สิงห์ เอสเตท ชูรายได้ไตรมาส 1 ที่ 3,335 ล้านบาท เดินหน้าขยายธุรกิจตามเป้า มั่นใจรายได้ปี 2566 สูงกว่า 16,000 ล้านบาท
สิงห์ เอสเตท รายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 ด้วยรายได้รวม 3,335 ล้านบาท พร้อมผลกำไร 71 ล้านบาท หนุนด้วยธุรกิจโรงแรมฟื้นตัวแข็งแกร่ง เตรียมเดินหน้าพัฒนาโครงการบ้านแนวราบให้พร้อมโอน เพื่อรับรู้รายได้ครึ่งปีหลังอย่างเต็มที่ ผลักดันรายได้ทั้งปีเติบโตเกินเป้าหมาย 16,700 ล้านบาท
บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ประกาศกำไรสำหรับไตรมาส 1 ปี 2566 จำนวน 71 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนปกติ 126 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมกางแผนขยายธุรกิจ ปี 2566 เดินหน้าขับเคลื่อนผลประกอบการให้โตต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวโครงการที่พักอาศัย จำนวน 5 โครงการ หนุนด้วยกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ ที่ยังคงเดินหน้าตามแผนงานอย่างต่อเนื่อง
โดยในไตรมาสที่ผ่านมา ธุรกิจโรงแรมขยายตัวได้ดีจากการเปิดประเทศทั่วโลก สร้างรายได้จากการขายและให้บริการจำนวน 2,544 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 51% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลักดันโดยทั้ง 4 กลุ่มพอร์ตโฟลิโอโรงแรมที่บริษัทฯ เข้าลงทุน โดยเฉพาะผลประกอบการของโรงแรมในประเทศไทย ที่มีรายได้มากขึ้นกว่า 3 เท่าตัวจากระดับอัตราการเข้าพักในช่วงไตรมาสแรกของปีเฉลี่ยที่กว่า 88% และสามารถปรับอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยรายวัน (Average Daily Rate: ADR) ได้เพิ่มขึ้นกว่า 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนเกิดโควิด-19 ตอกย้ำความแข็งแกร่งธุรกิจโรงแรมของบริษัทฯ ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่ดี และเป็นจุดมุ่งหมายในการเดินทางที่สำคัญของนักท่องเที่ยว หนุนด้วยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโรงแรมทั้ง 2 แห่งในโครงการ CROSSROADS ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่มทั่วโลก ผลักดันให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยเติบโตกว่า 88% ด้วยระดับรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) ที่สูงที่สุดตั้งแต่เปิดโครงการมา จากผลสำเร็จของกลยุทธ์ในการบริหาร RevPAR ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดร่วมกับการพัฒนาและปรับปรุงห้องพักเพื่อตอบสนองกระแสนิยมในการท่องเที่ยว โดยทิศทางของการท่องเที่ยวในไทยและมัลดีฟส์ คาดว่าจะดีต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ มั่นใจต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมปี 2566 เนื่องจากทั้งสองพอร์ตโฟลิโอมีสัดส่วนรายได้รวมกันสูงถึงประมาณ 50% ของรายได้รวมของบริษัทฯ