สถานการณ์ตลาดบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ในกรุงเทพฯ
ประเด็นไฮไลท์สำคัญ
– ในครึ่งปีแรกของปี 2023 ตลาดบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปในกรุงเทพฯยังมีภาพรวมที่ดี
– อุปทานสำหรับบ้านราคาสูงยังคงมีความต้องการที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราการดูดซับที่รวดเร็วจากกลุ่มผู้ซื้อที่มีศักยภาพ
– อัตราการเติบโตในการเปิดขายหน่วยบ้านราคาสูงในครึ่งปีแรกลดลงเล็กน้อย
– บ้านราคา 10–20 ล้านบาทยังคงมีความต้องการสูงสุด โดยเป็นผู้ซื้อส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่มีรายได้สูงในช่วงอายุ 30–35 ปี
– แนวโน้มในครึ่งปีหลังของ 2023 คาดว่าจะมีการเปิดตัวโครงการบ้านในราคา 10–20 ล้านบาท
– มีโอกาสในการพัฒนาบ้านราคา 80–100 ล้านบาทในพื้นที่นี้เป็นทำเลทองในอนาคต
ภาพรวมตลาด
ในครึ่งปีแรกตลาดบ้านที่มีราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปยังคงมีทิศทางที่ดี การเติบโตในแง่ของอุปทานยังสามารถพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง เพราะมีความต้องการรองรับในตลาดซึ่งมีอัตราการดูดซับที่ค่อนข้างเร็ว แผนการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการยังมองหาที่ดินเพื่อพัฒนาบ้านในระดับราคาสูงในสภาพแวดล้อมเหมาะสมและคาดว่าจะมีกลุ่มกำลังซื้อที่เพียงพอ อีกทั้งกลุ่มผู้ซื้อบ้านระดับนี้จะไม่มีปัญหาในเรื่องอัตราดอกเบี้ยหรือหนี้สินแต่อย่างใด ในขณะที่บ้านที่มีราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท จะเป็นกลุ่มที่มีหนี้ครัวเรือนสูงและยังพบปัญหาในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้มีกำลังซื้อลดลง ผู้ประกอบการจึงต้องเข้าถึงกลุ่มที่มีศักยภาพในการซื้อสูง โดยในครึ่งปีแรกในบางโครงการสามารถทำยอดขายได้ดีในระยะเวลาอันรวดเร็วเนื่องจากทำเลและรูปแบบของบ้านที่พัฒนาใหม่นั้นสอดคล้องและตรงความต้องการ
อุปทานตลาดบ้านระดับราคา 10 ล้านขึ้นไปยังมีทิศทางเป็นบวก
อุปทานตลาดบ้านที่มีระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ในครึ่งปีแรกมีหน่วยเปิดขายใหม่ลดลงจากครึ่งปีหลังอยู่ที่ร้อยละ 29.8 ซึ่งมีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่อยู่ที่ 2,672 หน่วย และในครึ่งปีแรก 2566 พบว่าจำนวนอุปทานตลาดบ้านที่มีระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป มีจำนวนทั้งสิ้น 27,274 หน่วย
ที่มา: ฝ่ายวิจัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
อุปทานตลาดบ้านฯ เปิดใหม่จำแนกตามระดับราคา โดยระดับราคา 10 – 20 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่ร้อยละ 53 รองลงมายังคงเป็นบ้านที่มีระดับราคา 21 – 30 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นอัตราที่ร้อยละ 20 และบ้านที่มีระดับราคามากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป คิดเป็นอัตราที่ร้อยละ 12 ในส่วนบ้านระดับราคา 31 – 40 ล้านบาทและ41 – 50 ล้านบาท คิดเป็นอัตราที่ร้อยละ 11 และ 4 ตามลำดับ
ที่มา: ฝ่ายวิจัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
อุปสงค์ในตลาด
ณ ครึ่งปีแรก 2566 ตลาดบ้านระดับราคา 10 ล้านขึ้นไป มีหน่วยขายสะสมทั้งสิ้น 21,597 หน่วย จากอุปทานจำนวน 27,274 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายที่ร้อยละ 79.2 ซึ่งอัตราการขายมีระดับเทียบเท่าจากครึ่งปีหลัง และถึงแม้ว่าจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ ณ ครึ่งปีแรก อยู่ที่ 2,121 หน่วย ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากครึ่งปีหลังที่ร้อยละ 3.4 การที่จำนวนหน่วยขายได้ใหม่ลดลงเล็กน้อยนั้นยังไม่มีนัยสำคัญที่ส่งผลลบต่อภาพรวมตลาดในปัจจุบัน
ที่มา: ฝ่ายวิจัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
ตลาดบ้านที่มีระดับราคา 10 – 20 ล้านบาท ยังมีความต้องการในตลาดมากที่สุด โดยจำนวนหน่วยที่ขายได้ 1,272 หน่วย คิดเป็นร้อยละ 60 ของหน่วยขายได้ทั้งหมด กลุ่มผู้ซื้อเป็นคนไทย 100% โดยกลุ่มผู้ซื้อบ้านระดับราคา 10 -20 ล้านบาท จะเป็นกลุ่มที่อยู่ในช่วงอายุ 30 – 35 ปี ที่จะมีทั้งกลุ่มที่ทำธุรกิจส่วนตัวหรือแม้แต่เป็นกลุ่มที่ทำงานบริษัทเอกชนมาได้สักระยะมีการเติบโตในสายงานที่รวดเร็วและมีรายได้มากขึ้นจึงเริ่มต้นซื้อเป็นบ้านหลังแรก โดยการแยกจากครอบครัวใหญ่เพื่อสร้างครอบครัวมาใช้ชีวิตคู่ ซึ่งต่างก็มองหาบ้านที่มีสังคมและสภาพแวดล้อมการเป็นอยู่ที่ดีให้ตัวเองเพราะมองว่ามีศักยภาพและความสามารถในการผ่อนได้