Monthly Roundup ธ.ค. 63
New Product
บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด
ประสบความสำเร็จกับการขายก่อนเปิดโครงการจริง (Early Bird) ทาวน์โฮมพรีเมียมแบรนด์น้องใหม่ ‘อัลติจูด คราฟ บางนา (ALTITUDE KRAF BANGNA)’ มูลค่า 1,469 ล้านบาท ซึ่งปิดการขาย SOLD OUT เฟสแรก มูลค่า 375 ล้านบาท ได้สำเร็จ นับเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการอสังหาฯ สำหรับการขายก่อนเปิดโครงการจริง ไม่มีสำนักงานขาย และขายก่อนบ้านตัวอย่างและสโมสรจะสร้างแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2564
ด้วยฟังก์ชั่นทาวน์โฮมที่ปรับได้ถึง 11 แบบ ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว มีจำนวนทั้งหมด 402 ยูนิต และมีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ RYSE บนพื้นที่ใช้สอย 88 ตร.ม. ขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 1 ที่จอดรถ SHYNE บนพื้นที่ใช้สอย 132 ตร.ม. ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องนั่งเล่น 3 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 2 ที่จอดรถ และ WYDEN บนพื้นที่ใช้สอย 168 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 4 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว 1 ห้องรับประทานอาหาร 2 ที่จอดรถ
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
เปิดตัวโครงการ “ดีคอนโด ธาร จรัญฯ” คอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่ ในทำเลจรัญสนิทวงศ์ เป็นคอนโดสูง 8 ชั้น 2 อาคาร มีทั้งรูปแบบห้องสตูดิโอ พื้นที่ใช้สอย 26.52 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 54 ตารางเมตร รวม 484 ยูนิต ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 1,000 ล้านบาท จุดเด่นของโครงการอยู่ในทำเลศักยภาพที่กำลังเติบโตสูง โดยโครงการตั้งอยู่บนถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน ที่เชื่อมสู่ถนนสายหลักทั้งถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนบรมราชชนนี และถนนราชพฤกษ์โดยสะดวก นอกจากนี้โครงการยังตั้งอยู่เพียง 1.9 กิโลเมตรหรือ 5 นาทีจากรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายเฉลิมรัชมงคล สถานีบางขุนนนท์ ที่ได้เริ่มเปิดให้บริการแล้ว
นอกจากนี้ในอนาคต สถานีบางขุนนนท์ ยังเป็นสถานีร่วมที่นับเป็นจุดเชื่อมต่อแห่งอนาคตของรถไฟฟ้าทั้ง 3 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รถไฟฟ้าสายสีส้ม และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอีกด้วย โครงการยังตั้งอยู่เพียง 5 นาทีจากทางด่วนศรีรัช โดยรอบโครงการยังประกอบด้วยการขยายถนนตัดใหม่ และการขยายตัวของสถานที่สำคัญ เช่น โรงพยาบาลศิริราช การขยายตัวเปิดใหม่ของโรงเรียนนานาชาติในเส้นราชพฤกษ์ เป็นต้น ส่งผลให้ศักยภาพทำเลในย่านนี้มีการเติบโตสูง จึงคาดว่า ดีคอนโด ธาร จรัญฯ จะนับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกับโครงการที่ผ่านมา
บริษัท ณวรางค์ แอสเซท จำกัด
ประกาศลุยตลาดอสังหาฯ เต็มสูบ พร้อมกางแผน ปี 2564 ขยับพอร์ตรุกตลาดแนวราบและแนวสูงระดับซูเปอร์ลักซัวรี่ เตรียมเปิดตัว 3 โครงการใหม่ บน 3 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ พหลโยธิน, รามอินทรา และถนนหลังสวน มูลค่ารวม 4,500 ล้านบาท ชูจุดเด่นเน้นความเป็นส่วนตัว และคุณภาพของสินค้า สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของบริษัทฯ เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนที่ชื่นชอบดีไซน์ไม่ซ้ำใคร เผยตั้งเป้าหาที่ดินแปลงใหม่ที่จะพัฒนาอีก 2-3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท
สำหรับทั้ง 3 โครงการที่กำลังจะเปิดขายในปี 2564 ได้แก่ โครงการ ณ ไอรา สายลม-อารีย์ เป็น Vertical Residence สูง 7 ชั้น จำนวนเพียง 5 ยูนิต มูลค่ารวม 220 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 400 ตารางเมตร/ยูนิต ราคาเริ่มต้น 38 ล้านบาท โครงการ รามอินทรา-วงแหวน บ้านเดี่ยว จำนวน 18 ยูนิต มูลค่ารวม 280 ล้านบาท ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 60 ตารางวา ราคาขายเฉลี่ย 15 ล้านบาท ทั้ง 2 โครงการจะเริ่มเปิดขายประมาณไตรมาส 1/2564 และคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซัวรี่ บนทำเลหลังสวน 1 โครงการ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท มีแผนที่จะเริ่มเปิดขายภายในปี 2564
บริษัท เอกภูมิทรัพย์ ดีเวลล็อปเม้นท์ จากัด
ลงสนามตลาดคอนโดมิเนียมกรุงเทพฯ ครั้งแรก เปิดตัวโครงการ ONEDER KASET ยูนีคพรีเมี่ยมคอนโดมิเนียม บนทำเลทอง ย่านเกษตร มูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท ภายใต้คอนเซ็ปต์ Feel Evergreen in Wonderland ชวนหลงใหลไปกับการอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ ที่มาพร้อมไฮไลต์ 7 ความมหัศจรรย์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าครบทุกด้าน ตั้งเป้ายอดขาย 50% ใน 4 เดือน
โครงการ ONEDER KASET เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมที่มีราคาเริ่มต้นเพียง 1.59 ล้านบาท ในรูปแบบ Low Rise แบ่งเป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร รวม 585 ยูนิต มีเนื้อที่ 4-1-55.3 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนงามวงศ์วาน มีแบบห้องพัก 4 รูปแบบ คือ 1. Studio ขนาดพื้นที่ประมาณ 21.50 – 23.55 ตารางเมตร 2. Studio Exclusive พื้นที่ประมาณ 23.75 – 25.35 ตารางเมตร 3. One Bedroom ขนาดพื้นที่ประมาณ 27.95 – 28.85 ตารางเมตร และ 4. One Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ประมาณ 35 – 36.05 ตารางเมตร
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
ส่งมอบ High rise คอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ท วิวโค้งน้ำบางกระเจ้า “โอกะ เฮาส์” OKA HAUS มูลค่าโครงการ 6,500 ล้านบาท คอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่ บนทำเลศักยภาพ พระราม 4 ศูนย์กลางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท
“โอกะ เฮาส์” (oka HAUS) คอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ สูง 46 ชั้น จำนวนทั้งสิ้น 1,178 ยูนิต ประกอบด้วยห้องขนาด 1 – 3 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ 26.50 – 86.50 ตร.ม. บนพื้นที่โครงการประมาณ 5 ไร่ บนถนนพระราม 4 ใกล้สุขุมวิท 36 เชื่อมต่อถนนสุขุมวิทและถนนพระราม 4 อีกหนึ่งย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ และเป็นจุดเชื่อมต่อใจกลางเมือง ทองหล่อ – อโศก – สีลม และใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น K-Village และ EmQuartier ครบด้วยศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล สถานศึกษา โรงแรม ฯลฯ แต่ยังคงความสงบและเป็นธรรมชาติ ชมโครงการได้แล้ววันนี้ ที่ โอกะ เฮาส์ สุขุมวิท
Real Estate Hi-Light
บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด
ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น ชี้ว่า ตลาดอสังหาฯ ในปี 2564 มีแนวโน้มการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2563 โดยคาดว่าจะมีอัตราการเปิดตัวโครงการใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อยู่ที่ประมาณ 72,000 -80,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 300,000-315,000 ล้านบาท ในปี 2564 หรือคิดเป็นจำนวนหน่วยเปิดตัวใหม่เพิ่มขึ้น 10-20% เมื่อเทียบกับโครงการที่เปิดตัวใหม่ประมาณ 65,000 หน่วยในปี 2563 ในขณะที่มูลค่าการเปิดตัวของโครงการใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 5% เมื่อเทียบกับมูลค่าการเปิดตัวโครงการใหม่ที่ 285,000-300,000 ล้านบาทในปี 2563
โดยการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2564 เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การส่งออกและการลงทุนของภาคเอกชนที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปี 2564 เทียบกับปี 2563 แต่ภาคการท่องเที่ยวยังคงชะลอตัว ในขณะที่ภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูงแตะระดับเกือบ 90% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทำให้สถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในปี 2564 โดยในปี 2563 มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่ออยู่ที่ 50 – 60% สำหรับกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับราคา 2-3 ล้านบาท ส่วนที่อยู่อาศัยในระดับราคา 5-7 ล้านบาท มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่ออยู่ที่ 30-40% ขณะที่กลุ่มที่อยู่อาศัยที่ระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่ออยู่ที่ 10-15%
บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด
โชว์ผลงานปี 2563 เติบโต 200% ยอดรับรู้รายได้พุ่งกว่า 2,000 ล้านบาท มองตลาดอสังหาฯ ปี 2564 ฟื้นตัวดีขึ้น กางแผนปีหน้า ลุยเสริมแกร่งผู้นำ “Lifestyle Investment” ทั้งเพิ่มพันธมิตรใหม่ ขยายไลน์สู่เซกเม้นท์ใหม่ กลาง – บน พร้อมปั้นโปรดักส์ใหม่อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนที่จะมาพร้อมกับบริการรูปแบบใหม่ ดึงแบรนด์โรงแรมระดับโลกร่วมบริหารจัดการ และโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ พร้อมชูจุดขาย “ทำเล ดีไซน์แตกต่าง และการบริหารจัดการที่ดี” การันตีความสำเร็จ 17 รางวัลคุณภาพจากเวทีสุดยอดแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในไทยและระดับโลก
สำหรับแผนงานในปี 2564 บริษัทฯ เตรียมโปรดักส์ใหม่คือ อสังหาฯ เพื่อการลงทุน และโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ คาดว่าอาจจะมีความชัดเจนมากขึ้นในครึ่งปีหลังปี 2564 โดยแนวโน้มการเติบโตของตลาดในกลุ่มอสังหาฯ เพื่อการลงทุน คาดว่าจะเติบโตขึ้นราว 20 – 30% ขณะที่กลุ่มนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในสินทรัพย์อสังหาฯ พบว่ามีแนวโน้มเติบโตขึ้นเช่นกัน ปัจจัยหลักมาจากโดยการลงทุนในอสังหาฯ มีความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น ส่วนผลตอบแทนที่ได้แม้อาจจะไม่สูงเท่าการลงทุนในหุ้นแต่ก็เป็นการสร้างรายได้สม่ำเสมอให้กับผู้ลงทุน ขณะที่ในระยะยาวยังสามารถให้ผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคาอสังหาฯ ที่เติบโตขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้เทรนด์การลงทุนในอสังหาฯ ก็เริ่มเปลี่ยนไปจากการซื้ออสังหาฯ เพื่อปล่อยเช่าแบบเดิมๆ ที่มีการแข่งขันสูง และแข่งตัดราคากันมากในระยะหลังมาเป็นการเลือกลงทุนในอสังหาฯ ที่ทำให้ผู้ลงทุนเป็นเหมือนเจ้าของโรงแรมเอง มีการบริหารจัดการด้วยมืออาชีพเพื่อสามารถสร้างรายได้ประจำในระยะยาวให้แก่นักลงทุนหรือผู้ซื้อ
บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
โดยปัจจัยความสำเร็จสำหรับไตรมาส 4 นี้ คือ การเติบโตของยอดขายจากโครงการ‘บางกอก บูเลอวาร์ด’ โดยที่มียอดเข้าเยี่ยมชมโครงการบางกอก บูเลอวาร์ด รวมทุกทำเล เติบโตขึ้น 41% (yoy) สร้างยอดขายรวมเติบโตกว่า 114% (yoy) ด้วยเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวระดับหรูอันดับหนึ่งที่เป็นหัวหอกในการทำกลยุทธ์การตลาดของ SC ประกอบกับเป็นแบรนด์ในใจลูกค้า ทำให้เราเป็นผู้นำในตลาดบ้านเดี่ยวที่ระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป
โครงการ “บางกอก บูเลอวาร์ด” เป็นบ้านที่พัฒนาเพื่อตอบโจทย์ Human-centric เพื่อเป็นบ้านสำหรับทุกคน ด้วยแนวคิดสไตล์ Luxury Nordic ซึ่งมีดีไซน์สวยงามและฟังก์ชั่นที่ออกแบบรองรับสำหรับทุกวัยและทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้การให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางทำให้โครงการที่เปิดในปีนี้เพิ่มมิติตามบริบทของทำเลและมีเอกลักษณ์อย่างลงตัว โดยตั้งอยู่บนทำเลคุณภาพครอบคลุมทุกโซนของกรุงเทพ-ปริมณฑล ประกอบด้วยโครงการเพื่อขายจำนวน 13 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 21,000 ล้านบาท ได้แก่ บริเวณแจ้งวัฒนะ, สาทร-ราชพฤกษ์, สาทร-ปิ่นเกล้า, ปิ่นเกล้า-เพชรเกษม, รามอินทรา-เสรีไทย, ลาดพร้าว – เสรีไทย, พระราม9, ศรีนครินทร์-บางนา รวมถึงหัวเมืองท่องเที่ยวที่ชะอำ จ.เพชรบุรี พร้อมกับโครงการล่าสุดยังพระราม 5, วิภาวดี และเวสต์เกต
บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
ประสบความสำเร็จในการเปิดขายโครงการภายใต้แบรนด์ใหม่ ‘อภิทาวน์’ ซึ่งเป็นครั้งแรกในการนำสินค้าแนวราบแบบมิกซ์ โปรดักส์ บุกตลาดอสังหาฯ หัวเมืองนำร่อง 3 จังหวัด ขอนแก่น ระยอง และนครศรีธรรมราช มูลค่ารวม 2,430 ล้านบาท โดยในช่วงพรีเซลที่ผ่านมาลูกค้าให้การตอบรับอย่างดี จนสามารถสร้างผลงานปิดการขายแล้วกว่า 500 ล้านบาท เกินเป้าหมายที่ตั้ง นอกจากความเชื่อมั่นในแบรนด์เอพี กับการนำเสนอมาสเตอร์แพลนแห่งการอยู่อาศัยที่ดีที่สุด พื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็มในทำเลศักยภาพที่ดีที่สุดในแต่ละจังหวัด และแพ็คเกจราคาที่คุ้มค่าแล้ว ความโดดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดโดยเฉพาะการผสานเทคโนโลยีบ้านแบบไฮบริด การเชื่อมต่อกันระหว่างสเปซดีไซน์และนวัตกรรมการใช้ชีวิต ที่เข้ามายกระดับการอยู่อาศัยของครอบครัว ทั้งการอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยจริง ตลอดจนการดูแลบริหารจัดการโดยทีมงานคุณภาพมาตรฐานเอพี ไทยแลนด์ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจและตัดสินใจเลือกโครงการอภิทาวน์เป็นตัวเลือกแรกที่ดีที่สุด
เตรียมพบกับเฟสใหม่โครงการ อภิทาวน์ ขอนแก่น บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน ทำเลเมือง ใกล้ ม.ขอนแก่น เดินทางสะดวก เพียง 3 นาทีจากสนามบิน เริ่ม 4.29-8 ล้านบาท อภิทาวน์ ระยอง บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน ทำเลเมือง ใกล้หาดแสงจันทร์ เพียง 15 นาที จากนิคมฯ เริ่ม 3.29-6 ล้านบาท และ อภิทาวน์ นครศรีธรรมราช บ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน ทำเลเมือง ติดถนนใหญ่ อ้อมค่ายวชิราวุธ เพียง 6 นาทีจากสนามบิน ในราคาที่คุ้มค่าโดนใจเริ่ม 4.2-6 ล้านบาท พร้อมข้อเสนอพิเศษอีกมากมายเร็วๆ นี้