Monthly Roundup มี.ค. 64
New Product
บริษัท สโคป จำกัด
เปิดตัวโครงการใหม่ ‘SCOPE Promsri’ คอนโดมิเนียม 8 ชั้นมูลค่า 1,350 ล้านบาท บนสุดยอดทำเลใจกลางสุขุมวิท ที่ซอยพร้อมศรี โดยร่วมมือสร้างสรรค์ กับ Ligne Roset แบรนด์ระดับโลก จากฝรั่งเศส เพื่อตกแต่งโครงการโดยเฟอร์นิเจอร์ของ Ligne Roset ทั้งส่วนกลางและในห้องพักที่ผลิตพิเศษจากฝรั่งเศสเพื่อโครงการ SCOPE Promsri เท่านั้น
โครงการ SCOPE Promsri เป็นคอนโดมิเนียมระดับ International Premium ความส่วนตัวสูงมีห้องชุดเพื่อการพาณิชย์ 2 ห้อง และห้องชุดพักอาศัย 148 ห้อง มีขนาดตั้งแต่ 28 ถึง 34.99 ตารางเมตร ห้องทุกห้องที่ SCOPE Promsri มาพร้อมกับวัสดุอุปกรณ์เครื่องใช้คุณภาพ International Premium ตามมาตรฐานของสโคป เช่น ชุดเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวจาก MÍELE แบรนด์ชั้นนำจากเยอรมนี ทั้ง Built-in Combi Oven Microwave เตาไฟฟ้าระบบ Induction และ เครื่องดูดควัน ตู้เย็น Built-in แบรนด์ Liebherr อีกทั้งสุขภัณฑ์ Wall-hung Washlet จาก Kohler รวมถึงกระจก Reflective Glass ติด Acoustic Film และม่าน Motorised Blackout Blind
บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
เปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุด “นิว โนเบิล เซ็นเตอร์ บางนา” ภายใต้แนวคิด ทุกสิ่งที่ใช่…อยู่ใกล้กว่าที่คิด เพียง 10 ก้าวถึงเซ็นทรัล บางนา ชูจุดเด่นของดีไซน์คอนโดห้องหน้ากว้าง บนทำเลที่ดีที่สุดในย่านบางนา เป็นโครงการที่ให้ประสบการณ์การอยู่อาศัยที่เหนือระดับ และมีสไตล์ที่สุดในย่านบางนา เปิดให้จองแล้ววันนี้ พร้อมชุดตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ทุกยูนิต ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.19 ล้านบาท* พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ ฟรี! เงินจอง จำนวนจำกัด ที่สำนักงานขาย เซ็นทรัล บางนา ชั้น 4
โครงการออกแบบตัวอาคารเป็น Modern Style เน้นภาพลักษณ์ที่สะดุดตาเป็นพิเศษ ตรงบริเวณ Facade เล่นมิติของอาคารด้วยสี Sand อันโดดเด่น บนพื้นที่ขนาด 2-0-95 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 7 ชั้น เป็นอาคารพักอาศัยจำนวน 2 อาคาร จำนวน 204 ยูนิต และมีอีก 1 อาคารสำหรับ Facilities โครงการยังจัดคงเต็มในเรื่อง Facilities ตามสไตล์ของแบรนด์ NUE โดยจัดพื้นที่รองรับกิจกรรมสำหรับทุกไลฟ์สไตล์
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
เปิดตัว“BuGaan” (บูก้าน) เอ็กคลูซีฟ เรสซิเดนท์ แบรนด์ใหม่ภายใต้พอร์ตโฟลิโอ Sansiri Luxury Collection เผยโฉมโครงการแรก BuGaan Yothinpattana เอ็กคลูซีฟ เรสซิเดนท์ 3 ชั้น แห่งแรกบนโยธินพัฒนากับทำเลไพร์มที่หาไม่ได้อีกแล้วใจกลางเมือง รวมมูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท ลิมิเต็ดเพียง 14 ครอบครัว ราคา 30-80 ล้านบาท เตรียมเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคมนี้ กับดีไซน์การออกแบบในสไตล์ Modern Luxury Living ความใส่ใจในทุกรายละเอียดผ่านสเปซและฟังก์ชั่น รองรับไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบันที่หลากหลายอย่างเหนือระดับ พร้อมส่วนกลางแบบส่วนตัวสระว่ายน้ำระบบน้ำแร่ Freshwater Swimming Pool และลิฟท์ส่วนตัวภายในบ้าน
BuGaan เป็นมากกว่าการออกแบบฟังก์ชั่นบ้าน ที่ออกแบบมาจากความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง บนแนวคิดที่ว่า “Made For Customer Lifestyle” แสนสิริ ใส่ใจในทุกรายละเอียดลงไปในบ้านแต่ละหลังที่บ่งบอกความเป็นตัวตน ด้วยสไตล์การออกแบบแบบ Modern Luxury Living รวมถึงเน้นออกแบบบ้านให้มีความเป็น private residence สูงสุด ที่มีเพียง 14 ยูนิต โดยรูปแบบบ้านมี 2 ขนาด ได้แก่ XXL (737ตร.ม.) จำนวน 5 ยูนิต และ XL (437ตร.ม.) จำนวน 9 ยูนิต ในราคา 30-80 ล้านบาท มาพร้อมกับ Highlights ที่มีเฉพาะที่ BuGaan เท่านั้น
บริษัท เครือแพทโก้กรุ๊ป จำกัด
เดินหน้าโปรเจค “THER (เธอ) ลาดพร้าว 93” ยกระดับโครงการทาวน์โฮมสุดหรู 3 ชั้นครึ่ง สู่ “สมาร์ททาวน์โฮม” หนึ่งเดียวในถนนลาดพร้าว บนพื้นที่ขนาด 8 ไร่ จำนวน 82 ยูนิต ชูจุดเด่นโครงการอบอุ่น ครบครันด้วยนวัตกรรมแห่งอนาคต ไร้สายไฟลอยฟ้าบดบังทัศนียภาพ จุดชาร์จ EV รถไฟฟ้า เพื่อการสัญจรที่เป็นมิตร และฟังก์ชั่นรองรับการอยู่อาศัย เปิดตัวในราคาเริ่มต้นที่ 9.5 ล้านบาท เปิดให้ชมบ้านตัวอย่างแล้ววันนี้ และพลาดไม่ได้ กับข้อเสนอพิเศษกับส่วนลดสูงสุดถึง 1 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตัวโครงการ มีการแบ่งประเภทบ้านออกเป็น 3 รูปแบบ ให้ตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย คือ GATHER ที่ดินเริ่มต้น 22.1 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 221-223 ตารางเมตร จำนวนห้อง 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ, ALTOGETHER ที่ดินเริ่มต้น 24.2 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 244-246 ตารางเมตร จำนวนห้อง 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ, FURTHER ที่ดินเริ่มต้น 28.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 282-284 ตารางเมตร จำนวนห้อง 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
บริษัท มีสไตล์ แอสเสท จำกัด
เผยโฉมโครงการ mixed use สุดเทรนด์ ‘มีสไตล์ มิวเซียม’ ที่รวมของสะสมอันทรงคุณค่านานหลายสิบปีของผู้ก่อตั้ง ‘สมบัติ แสงรัฐกาญจนสิน’ มาถ่ายทอดอย่างพิถีพิถันสู่ประสบการณ์ใหม่ของผู้ที่ชอบแนวการออกแบบที่แตกต่างมีสีสันไม่ซ้ำใคร รวมโรงแรม อพาร์ทเม้นท์ สถานที่จัดเลี้ยง ห้องอาหารและบาร์ พร้อมพื้นที่สันทนาการไว้ในที่เดียว ตอบไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบันทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ
‘มีสไตล์ มิวเซียม’ ย่านรัชดา-ห้วยขวาง มูลค่า 800 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของทำเลกรุงเทพฯ ชั้นกลางที่ได้รับแรงหนุนจากการเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า 2 จุด ประกอบด้วย แยกรัชดา-ลาดพร้าว จะเป็น Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีรัชดา และรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน สถานีลาดพร้าว และแยกรัชดา-ศูนย์วัฒนธรรม มีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่จะมาเชื่อมกับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินที่สถานีศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการเดินทางของคนกรุงเทพฯ อย่างมาก จะมีการนำผู้ที่อาศัยในพื้นที่อื่นๆ เข้ามาในย่านรัชดาจำนวนมาก พร้อมจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว
Real Estate Hi-Light
บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
ผลการดำเนินงานประจำปี 2563 (ม.ค.- ธ.ค. 63) ของบริษัทมีรายได้รวมทุกประเภทธุรกิจทั้งสิ้น 7,443.81 ล้านบาท เติบโตขึ้น 22.36% จากช่วงเดียวกันในปี 2562 ที่ทำรายได้อยู่ที่ 6,083.42 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก เนื่องจากบริษัททยอยส่งมอบโครงการที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทยังสามารถรักษายอดขายและสร้างกำไรสุทธิรวม 199.34 ล้านบาท แม้ต้องเผชิญกับภาวะกดดันทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบภายในประเทศและทั่วโลก ทั้งนี้ ในปี 2563 ที่ผ่านมา เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ สามารถปิดการขายโครงการที่อยู่อาศัยได้ถึง 8 โครงการ เช่น เอ็ม สีลม, เอ็ม ทองหล่อ, มาเอสโตร 02 ร่วมฤดี, มาเอสโตร 07 อนุสาวรีย์ฯ, มาเอสโตร 12 ราชเทวี และมาร์ค สุขุมวิท เป็นต้น
สำหรับปี 2564 บริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ ที่จะทยอยรับรู้ในปีนี้ถึงราว 3,800 ล้านบาท (รวมโครงการร่วมทุนได้แก่ โครงการ มิวนิค สุขุมวิท 23) นอกจากนี้บริษัทมีห้องในโครงการพร้อมอยู่อีกมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท (รวมโครงการร่วมทุนได้แก่ โครงการ มิวนิค สุขุมวิท 23) ซึ่งคาดว่าจะขายและรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง และจะเป็นส่วนสำคัญให้รายได้ในปีนี้ยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง
บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน)
เผยแผนปี 2564 เทิร์นอะราวด์ด้วยการปรับกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจ ขายที่ดินและการลงทุน รวม 20,200 ล้าน เพื่อทำกำไรและลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนให้เหลือ 1.2 เท่า พร้อมก้าวสู่ธุรกิจใหม่กำไรสูงดีมานด์สูงผลิตส่งออกถุงมือยาง ด้านธุรกิจอสังหาฯ ปีนี้ เพอร์เฟค ตั้งเป้าขาย 17,300 ล้าน แกรนด์ แอสเสทฯ วางเป้า 1,100 ล้าน คาดรายได้ทั้งกลุ่มปีนี้แตะระดับ 21,370 ล้าน ขณะที่จะมีรายได้จากโครงการร่วมทุนและธุรกิจถุงมือยางอีก 7,000 ล้าน
ในปีนี้ แกรนด์ แอสเสทฯ วางเป้าขายจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,100 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 500 ล้านบาท และ วิลล่าในจังหวัดระยอง 600 ล้านบาท ส่วนธุรกิจโรงแรม สถานการณ์โควิด-19 มีผลกระทบอย่างมากกับธุรกิจท่องเที่ยว ส่งผลให้รายได้ของโรงแรมปีที่ผ่านมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก สำหรับปีนี้ คาดว่าจะฟื้นตัวและเติบโตอย่างรวดเร็วในครึ่งปีหลัง โดยประมาณการรายได้ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดี เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่มาก แผนการดำเนินงานในปี 2564 จึงยังมุ่งเน้นไปที่ตลาดชาวไทยท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก ตั้งเป้าให้มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีที่ 50%
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
เปิดโครงการใหม่ 20 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้าน พร้อมแบรนด์ใหม่ Origin Plug & Play, Brixton, Hampton, Original ตอบโจทย์คนหลากกลุ่มเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่ม Startup, Pet Lover, Campus, Investor, Affordable Niche, Silver Age จับมือหลากพันธมิตร อาทิ สมิติเวช ผุดบริการรับเทรนด์ Hospital at Home สวางคนิเวศ ผุด Senior Living Lab ตอบโจทย์ความต้องการแบบ Now Normal ขยายพอร์ตสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ๆ นำร่องด้วย Logistics Center, Healthcare, บริหารสินทรัพย์ สร้าง Ecosystem ดูแลผู้บริโภคทุกเจเนอเรชั่น ทุกช่วงเวลาของชีวิต วางเป้ายอดขาย 29,000 ล้าน สูงสุดในประวัติการณ์ พร้อมเป้ารายได้รวม 14,000 ล้าน
ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงเดินหน้าในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ โดยในปีนี้จะพัฒนาโครงการวัน ออริจิ้น สนามเป้า เป็นโครงการอาคารสำนักงาน ขนาดพื้นที่กว่า 56,100 ตร.ม. ติด BTS สนามเป้า ซึ่งพร้อมตอบโจทย์ความต้องการอาคารสำนักงานในฝั่งกรุงเทพฯตอนเหนือที่ยังคงขยายตัวได้ดี เชื่อมั่นว่าสินค้าและบริการของเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จะตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชั่นในทุกช่วงเวลาของการใช้ชีวิต
บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
ในส่วนของเป้าหมายธุรกิจในปี 2564 บริษัทตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ทั้งสิ้น 10 – 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6,000 – 7,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายที่ 7,000 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ที่ 6,000 ล้านบาท โดยวางงบซื้อที่ดินไว้ที่ 1,000 – 1,200 ล้านบาท อีกทั้งจะเป็นการต่อยอดการใช้กลยุทธ์ Lifestyle Marketing โดยมุ่งเน้นการใช้สื่อ Digital Marketing เพิ่มมากขึ้น จากที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปีที่ผ่านมา โดยบริษัทมีการยกระดับการจัดการข้อมูลสารสนเทศสู่ Digital Company อย่างเต็มรูปแบบ มีการนำ Big Data มาใช้ในการวิเคราะห์หา Customer Insights เพื่อเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ในปีนี้ทางบริษัทจะมีการต่อยอดมาตรฐาน Lalin’s Quality of Living มีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ (Innovation “Lalin, IL”) ภายในบ้าน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น ระบบ IL – Smart & Security, IL – Ecosystem, และ IL – Lively & Healthy เป็นต้น ทั้งนี้ได้ตั้งงบด้านการตลาดในปีนี้ไว้ที่ประมาณ 3% – 4%
ในส่วนของทางด้านการเงิน บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงินอย่างมาก โดยบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ที่ลดลงจาก 0.75 เท่า ณ สิ้นปี 2562 มาอยู่ที่ระดับเพียง 0.67 เท่า ณ สิ้นปี 2563 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโดยรวมของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ราว 1.4 – 1.5 เท่า อย่างมาก และมีเงินสดสำรองเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจอีกราว 1,000 ล้านบาท
บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน)
บริษัทได้การตั้งเป้าภายใน 2 ปี จะก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ในใจของลูกค้าด้านคุณภาพและบริการหลังการขาย สำหรับกลุ่มบริษัทอสังหาฯช่วงรายได้น้อยกว่า 5 พันล้านบาท โดยในการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2564 พร้อมกันนี้ยังคงเดินหน้ารักษาคุณภาพสินค้าให้ลูกค้าตรวจ Zero Defect ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าที่มาซื้อโครงการกับชีวาทัย ได้สิ่งที่ดีและมีคุณภาพสูงสุด ตั้งแต่บริการก่อนการขายตลอดจนถึงบริการหลังการขาย
สำหรับในปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท เติบโตจากปี 2563 ที่ทำรายได้ไปกว่า 1.64 พันล้านบาท เนื่องจาก ณ สิ้นปีบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 2,178 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของรายได้ในปีนี้หลักๆ มาจากคอนโดมีเนียมใหม่ที่สร้างเสร็จพร้อมรับรู้รายได้ อาทิ โครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ มูลค่า 1 พันล้านบาท มี Backlog แล้ว 56% และโครงการชีวาทัย ฮอลมาร์ค ลาดพร้าว-โชคชัย 4 เฟส 1 มูลค่า 1.1 พันล้านบาท Backlog 60%