สรุปงานมหกรรมที่อยู่อาศัย “Home Buyers Expo 2019” ยอดผู้เข้าชมงานลดลงเล็กน้อย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและมาตรการคุมเข้ม LTV ภาพรวมผู้ร่วมงานพึงพอใจ โดยกว่า 90% สามารถปิดการขายได้ สะท้อนความต้องการของผู้บริโภคที่ตั้งใจมาซื้อ เผยคอนโดฯ ราคา 2-3 ล้านขายดีที่สุด ริชี่เพลซ 2002, ณุศาศิริ, ออลล์ อินสไปร์ฯ นำขบวน ด้านสินค้าแนวราบราคาปานกลางไปได้สวย เผยใช้แผนสื่อสารผ่านดิจิทัลสร้างการรับรู้วงกว้างกว่า 7.4 ล้านคน

นายบริสุทธิ์ กาสินพิลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมบายเออร์ไกด์ จำกัด เปิดเผยถึงการจัดงาน Home Buyers Expo  2019 เมื่อวันที่ 16-18 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า การจัดงานครั้งนี้บริษัทมุ่งเน้นการสื่อสารและประชาสัมพันธ์เพื่อเชื่อมโยงเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด และเป็นตัวกลางให้ผู้ซื้อพบกับผู้ขาย โดยอาศัยช่องทางการสื่อสารในรูปแบบใหม่ อาทิ Facebook, Google, YouTube, Internet (Website) และการสื่อสารช่องทางเดิม (Radio) ซึ่งสามารถสร้างการรับรู้และเข้าถึงกว่า 7.4 ล้านคน ครอบคลุมตั้งแต่การรับรู้ภาพรวมของงาน ไปจนถึงการประชาสัมพันธ์โปรดักต์ของผู้ร่วมงาน

โดยปีนี้มีจำนวนผู้ลงทะเบียนเข้าชมงานรวมลดลงประมาณ 30% เฉลี่ยต่อวันน้อยกว่าปีก่อนเล็กน้อย ส่วนยอดจองซื้อภายในงานมีจำนวน 128 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 423,931,786 บาท ลดลงกว่าปีก่อนพอสมควร สาเหตุมาจากหลายส่วนทั้งจำนวนวันในการจัดงานที่น้อยกว่า ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวซึ่งมีผลต่อกำลังซื้อ รวมถึงมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ค่อนข้างมีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในตอนนี้

อย่างไรก็ตามเกือบทุกบริษัทอสังหาฯ หรือกว่า 90% ของผู้ร่วมงานสามารถปิดการขายได้ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่อยู่อาศัยและการเตรียมตัววางแผนการซื้อล่วงหน้าของผู้เข้าชมงาน โดยสินค้าระดับราคาไม่สูงและตัดสินใจซื้อได้ง่ายประเภทคอนโดมิเนียมเป็นสินค้าขายดีที่สุดในงาน คิดเป็นสัดส่วนถึง 80% โดยเฉลี่ยราคาห้องชุดที่ขายดีคือระดับ 2-3 ล้านบาท

“แบรนด์ที่สามารถปิดการขายคอนโดฯได้ค่อนข้างมาก อาทิ บมจ.ริชี่เพลซ 2002, บมจ.ณุศาศิริ, บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์”  ส่วนสินค้าแนวราบประเภททาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์

ซึ่งค่อนข้างใช้เวลาในพิจารณาองค์ประกอบหลายด้านก่อนการตัดสินใจซื้อ การขายสินค้าแนวราบในงานส่วนใหญ่ จึงเป็นการจองสิทธิโปรโมชั่นในงานเพื่อทำสัญญาจองในภายหลัง

“ปีนี้กลายเป็นที่ดินจัดสรรเพื่อปลูกสร้างบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ทำเลใกล้เมือง ราคาเริ่มต้น 12,000 บาทต่อตารางวาเป็นสินค้าขายดีที่สุด โดยโครงการที่มีความโดดเด่นและระดับราคาไม่สูงมากได้รับความสนใจค่อนข้างมาก รองลงมาเป็นโครงการในเครือสมาร์ทแลนด์กรุ๊ปซึ่งเน้นความคุ้มค่าของโปรดักต์ รวมถึงเอสซี แอสเสทฯ ที่นำแบรนด์ระดับกลาง-บนร่วมงานก็ขายดีเช่นกัน”

นายบริสุทธิ์กล่าวว่า การซื้อขายโครงการภายในงานสอดคล้องกับการเก็บข้อมูลจากการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่ม  ตัวอย่างผู้เข้าชมงานประมาณ 800 คน ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่มีความสนใจที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมมากที่สุด รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ โดยงบประมาณในการซื้อตั้งไว้ที่ ระดับ 1-3 ล้านบาทมากที่สุด

ในงานครั้งนี้เรายังได้จัดโซนพิเศษซึ่งนำเสนอนิทรรศการข้อมูลสำคัญ เช่น แผนที่ระบบโครงการข่ายคมนาคมใหม่ๆ อาทิ รถไฟฟ้า ทางด่วน สนามบินรวมถึงข้อมูลราคาประเมินที่ดินใหม่ที่กรมธนารักษ์ เตรียมประกาศใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2563 ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นอย่างมาก สำหรับที่ผู้สนใจข้อมูลนิทรรศการดังกล่าวขณะนี้ยังสามารถดาวน์โหลดได้ที่ https://bit.ly/2HnByoV นอกจากนี้บริษัท โฮมดอทเทค จำกัด

ซึ่งเป็นบริษัทในเครือโฮมบายเออร์กรุ๊ปได้ร่วมมือกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดสร้างโมเดลจำลอง “AI ค้นหาบ้านในงาน” เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ๆ ค้นหาที่อยู่อาศัย ที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำสูงกว่าการค้นหาด้วยการใช้ประสบการณ์ส่วนตัวแบบเดิม โดยโมเดลจำลองนี้เป็นการย่อส่วนจากแอป Homehop ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคสามารถดาวน์โหลดมาทดลองใช้ได้แล้วเช่นกันทั้งทาง App Store และ Google Play