ASW โชว์ผลงานไตรมาสสองโต 45% ทุบสถิติกวาดรายได้กว่า 1,617 ล้านบาท เติบโต YoY และ QoQ หลังแบรนด์แคมปัสคอนโดฯ “KAVE” กระแสดีเกินต้าน ลุยครึ่งหลังประกาศแผนโตติดสปีดเปิดตัว 3 โครงการใหม่
บมจ.แอสเซทไวส์ หรือ ASW โชว์ผลงานไตรมาส 2/65 ทำผลประกอบการสร้างสถิติใหม่กวาดรายได้รวมกว่า 1,617 ล้านบาท พร้อมกำไรสุทธิ 273 ล้านบาท เติบโต YoY และ QoQ ตอกย้ำศักยภาพการมองตลาดและจับเซ็กเมนต์ลูกค้าได้ถูกต้อง เผยแคมปัสคอนโดฯ แบรนด์ “KAVE” (เคฟ) กระแสตอบรับดี มั่นใจรายได้รวมทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 6,000 ล้านบาท และพรีเซลทะลุ 10,000 ล้านบาท ครึ่งหลังเตรียมเปิดตัว 3 โครงการใหม่
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” เปิดเผยว่า จากแผนกลยุทธ์ภาพรวมของบริษัทเพื่อต่อยอดความสุขของการอยู่อาศัย และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์โครงการต่างๆ รวมถึงศักยภาพของบริษัทในการมองตลาดและพัฒนาโครงการที่จับเซ็กเมนต์ลูกค้าได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 เติบโตทั้งรายได้และกำไร โดยมีรายได้รวมที่ 1,617 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 45% YoY และ 27% QoQ และมีกำไรสุทธิ 273 ล้านบาท เติบโต 6% YoY และ 21% QoQ นอกจากนี้ยังสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้น (GP) อยู่ที่ 44%
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้รวมที่ 2,887 ล้านบาท กำไรสุทธิ 498 ล้านบาท และในด้านยอดขาย (พรีเซล) กวาดยอดไปกว่า 8,000 ล้านบาท หรือ 80% ของเป้าหมายยอดขายในปีนี้ที่ 10,000 ล้านบาท จึงมั่นใจว่าบริษัทจะสามารถทำยอดพรีเซลทั้งปีได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้
ปัจจัยความสำเร็จมาจากการขยายธุรกิจเชิงรุก ด้วยการพัฒนาโครงการให้ครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ และตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ รวมถึงจุดเด่นด้าน Facility ที่บริษัทให้ความใส่ใจ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแก่ผู้อยู่อาศัย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการ ตลอดจนการทำแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ ส่งผลให้โครงการส่วนใหญ่ได้รับการตอบรับที่ดี โดยเฉพาะโครงการแคมปัสคอนโดฯ ใกล้สถานศึกษา ภายใต้แบรนด์ “KAVE” (เคฟ) ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยและกลุ่มที่ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า เนื่องจากให้อัตราผลตอบแทนการลงทุนเฉลี่ย 8-10% ต่อปี เช่น โครงการเคฟทาวน์ โคโลนี ม.กรุงเทพ (Kave Town Colony) ที่มียอดขาย (พรีเซล) 80% หลังจากเปิดตัวโครงการไปเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยจุดเด่นด้านการออกแบบโครงการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่ม Young Generation
นายกรมเชษฐ์ กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลัง คาดว่าความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แนวโน้มราคาเชื้อเพลิงซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการผลิตวัสดุก่อสร้างเริ่มทรงตัวและปรับลดลง เช่นเดียวกับราคาเหล็กที่ปรับตัวลดลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ซึ่งมีผลต่อการปรับตัวลงของวัสดุก่อสร้างหลายๆ ตัวที่ใช้เหล็กเป็นส่วนประกอบ โดยล่าสุดที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันได้มีมติเพิ่มกำลังการผลิตซึ่งจะส่งผลดีต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ประกอบกับภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จนถึงสิ้นปี 2565 สำหรับการซื้อขายอสังหาฯ ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะได้รับการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง