ตลาดคอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ไพร์มและไพร์ม ในกรุงเทพฯ ณ กลางปี 2566
The Summary Highlight of 1H 2023
– ครึ่งปีแรก 2566 มีอุปทานคอนมิเนียมระดับซุปเปอร์ไพร์มเปิดมาเพียง 1 โครงการ เท่านั้น และมีจำนวนหน่วยอยู่ที่ 180 หน่วย ในขณะที่คอนโดมิเนียมระดับไพร์ม ไม่มีอุปทานเกิดขึ้นใหม่
– อัตราการขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ไพร์มและไพร์มอยู่ที่ร้อยละ 80
– การกลับมาของกลุ่มชาวจีนส่งผลให้ตลาดมีความคึกคักและปัจจัยเพิ่มเติมที่ใช้ในการเลือกโครงการคืออยู่ในทำเลใกล้โรงเรียนนานาชาติ
ภาพรวมตลาด (Market Overview)
การขยายตัวของตลาดคอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ไพร์มและไพร์มยังคงเติบโตอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าที่ดินในการพัฒนาจะน้อยลง แต่ความต้องการในตลาดกลุ่มนี้ยังมีระดับสูงในกลุ่มผู้ซื้อชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยทำเลยังเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้กลุ่มผู้ซื้อตัดสินใจลงทุนคอนโดมิเนียมในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้กลุ่มผู้ซื้อจึงยังคงนิยมในการซื้อคอนโดมิเนียมเหล่านี้ไว้เพื่อขายต่อในอนาคตเพราะเชื่อว่ายังสามารถทำราคาได้ดี แม้จะเป็นคอนโดมิเนียมมือสองเนื่องจากศักยภาพของที่ดินในทำเล Prime area ที่ยังคงได้รับความนิยมตลอดเวลา ในขณะที่คอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติในย่าน CBD เริ่มมีบทบาทมากขึ้นและเป็นกลุ่มที่กลุ่มชาวต่างชาติ (โดยเฉพาะชาวจีน) ให้ความสนใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
อุปทาน (Supply)
อุปทานคอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ไพร์ม ณ กลางปี 2566 มีอุปทานทั้งสิ้น 5,194 หน่วย โดยในช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือน มิถุนายนที่ผ่านมา พบว่ามีอุปทานคอนโดมิเนียมระดับนี้เปิดขายใหม่อยู่ที่ 180 หน่วย จำนวน 1 โครงการ โดยคอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ไพร์มส่วนใหญ่ยังคงมีสถานที่ตั้งอยู่บริเวณสุขุมวิท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 46 รองลงมาได้แก่บริเวณลุมพินี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22 ในส่วนบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาและบริเวณสาทร/สีลม คิดเป็นสัดส่วนที่เท่ากันคือร้อยละ 16
อุปทานคอนโดมิเนียมระดับไพร์ม ณ กลางปี 2566 มีอุปทานทั้งสิ้น 5,271 หน่วย และยังไม่มีอุปทานเปิดในในช่วงครึ่งปีแรกนี้และส่วนใหญ่มีสถานที่ตั้งอยู่บริเวณสุขุมวิท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 39 รองลงมาได้แก่บริเวณสาทร/สีลม และลุมพินี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30 และ 24 ตามลำดับ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีคอนโดมิเนียมระดับไพร์มเพียงร้อยละ 7