เรียลแอสเสท เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจ ชูวิสัยทัศน์ “BELIEVING A BETTER YOU IS POSSIBLE” สู่การทรานส์ฟอร์มแบรนด์ Active Wellness ตอบรับเป้ารายได้เติบโต 5 ปี แตะ 4 พันล้านบาท
เรียลแอสเสท เดินหน้าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 64 เน้นเจาะกลุ่มเรียลดีมานด์ส่ง 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 4,660 ล้านบาท พร้อมทรานส์ฟอร์มเข้าสู่ธุรกิจในรูปแบบผสมผสานกับก้าวต่อไปของการเติบโต ชูวิสัยทัศน์ “BELIEVING A BETTER YOU IS POSSIBLE” เราเชื่อว่าทุกคน ดีขึ้น ได้จริงและจะส่งพลังบวกให้สังคม ดีขึ้น ได้เช่นกัน ตั้งเป้ารายได้เติบโต 5 ปี แตะ 4 พันล้านบาท สอดรับพันธกิจที่จะพลิกโฉมประสบการณ์ที่แสนธรรมดาให้เปี่ยมสุขด้วยสุขภาวะที่ดีและชีวิตที่มีพลัง “TO TRANSFORM THE LIFELESSNESS” สู่เป้ายอดขาย 2,350 ล้านบาท เติบโตขึ้น 15% เน้นใส่ใจในความยั่งยืนของชีวิต สู่ 5 แกนสำคัญที่จะถูกนำมาใช้ในโครงการ พร้อมเผยโฉมคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ The STAGE Mindscape Ratchada-Huai Khwang (เดอะ สเตจ มายด์สเคป รัชดา-ห้วยขวาง) ภายใต้นิยาม เพราะ “ที่นี่” คือที่ของคุณ ในราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท เปิดจองรอบ Online Booking 18 กุมภาพันธ์ 2564
นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า
การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ในปี 2563 ทำให้การเปิดตัวโครงการใหม่ลดลงจากเดิม (เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562)
ซึ่งผู้ประกอบการมีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจและเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไป โดยเฉพาะโครงการแนวสูงหรือ
กลุ่มคอนโดมิเนียม ส่งผลให้สต๊อกคงค้างในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ลดลงในระดับหนึ่งตั้งแต่ไตรมาส 2 / 2563 รวมทั้ง
กลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติลดลงจำนวนมากเนื่องจากไม่สามารถเดินทางเข้ามาประเทศไทย ณ เวลานี้ได้ และกลุ่มนักลงทุนที่เพิ่มหลักเกณฑ์ในการพิจารณาลงทุนมากขึ้นหรือชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนของสถานการณ์ ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯไม่เติบโต ผลกระทบดังกล่าวยังคงต่อเนื่องมาถึงต้นปี 2564 ทำให้บริษัทฯพิจารณาถึงความรอบคอบในการดำเนินงาน
เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทบทวนแผนงานรายเดือนและรักษากระแสเงินสดสร้างความมั่นคงของการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทฯพัฒนาโครงการมาแล้วทั้งสิ้นจำนวน 21 โครงการ มูลค่ารวม 30,500 ล้านบาท โดยมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายและจะเปิดขายในปีนี้รวมจำนวน 12 โครงการ มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มในปี 2564 ทางบริษัทฯยังคงมั่นใจในทำเลและสินค้าของโครงการที่จะเปิดใหม่ในปีนี้ เน้นฐานลูกค้าเรียลดีมานด์เป็นหลัก มุ่งการทำวิจัยตลาดอสังหาฯศึกษาถึงข้อมูลและพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้า เพิ่อให้สินค้าออกมา
ตรงตามความต้องการมากที่สุด เน้นกลยุทธ์การตลาดในด้านราคามากขึ้น ชูราคาเป็นจุดขาย เนื่องจากสภาวะความคิด และพฤติกรรมของลูกค้า ณ ปัจจุบันต้องการความคุ้มค่าในราคาที่จับต้องได้ โดยบริษัทฯมีแผนพัฒนาโครงการใหม่ในปีนี้
จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 4,660 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวราบ จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,510 ล้านบาท ได้แก่ (1) สตอรี่ส์ บางนา – สุวรรณภูมิ (2) สตอรี่ส์ รังสิต – วงแหวน (3) วิรัณยา บางนา – วงแหวน และ โครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการ “เดอะ สเตจ มายด์สเคป รัชดา – ห้วยขวาง” (THE STAGE Mindscape Ratchada – Huai Khwang) มูลค่า 2,150 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีโครงการที่เทกโอเวอร์ มาจาก บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ภายใต้แบรนด์ “MEGA Space 1&2” เป็นคอนโดฯไฮไรส์ จำนวน 2 อาคาร รวม 2,329 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,300 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่า ในปี 2564 จะสามารถสร้างยอดขายจำนวน 2,350 ล้านบาท เติบโตขึ้น 15% จากปีก่อนที่มียอดขาย
2,050 ล้านบาท และจากการ takeover จะสามารถทำให้บริษัทโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าว่าในปี 2567 จะสามารถสร้างรายได้แตะ 4,000 ล้านบาท และมี Backlog ทั้งหมด 5,660 ล้านบาทระหว่างปี 2564-2567
เทรนด์ใหม่ในเรื่องของสุขภาวะที่ดี(Wellness) , IOT, หรือ ไลฟ์สไตล์ที่มีความหลากหลายในกลุ่มลูกค้า กำลังกลายเป็นที่นิยมซึ่งองค์กรให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นจนนำมาสู่การทำ Brand Transformation ภายใต้วิสัยทัศน์ “BELIEVING A BETTER YOU IS POSSIBLE” เราเชื่อว่าทุกคนดีขึ้นได้จริง และจะส่งต่อพลังบวกให้คนรอบข้างและสังคมดีขึ้นได้เช่นกัน ที่จะทำให้บริษัทฯทรานฟอร์มเข้าสู่ธุรกิจในแบบผสมผสานระหว่างผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กับธุรกิจประเภท Active Well-Being Life Experience หรือสามารถนิยามได้ว่าวันนี้ REAL ASSET อยู่ในธุรกิจ Active Well-Being Life Experience สะท้อนผ่านสัญลักษณ์โลโก้ของบริษัทฯ Active Real Icon ที่เริ่มต้นตั้งแต่ “ตนเอง” ขยายวงกว้างสู่ “ผู้อื่น” และยกระดับสู่ “สังคม” ด้วยพันธกิจการดำเนินงานที่จะพลิกโฉมประสบการณ์ที่ แสนธรรมดา ให้เปี่ยมด้วย สุขภาวะที่ดี และชีวิตที่มีพลัง “TO TRANSFORM THE LIFELESSNESS INTO THE ACTIVE WELL-BEING LIFE EXPERIENCE”
โดยวางกลยุทธ์ผ่าน 5 แกนสำคัญของการมีชีวิตยืนยาวที่จะถูกนำมาผนวกใช้ในการพัฒนาโครงการของบริษัทฯ “ภายใต้ชื่อโครงการ NEVERLAND” ซึ่งประกอบด้วย …
–Ever Active สนับสนุนให้ทุกคนออกกำลังกายหรือออกแรงทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ
–Ever Smile ลดความเครียดและความกังวลของลูกบ้าน โดยเราจะดูแลเรื่องความปลอดภัยและส่งเสริมให้ลูกบ้านมีสุขภาพจิตที่ดีมองโลกในแง่บวก
–Ever Green เพิ่มโอกาสให้ลูกบ้านรับประทานอาหารจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี และใส่ใจในธรรมชาติมากขึ้น
–Ever Love สร้างโอกาสให้สมาชิกในครอบครัวใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น ให้ความสำคัญกับสุขภาพของผู้ใหญ่และเด็กเล่นในบ้าน รวมถึงเพื่อนบ้านรอบข้าง
–Ever Care เข้าถึงเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัยเพื่อดูแลสุขภาพของลูกบ้าน และตรวจเช็คร่างกายเพื่อลดโอกาสการเกิดโรคร้ายต่างๆ
“ถือเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลง เราไม่เพียงแต่มุ่งพัฒนาที่อยู่อาศัย แต่เราตั้งใจที่จะเสริมสร้างให้สังคมดีขึ้น ทั้งในแง่ของการใช้ชีวิตและสุขภาวะที่ดี ทั้งร่างกายและจิตใจ วันนี้เรื่องของ Well-Being กลายเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น เราจึงตั้งใจที่จะทำให้เกิดการผสมผสานระหว่างธุรกิจ เพื่อการอยู่อาศัยที่ดีและการมีชีวิตที่ดีควบคู่กันไปอย่างยั่งยืน” นายบดินทร์ธรกล่าว