เป็นที่น่าสังเกตว่าปีนี้แผนในการเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่ในกรุงเทพฯ ดูเหมือนว่าแสนสิริจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการในแบบ Exclusive Residence ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า Niche Market มากเป็นพิเศษ เราจึงแทบจะไม่เห็นการเปิดตัวโครงการขนาดใหญ่ที่เป็นตึกสูงและมีจำนวนยูนิตเยอะๆเลย โดยแบรนด์ที่เป็นไฮไลท์ทำตลาดในปีนี้ก็จะเป็น The MUVE, VIA และ PYNN ซึ่งแบรนด์ PYNN นี้ดูจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า Local Demand และกลุ่มลูกค้านักลงทุนปัจจุบันของแสนสิริ ด้วยจุดเด่นในด้านการวางคอนเซปท์ ที่มอบความสมดุลของการใช้ชีวิตส่วนตัวบนทำเลที่ตอบโจทย์ และคุ้นเคยกับโลเคชั่นที่ชอบ กับเลย์เอาท์ห้องที่มีขนาดใหญ่ สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ โดยมาพร้อม tagline “Pin your owned ปักหมุดชีวิตใจกลางเมือง” เพราะมีจุดเด่นในเรื่องของโลเคชั่นที่กลุ่มลูกค้าชอบ แถมยังได้ห้องขนาดใหญ่ คุ้มค่า จำนวนยูนิตน้อย ให้ความเป็นส่วนตัวสูง ซึ่งเริ่มโครงการที่แรกที่ PYNN Pridi 20 – พินน์ ปรีดี 20 ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่โครงการแรก มียอดขายตอนนี้เหลือแค่ 9 ยูนิตเท่านั้น จ่อคิว Sold out พร้อมส่งต่อความสำเร็จให้โครงการล่าสุด “PYNN Soonvijai – พินน์ ศูนย์วิจัย” บนคอนเซปท์ Unwrap Your Giftbox ที่เปรียบเสมือนของรางวัลทีรอเราอยู่เวลาเรากลับบ้าน

ศูนย์วิจัยเป็นทำเลรองใหล้เคียงย่าน Lifestyle สำคัญอย่างทองหล่อ และย่าน Residential สำคัญอย่างถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ที่มี Landmark สำคัญคือโรงพยาบาลกรุงเทพ โดยโครงการคอนโดบนทำเลนี้หลายโครงการได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้คนที่อยากอยู่ย่านทองหล่อแต่กำลังทรัพย์ไม่เพียงพอ โดยเลือกเข้าซอยหน่อยมาในย่านศูนย์วิจัย เพราะราคาที่ดินในย่านถนนเพชรบุรีและย่านศูนย์วิจัยยังไม่สูงมาก ทำให้ developer ยังสามารถสร้างโครงการและทำแพคเกจราคาขายที่คนทั่วไปยังหาซื้อได้จริง ทั้งนี้หากเราเอาทองหล่อเป็นศูนย์กลาง ทำเลรองที่สามารถทดแทนทองหล่อ ก็มักจะมีอยู่ 2 ทำเลบนถนนสายรอง นั่นคือฝั่งสุขุมวิทเลขคู่เชื่อมพระราม 4 เช่น สุขุมวิท 40, 42 และฝั่งถนนเพชรบุรี ช่วงแยกทองหล่อ – พัฒนาการ และย่านศูนย์วิจัยแถวๆโรงพยาบาลกรุงเทพ โดยซอยศูนย์วิจัย เป็นย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่ใกล้ทองหล่อ และรพ.กรุงเทพ ที่ตลอดสองฝั่งเต็มไปด้วยบ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ และอพาร์ทเมนท์ที่จับกลุ่มเป้าหมายเป็นบุคคลากรทางการแพทย์ เดินทางสะดวกเข้าออกได้หลายทาง ทั้งจากถนนเพชรบุรี พระรามเก้า เอกมัย และกำแพงเพชร 7 จึงเรียกได้ว่าเป็นย่านที่มี Traffic หมุนเวียนเข้ามาในการอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง จากบุคคลากรของโรงพยาบาล และ Medical Tourism นอกจากนี้ในซอยอย่างศูนย์วิจัยก็ได้รับความเป็นส่วนตัวมากกว่า เงียบกว่าเดินทางไปทำงานได้สะดวกกว่าเพราะมีทางลัดเยอะกว่า และข้อสำคัญคือมี Supply คู่แข่งที่น้อยกว่า มีโครงการใกล้เคียงน้อยกว่า มองภาพของคนที่จะมาเช่าได้ชัดเจน จุดนี้เองที่ดีต่อนักลงทุนเพราะเมื่อมียูนิตน้อยก็สามารถเรียกราคาจากผู้เช่าได้ดีกว่าย่านที่มีคอนโดมิเนียมหนาแน่น โดยทางแสนสิริให้ข้อมูลว่าย่านนี้ให้ High Rental Yield ถึง 8%

PYNN Soonvijai (พินน์ ศูนย์วิจัย) คือพรีเมี่ยมเพนท์เฮ้าส์ เพียง 18 ยูนิตจากแสนสิริ ที่สุดของความเป็นส่วนตัว เพนท์เฮ้าส์ยูนิตใหญ่ ใน 1 Residential Building ความสูง 7 ชั้น ในแต่ละชั้นมีเพียง 3 ยูนิต รูปแบบ 2 bedrooms และ 3 bedrooms เริ่มต้น 86-137 ตารางเมตร มี Rooftop Garden ลาน BBQ รวมถึงที่จอดรถที่มีถึง 133% มาพร้อม ความพิเศษในรูปแบบ Cat Allowed ออกแบบในสไตล์ Contemporary Modern มาพร้อมดีไซน์ที่ผ่านการตีความใหม่ ผสานความต่างของยุคสมัยไว้ได้อย่างลงตัว ด้วยงานสถาปัตยกรรมที่ลดทอนเส้นสายในอดีตให้ดูเรียบง่าย เกิดเป็นความ Classic ที่ร่วมสมัย ซึ่งเป็นการวางกลยุทธ์การพัฒนาโครงการที่ตอบสนองความต้องการในการอยู่บ้านเดี่ยว ที่มอบ Space กว้างขวาง ไม่ไกลจากทองหล่อ มีบรรยากาศเหมือนอยู่บ้านแนวสูงในราคาแค่ 10.9 ลบ.* ซึ่งถูกกว่าการไปหาซื้อบ้านเดี่ยวบนทำเลทอส่วนต่อขยายจากทองหล่อ อาทิ พัฒนาการ กรุงเทพกรีฑา ศรีนครินทร์ ฯลฯหลายเท่าตัว แต่มอบความสะดวกสบายในการเดินทางที่มากกว่า

แบบห้องที่นี่จะมี 2 Bedroom ขนาด 86 – 88.5 ตรม. มาพร้อมพื้นที่ Foyer หน้าห้อง เหมือนคอนโดที่ญี่ปุ่นเลย ได้ครัวปิดรูปตัว U โดยมีส่วน Living ขนาดใหญ่ มีกระจกเข้ามุม เชื่อมต่อระเบียงกว้าง ได้แอร์ Conceal ที่ส่วน Living ส่วนห้องนอนได้แอร์แขวนผนังครับ…ห้องเริ่ม 10.9 ลบ.คือห้องนี้ครับ

ส่วน 2 Bedroom ขนาด 89.75 – 90 ตรม.จะมีพื้นที่ระเบียงเพิ่มเข้ามาบริเวณห้อง Master Bedroom

และห้องแบบ 3 ห้องนอนขนาด 136.75 – 137.5 ตรม.เป็นห้องหน้ากว้าง เพดานสูงเฉลี่ย 2.7 เมตร ส่วน Living Room และ Master Bedroom ได้เป็นแอร์ Conceal กินพื้นที่ฝั่งหนึ่งของชั้น ให้ความสำคัญของพื้นที่ Master Bedroom มากเป็นพิเศษ โดยส่วนครัวจะเป็นแบบครัวเปิด ควบรวมพื้นที่การใช้งานต่อเนื่องกับส่วน Living ได้เป็นอย่างดี ใครเลี้ยงสัตว์ก็น่าจะมีความสุขมากพอสมควร เพราะพื้นที่ใช้สอยใหญ่พอๆกับทาวน์โฮมขนาดกลางเลย โดยที่สามารถปรับห้องนอนที่ 3 ให้เป็นห้องนอนสัตว์เลี้ยงได้สบาย…ห้องนี้เริ่ม 17.5 ลบ. จอดรถได้ 2 สิทธิ์

ทุกห้องได้ Private Storage เป็นของตัวเองบริเวณโถงลิฟท์ด้วยครับ ซึ่งมีโฉนดออกให้ด้วยห้องใครห้องมัน

ผมมองว่าที่นี่เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว และอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ครับ เห็นว่ามีลูกค้าครอบครัวใหญ่เหมาไปทั้งชั้นอยู่กันพร้อมหน้าเลย ชอบสเปคห้องครัว และห้องน้ำมากๆครับ ดูสวยงาม และใช้งานได้เต็มพื้นที่เลย รู้สึกว่าจะใช้ Top หินเป็น Silver Diana เหมือนกับโถงล้อบบี้เลย แต่มีข้อจำกัดตรงที่ให้ Pet Freindly แค่แมวครับ เพราะว่ายูนิตน้อย ลูกบ้านอาจจะมี Concern เรื่องเสียงสุนัขบ้าง แต่หากตั้งนิติแล้วก็อาจจะมีช่องให้โหวตเลี้ยงสุนัขได้ครับ ถ้าเทียบกับโครงการอื่นๆของแสนสิริที่มีระดับราคาตรม.ละ 130 – 140K ผมให้การจัดวางสเปซ และสเปคที่นี่ชนะเลิศครับ

โครงการขายไปประมาณ 4 ห้องแล้วครับ แต่ต้องบอกว่าเห็นไม่มีส่วนกลาง แต่ด้วยการที่ยูนิตน้อยจึงทำให้ค่าส่วนกลางสูงพอดูครับ โดยค่าส่วนกลางตรมละ 98 และ Sinking Fund ตรม.ละ 600 บาทครับ อันนี้คนที่ Concern เรื่องค่าส่วนกลางอาจจะต้อง Weight นิดนึง