ONE PRICE PHENOMENON ปรากฎการณ์ครั้งสำคัญกับการเป็นเจ้าของคอนโด Luxury Collection 4 โครงการดังจากอนันดา เปิดโหมดชีวิตสู่อีกขั้นของ The New Iconic Living
มีผู้ซื้อคอนโดระดับ Luxury จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่มีความคิดว่าการเลือกซื้อคอนโดให้ตอบโจทย์ความต้องการใช้ชีวิตเหนือระดับในแบบที่ตัวเองต้องการนั้นจำเป็นที่จะต้อง Trade off กับบางสิ่งบางอย่างไป ตัวอย่างเช่น หากเราเลือกมองหาความเป็นส่วนตัวหรือ Privacy เป็นหลัก ก็ต้องแลกกับทำเลที่ตั้งที่ต้องอยู่ห่างจากตัวถนนใหญ่ ไกลรถไฟฟ้า หรือหากเราเลือกจากความหรูหราของพื้นที่ส่วนกลางที่ใหญ่โตกว้างขวางหลากหลายฟังก์ชั่นก็อาจจะต้องเเลกกับงานดีไซน์อาคารที่ไม่ค่อยโฉบเฉี่ยวดึงดูดสายตาคนภายนอกเท่าไหร่นัก แต่หากจะถามว่ามีดีเวลลอปเปอร์รายไหนที่มีจุดยืนในการพัฒนาคอนโดระดับ Luxury ที่เน้นในเรื่องของความโดดเด่นในการใช้ชีวิตตามสไตล์ The New Iconic ที่มีจุดเด่นครบเครื่องถึง 4 มิติ อาทิ Location, Building, Facility และ Living เพื่อยกระดับชีวิตคนเมืองให้ดีขึ้น ก็คงจะเป็นอนันดากับ 4 โครงการดีไซน์สวยดึงดูดทุกสายตาจาก 4 Super Prime Areas อย่าง Ashton Silom, Ashton Asoke – Rama 9, Ideo Q Sukhumvit 36 และ Ideo Q Victory ซึ่งก็ต้องบอกว่าตอนนี้โครงการมีห้องล็อตสุดท้ายให้คุณได้จับจองเป็นเจ้าของน้อยมากๆ แล้ว
โดยล่าสุดทางอนันดาได้ออกแคมเปญ ONE PRICE PHENOMENON ที่ตั้งราคาขายในแบบ One PRICE ราคาเดียว ใครมาก่อนได้ก่อนกับทั้ง 4 โครงการดังกล่าว โดยแบ่งเป็น 2 ระดับราคาสุดกระชากใจ คือ 6.59 ล้านบาท ที่โครงการ Ideo Q Sukhumvit 36 และ Ideo Q Victory และ 8.99 ล้านบาท สำหรับ Ashton Silom และ Ashton Asoke – Rama 9 ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ส.ค. โดยความเก๋ของแคมเปญนี้ก็คือการทำ Design Collaboration กับ PROJECTTStudio เพื่อสร้างสรรค์อัตลักษณ์ของแต่ละโครงการผ่านทาง Key Visual ที่เป็นลายเส้น Illustrator ตามคอนเซปท์ THE LUXURY COLLECTION ด้วยเทคนิค ICONIC BUILDING SILHOUETTE เป็นเสมือนศูนย์กลางของเมืองที่รายล้อมด้วย ELEMENTS ของแต่ละทำเลที่น่าสนใจ และได้สร้างสรรค์ผลงานการออกแบบด้วยแนวคิดใหม่สร้างลักษณะเด่นของแต่ละโครงการให้ประกอบเข้ากับ ICONIC ENVIRONMENTAL SETTING ทำให้แต่ละทำเลมีมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น น่าสนใจ ถ่ายทอดเป็นเรื่องราวอันน่าสนใจของแต่ละทำเล เช่น โครงการ ASHTON SILOM มีกังหัน และสะพานสาทร ที่เป็น ICONIC ของทำเลย่านสีลมเป็นต้น
โดยการดีไซน์ทั้ง 4 โครงการ ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการสร้างสรรค์เมืองและงานศิลปะให้เป็นเรื่องเดียวกัน เหมือนการสร้างที่อยู่อาศัยก็คือการออกแบบ BANGKOK SKYLINE สร้างความสวยงามให้เมือง PERSPECTIVE ใหม่ๆ เพื่อให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ สะท้อนชีวิต เรื่องราว และสร้างความภาคภูมิใจ คุณค่าให้แก่ผู้อยู่อาศัยภายในโครงการจนกลายเป็นมรดกอันล้ำค่าส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
สำหรับทั้ง 4 โครงการที่เข้าร่วมแคมเปญ “ONE PRICE PHENOMENON” ล้วนมีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่น่าครอบครองดังต่อไปนี้
โครงการ Ashton Silom
โครงการตั้งอยู่บนถนนใหญ่สีลม เยื้องกับสีลมซอย 9 ถัดจากโรงแรม Pullman Silom ใกล้สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี เชื่อมต่อกับ Inner CBD ทั้งสาทร และสีลม พร้อมทั้งแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก แหล่งไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล สถานศึกษา และโรงแรมชื่อดังหลายแห่ง
5 เหตุผลที่ทำให้ Ashton Silom คือคอนโด Luxury ที่น่าซื้อที่สุดบนทำเลติดถนนใหญ่สีลม
1. เป็น Luxury Condo แบบ Freehold โครงการใหม่เพียงแค่หนึ่งเดียวบนถนนใหญ่สีลม จุดกึ่งกลางของ 2 CBD สีลม – สาทร ใกล้ BTS ช่องนนทรี
2. แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ด้วยพื้นที่ Alfresco Living Plaza ที่เป็น Common Space ในแบบ Sunken Garden เล่นระดับช่วยสร้างความเป็นส่วนตัว ลดเสียงรบกวนโดยตรงจากถนนใหญ่
3. วิวจากพื้นที่ส่วนกลางชั้นบนสุดที่สามารถเห็นได้ครบทั้งอาคารสูง แม่น้ำ หรือสวนสีเขียวขนาดใหญ่
4. ออกแบบ Floor Plan ที่มอบความเป็นส่วนตัวมากกว่า Luxury Condo แห่งอื่นๆ ด้วยการแบ่งอาคารออกเป็น 2 ฝั่ง [เชื่อมต่อกันที่ชั้นส่วนกลาง 10 และ 34] มีผังทางเดินแบบ Single Loaded Corridor พร้อมช่อง Atrium คั่นกลางระหว่างอาคารทั้งสองฝั่ง จึงทำให้สัดส่วนของผู้อยู่อาศัยในแต่ละฝั่งนั้นค่อนข้างน้อยกว่าคอนโด Super Luxury หลายๆ แห่งที่อยู่ในย่านสีลม – สาทร หรือ Super Prime Area แห่งอื่นๆ
5. ห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 48 – 49 ตรม. เป็นห้องที่มีจุดเด่นในการออกแบบ คือมี sexy bathroom อยู่กลางห้อง เป็นห้องดีไซน์ใหม่ที่เน้นการเชื่อมต่อการใช้งานระหว่างห้องต่างๆ ได้ง่าย ทำให้พื้นที่แต่ละส่วนดูกว้างขึ้นใช้งานได้เต็มฟังก์ชั่น โดยที่ยังเป็นขนาดห้อง 1 นอนที่หายากในย่านสีลม ที่ส่วนใหญ่แล้วมักทำห้องเริ่มต้นที่มีขนาดใหญ่ 60 ตารางเมตรขึ้นไป
โดยห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 49 ตร.ม. ชั้นที่ 12 เป็นห้องที่เข้าร่วมแคมเปญ ONE PRICE PHENOMENON ซึ่งเป็นห้องแบบครัวเปิดทรงยาวและลึกที่สามารถเชื่อมต่อกับส่วนทานข้าว และห้องนั่งเล่นที่สามารถเลือกเปิดพื้นที่ให้เป็น Open Plan เชื่อมต่อกับส่วนห้องนอนได้ โดยโครงการออกแบบห้องให้สามารถเดินเชื่อมต่อถึงกันได้ทั้งหมดแต่ยังคงความเป็นส่วนตัว มีการติดตั้ง Partition ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนที่สามารถเลือกเปิดหรือปิดเพื่อแบ่งโซนพื้นที่ใช้สอยได้ ไฮไลท์ของห้องจะอยู่ที่ห้องน้ำที่เป็นแบบ Sexy Bath พร้อมอ่างจากุซซี่ที่สามารถอาบน้ำพร้อมกับชมวิวด้านนอกไปพร้อมกันได้ และยังได้ระเบียงห้องที่กว้าง พร้อมหน้าต่างเข้ามุมบานใหญ่บริเวณหัวเตียง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ห้อง Corner Unit ที่มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุด
โครงการ Ashton Silom ห้องนอน ราคาพิเศษ 8.99 ล้าน* ห้องใหญ่พร้อมอยู่ดีไซน์สไตล์โรงแรม ทำเลย่าน CBD ใกล้แหล่งธุรกิจและแหล่งออฟฟิศ เดินทางสะดวกห่าง 350 เมตร จากตัวโครงการไปยัง BTS ช่องนนทรี
ลงทะเบียนรับรับข้อเสนอพิเศษก่อนใครได้ที่ ASHTON สีลม https://anan.ly/3Q2U9I9
โครงการ Ashton Asoke – Rama 9
โครงการตั้งอยู่บนหัวมุมถนนพระราม 9 ตัดถนนรัชดา เป็น Golden Corner แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ และเป็นย่าน The New CBD ที่เป็นศูนย์รวมของอาคารสำนักงาน และคอนโดสูงมากมายเรียงรายอัดแน่นเต็มในทุกฝั่งถนน ใกล้ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล และมหาวิทยาลัยชั้นนำ
Ashton Asoke – Rama 9 คอนโดใจกลางทำเล Super Prime Area ของแยกอโศก – พระราม 9
1. Iconic Location โครงการที่ไม่เพียงแต่ตั้งอยู่บน Super Prime Area ของแยกอโศก – พระราม 9 แต่ยังตั้งอยู่บนจุดศูนย์กลางของทำเลอย่างบริเวณหัวมุมสี่แยก ซึ่งทางอนันดามองว่าเป็น Blue Chip Location ซึ่งไม่อาจจะหาที่หัวมุมสี่แยกใหญ่เพื่อพัฒนาคอนโดแบบนี้ได้อีกแล้วในย่าน Inner CBD ทุกแห่งของกรุงเทพฯ
2. Iconic Building กับการออกแบบตึกคู่ภายใต้แนวคิด Alpha & Omega ตัวอาคารถูกออกแบบให้มีเอกลักษณ์การออกแบบด้านสถาปัตยกรรม โดดเด่น ดึงดูดสายตา ไม่เหมือนใคร เสมือนดั่ง Sculpture ของเมือง ที่สร้างความสวยงามให้กับ Skyline ของเมือง และยังสามารถสะท้อนตัวตนและสร้างความภูมิใจให้กับผู้อยู่อาศัยได้อีกด้วย รวมทั้งการออกแบบการจัดวางอาคารแบบเฉียง 45 องศากับตัวถนน ทำให้ภายในห้องพักอาศัยเปิดรับวิวที่ดีที่สุดของแต่ด้านของโครงการ ทำให้ไม่รู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางคอนโดหลายสิบโครงการ หลายพันยูนิต
3. Iconic Facility การออกแบบส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และกระจายอยู่ทั่วโครงการทั้ง 2 อาคาร ให้คุณได้เลือกใช้ได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น สวน The O Plaza ด้านหน้าโครงการ ที่ออกแบบให้เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนหลากหลายมุม Fitness และ Virtual Bike สระว่ายน้ำที่ยื่นออกจากตัวอาคาร 6 เมตร 2 สระ Theatre, Co-living Co-kitchen เป็นต้น
4. Iconic Living ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเมืองได้ครบทุกโหมดการใช้ชีวิต ด้วยมุมมองจากในห้องที่กว้างกว่า การออกแบบให้ทุกห้องเป็นห้องหัวมุม มีเลย์เอาท์เป็นร้อยแบบให้เลือกว่าจะเป็นหัวมุมที่ Living หรือห้องนอน มี Open Atrium พร้อม Atrium Ventilation Corridor ที่มากกว่า Single Loaded Corridor ทั่วไป คือการออกแบบโถงทางเดินระหว่างทางไปห้องพักภายในอาคาร ให้มี Atrium โถงโล่งต่อเนื่องกันทุกๆ 10 ชั้น เพื่อเพิ่มการถ่ายเท ระบายอากาศ และเพิ่มความโปร่งโล่ง สร้างภาวะน่าสบายให้กับอาคาร เพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า เช่นเดียวกับ การเพิ่มฟังก์ชั่นเพื่อรองรับรูปแบบการใช้ชีวิตแบบ New Normal ที่เพิ่มความมั่นใจให้คุณไร้กังวลจาก Covid-19 ด้วยระบบไร้สัมผัสในการเข้าพื้นที่อาคาร และการใช้พื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบให้มีระยะห่าง รวมถึงมาตรการรองรับมาตรฐานด้านสุขอนามัยต่างๆ
5. Iconic Layout นอกจากตัวอาคารจะสวยสะดุดตา และมากไปด้วยความหรูหราของพื้นที่ส่วนกลางแล้ว คุณภาพชีวิตในห้องก็ยังดีกว่าด้วยการออกแบบเลย์เอาท์ที่เหนือกว่า มอบดีเทลในการใช้พื้นที่ที่มากกว่าด้วยจุดเด่นที่ห้องพักทุกห้องเป็นห้องมุมที่มาพร้อม Bay Window ทำให้ได้ Function แบบ 2 Style “SKY LIVING ROOM ” และ “SKY BEDROOM” พร้อมมุมมองเปิดแบบ PANORAMIC VIEW สูงสุด 270 องศา กับห้อง หน้ากว้างสูงสุด 13.5 เมตร ที่เปิดมุมมองสู่ทิวทัศน์เมืองภายนอก ได้มากที่สุด จึงพูดได้ว่าที่นี่คือ The New Iconic Landmark และเป็น Luxury Condo ที่มีความโดดเด่น แตกต่างจากคอนโดรอบข้างและแบรนด์ Ashton อื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด