Lolly-Laputan คาเฟ่ที่เหมือนสนามเด็กเล่นแห่งแรกและแห่งเดียวของจีน โดย Wotopia Lab
Lolly-Laputan ไม่ได้เป็นเพียงแค่คาเฟ่สวยๆธรรมดาๆเหมือนที่เราเคยเห็นกันตาม Instagram แต่ที่นี่ได้กลายเป็นคาเฟ่ที่ทั้งผู้ใหญ่และเด็กๆจะได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างคุ้มค่า เพราะที่นี่มีพื้นที่ให้เด็กๆได้เล่นและเสริมพัฒนาการเรียนรู้ไปพร้อมๆกับเพื่อนใหม่และพื้นที่ให้ผู้ใหญ่ได้นั่งจิบชาหรือกาแฟทำงานชิวๆทำให้ไม่เสียเวลาทำงานสักนิดเลยและยังไม่ต้องห่วงลูกหลานว่าจะไปเล่นไกลเกินสายตาอีกด้วย
ค่าเฟ่ดีไซน์ไม่ธรรมดาแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองท่าสำคัญฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนชื่อเมืองต้าเหลียน เนื่องจากประเทศจีนมีปัญหาเรื้อรังเรื่องประชากรล้นประเทศจนรัฐบาลเคยต้องออกนโยบาย One Child Policy เพื่อแก้ปัญหานี้มาแล้ว แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขได้จนในที่สุดก็เกิดปัญหาพื้นที่สาธารณะไม่เพียงพอต่อความต้องการ รัฐบาลจีนจึงได้ปิ๊งไอเดียนโยบายพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางให้ได้ประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและต้องเป็นพื้นที่ที่ทุกๆคนสามารถเข้าถึงได้ อย่างเช่น Lolly-Laputan ที่กลายเป็นอีกหนึ่ง Landmark ของเมืองต้าเหลียนที่เป็นทั้งคาเฟ่, co-working spaceและลานเด็กเล่นที่แบ่งสัดส่วนไว้อย่างดีเยี่ยมในพื้นที่ 580 ตารางเมตร ด้วยการออกแบบภายในจาก Wutopia Lab แบรนด์ดีไซน์เฟิร์มของประเทศจีน ประเทศที่มักมีคนบอกกันปากต่อปากว่า “ประเทศจีนถ้าคิดจะทำอะไร ต้องทำให้ได้ ทำให้สำเร็จ”
ประตูทางเข้าที่ถูกล้อมรอบไปด้วยอลูมิเนียมสีขาวสะอาดตาโค้งมนเหมือนคลื่นของน้ำและเจาะรูไว้เพื่อใช้เล่นกับแสงไฟสีเหลือง (www.archdaily.com)
“รุ่งเช้าวันหนึ่ง ลูกสาวของผมตื่นขึ้นมาเล่าเรื่องความฝันถึง Fairyland ในจินตนาการของเธอให้ผมฟัง และผมก็อยากจะสร้างมันให้ความฝันนั้นเป็นจริงขึ้นมา เพื่อให้เด็กๆได้มาร่วมสนุกด้วยกัน” นี่คือคำอธิบายจากปากของ Yu Ting หัวหน้าทีมสถาปนิกได้บอกเล่าถึงแรงบรรดาลใจการออกแบบ Lolly-Laputan เมื่อได้รู้ถึงแรงบันดาลใจของเขาจึงไม่น่าแปลกใจที่เด็กๆที่เคยได้มาเล่นที่ลานเด็กเล่นที่นี่จะถูกอกถูกใจจนต้องรบเร้าให้ผู้ปกครองพามาอีกครั้งแล้วครั้งเล่า และสำหรับ Wutopia Lab Firm ก็ได้เสริมอีกเช่นกันว่าที่นี่ คือ “the first educational family restaurant in China” ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศไทยที่นี่ก็คล้ายๆกันกับ TKpark อุทยานการเรียนรู้ ที่ตั้งอยู่ชั้นบนสุดที่ Central World แต่แตกต่างกันที่ TKpark ไม่ใช้คาเฟ่ เป็นได้เพียงศูนย์การเรียนรู้ที่สามารถทำกิจกรรมเพลินๆได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
Front Lobby (www.archdaily.com)
เมื่อเดินผ่านประตูด้านเข้ามาก็จะได้เจอกับ Lobby เป็นห้องแรก การออกแบบ Lobby ที่นี่ถูกสร้างให้คล้าย “forest of lights” ด้วยการนำอะคริลิกจำนวน 1,000 ชิ้นมาเรียงประกอบเรียงให้เป็นรูปทรงเหมือนแหวนโดยให้ส่วนบนสุดสูงถึงเพดาลและส่วนล่างสุดต่ำถึงพื้นโดยเว้นช่องตรงกลางไว้เพื่อให้ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่น ส่วนการออกแบบห้อง Lobby ก็เป็นทรงวงกลมเช่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อเวลาที่แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาที่ห้องนี้ แสงจะกระทบกับช่องถี่ๆของอะคริลิกทำให้ได้แสงแดดที่ไม่ตกกระทบมาที่ผู้ใช้บริการมากจนเกินไปและยังเป็นการสร้างผลงานศิลปะบนพื้นไม้ได้อีก เพราะหากสังเกตดีๆไปที่เงาบนพื้นจะเห็นว่าสถาปนิกชาวจีนเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากแสงแดดช่วยให้เกิดเงาบนพื้นดูแล้วก็คล้ายกันกับเงาใบไม้ในป่าที่ซ้อนกันอย่างเป็นธรรมชาติ นี่สิถึงจะเรียกว่า Modern Design ที่แท้จริง เพราะนี่เป็นไอเดียที่เฉียบล้ำมาก!
เมื่อผ่าน Lobby เข้ามาจะเจอกับห้องโถงกว้างขวางเรียกว่า Cloudy Town ชื่อนี้มาจากความตั้งใจให้ดินแดนแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่ถ่ายทอดความสนุกสนาน เพลิดเพลินและความผ่อนคลายให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไปพร้อมๆกันเป็นหัวใจหลักให้ Lolly-Laputan มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำคาเฟ่อื่น ม้าหมุนถูกตั้งไว้ตรงกลางห้องโถงเพื่อให้เด็กๆได้เพลิดเพลินไปกับการขี่ม้าหมุนพร้อมกับเอ็นจอยบรรยากาศในห้องโถงนี้ได้เต็มที่ ฝั่งด้านขวามีท่อส่งบอล ฝั่งด้านซ้ายคือพื้นที่นั่งดื่มชา กาแฟ และเครื่องดื่มอื่นๆที่ดื่มได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นเก้าอี้สีฟ้าเหล่านี้ก็กลมกลืนไปกับลานเด็กเล่นได้อย่างแนบเนีบน รวมไปถึงการออกแบบเพดาลด้วยอะคริลิกที่โค้วเว้าคล้ายกับก้อนเมฆที่อยู่บนท้องฟ้า สมกับชื่อคอนเซปที่เรียกว่าห้อง Cloudy Town
Cloudy Town (www.archdaily.com)
Cloudy Town (www.archdaily.com)
Hidden Tree-Houses, Slides and a Ball Pit (www.archdaily.com)
และแน่นอนที่สุด สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเด็กๆก็ต้องเป็นเครื่องเล่นคลาสสิกตลอดกาลนั่นคือ สไลเดอร์ มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำให้เด็กๆรุ่นไหนผิดหวังเลย แม้แต่ผู้ใหญ่อย่างเรายังชอบแล้วเด็กจะเหลือหรอ? จริงไหมล่ะ! แถมยังมีบ่อบอลขนาดย่อมไว้เล่นอีกด้วยตรงบริเวณใต้บ้านต้นไม้สีแดงที่มีสไลเดอร์เชื่อต่อลงมา ทุกๆในบริเวณนี้อย่างถูกย่อส่วนให้เล็กลงพอดีพอเหมาะกับขนาดตัวของเด็กๆ
Gallery-Style Space (www.archdaily.com)
บางคนเข้ามาเห็นการออกแบบจัดวางที่นี่แล้วอาจจะสงสัยว่าจะมีโซนให้นั่งฟังเพลงหรือทานอะไรเงียบๆเพื่อพักผ่อนได้บ้างไหม คำตอบคือ มี Private zone นะจ๊ะ ชื่อโซน Gallery-Style Space ที่อยู่ติดมุมฝั่งกำแพง เป็นมุมที่สามารถนั่งพักเหนื่อยหลังจากเล่นและได้ใช้จินตนาการของเด็กๆจนสะใจแล้วก็ได้เวลาสั่งขนม อาหาร หรือเครื่องดื่นมานั่งทานเงียบๆได้โดยที่ไม่มีใครมารบกวนเท่าไร จุดเด่นของ Gallery-Style Space คือกระจกที่มีแสงไฟสีเหลืองทองสะท้อนออกมาจากด้านหลังทำให้ดูแล้วก็คล้ายกับสุริยุปราคา ส่วนการตกแต่งกำแพงลายสีขาวเล็กๆนี่ก็เหมือนดาวอื่นๆที่อยู่ไกลแสนไกลจนมองเห็ฯได้แค่เป็นประกายแสงเท่านั้นเอง ซึ่งการตกแต่งแบบนี้เชื่อมโยงเรื่องราวต่อกันได้กับโซน Cloudy Town เลยแหละ
บริเวณใกล้กันกับ Gallery-Style Space คือ บ้านไม้จำลองที่ถูกย่อส่วนลงให้มีความพอดีกับเด็ก ภายในมีเปอร์นิเจอร์ไว้ให้เรียบร้อยพร้อมส่งเสริมจินตนาการและยังเป็นพื้นที่ที่ไม่ได้โลดโผนเหมือนสไลเดอร์
House-Shaped Timber Structures (www.archdaily.com)
Private Room (www.archdaily.com)
แต่สำหรับบางคนก็ต้องการทานข้าวแบบส่วนตัวสุดๆคงต้องใช้บริการห้อง Private Room ห้องนี้ซะแล้วหล่ะ เพราะห้องนี้ถูกซ่อนไว้ไกล้กับบริเวณม้าหมุนฝั่งขวาที่รับรองว่าจะไม่มีใครมารบกวนได้เพียงแค่ปิดประตูห้องให้มิดชิดก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงดังจากลูกค้ารายอื่นที่เข้ามาใช้บริการที่นี่เลย ภายใน Private Room มีโต๊ะอาหารยาวทำด้วยไม้ทั้งตัว เก้าอี้สีฟ้าพาสเทลหวานๆที่เข้ากันได้ดีกับบรรยากาศโดยรวมและต้นไม้ที่สูงกำลังดีอีกหนึ่งต้นไว้ประดับตรงมุมห้อง การตกแต่งแบบ Minimal ในห้องนี้ก็คงถูกใจผู้ปกครองสาย Minimal แบบไม่ต้องสงสัยเลย
ห้องน้ำชาย (www.archdaily.com)
ต้องชม Wutopia Lab ที่อุตส่าห์เก็บรายละเอียดได้อย่างลงตัวแม้กระทั่งการออกแบบตกแต่งห้องน้ำทั้งชายและหญิง ห้องน้ำชายมาใน space travel-theme ทำให้มีความต่อเนื่องกันจากการตกแต่งห้องอื่นๆ และห้องน้ำหญิงได้ inspiration จาก candy floss theme สุดหวานแหววที่มีสีสันมากกว่าโทนสีขาวจากโซนอื่นๆ
สิ่งที่ทำให้ที่นี่แตกต่างจากที่อื่นคือพื้นที่การแสดงบนเวทีที่จัดไว้แบบน่ารักๆใกล้ Gallery-Style Space ไอเดียนี้นับว่าเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นหนึ่งของคาเฟ่รูปแบบเดิมที่ทำเปิดโอกาสให้เด็กๆมีพื้นที่แสดงความสามารถพิเศษอย่างการฝึกฝน Charisma ให้มีเสน่ห์และมีคารมณ์ในการแสดงออกในพื้นที่สาธารณะได้เต็มที่ ด้วยความโดดเด่นที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครแบบนี้จึงทำให้ Lolly-Laputan ประสบความสำเร็จและเอาชนะใจคนต่างวัยให้เข้ามาพัฒนาความสัมพันธ์ให้ก้าวหน้าไปพร้อมกับการพัฒนา EQ ให้เติบโตเป็นประชากรที่มีคุณภาพในอนาคต
Plan Map (www.archdaily.com)
Project credits:
Design firm: Wutopia Lab
Chief architect: Mim Erni, Yu Ting
Project architect: Shengrui Pu
Design team: Mingshuai LI, Song Liu, Xueqin Jiang
Design consultant: S5 Design
Light consultant: Wuxi Huancheng Light Electricity Limited Company