“ออริจิ้น” เปิดแผน “Origin Multiverse” เติบโตแบบพหุจักรวาลสู่อาณาจักรแสนล้าน เล็งนำบริษัทย่อยเข้า IPO สร้าง Multiverse of Happiness
“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” เปิดแผนการเติบโตแบบพหุจักรวาล “Origin Multiverse” กับ 3 ขั้นตอน Expanding-Growing-Connecting ขยายอาณาจักรจากธุรกิจอสังหาฯสู่ 4 กลุ่มจักรวาลธุรกิจควบหลากธุรกิจใหม่ ทั้งโลจิสติกส์-เฮลท์แคร์-ประกันภัย-พลังงาน-การเงิน-ร้านอาหาร-กัญชง จัดทัพมืออาชีพกุมบังเหียนการเติบโตจักรวาลย่อย วางแผนปั้นบริษัทในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่ม นำร่องด้วย พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น-วัน ออริจิ้น-แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น หวังเกิด Multiverse of Happiness เชื่อมทุกจักรวาลสู่อาณาจักร Market Cap รวมแสนล้านภายในปี 2568 สร้างอีโคซิสเท็มที่ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้บริโภคได้แบบครบวงจร ด้านจักรวาลที่อยู่อาศัยปี 2565 ตั้งเป้าทุกด้าน All Time High เปิดตัวโครงการใหม่เฉียด 42,000 ล้าน ตั้งเป้ายอดขายที่ 35,000 ล้าน พร้อมลุยเมกะโปรเจกต์แห่งปี “ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์”
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า หลังจากก่อตั้งบริษัทมาได้กว่า 12 ปี บริษัทได้พัฒนา ปรับตัว และเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับทุกสถานการณ์ ตลอดจนเมกะเทรนด์ระยะยาวของโลก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค จากวันแรกที่มีเพียงธุรกิจพัฒนาคอนโดมิเนียม สู่ปัจจุบันที่มีอาณาจักรธุรกิจใหม่ๆ แตกแขนงออกมาจำนวนมาก ในปี 2565 นี้ จึงเตรียมแผนการดำเนินงานใหม่ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่และครั้งสำคัญภายใต้แนวคิด “ORIGIN MULTIVERSE” หรือแผนการเติบโตแบบพหุจักรวาล
ภายใต้แผน ORIGIN MULTIVERSE ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่ 1.ขยายสู่จักรวาลใหม่ (Expanding to the new universe) จากเดิมที่ออริจิ้นมีจักรวาลหลักคือจักรวาลพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ขยายตัวเองเข้าสู่จักรวาลใหม่ๆ โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มจักรวาล ได้แก่ 1.กลุ่มจักรวาลที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential for Sales) 2.กลุ่มจักรวาลธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) 3.กลุ่มจักรวาลธุรกิจบริการ (Service Business) 4.กลุ่มจักรวาลเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends Business) โดยทั้ง 4 กลุ่มจักรวาล ยังคงประกอบด้วยจักรวาลธุรกิจย่อยๆ ที่ทยอยเกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เช่น โลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ ประกันภัย พลังงาน การเงิน ร้านอาหาร กัญชง และยังอาจมีจักรวาลย่อยๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต
2.แยกกันเติบโตแบบคู่ขนาน (Growing in the separated timeline) ให้ทุกบริษัทย่อยมีเส้นทางการเติบโตแบบคู่ขนานในจักรวาลของตัวเอง ผ่านการจัดทัพผู้บริหารมืออาชีพในธุรกิจนั้นๆ เข้าไปช่วยดูแลทิศทางการเติบโต สร้างจุดแข็งให้แก่ทุกกลุ่มธุรกิจ โดยจะมีบริษัทย่อยที่มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (IPO) เพิ่มเติม นำโดย บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด ผู้นำธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) เช่น โรงแรม ออฟฟิศ ค้าปลีก บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด บริษัทร่วมทุนกับบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม เช่น คลังสินค้า โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม ครบวงจร หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ส่งบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) เข้า IPO ไปแล้วในช่วงปลายปี 2564 คาดว่าภายในปี 2568 ออริจิ้นและทุกบริษัทที่เข้าจดทะเบียนจะกลายเป็นอาณาจักรที่มีมูลค่าตลาด (Market Capitalization) รวมกันมากกว่า 1 แสนล้านบาท
3.เชื่อมโยงอีโคซิสเท็ม (Connecting the ecosystem) เชื่อมโยงทุกจักรวาลที่แยกย้ายกันไปเติบโต กลับมาดูแลผู้บริโภคร่วมกันเป็นอีโคซิสเท็ม สร้าง Multiverse of Happiness ที่ครอบคลุมการดูแลและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร