วยกันเพื่อเสริมสร้างมูลค่าร่วม (Synergy Value) และกลุ่มธุรกิจคอมเมอเชียลยังคงรักษาการเติบโตได้ดีจากการปรับกลยุทธ์การตลาดของศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานสู่การเป็น AWC’s Lifestyle Destination ให้รองรับเทรนด์และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยบริษัทเดินหน้าเพิ่มมูลค่าและยกระดับคุณภาพทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง มีทรัพย์สินดำเนินงาน 148,934 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 79 จากปี 2562 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยกลยุทธ์ผลักดันผลตอบแทน (Yield) ทรัพย์สินดำเนินงานแข็งแกร่งถึงร้อยละ 7.7