ถนนพระราม 4 เป็นย่าน Ultra CBD ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาโครงการอสังหาฯทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคอนโด อาคารสำนักงาน โรงแรม โครงการมิกซ์ยูส ไปจนถึงโครงการระดับ Smart City ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบเพื่อความยั่งยืนที่ครบครัน ในระดับ Worldwide Magnet  อย่าง ONE Bangkok (วัน แบงค็อก) บนที่ดินแปลงใหญ่กว่า 108 ไร่ ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ที่แต่เดิมเป็นโรงเรียนเตรียมทหาร และโครงการสวนลุมไนท์บาซาร์ ซึ่งพัฒนาโดย บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยงบประมาณ 120,000 ล้านบาท บนพื้นที่อาคารรวมอยู่ที่ประมาณ 1.83 ล้านตารางเมตร โดยตัวโครงการได้วาง Positioning ให้เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกใจกลางกรุงเทพฯ ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนครอบคลุมในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด The Heart of Bangkok เมืองที่ใช้ใจสร้าง โดยยึดเอา “หัวใจ” ของผู้คนเป็นศูนย์กลาง สร้างมาตรฐานใหม่ในด้านการออกแบบ คุณภาพ ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ของการใช้ชีวิตทุกรูปแบบของเมืองต้นแบบแห่งอนาคต ที่จะยกระดับกรุงเทพฯ ให้ก้าวสู่ความเป็นมหานครระดับโลกและเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้คนทั่วโลกต้องการมาเยือนอย่างแท้จริง (Global Integrated Lifestyle Hub) ผ่านองค์ประกอบที่หลากหลาย อาทิ อาคารสำนักงานแบบพรีเมียม จำนวน 5 อาคาร โรงแรมระดับลักซ์ชัวรี่และไลฟ์สไตล์ 5 แห่ง อาคารที่พักอาศัยระดับลักซ์ชัวรี่อีกจำนวน 3 อาคาร ระบบขนส่งสาธารณะแบบครบวงจร มีทางเข้าออกรอบโครงการถึง 6 จุด พร้อมทั้งสร้างพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งกว่า 50 ไร่ เพื่อเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ รวมเป็นพื้นที่กว่า 700 ไร่ ซึ่งเปรียบเสมือนปอดผืนใหญ่ใจกลางกรุง ไปจนถึง One Bangkok Retail จุดหมายปลายทางของการชอปปิ้งและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของกรุงเทพฯ ที่รวบรวมประสบการณ์การชอปปิ้งที่เหนือระดับแบบครบวงจรที่สุดไว้ในที่เดียว ภายใต้แนวคิด “The Rhythmic Experience” บนพื้นที่เช่าสุทธิรวมกว่า 190,000 ตร.ม.

โดยในวันนี้ (25 ตค.) วัน แบงค็อก ได้ระเบิดความยิ่งใหญ่ แบบจัดเต็มสมการรอคอย กับพิธีเปิดสุดอลังการ พร้อมโชว์ระดับโลกที่บินตรงลัดฟ้าร่วมด้วยศิลปินชื่อดังทั้งไทยและต่างประเทศ ภายใต้ธีม “Let Our Hearts Beat as One” ที่จะส่งเสียงชีพจรแห่งมหานครกรุงเทพฯ ให้ดังก้องไปทั่วโลก! ซึ่งมีไฮไลท์ที่คนภายนอกโครงการสามารถเห็นได้แต่ไกลก็คือ การแสดงแสงเลเซอร์ แม๊บปิ้ง บนสถาปัตยกรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในคอนเซปต์ “New Signal” เนรมิตพื้นที่บนอาคารต่าง ๆ ในโครงการ วัน แบงค็อก ให้กลายเป็น Canvas ผืนใหญ่ ผสมผสานเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ล้ำสมัยกว่า 40 ตัว ครอบคลุมพื้นที่กว่า 25,000 ตร.ม. ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ในขณะที่ภายในตัวโครงการเองก็แน่นขนัดไปด้วยผู้ร่วมงานจำนวนมากสุดๆที่เข้ามาชมทั้งตัวโครงการเพียงอย่างเดียว และการแสดงอันวิจิตรที่รังสรรค์ขึ้นโดย Auditoire (ออดิทัวร์) หนึ่งในทีมผู้สร้างสรรค์โชว์ในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก กรุงปารีส 2024 ที่เนรมิตรบรรยากาศที่รายล้อมด้วยสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นของ วัน แบงค็อก ให้มีชีวิตชีวาด้วยการแสดงบนสองเวทีใหญ่ เปิดมุมมองการรับชมให้เต็มตาแบบ 360 องศา ผสานด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำด้วยแสงสีตื่นตาตื่นใจ ไปกับศิลปินระดับโลกอย่าง Calum Scott  และ Loren Allred ร่วมกับ พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร และสารพัดคอนเสิร์ตบน 5 โซนสำคัญ! ทั้ง ONE Bangkok Park ที่มี ปาล์มมี่ และ สล็อตแมชชีน / Parade at One Bangkok โดย 4EVE และ โอ๊ต ปราโมทย์/ The Storeys at One Bangkok โดย มิลลิ (MILLI) และ เจ้าขุน & เจ้านาย / One Bangkok Tower 4 โดย Paradox และ Kerry / และศิลปินและดีเจชื่อดังทั้งไทยและต่างประเทศ อย่าง KIKI Band, DJ Pam Anatr และ DJ Brent Burns ที่จะสร้างสีสันให้กับ The Wireless House One Bangkok….เอาเป็นว่าลำพังแค่เดินให้ครบทั้ง 5 โซนในหนึ่งวันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้แล้ว

สำหรับองค์ประกอบของแต่ละโซนสำคัญใน ONE Bangkok เท่าที่รวบรวมมามีดังนี้ครับ ขอเริ่มจากจุดที่ Mass ที่สุดของวันนี้เลยอย่าง One Bangkok Retail ก่อน บนพื้นที่ช้อปปิ้ง แฮงค์เอาท์ นั่งชิลจิบกาแฟ ทานข้าวนี้ มีพื้นที่รวมกว่า 190,000 ตร.ม. บนแนวคิด The Rhythmic Experience ที่นำเสนอ 3 ประสบการณ์ “Retail – Food – Art” จาก 3 อาคาร Parade, The Storeys (2 อาคารนี้เปิดแล้ว) และ POST 1928 ด้วยคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างและมีดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแต่สามารถเชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างไร้รอยต่อ ด้วย ‘Retail Loop’ กว่า 900 ร้านค้า โดยแบ่งออกเป็น 3 อาคารหลักคือ

– Parade อาคาร 9 ชั้น ที่มี Facade สุดโดดเด่นด้วยจอ LED และกระจก ริมฝั่งถนนพระราม 4 และยังทำหน้าที่เป็น Podium ของอาคาร ONE BANGKOK TOWER 3 และ ONE BANGKOK TOWER 2 ซึ่งมี เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ “เฟรเซอร์ สวีทส์ กรุงเทพฯ” ที่ครอบคลุมพื้นที่ 10 ชั้นบนสุดของอาคารสูง 45 ชั้น ประกอบไปด้วยอาคารสำนักงานและศูนย์การค้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ “A World of Choice Without Limits” นำเสนอสีสันแห่งชีวิตอันไร้ขีดจำกัด บนพื้นที่เช่า 85,000 ตร.ม. จำนวน 9 ชั้น ด้วยการผสมผสานทุกไลฟ์สไตล์ Shop – Play – Work – Eat เปรียบเสมือน Open Playground สำหรับทุกคนในครอบครัว มีไฮไลต์ได้แก่ King Power City Boutique นำเสนอแนวคิด “AN EXPERIENTIAL SHOPPING JOURNEY IN THE CITY” รูปแบบใหม่ ดีไซน์การตกแต่งภายในโดยสตูดิโอฝีมือเด่นระดับโลกอย่าง Hayon Studio พื้นที่มากกว่า 5,000 ตารางเมตร ชั้น 1-2 โซน Parade, มิตซูโคชิ สไตล์ “เดปาจิกะ” มิตซูโคชิ ซูเปอร์มาร์เก็ต-ฟู้ดฮอลล์ แห่งแรกในไทย ครอบคลุมพื้นที่ 4,600 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนชั้น B1 วัน แบงค็อก รีเทล โซน Parade , สารพัดไทย ศูนย์รวมสินค้าไทยในรูปแบบที่พรีเมียมและอินเทรนด์, Techhouse by .Life, ONE Content Store  ร้านหนังสือดูเพล็กซ์ฟลอร์ คอนเซ็ปต์ใหม่แห่งแรก,  One Ultra Screens ที่สุดของโรงภาพยนตร์ระดับ อัลตร้าลักซ์ชัวรี่ ภายใต้แนวคิดใหม่ “THE EXCLUSIVE MOVIE CLUB” กับความคมชัดสูงสุดจากเทคโนโลยี LASER 4K, CHANG CANVAS พื้นที่แห่งการเฉลิมฉลองช่วงเวลาพิเศษ  รวมถึง แฟล็กชิพสโตร์ของ Muji, Nitori, Ari Football / Ari Running, New Era, Urban Revivo, Skechers, HarborLand, Little Gaia แหล่งเรียนรู้สำหรับเด็ก ๆ และครอบครัว, BIG C คอนเซปต์ใหม่แห่งแรก ภายใต้ชื่อว่า BIG C Foodplace Bangkok Marche รวมถึง FOODSTREET ที่รวบรวมอาหารสตรีทฟู้ดชื่อดัง การันตีด้วยรางวัลมิชลินไกด์ รวบรวมมาไว้ที่นี่ และอื่น ๆ อีกมากมาย

KING POWER CITY BOUTIQUE มี 2 ชั้น ชั้นล่างสามารถเอาของกลับได้เลยไม่ต้องมี Flight

ร้านสารพัดไทย

MITSUKOSHI DEPACHIKA

THE STOREYS นำเสนอคอนเซ็ปต์ “Tell Your Own Story at THE STOREYS” แพลตฟอร์มแห่งความคิดสร้างสรรค์ จุดบรรจบของเทรนด์โลกใหม่ ๆ บนพื้นที่เช่ารวม 5 ชั้น 35,000 ตร.ม. ตั้งอยู่ริมฝั่งถนนวิทยุ พบร้านค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ที่มีเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจ ผสานกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นร่วมสมัย และคอนเซ็ปต์สโตร์สุดฮิป  นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร บาร์แอนด์บิสโทร และแหล่งแฮงค์เอ้าท์ในแบบ Rooftop ชมวิวยามค่ำคืน รวมถึง Flagship Stores ของ Jim Thompson, Norse x Bit.Studio, Club21, Swatch

– POST 1928 ห้างแบรนด์เนมมสุดหรู ฝั่งถนนวิทยุ ถัดจาก THE STOREYS และเป็นที่ตั้งของ โรงแรมหรูอย่าง The Rirz – Carlton, Bangkok และคอนโด Ultra Luxury แบบ Leasehold อย่าง ONE89 Wireless บนคอนเซ็ปต์ “Go Beyond Luxury” ก้าวข้ามนิยามความเป็นลักซ์ชัวรี่ไปอีกขั้นด้วยประสบการณ์ชอปปิ้งสุดล้ำเหนือระดับกว่าที่เคย บนพื้นที่เช่า 5 ชั้น 40,000 ตร.ม. พบกับถนนชอปปิ้ง ONE Bangkok Boulevard สายแรกของกรุงเทพฯ ที่รวบรวมร้านค้าแฟล็กชิพสโตร์แบรนด์ดังระดับโลกมากมาย ในรูปแบบ Standalone มาให้ชอปอย่างจุใจตลอดสองฝั่งถนน ตั้งแต่ซูเปอร์แบรนด์แฟชั่น Watch & Jewelry ตลอดจนแบรนด์สตรีทแวร์สุดพรีเมียม (มีแผนเปิดเฟสถัดไป)

ซึ่งพื้นที่ Retail ทั้ง 3 จะเชื่อมต่อกับ Art Loop เส้นทางแห่งศิลปะที่เปรียบเสมือนคอลเลกชันศิลปะสาธารณะที่กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งโครงการ เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร เพื่อให้คุณค้นหาแรงบันดาลใจและสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ไปพร้อมกับการชอปปิ้ง โดยมีไฮไลท์สำคัญคือ ผลงานประติมากรรมระดับโลกของ อนิช คาพัวร์ (Anish Kapoor) และ โทนี แคร็กก์ (Tony Cragg)

และยังเตรียมเผยโฉม The Wireless House One Bangkok นิทรรศการที่ชุบชีวิตประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของสถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรกของประเทศไทยกลับมาเล่าใหม่อย่างร่วมสมัย บนสถาปัตยกรรมที่จะพาคุณย้อนกลับในปี พ.ศ. 2456 ซึ่งเป็นอาคารที่ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมแยกพระราม 4 ตัดกับถนนวิทยุ

โดยมีอีกส่วนอาคารที่สำคัญคือ Chang Canvas ซึ่งเป็นโรงเบียร์และบาร์ขนาดใหญ่ ติดกับอาคาร ONE BANGKOK ARENA ซึ่งเป็น Live Entertainment Arena ศูนย์กลางการจัดงานมาตรฐานระดับโลก สำหรับการแสดงคอนเสิร์ต ไลฟ์โชว์ งานนิทรรศการ และงานอื่น ๆ อีกมากมาย บนพื้นที่จัดกิจกรรมทั้งภายในและภายนอกอาคารทั้งหมดกว่า 20,000 ตร.ม.

ส่วนถัดมาคืออาคารสำนักงาน ที่นำเสนอมาตรฐานใหม่ของการทำงานแห่งโลกอนาคต ที่ยกระดับคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน โดยเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองโดยมาตรฐาน WiredScore และมาตรฐาน SmartScore ในระดับแพลตตินัม เพื่อมอบประสบการณ์ในการทำงานที่เป็นเลิศให้กับผู้เช่าและผู้ใช้อาคาร ซึ่งในปัจจุบัน อาคารที่ได้รับการรับรองสูงสุดจากทั้งสองมาตรฐานนั้นมีเพียง 1% เท่านั้นจากอาคารที่ได้รับการรับรองระดับอื่น ๆ ทั่วโลก เช่นเดียวกับ ผ่านมาตรฐาน LEED for Neighbourhood Development ระดับ Platinum และมาตรฐานรับรองอาคาร WELL เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้อาคาร ดังนั้น พื้นที่สำนักงานภายในโครงการฯ จึงได้ถูกรังสรรค์ขึ้นมาอย่างพิถีพิถันโดยคำนึงถึงสุขภาวะของผู้ใช้อาคารเป็นสำคัญ รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะที่ล้ำสมัยเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบอาคารให้เหนือกว่ามาตรฐานของอาคารสำนักงานทั่วไป เพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้อาคาร ไม่ว่าจะเป็น การนำกระจกฉนวนกันความร้อน หรือกระจกอินซูเลทที่สามารถกันความร้อนจากดวงอาทิตย์ได้กว่า 75% มาใช้กับอาคารสำนักงานในโครงการฯ ทำให้อาคารสามารถปกป้องผู้คนในอาคารจากสภาพภูมิอากาศที่สูงขึ้น นอกจากนี้ โครงการฯยังได้ติดตั้งระบบระบายอากาศประสิทธิภาพสูงที่สามารถดึงอากาศจากภายนอกเข้าสู่อาคารสูงกว่ามาตรฐานสากลถึง 30% โดยนำมาผ่านแผ่นกรองอากาศระดับพรีเมียมพร้อมฉายรังสียูวีฆ่าเชื้อโรค เพื่อให้ได้อากาศบริสุทธิ์และสะอาดหมุนเวียนในอาคารมากขึ้น โดยมี District Command Center หรือศูนย์ควบคุมการสั่งการที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดเพื่อตรวจสอบระบบต่างๆภายในอาคาร รวมถึงความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ และยังมีซูเปอร์แอปฯ แอปพลิเคชันที่รวมเอาหลากหลายบริการเข้าไว้ด้วยกัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้อาคารอย่างครบครัน เช่น การเข้าออกอาคาร การสำรองที่จอดรถ ระบบค้นหาตำแหน่งรถ (Find My Car) และยังมีระบบการรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น

ONE Bangkok ประกอบด้วยอาคารสำนักงานระดับพรีเมียม จำนวน 5 อาคาร เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์จะมีพื้นที่เช่าสุทธิรวมกว่า 500,000 ตร.ม. ตั้งอยู่บนทำเลหัวมุมถนนวิทยุตัดกับพระราม 4 พร้อมการเดินทางที่สะดวกสบายเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน สถานีลุมพินี และยังมีทางเข้าออกรอบโครงการถึง 6 จุด รวมถึงทางเชื่อมตัดตรงเข้าสู่ทางด่วนซึ่งถือเป็นแห่งแรกในประเทศไทย โดยมุ่งหวังที่ช่วยบรรเทาปัญหาจราจรบริเวณรอบโครงการฯ โดย เฟสที่หนึ่ง จะประกอบไปด้วย Tower 3 ซึ่งมีพื้นที่ให้เช่ารวม 98,500 ตร.ม. จำนวน 45 ชั้น* มีจุดเด่นคือ ช้อปปิ้งง่ายสุดอยู่บนอาคาร Parade เป็นอาคารที่ใกล้ MRT ลุมพินีมากที่สุด มียอดจองแล้ว 30% / Tower 4 สูง 45 ชั้น* ขนาดพื้นที่ 96,302 ตร.ม. เป็นอาคารสำนักงานแรกที่เปิดให้บริการ ด้วยยอดจองมากถึง 80% มี Commercial helipad และ Private sky balcony / และ Tower 5 สูง 30 ชั้น ตั้งอยู่ในพื้นที่ประวัติศาสตร์ของสถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรกของประเทศไทย จึงได้รับการออกแบบให้มีการถึงสะท้อนเอกลักษณ์เป็นสัญญาณของโทรเลข ตัวอาคารมีระเบียงกึ่งกลางแจ้งแบบส่วนตัวและพื้นที่ที่ออกแบบสำหรับการเชื่อมต่อกับชั้นอื่นโดยเฉพาะ พื้นที่ใช้สอยรวม 100,534 ตรม. เป็นอาคารสำนักงานที่มีพื้นที่ต่อชั้น “ใหญ่” ที่สุดในกรุงเทพ* ด้วยขนาด 3,500 – 3,700 ตรม.

สำหรับเฟสถัดไปจะเป็นคิวของ Tower 2 ซึ่งเป็นอาคาร Mixed Use สูง 45 ชั้น พท.ให้เช่ารวม 73,000 ตรม. ฝั่งถนนพระรามสี่ บนอาคาร Parade โดยมีเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ เฟรเซอร์ สวีทส์ กรุงเทพฯ ให้บริการห้องพักจำนวน 261 ห้อง ตั้งอยู่ระหว่างชั้น 36 ถึงชั้น 45 และอาคาร และอาคาร ONE Bangkok Tower ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดในกรุงเทพฯและเป็น Iconic Landmark ของโครงการ

สำหรับส่วนโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ในระดับ Luxury จะมีทั้งหมด 5 แห่ง มีที่เผยรายละเอียดแล้ว 3 แห่งคือ โรงแรมริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ โรงแรมหรูระดับ 6 ดาวแห่งแรกบนถนนพระราม 4 สูง 50 ชั้น วิวสวนลุมฯ ซึ่งพร้อมเปิดให้บริการเดือน พฤศจิกายน  2567 /โรงแรมแอนดาซ วัน แบงค็อก โรงแรมแบรนด์แอนดาซแห่งแรกในกรุงเทพฯ ซึ่งพร้อมเปิดให้บริการใน ปี 2568 /และ เฟรเซอร์ สวีทส์ กรุงเทพ บน Tower 2 ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการ ในปี 2569

และที่หลายคนกำลังรออยู่ก็คือ โครงการที่อยู่อาศัย Ultra Luxury Residences ที่มีทั้งหมด 3 โครงการ โดยโครงการแรกนั้นเริ่มเปิดขายไปแล้วกับ ONE89 Wireless บนอาคารโรงแรม ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ (ชั้น 1-25 เป็นโรงแรม ก่อนจะคั่นด้วย Residences Facilities บนชั้น 25 และจากชั้น 26 – 50 เป็นส่วนของ ONE89 Wireless ที่ขายกันในระดับราคากว่า 4 – 5 แสนบาทต่อตรม. ส่วนอีก 2 โครงการนั้นจะทยอยเปิดในเฟสถัดไป (แอบเห็นชื่อใน Map ว่าเป็น EI8THEEN SEVEN และ ONE POWER ครับ ไม่แน่ใจว่าใช่ไหม)

นอกจากนี้ ONE Bangkok ยังมอบสิ่งอำนวยความสะดวกที่ส่งเสริมสุขภาวะที่ดีให้กับทุกคน อาทิ การออกแบบทางเดินเท้าที่สามารถเดินทั่วทั้งโครงการภายใน 15 นาที ด้วยระยะทางเดินยาวต่อเนื่อง 5 กิโลเมตร โอบล้อมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์เรียงรายยาว 2.6 กิโลเมตร ให้ทุกคนได้เดินเล่นพักผ่อนได้อย่างสบายใจ ด้วยพื้นที่สีเขียวและพื้นที่สาธารณะเปิดโล่งทั่วทั้งโครงการรวมกันกว่า 50 ไร่ โดยแบ่งออกเป็น 4 โซนหลักคือ ONE Bangkok Park สวนใหญ่ใจกลางโครงการ, ONE Bangkok Boulevard ช้อปปิ้งสตรีทแบบเปิดโล่งตั้งแต่ถนนวิทยุ แทรกกลางพื้นที่ Retail และหมู่อาคารโรงแรมไปจนถึง ONE Bangkok Park, Parade Park พื้นที่ Step Garden พร้อมงานประติมากรรมริมถนนฝั่งพระราม 4 ด้านหน้าอาคาร Parade, และ Wireless Park ซึ่งเป็นพื้นที่สวนบริเวณริมฝั่งทางเข้าโครงการด้านถนนวิทยุ ซึ่งทั้งหมดจะทำหน้าที่เป็นพื้นที่ที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์กิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ ทางสังคมและชุมชนโดยรอบ ที่สำคัญยังอัดแน่นไปด้วย Membership Program รวบรวมทุกบริการและสิทธิประโยชน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ตลอดจนมีบริการ One Stop Service ที่ให้บริการชอปปิ้งแบบครบวงจรผ่าน Concierge ของศูนย์การค้าฯ และบริการ  EV Shuttle Bus รับส่งระหว่างบีทีเอสเพลินจิต มายังโครงการด้วยเช่นกัน

ONE Bangkok จะเป็น “เมืองกลางใจ” ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิต ในทุกมิติ ทุกช่วงเวลาของคุณได้มากน้อยแค่ไหน มาร่วมสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจนี้ไปพร้อม ๆกันได้แล้ววันนี้