ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพกลับมาฟื้นตัว โดยอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามามีบทบาทสำคัญและมีความต้องการที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น
นาย ปัญญา เจนกิจวัฒนาเลิศ กรรมการบริหารและหัวหน้าฝ่ายพื้นที่สำนักงาน กล่าวว่า อุปสงค์ของพื้นที่สำนักงานในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหนุนจากผู้เช่าในกลุ่มอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยว เทคโนโลยี และสินค้าอุปโภคบริโภค นอกจากนี้เรายังสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้เช่ารายย่อยที่เปลี่ยนจากการเช่าโฮมออฟฟิศมาเป็นอาคารสำนักงาน เนื่องจากมีราคาค่าเช่าที่น่าดึงดูด การเดินทางที่สะดวกกว่า และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายรวมถึงพื้นที่ค้าปลีก
เศรษฐกิจภาพรวม
เศรษฐกิจไทยปี 2566 คาดว่าจะขยายตัว 3.8% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขยายตัว 2.6%
กระทรวงการคลังคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศไทย (GDP) ในปี 2566 จะขยายตัวที่ 3.8% ต่อปี โดยได้รับแรงหนุนหลักจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะสูงถึง 27.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นเกือบ 150% จากปีที่แล้ว อัตราการว่างงานภายในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่องและรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนเพิ่มขึ้น การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัวที่ 3.5% ต่อปี ความเชื่อมั่นทางธุรกิจเริ่มกลับมาและอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงจะทำให้การลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 3.6% ต่อปี อย่างไรก็ตามสืบเนื่องจากผมพวงภาวะเศรษฐกิจโลกของประเทศคู่ค้าหลัก ได้ส่งผลกระทบด้านลบต่อภาคอุตสาหกรรมต่างประเทศ ทำให้มูลค่าการส่งออกในปีนี้คาดว่าจะชะลอตัว โดยขยายตัวน้อยกว่า 1% ต่อปี
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาสที่ 1 ลดลงเป็น 2.8% ซึ่งยังอยู่ในกรอบเป้าหมาย 1-3% ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด สาเหตุหลักเกิดจากราคาพลังงานที่อ่อนตัวลงและฐานราคาที่สูงขึ้นจากปีก่อน ถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลง แต่โดยรวมยังคงสูง อีกทั้งการบริโภคภายในประเทศที่เข้มแข็งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจสร้างแรงกดดันต่อราคาให้สูงขึ้นไปอีก ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงคงนโยบายตรึงราคาและทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 1.75% ตามสภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังออกนโยบายเพิ่มเติม เช่น การขยายวงเงินกู้ของ SME เนื่องจากการฟื้นตัวของแต่ละภาคธุรกิจไม่เท่ากัน โดยธุรกิจขนาดเล็กกำลังเผชิญกับภาระหนี้ที่สูงขึ้น
ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (BSI) ในไตรมาสนี้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 52.9 จาก 48.4 ในไตรมาสก่อน เนื่องจากบริษัทมีประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีขึ้นและต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆในไตรมาสที่ 1 อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสอบถามยังมีความกังวลเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลัก อุปสงค์ทั่วโลกที่ลดลงอาจทำให้การผลิตและส่งออกใหม่ลดลง ส่งผลให้เกิดความคาดหวังเชิงบวกในระดับที่น้อยลงในช่วงสามเดือนข้างหน้า
อุปทาน
อุปทานรวมทั้งหมดของพื้นที่สำนักงานในกรุงเทพไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 86,000 ตร.ม. หรือ 1.7% จากไตรมาสที่แล้ว โดยมีอาคารใหม่ 2 อาคารที่สร้างแล้วเสร็จ คืออาคารวัน ซิตี้ เซ็นเตอร์ (One City Centre) บนถนนเพลินจิต ตรงข้ามเซ็นทรัลเอ็มบาสซี และอาคารเดอะไรซ์ (The Rice) ตรงหัวมุมแยกสะพานควาย นอกจากนี้ยังมีอุปทานใหม่จากโครงการซัมเมอร์ ลาซาล (Summer Lasalle) ซึ่งมีการพัฒนาพื้นที่ใหม่ภายในโครงการเดิม เนื่องจากอาคารที่สร้างเสร็จส่วนใหญ่เป็นอาคารที่ได้การรับรองว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (อาคารสีเขียว) พื้นที่สำนักงานสีเขียวทั้งหมดที่ให้เช่าอยู่ที่ 1,261,000 ตร.ม. เพิ่มขึ้น 7.3% จากไตรมาสที่แล้ว คิดเป็น 21% ของอุปทานในตลาดทั้งหมด
อุปทานในอนาคต
มึ 2 โครงการใหม่นอกพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจที่เปิดตัวในไตรมาสนี้ ได้แก่ คลาวด์ อีเลฟเว่น (Cloud 11) โดย เอ็มคิวดีซี (MQDC) แถวสุขุมวิทตอนปลาย และโครงการสำนักงานแนวราบและพื้นที่ค้าปลีกโดย พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กรุ๊ป (Property Perfect Group) บนถนนรัชดาภิเษก อุปทานใหม่ในช่วงปลายของแต่ละปีตั้งแต่ 2566-2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 509,000 402,000 และ 302,000 ตร.ม. ตามลำดับ ขนาดของพื้นที่ให้เช่าในอนาคตรวมทั้งหมด 1.62 ล้าน ตร.ม. คิดเป็น 27% ของระดับอุปทานปัจจุบัน ในขณะที่ 67% ของอุปทานใหม่ตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ