ร่วมสร้างอนาคตที่ยั่งยืน: พันธมิตรไทย-นิวซีแลนด์และ Beca ผนึกกำลังพัฒนาศักยภาพก่อสร้างอาคารสีเขียว
เบคา บริษัทที่ปรึกษาด้านการออกแบบและวิศวกรรมชั้นนำที่มีสำนักงานใหญ่ในประเทศนิวซีแลนด์ กำลังจะมีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาประเทศไทยในอนาคต สืบเนื่องจากการเยือนประเทศไทยของนายคริสโตเฟอร์ ลักซอน นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา นางสาวอามีเลีย ลินซีย์ ผู้บริหารสูงสุดของ เบคา ได้ร่วมเดินทางกับคณะผู้แทนธุรกิจของนิวซีแลนด์ในครั้งนี้ เพื่อเน้นย้ำถึงความร่วมมืออันแข็งแกร่งระหว่างสองประเทศ ในการส่งเสริมและขับเคลื่อนการก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (อาคารสีเขียว) และโครงการโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ
การเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ในครั้งนี้ ถือเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างประเทศไทยและนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยประสบการณ์อันยาวนานในด้านวิศวกรรมและการออกแบบเพื่อความยั่งยืนของบริษัทเบคา พร้อมด้วยพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 80 คนในประเทศไทย ทำให้เบคาพร้อมและสามารถเป็นกำลังหลักในการพัฒนาอันน่าตื่นเต้นในครั้งนี้ได้อย่างเต็มที่
“การให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่ยั่งยืนในระหว่างการเยือนของนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์นั้น สอดคล้องกับค่านิยมหลักของเบคาเป็นอย่างดี” นางสาวอามีเลีย ลินซีย์ ผู้บริหารสูงสุดของเบคากล่าว “ประเทศไทยเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่สำคัญ และยังเป็นตลาดหลักที่สำคัญสำหรับนิวซีแลนด์และสำหรับเบคาอีกด้วย โดยบริษัทเบคาเอง เรามีประวัติอันยาวนานในการส่งมอบโครงการที่ประสบความสำเร็จมากมายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย ตั้งแต่การก่อสร้างอาคารที่ยั่งยืนและโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว ไปจนถึงการแก้ไขปัญหาสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ และในฐานะธุรกิจที่มีพนักงานเป็นเจ้าของ พนักงานของเราทุกคนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือสมาชิกคนสำคัญของครอบครัวเบคา”
ด้วยผลงานที่น่าประทับใจของเบคาในประเทศไทย ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพขององค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสำเร็จในการออกแบบวิศวกรรมและส่งมอบโครงการสำคัญต่างๆ ในประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ศูนย์การเรียนรู้ธนาคารแห่งประเทศไทย โครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) โครงการ Cloud 11 และโรงงานผลิตนมถั่วเหลืองกรีนสปอต (Green Spot) โครงการเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนถึงความสามารถของเบคา ในการนำเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาที่เป็นทั้งนวัตกรรมและสามารถนำมาปฏิบัติได้จริง เพื่อความสำเร็จในระยะยาวอีกด้วย
เนื่องจากมีอาคารสีเขียวและทันสมัยจำนวนมากในกรุงเทพฯ กำลังจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดใช้งาน ความท้าทายใหม่ที่เกิดขึ้นคือการปรับปรุงและใช้ประโยชน์จากอาคารที่มีอยู่เดิม การปรับปรุงนี้จะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้อาคาร และเสริมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของอาคารเดิม และหลีกเลี่ยงการปล่อยก็าซเรือนกระจกและปริมาณคาร์บอนอันเกิดจากการก่อสร้างอาคารใหม่