“ลุมพินี วิสดอมฯ”แนะผู้ประกอบการอสังหาฯ เลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมช่วยลดโลกร้อน
“ลุมพินี วิสดอมฯ” แนะผู้ประกอบการอสังหาฯ เลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในประเทศไทย เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายตามพันธสัญญา COP26 ที่ประเทศไทยจะลดปริมาณการปล่อย CO2 ลงมา 20-25% ในปี 2573
นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาในเครือ บริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้กรอบแนวคิด BCG Economy หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งเป็น โมเดลการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน โดยการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเศรษฐกิจว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ต้องใช้ทั้งทรัพยากรแรงงาน และ วัสดุจำนวนมาก ในขณะที่กระบวนการก่อสร้างยังก่อให้เกิดมลภาวะทั้งฝุ่น และเสียง
จากงานวิจัยของ Architecture 2030 องค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีพันธกิจในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมก่อสร้างและสร้างแนวทางแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ มาตั้งแต่ปี 2545 ระบุว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างผลิตก๊าซเรือนกระจกหรือ CO2 ในสัดส่วนกว่า 40% ในปี 2565 โดยแบ่งเป็น 27% มาจากกระบวนการบริหารจัดการอาคาร(Building Operations) 6% มาจากกระบวนการก่อสร้าง(Building Construction Industry) และ 7% มาจากกระบวนการอื่นๆ(Others Construction Industry) ซึ่งลดลงจากปี 2564 ที่มีสัดส่วนการปล่อยก๊าซ CO2 ในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ 47%
นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า จากการที่อุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเกือบครึ่งของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลก โดยเฉพาะอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการบริหารจัดการอาคาร จึงเป็นบทบาทและหน้าที่ที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ฯ จะต้องปรับแนวทางในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้ลดการสร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องของการลดฝุ่น เสียง และขยะจากกระบวนการก่อสร้างไปจนถึง การลดปริมาณการปล่อย CO2 ภายใต้กระบวนการพัฒนาโครงการไปจนถึงการบริหารจัดการอาคาร เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการลด CO2 ของประเทศไทยภายใต้พันธสัญญาที่รัฐบาลไทยได้ให้ไว้กับภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 ที่กลาสโกว์ สกอตแลนด์ ประเทศอังกฤษ (The 26 of Conference of the Parties:COP26) ที่มีการประชุมระหว่างวันที่ 1-12 พฤศจิกายน 2564 ว่าประเทศไทยจะลดปริมาณ การปล่อยก๊าซ CO2 ลงมา 20-25% ภายในปี 2573 จากจำนวนก๊าซ CO2 ที่ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับที่ 20 ของโลก หรือประมาณ 0.8% ของทั้งโลก ในปี 2561 ตามการจัดอันดับขององค์กร Climate Watch และในปี 2563 ประเทศไทยมีการปล่อยก๊าซ CO2 224.3 ล้านตัน ลดลง 11.34% จากจำนวนการปล่อยก๊าซ CO2 253 ล้านตันในปี 2562
“การออกแบบและการเลือกวัสดุที่เหมาะสมเป็นแนวทางหนึ่งในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซ CO2 โดยปัจจุบันผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างได้มีการพัฒนาและนำเทคโนโลยี่เข้ามาใช้ในการพัฒนาวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการผลิตไปจนถึงการนำวัสดุไปใช้ ในกระบวนการก่อสร้าง เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อาคารเป็นอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อย CO2 อย่างยั่งยืน” นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว