สถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยยังคงมีบางตลาดที่อาจจะยังคงทรงตัวอยู่บ้าง เช่น กลุ่มเซกเมนท์ Mass – Economy ที่ผู้ซื้อส่วนหนึ่งยังคงประสบกับปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่ทำให้การเข้าถึงสินเชื่อยากขึ้น ธนาคารมีความเข้มงวดในการปล่อยกู้มากขึ้น ในขณะที่ตลาดที่น่าจับตามองคือ กลุ่มตลาดบ้านหรูที่ยังคงเติบโตสวนทางตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อยกว่า ประกอบกับซัพพลายในตลาดยังมีไม่มากเท่าโครงการในเซกเมนต์อื่น ทำให้เห็นได้ว่าในช่วงสามปีที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ดีเวลลอปเปอร์หลายรายจึงเริ่มมีการกระจายการพัฒนาไปในเซกเมนท์กลุ่มที่อยู่อาศัยที่มีราคาสูงมากขึ้น เช่นเดียวกับทางบริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ที่กำหนดทิศทางในการพัฒนาไปสู่โครงการแนวราบ ระดับไฮเอนด์ – ลักซ์ชัวรี่ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 กลยุทธ์ (Execute, Expand, Explore) หลักของแผนธุรกิจในปีนี้ โดยกลยุทธ์ “Expand” คือการขยายรูปแบบโครงการเพื่อเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลายให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการพัฒนาโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ต่างๆบนทำเลเมืองส่วนต่อขยาย เช่น ESTA, THE ARBOR, THE HONOR และล่าสุดกับ CHANN The Riverside บนทำเลติดแม่น้ำท่าจีน

โดยในช่วงปลายปี 2023 ที่ผ่านมาทาง ASW ได้เปิดตัวโครงการ The Honor โยธินพัฒนา บ้านเดี่ยว 3 ชั้นระดับลักชัวรีที่มาพร้อม Private Pool Villa และ Private Lift ทุกหลัง ตั้งอยู่บนทำเลที่เป็น Strategic Location สำหรับโครงการบ้านระดับ Luxury ในย่านเลียบด่วน เกษตร – นวมินทร์ ซึ่งวันนี้เราจะพามาเจาะลึกกันว่าโครงการ The Honor โยธินพัฒนา นั้นจะมีองค์ประกอบอะไรที่น่าสนใจ และจะโดนใจกลุ่มผู้ซื้อในแบบ Young Successor คนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว มีกำลังซื้อสูง มีรสนิยม และไลฟ์สไตล์ที่ชัดเจนไม่เหมือนใคร มากแค่ไหน

พบ 4 ไฮไลท์ที่ไม่สามารถหาได้จากโครงการบ้านเดี่ยวในระดับราคาเดียวกัน ที่ The Honor โยธินพัฒนา

สำหรับโครงการ The Honor โยธินพัฒนา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวลักซ์ชัวรี่ 3 ชั้น ที่เน้นเจาะกลุ่มตลาด Young Successor หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จเร็ว มีกำลังซื้อสูง โดยทาง ASW ได้ออกแบบโครงการได้อย่างน่าสนใจผ่าน 4 องค์ประกอบหลักที่ทำให้โครงการ The Honor โยธินพัฒนา เหนือกว่าโครงการอื่นๆที่อยู่ในเซกเมนท์เดียวกัน ซึ่ง 4 องค์ประกอบ จะประกอบไปด้วย

1. Privilege Location: ทำเลโยธินพัฒนา

ต้องบอกเลยว่าทำเลในย่านโยธินพัฒนา หรือ ย่านถนนเกษตร-นวมินทร์ เป็นย่านที่อยู่อาศัย (Residential Area) ที่รายล้อมด้วยแหล่ง Lifestyle อำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้าอย่าง Central Eastville, The Crystal, CDC และ The Walk มีโรงพยาบาลที่ใกล้โครงการมากสุดคือ โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ห่างออกไป 4.7 กิโลเมตร และยังใกล้โรงพยาบาลกรุงเทพ กับสมิติเวช สุขุมวิทอีกด้วย นอกจากนี้โครงการยังใกล้กับโรงเรียนนานาชาติอย่าง Regent’s International School ที่ห่างออกไป 9.2 กิโลเมตร ซึ่งจากปัจจัยต่างๆเหล่านี้ทำให้พื้นที่ในบริเวณนี้เป็นอีกหนึ่งย่านที่สามารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยเป็นอันดับต้นๆ ในกรุงเทพฯเลยก็ว่าได้

ในส่วนที่ดินของตัวโครงการ The Honor โยธินพัฒนา จะตั้งอยู่ในซอยโพธิ์แก้ว 3 ซึ่งแม้จะไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ประดิษฐ์มนูธรรมในแบบที่สามารถเดินเข้ามาได้ง่าย แต่ยังมีจุดเด่นที่สามารถใช้รถบนต์ส่วนตัวเชื่อมต่อออกถนนเส้นหลักได้มากถึง 4 เส้นทาง คือ เลียบด่วนรามอินทรา(ประดิษฐ์มนูธรรม) ถนนนวมินทร์ ถนนเกษตรนวมินทร์ และถนนลาดพร้าว นอกจากนี้ยังใกล้ทางพิเศษฉลองรัชห่างออกไปประมาณ 4.7 กิโลเมตร

รวมไปถึงในอนาคตทำเลบริเวณนี้จะรายล้อมไปด้วยเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่มากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เช่น รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล(แคราย-มีนบุรี), รถไฟฟ้าสายสีเทา ซึ่งจะเป็นสายรถไฟฟ้าที่สามารถเชื่อมไปยังรถไฟฟ้าสายสีอื่นๆอย่าง สายสีเขียว สายสีน้ำเงิน สายสีชมพู และสายสีส้ม ซึ่งสะท้อนถึงการเป็นทำเลที่มีศักยภาพในด้านการเดินทางมากที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

2. Full Facilities: พื้นที่ส่วนกลางจัดเต็ม กับพื้นที่ Clubhouse 2 แห่ง

ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางในโครงการ The Honor โยธินพัฒนา ก็ใส่จัดเต็มมาให้กับ Clubhouse ขนาดใหญ่ถึง 2 แห่ง โดยมีพื้นที่รวมกว่า 2,000 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าให้มาเยอะกว่าโครงการบ้านเดี่ยวอื่นๆในระดับเดียวกัน โดยพื้นที่ Clubhouse ทั้ง 2 แห่งมีการออกแบบสเปซ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่แตกต่างเพื่อตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของทุกเจเนอเรชั่นในครอบครัว

โดย Clubhouse แห่งแรกจะมีชื่อเรียกว่า The Social Club เป็นพื้นที่ที่เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับการพบปะสังสรรค์กับแขกคนสำคัญภายนอก โดยจะตั้งอยู่หน้าโครงการแยกออกมาจากส่วนพื้นที่พักอาศัยโดยเฉพาะ เป็นการออกแบบเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยมากที่สุด

โดยไฮไลท์ของพื้นที่ The Social Club คือพื้นที่ห้อง Gentle Club ที่จะประกอบไปด้วยพื้นที่ห้อง Wine & Cigar, พื้นที่สำหรับ Fine Dining Space และห้อง Tea Room & Car Spa

ในส่วน Clubhouse แห่งที่ 2 สำหรับลูกบ้านโดยเฉพาะจะมีชื่อว่า The Residential Club

โดยพื้นที่ The Residential Club มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้ครบครัน ตั้งแต่ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ระบบเกลือ ขนาด 26.5 x 5.5 m (Retreat Swimming Pool), พื้นที่ Private Chef’s Table Space, High Tea Pavilion, Onsen, Spa & Salon, มีห้องเด็กเล็ก (Kids Room) กับพื้นที่ติวหนังสือ

รวมถึงมีพื้นที่สวนป่า Oasis ใจกลางโครงการที่มีพื้นที่กว่า 1 ไร่ ให้คุณสามารถมาผ่อนคลายในยามเช้า หรือออกกำลังกายวิ่ง Jogging ในตอนเย็น เป็นพื้นที่ที่ช่วยตอบรับการอยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี

3. Functional Design: การออกแบบ Timeless Design
ในส่วนตัวบ้านของโครงการ The Honor โยธินพัฒนา จะเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น Timeless Design มีจำนวนบ้านทั้งหมด 106 ยูนิต บนเนื้อที่ดินโครงการประมาณ 38 ไร่ ซึ่งก็ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวพอสมควรด้วยจำนวนเพื่อนบ้านที่ไม่เยอะมาก โดยจะมีบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 รูปแบบ บนที่ดินเริ่มต้นตั้งแต่ 60–175 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอย 455-710 ตารางเมตร

แบบแรก Privileged Portrait

เป็นบ้านไซส์เล็กสุดมีที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา กับพื้นที่ใช้สอย 455 ตร.ม. ส่วนฟังก์ชันการใช้งานแบ่งออกมาเป็น 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน และ 3 ที่จอดรถ กับราคาเริ่มต้น 40 ล้านบาท

โดยการใช้งานในพื้นที่ชั้น 1 จะมีพื้นที่หลักเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นกับพื้นที่โซนรับประทานอาหารและครัว ส่วนชั้น 2 และชั้น 3 จะเป็นพื้นที่ห้องนอน โดย Master Bedroom จะอยู่ในบริเวณชั้น 2 ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งชั้น

แบบสอง Privileged Pride

บ้านไซส์กลาง ขนาดที่ดินเริ่มต้น 75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 564 ตร.ม. ส่วนฟังก์ชันการใช้งานแบ่งออกมาเป็น 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถเพิ่มขึ้นเป็น 4 ที่จอดรถ กับราคาเริ่มต้น 50 ล้านบาท

โดยการใช้งานในพื้นที่ชั้น 1 มีการจัดวาง Layout เหมือนกับบ้านแบบแรก (Portrait) แต่จะมีพื้นที่ขนาดใหญ่ขึ้นและมีพื้นที่ห้องนอนในชั้น 1 เพิ่มเติมขึ้นมา ได้พื้นที่ Void เปิดโล่งแบบ Double Volume ตรงส่วน Living Area เชื่อมต่อกับ Pool Terrace ในส่วนชั้น 2 และชั้น 3 เป็นพื้นที่ห้องนอนทั้งหมด โดยจะแบ่งเป็นชั้นละ 2 ห้องนอน โดยชั้น 2 ก็จะมีส่วนพื้นที่เอนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่สามารถจัดให้เป็นห้องออกกำลังกายเพิ่มเติมขึ้นมาได้ด้วย

แบบสาม Privileged Legend

บ้านไซส์ใหญ่สุดมีพื้นที่ดินเริ่มต้น 90 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 710 ตร.ม. ส่วนฟังก์ชันการใช้งานแบ่งออกมาเป็น 6 ห้องนอน 8 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถสามารถจอดเพิ่มขึ้นได้สูงสุด 5-6 คัน กับราคาเริ่มต้น 60 ล้านบาท

โดยพื้นที่ชั้น 1 มีฟังก์ชันการใช้งานทุกอย่างจะเหมือนกับบ้านแบบ Pride แต่จะมีการจัด Layout ที่ต่างกันออกไป โดยไฮไลท์สำคัญของชั้นล่างคือห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวที่มองเห็นวิวสระว่ายน้ำจากมุมห้อง มีการแยกส่วน Maid Quarter ออกมาจากส่วนหลักของบ้านอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับโถง Living แบบ Double Volume ที่เปิดรับมุมมองจากสระว่ายน้ำได้ดีที่สุดในบรรดาบ้านทุกแบบ สำหรับในส่วนของชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ห้องนอนทั้งหมด 2 ห้องและมีห้องออกกำลังกาย ส่วนชั้นบนสุด ชั้นที่ 3 จะมีห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง

โดยความสูงพื้นถึงฝ้าของบ้านทุกหลังในบริเวณชั้น 1 จะอยู่ที่ 3.20 เมตร ชั้น 2-3 จะสูงอยู่ที่ 3.00 เมตร ส่วนโซน Double Volume สูงประมาณ 7 เมตร ในส่วนพื้นวัสดุชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้อง ส่วนชั้น 2-3 ทางโครงการก็จะปูเป็นพื้นไม้สักมาให้ นอกจากนี้บ้านทุกหลังยังมาพร้อมกับสระว่ายน้ำและลิฟท์ส่วนตัว ในส่วนของระบบรักษาความปลอดภัยภายในตัวบ้านที่จะมีพวก VDO Door Phone, Digital Door Lock และกล้อง CCTV ใส่เข้ามาให้

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยภายในโครงการ ก็จะมีทั้งประตูเข้า-ออก แบบ Double Gate พร้อม รปภ. มี CCTV ส่วนกลาง และมีรั้วรอบโครงการทึบสูง

4. Concierge Services & Butler Services

องค์ประกอบนี้เป็นอีกไฮไลท์สำคัญของโครงการ เพราะทางโครงการมาพร้อมกับบริการ Concierge Services ที่จะเข้ามาดูแลลูกบ้านในทุกๆหลัง ซึ่งโดยปกติการบริการในรูปแบบนี้ก็มักจะอยู่ในโครงการคอนโดในรูปแบบ Branded Residences หรือ Serviced Residence เท่านั้น โดยโครงการ The Honor โยธินพัฒนา นับว่าเป็นโครงการแรกๆในระดับราคาประมาณนี้ที่มาพร้อม Concierge Services บริการที่มอบ Living Fulfillment ให้กับคุณเสมือนมีเลขาส่วนตัวดูแลในทุกๆวัน อาทิเช่น การจองทำสปาที่บ้าน, การจัด Private Jet, Yacht, Limousine, การจัดงานวันเกิด, การสั่งดอกไม้ จนไปมีที่ปรึกษาในด้าน Cigar & wine ก็มีบริการเตรียมรองรับไว้ทั้งหมด ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเลยว่าหากจะต้องจัดกิจกรรม หรือจัดงานวันเกิดต่างๆที่บ้าน จะต้องเตรียมรับมือกับปัญหาอะไรบ้าง เพราะ Concierge Services จะช่วยให้คุณอุ่นใจ หมดห่วง ในทุกสถานการณ์

จากองค์ประกอบสำคัญของโครงการทั้ง 4 อย่าง เช่นเดียวกับการออกแบบที่โดดเด่นภายใต้คอนเซ็ปต์ Luxury Lifestyle Residence with Timeless Design ก็ต้องบอกเลยว่ากลุ่มลูกค้าที่เหมาะสมกับโครงการนี้ก็น่าจะมีทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ Young Successor รุ่มรวยรสนิยม มีไลฟ์สไตล์ที่ชัดเจนไม่เหมือนใคร ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วและต้องการหาบ้านที่เป็นรางวัลสำหรับชีวิต เป็นความภูมิใจที่สามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้ หรืออาจจะเป็นกลุ่ม Single Millennial (Old money) ที่ต้องการขยับขยายแยกออกมาอยู่เอง เพราะต้องการความเป็นอิสระ โดยที่ยังคงต้องการอยู่ในทำเลที่เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมไปถึงกลุ่ม Rich Parent ที่วางแผนซื้อบ้านเพื่อให้ลูกๆได้เติบโตบนคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต ซึ่งโครงการ The Honor โยธินพัฒนา ก็สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้ทั้งหมด และนับว่าเป็นตัวเลือกที่มีระดับราคาที่เหมาะสมมากที่สุดในบรรดาทุกโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury และ Ultra luxury บนทำเลโยธินพัฒนา กับราคาขาย 40 – 60 ลบ.* เพราะการที่จะหาโครงการบ้านเดี่ยวเปิดใหม่ในรูปแบบเดียวกัน บนทำเลนี้ ส่วนใหญ่ก็จะมีราคาสูงที่เกินกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป โดยที่ไม่ได้มีพื้นที่ส่วนกลางที่หลากหลาย และตื่นตาตื่นใจมากเท่ากับที่นี่

สำหรับผู้สนใจโครงการสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ The Honor Yothinpattana | House – AssetWise