Hotel Once จากอาคารพาณิชย์ธรรมดาสู่การเป็นโรงแรมสุดแสนโรแมนติกหนึ่งเดียวย่านเจริญกรุง
มนต์สเน่ห์ของถนนเจริญกรุง ถนนสายโรแมนติก ถนนแบบตะวันตกสายแรกของกรุงเทพมหานครและประเทศไทยที่ถูกพัฒนาจาก “พระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 4 ให้ตัดถนนอย่างตะวันตกขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2404” ซึ่งเป็นการพัฒนาผังเมืองกรุงเทพฯให้เป็นระบบระเบียบครั้งแรกและนับว่าเป็นถนนสายใหญ่ที่สุดของยุคนั้น ความพิเศษ คือ การนำ ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Avenue des Champs-Élysées) เมืองหลวงปารีสของประเทศฝรั่งเศษ มาเป็นต้นแบบการพัฒนาถนนเจริญกรุง ในยุกก่อนนั้น ถนนสายนี้เคยเต็มไปด้วยร้านอาหารกลางคืน ผับและบาร์ต่างๆ ในแบบของวิถึชีวิตกลางคืนของชาวตะวันตก และยังเป็นที่ตั้งของสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกในยุคนั้นอีกด้วย อย่างเช่น ไปรษณีย์กลางแห่งแรกของประเทศไทย อู่ต่อเรือใหญ่ของอังกฤษ สถานกงศุลกากรแห่งแรกของอังกฤษในไทย ท่าเรือ และที่ทำการราชการต่างๆ ด้วยเหตุนี้ เป็นเพราะทำเลที่ทั้งอยู่ใกล้แม่น้ำสายหลักอย่างแม่น้ำเจ้าพระยาและถนนเจริญกรุงที่มีไว้พร้อมต่อการเดินทางสัญจรสะดวก จึงทำให้เป็นย่านที่ผู้คนคึกคัก และยังเคยได้รับฉายาว่าเป็น ถนนที่ไม่มีวันหลับไหล
HOTEL ONCE, the Time Machine that bring back the Romantic Old days.
ทางเข้าด้านหน้าโรงแรม (www.hotelthailand.com)
เมื่อเทียบคอนเซปท์ของ Hotel Once กับโรงแรมอื่นๆย่านเจริญกรุง จะเห็นได้ชัดเจนว่า Hotel Once มีจุดขายหลัก คือ การขายประวัติศาสตร์ย่านเจริญกรุง ซึ่งต่างไปจากโรงแรมหรูอื่นๆที่ส่วนใหญ่แล้วขายแค่ความสะดวกสะบายและวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา Hotel Once ได้เล่าเรื่องราวได้สวยงามผ่านที่ตั้งของโรงแรมที่ตั้งอยู่ใจกลางชุมชน การตกแต่งภายในแบบ Neo Classic และ Time Capsule Lounge ได้อย่างสมบูรณ์ กลายเป็นจุดที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสวันเก่าๆสุดโรแมนติกของย่านเจริญกรุงได้อย่างยอดเยี่ยม
จุดเริ่มต้น Hotel Once ถูกสร้างขึ้นมาจาก ”ความต้องการที่จะพัฒนาพื้นที่ริมน้ำบนถนนเจริญกรุง” ให้กลายเป็นโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมแบบ Modern Classic หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ศิลปะแบบร่วมสมัย ที่นำความคลาสสิคดั้งเดิมของประวัติศาสตร์และตำนานของเจริญกรุงให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้งภายในโรงแรมแห่งนี้ ด้วยไอเดียสร้างสรรค์จากเหล่าสถาปนิกที่ช่วยกันพัฒนาและเติมเต็มอาคารพาณิชย์ธรรมดาๆหลังหนึ่งจนกลายเป็นโรงแรมหรูหนึ่งเดียวที่ตั้งอยู่ในย่านเจริญกรุง สิ่งที่พิเศษสำหรับโรงแรมแห่งนี้คือ Time Capsule Lounge ที่ออกแบบจำลองไปรษณีย์กลาง(ไปรษณีย์บางรัก)ในสมัยก่อนที่ผู้คนยังใช้จดหมายเป็นเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญอย่างแพร่หลาย ซึ่งถูกจัดไว้ให้แขกที่เข้ามาได้มีโอกาสเขียนจดหมายถึงคนที่อยู่ห่างไกล สำหรับการเขียนจดหมายด้วยลายมือของตัวเองเป็นการสื่อสารแบบคลาสสิกถึงคนที่รัก ครอบครัว เพื่อนๆ หรือแม้แต่เขียนถึงตัวเองไว้เป็นที่ระลึกในอนาคต นับว่าเป็นไอเดียที่ไม่มีโรงแรมเจ้าไหนๆทำมาก่อน เพราะ Hotel Once ไม่ได้มีดีแค่บริการด้านการโรงแรมเพียงอย่างเดียว แต่มีจุดขายเด็ดอีกอย่าง คือ การขายความโรแมนติกของบรรยากาศเก่าๆของย่านเจริญกรุงที่สามารถสร้างเสน่ห์ให้ Hotel Once มากเลยทีเดียว
เมื่อก้าวผ่านธรณีประตูเข้าไปในโรงแรมที่ออกแบบล็อบบี้เป็นลักษณะโถงใหญ่เปิดกว้างด้วยเพดานสูงโปร่งสีขาวสะอาดตาให้ความรู้สึกสบาย โอ่อ่า เพราะมีลมพัดปลิวไสว ทำให้อากาศถ่ายเทสะดวก รอบๆภายในอาคารก็รายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวสดทั่วทั้งล็อบบี้ซึ่งเป็นการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและโรมแมนติกให้แขกผู้เข้าพัก สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดเจนในล็อบบี้ คือ ห้องเขียนจดหมาย ที่จำลองจากไปรษณีย์กลาง(ไปรษณีย์บางรัก)ตั้งอยู่บนชั้น 2 เมื่อประตูลิฟท์เปิดขึ้นมาที่ชั้น 2 ก็จะเจอกับอีกบรรยากาศหนึ่งที่หวนให้รำลึกถึงวันเก่าๆของไปรษณีย์กลางเดิม (ไปรษณีย์บางรัก)
Double Space Lobby (Open Air area)
Double Space Lobby (Open Air)
ตู้เก็บไปรษณีย์
ห้องเขียนจดหมาย ชั้น 2 (ที่มาภาพ: https://www.baanlaesuan.com)
โต๊ะเขียนหนังสือจำลองเหตุการณ์ของวิถีชีวิตคนไทยสมัยที่เริ่มมีอาคารไปรษณีย์กลาง
ภายใต้แสงไฟสลัวในสถานที่สุดพิเศษแห่งนี้เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ ที่เก็บสะสมและรักษาไว้เป็นอย่างดีถูกนำมาจัดเรียงให้ได้บรรยากาศจำลองไกล้เคียงกับไปรษณีย์กลางในจินตนาการให้เหมือนสถานที่ในสมัยก่อนมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าแก่ โต๊ะเขียนจดหมาย ของตกแต่งวินเทจ หนังสือเล่มโปรด และตู้เก็บไปรษณีย์ไม้วินเทจที่เรียงยาวไปจนถึงมุมสุดของห้อง