แสนสิริ หนุนภาคอสังหาฯ เซฟโลก กู้วิกฤต Climate Change อวดโฉม “นวัตกรรมบ้านสีเขียว” ปักหมุดเศรษฐสิริ 11 โครงการ 1,500 ยูนิต ต้นแบบองค์กรสีเขียวตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำเต็มรูปแบบ
– แสนสิริ รายแรกอสังหาฯ ไทย ก้าวไปอีกขั้นในการพัฒนาที่อยู่อาศัย ร่วมเซฟโลก เริ่มตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง จนถึงส่งมอบ
– เปิดตัว Green Living Designed Home นวัตกรรมบ้านสีเขียว ประเดิมที่เศรษฐสิริ 11 โครงการใหม่ 1,500 ยูนิต เฉลี่ย 1 ปี ลดการใช้พลังงานได้สูงสุด 18% ต่อ 1 ครัวเรือน
– รุดหน้าพันธกิจ Net-Zero เต็มกำลัง พร้อมขยายไปสู่โครงการแนวสูงต้นปีหน้า
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริให้ความสำคัญกับการดำเนินธรุกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืน และได้ประกาศพันธกิจร่วมกู้วิกฤต Climate Change อาสาเป็นผู้นำในการสร้างจุดเปลี่ยนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยเป็นอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่ตั้งเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593) พร้อมสร้าง Smart Green-Energy Living Ecosystem การอยู่อาศัยแห่งอนาคตเต็มรูปแบบที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่สิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทยในอนาคต สู่การพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
“แสนสิริตระหนักถึงการร่วมรับผิดชอบต่อสังคมในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและพลังงาน การลดการปล่อยของเสีย เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภายใต้พันธกิจแสนสิริ Net-Zero นี้ อีกหนึ่งแผนงานที่สำคัญคือการมุ่งมั่นที่จะส่งมอบทุกโครงการใหม่ของแสนสิริด้วยนวัตกรรมบ้านสีเขียว (Green Living Designed Home) โดยเริ่มตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง จนถึงการส่งมอบบ้านพลังงานสะอาด และเป็นที่น่ายินดีว่า ในปีนี้ เราพร้อมส่งมอบบ้านสีเขียวให้กับลูกบ้านในโครงการเศรษฐสิริ 11 โครงการใหม่ ราว 1,500 ยูนิต เพื่อให้ลูกบ้านได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างสมบูรณ์ และที่สำคัญยังช่วยประหยัดพลังงาน โดยหนึ่งครัวเรือน สามารถลดการใช้พลังงานได้สูงสุดถึง 18% ต่อปี และได้วางเป้าขยายผลสู่คอนโดมิเนียมแบรนด์เดอะเบสทุกโครงการใหม่ในปี 2567 ที่ส่วนกลางของโครงการจะมีการนำแนวทาง Green Living Designed Home ไปต่อยอดในการดำเนินงาน และตั้งเป้าสู่การลดใช้พลังงานในช่วงแรกให้ได้ราว 6%”
แนวคิดนวัตกรรมบ้านสีเขียว (Green Living Designed Home) นี้ ประกอบไปด้วยกลไกในการทำงาน 3 Green Concept เริ่มต้นจาก 1. Green Procurement คือ การเลือกใช้วัสดุ Green Product และเลือกคู่ค้าที่ใส่ใจกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน มีแผนลดการใช้พลังงานและนํ้า ทั้งในการผลิตและการใช้งานระยะยาว ใช้วัสดุในการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งลดการใช้ทรัพยากรและนำกลับมาใช้ใหม่ พร้อมวางเป้าหมายจัดซื้อวัสดุคาร์บอนตํ่า (Low-Carbon) ที่ได้รับการรับรองจากสถาบันที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ แสนสิริได้เลือกใช้วัสดุ Green Product ในการสร้างบ้านไปแล้วกว่า 53% ตลอดจนผลักดันและสนับสนุนให้พาร์ตเนอร์กว่า 200 ราย ผลิตวัสดุที่รักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น ถัดมาคือ 2. Green Construction ที่มีขั้นตอนก่อสร้างเป็นมิตรต่อโลก อาทิ นำวัสดุก่อสร้างชนิดใหม่อย่างไฟเบอร์เฟนส์ (Fiber Fence) ซึ่งมีกระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยคาร์บอน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีน้ำหนักเบากว่าเหล็กมากถึง 3 เท่า ขนส่งและตัดได้ง่าย ไม่มีประกายไฟ มีความแข็งแรงทนทานมากกว่า รวมถึงการนำนวัตกรรม Fully Precast ที่เป็นตัวเลือกการสร้างบ้านยุคใหม่ด้วยผนังคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูปจากโรงงานผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปของแสนสิริ มาใช้แทนการก่ออิฐมวลเบาฉาบปูนแบบเดิมๆ ทำให้ลดระยะเวลาการก่อสร้างลง 3 เดือน ลดขยะจากการก่อสร้างได้ถึง 15% ช่วยลดฝุ่นและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในไซต์ก่อสร้างลงเป็นจำนวนมาก และ 3. Green Architecture & Design หรือนวัตกรรมการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน สร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย เช่น Cool Living Designed Home นวัตกรรมบ้านเย็นช่วยประหยัดพลังงาน, Zero Waste Design การออกแบบที่คำนึงถึงการลดปริมาณขยะเหลือทิ้งให้มากที่สุด, Universal Design การออกแบบเพื่อให้ทุกคนที่อยู่อาศัยได้ใช้ประโยชน์ รวมทั้งการผสมผสานแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ให้มีอากาศบริสุทธ์ สะอาดปราศจากเชื้อโรค พร้อมส่งมอบบ้านที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และรองรับการอยู่อาศัยของลูกบ้านอย่างดีที่สุด