ถ้าพูดถึงโครงการบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ นอกจากเรื่องของทำเลที่ตั้ง การเดินทางที่สะดวกสบาย การออกแบบ รวมไปถึงความน่าเชื่อถือของผู้พัฒนาโครงการ ที่เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกของผู้อยู่อาศัยแล้วนั้น สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือความคุ้มค่าที่ผู้อยู่อาศัยจะได้รับ เพราะ “บ้าน” ถือเป็นทรัพย์สินที่อยู่กับเราไปอีกนาน อีกทั้งยังสามารถส่งต่อไปยังรุ่นสู่รุ่นได้อีกด้วย

สำหรับโครงการบ้าน อิสสระ บางนา โครงการบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ซึ่งพัฒนาโดย บริษัท ซี.ไอ.เอ็น. เอสเตท จำกัด ในเครือบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งโครงการที่ชู 4 แนวคิด การออกแบบมาผ่านตัวบ้านทั้งเรื่องการออกแบบ การวางฟังก์ชั่นการใช้งาน และการเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน ภายใต้แนวคิด The New Legacy of Freedom สู่การออกแบบบ้าน Super Luxury ที่ให้ความใส่ใจในเรื่องของ Nature (ธรรมชาติ), Modern (ความทันสมัย), Craftsmanship (ความปราณีต) และ Happiness (ความสุข)

Nature บ้านใกล้ชิดธรรมชาติ

โครงการบ้านอิสสระ บางนา มีการออกแบบโครงการโดยใช้ธรรมชาติมาช่วยส่งเสริมการอยู่อาศัย ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ ออกแบบหน้ากว้างถึง 26 เมตร มีการวางทิศของตัวบ้านหันหน้าบ้านไปทางทิศเหนือหรือทิศใต้ทำให้สามารถทำช่องเปิดขนาดใหญ่เพื่อรับลมได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีความพิเศษของพื้นที่ระเบียงที่ล้อมตัวบ้าน เป็นเสมือนช่องลม ให้ลมสามารถพัดเอาความร้อนออกจากตัวบ้านได้ ขณะที่หลังคาของตัวบ้านมีการกันความร้อนถึง 3 ชั้น ชั้นหลังคาที่โดนแดดโดยตรงจะเป็น Solar Slap ที่เป็นวัสดุที่นำมาปูบนหลังคา Slab เพื่อช่วยลดความร้อนที่จะกระทบหลังคาโดยตรง และใต้หลังคา Slab ก็มีการติดตั้งฉนวนกันความร้อนอีก 1 ชั้น ทำให้สามารถป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้มากขึ้น 80% จากหลังคา Slab ธรรมดา ชายคาบ้านยื่น 1.2 เมตร ป้องกันแสงแดดและลดความร้อนได้ถึง 38% มีความเป็นธรรมชาติด้วยการปลูกต้นไม้ล้อมบ้านลดมลพิษและสร้างบรรยากาศ

Modern บ้านที่อยู่ได้ทุกยุคทุกสมัย ใส่ใจเรื่อง Sustainable Technology

หน้าตาของบ้านมีการออกแบบให้ดูร่วมสมัย (Timeless Design) สามารถอยู่อาศัยได้อย่างยาวนาน และมีการออกแบบทุกพื้นที่ภายในบ้านให้ผู้อยู่อาศัยเข้าถึงง่าย อีกทั้งยังมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยส่งเสริมการใช้งาน ได้แก่
– Home Automation ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ภายในบ้านได้ผ่าน Smartphone
– Technology ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของ Sustainable Technology ระบบประหยัดพลังงาน เพื่อความยั่งยืน อย่าง Solar Cell, ระบบแอร์ VRV, ระบบลิฟต์

Craftsmanship บ้านที่คัดสรรมาแต่ของคุณภาพระดับ Luxury

ด้วยการเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน เน้นการใช้งานที่สะดวกสบาย วัสดุแข็งแรง และมีความสวยงามสามารถโชว์ความเป็น Super Luxury ของตัวบ้าน เริ่มจากการก่อสร้างบ้านเป็นโครงสร้าง เสา-คาน คอนกรีตเสริมเหล็กที่เชื่อมทั้งตัวบ้านและพื้นที่จอดรถป้องกันการทรุดตัว ผนังเป็นอิฐมวลเบาสามารถลดอุณหภูมิและระบายความร้อนได้ดี ภายในตัวบ้านจะมีการเลือกใช้เสากลมแบบลอยตัว ทำให้มีพื้นที่ว่างระหว่างกำแพงกับเสา โดยเสากลมสามารถป้องกันอันตรายของเด็กๆ ที่เกิดขึ้นจากเหลี่ยมมุมได้

ด้านวัสดุปูพื้นที่ทางโครงการได้เลือกใช้วัสดุ 3 ชนิด ตามฟังก์ชั่นการใช้งาน ได้แก่

– พื้นที่โรงจอดรถ เลือกใช้คอนกรีตพิมพ์ลาย ที่มีความแข็งแรง สามารถรับน้ำหนักของรถยนต์ได้อย่างดี

– พื้นชั้น 1 ที่เป็นพื้นใช้งานของคนในบ้านทั้งหมด และพื้นที่รับแขก โครงการเลือกใช้เป็นพื้นกระเบื้อง Porcelain ขนาด 80 x 80 ซม. ที่มีการผสมเนื้อหินจริงเข้าไปด้วย ทำให้มีความแข็งแรง รองรับการใช้งานหนักได้ เมื่อเสียหายหรือเป็นรอย สามารถขัดผิวให้เรียบเหมือนเดิมได้

– พื้นชั้น 2 และ 3 เป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนของคนในบ้าน มีการเลือกใช้พื้นไม้ที่ให้บรรยากาศความอบอุ่นและผ่อนคลายในการใช้งาน จึงใช้เป็นพื้น Engineered wood ที่มีความแข็งแรง ปิดผิวด้วยไม้โอ๊คจริง กว้างพิเศษ 8” ให้ผิวสัมผัสเป็นธรรมชาติ

ส่วนการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์อื่นๆ ยังมีจุดที่น่าสนใจ ได้แก่

– Facade ของตัวบ้านที่ต้องการสร้างบรรยากาศของธรรมชาติ ให้เป็นไม้ที่ล้อมตัวบ้าน ที่เลือกใช้เป็น Aluminium Composite ทำสีลายไม้ที่มีความแข็งแรง ทนทานกว่าไม้จริง และสีของวัสดุมีความคงทนดูแลรักษาง่าย ช่วยลดทอนแสงแดดที่สัมผัสตัวบ้าน

– กระจก Full Height สูงจากพื้นจรดเพดาน เพื่อช่วยให้ตัวบ้านสามารถรับแสงธรรมชาติ

– Passenger Lift ที่รองรับการใช้งานได้ 5-6 คน หรือรองรับรถเข็นพร้อมผู้ดูแลที่สามารถโดยสารพร้อมกันได้ในคราวเดียว ตัวลิฟต์เป็นระบบประหยัดพลังงานที่ไม่ต้องมีห้องเครื่องลิฟต์

– บันได โครงสร้างเหล็ก ล้อมด้วยกระจก Tempered Glass มีความแข็งแรงกว่าปกติ 4-5 เท่า

– ติดตั้งระบบ VDO Call ติดต่อกับแขกที่มาเยี่ยมได้ก่อนเข้าบ้าน

Happiness บ้านที่อยู่กันได้หลาย Generation

การเลือกบ้านเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องอยู่นานเป็น 10 ปี 20 ปี ส่งต่อไปยังลูก-หลาน รวมถึงบ้านยังบ่งบอกถึงความเป็นตัวของตัวเอง และทำให้เรามีความสุข ด้วยแบบบ้าน 3 ชั้น รองรับ 3 Generation ออกแบบบ้านหน้ากว้าง ห้องนอนทุกห้องได้วิวที่เป็นมุมหน้าบ้าน ที่ทางโครงการมีการปลูกต้นไม้ไว้ ตัวบ้านมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานของส่วน Service และส่วนการใช้งานของคนในบ้านออกจากกันอย่างชัดเจนทั้ง 2 ส่วนจะมีทางเข้าที่แยกออกจากกัน

– ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ของส่วน Service และพื้นที่ใช้งานของครอบครัวที่ทุกคนสามารถมาใช้งานได้โดยโครงการนี้จะมีการวางห้องนอนไว้ที่ชั้น 1 ด้วย เป็นห้องที่เหมาะสมกับการทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุหรือผู้ที่ต้องการคนดูแลเป็นพิเศษ เพราะว่าอยู่ใกล้กับโซน Service และสามารถเข้าถึงได้ง่าย

– ชั้น 2 เป็นตำแหน่งของ Master Bedroom ห้องนอนที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน โดยในชั้นนี้จะมีอีก 1 ห้องนอนที่เหมาะสมกับเป็นห้องนอนของลูกที่อาจจะยังเป็นเด็กอยู่ เนื่องจากอยู่ใกล้กับห้องนอนพ่อแม่ สามารถดูแลและส่งลูกเข้านอนได้

– ชั้น 3 จะเป็นตำแหน่งของอีก 1 ห้องนอนและพื้นที่ทำงาน โดยชั้นนี้สามารถกั้นการใช้งานเป็นอีก 1 ห้อง Master Bedroom เป็นพื้นที่ทำงานเพิ่มความเป็นส่วนตัว หรือเป็นพื้นที่สำหรับพี่น้อง หรือญาติอยู่ได้อย่างเป็นส่วนตัว

โครงการบ้านอิสสระ บางนา โครงการบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ ประมาณ 24 ไร่ บริเวณถนนบางนา-ตราด กม.8 จำนวนทั้งสิ้นเพียง 44 หลัง บนพื้นที่ดินขนาด 100-238 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 250-800 ตารางเมตร ถ่ายทอดแนวคิดผ่านความเป็น Modern Tropical House ที่ทำให้เกิดความรู้สึกอยู่สบายน่าพักอาศัย มีความเรียบง่ายตามวิถีของคนยุคใหม่ ยึดหลักการของธรรมชาติและประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบอิสระ ภายใต้คอนเซปต์ “ความภูมิใจที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น The New Legacy Of Freedom”

และทั้งหมดนี้ก็คือดีเทล ความหมายคำว่า “ลักชัวรี่” ของโครงการบ้านอิสสระ บางนา ที่คัดสรรมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง