Tela Thonglor, By Condoman

เมื่อวันก่อนผมได้มีโอกาสไปงานเปิดขายรอบ vip ของโครงการ TELA THONGLOR  เลยจะมาแชร์ให้ทุกคนฟังครับ 11100015_1590688711171176_7724747042014775490_o โครงการ TELA  มี concept การขายว่า canvas of life ประมาณว่า ภาพแห่งชีวิต ใครเล่าขีดเขียนขึ้นมา วาดให้คนได้พบกัน จวบจนวันที่ร่ำลา ระบายความตรึงตราหัวใจ ภาพแห่งชีวิตใครจะขีดเขียนต่อไป เมื่อคนนึงนั้นหายไป แต่อีกคนยังหายใจ ด้วยความอาลัยอยู่ตรงนี้……. ไม่ใช่ !!!! นี่มันเพลงข้างหลังภาพ ภาพแห่งชีวิต คือสิ่งที่เราๆซึ่งเป็นเจ้าของภาพนั้นเป็นคนวาดขึ้นมา การได้ครอบครองคอนโด ultimate series  แบบ TELA THONGLOR จะเป็นส่วนเติมเต็มความสวยงามให้ภาพวาดแห่งชีวิตของคุณ อะไรประมาณนี้มากกว่า ……..ซึ่ง TELA THONGLOR คู่ควรกับคำว่า canvas of life นี้ครับ ทำเลที่ตั้ง ตั้งอยู่ที่ร้านต้นเครื่องเก่า ริมถนนทองหล่อ โดยเป็นแปลงที่ดินหัวมุม ที่ดินด้านนึงติดถนนซอยทองหล่อ 13  ใครยังนึกไม่ออกก็ต้องบอกว่า ข้าง starbucks ที่เป็นร้านแบบ stand alone ของดี เอกลักษณ์ของทองหล่อครับ  ตรงข้ามถนนซอยทองหล่อ 13 จะเป็นตึก homeplace ที่พ่อแม่หลายคนคงรู้จักกันดี มีโรงเรียนหลายแห่งสำหรับลูกน้อยไปเปิดที่นั่น 5555 ผมไปบ่อยเลยครับ
Screen Shot 2015-04-01 at 6.36.35 AM
ซอยทองหล่อ 13 เป็นหนึ่งในซอยเอกของซอยทองหล่อทั้งหลาย คือเป็นซอยที่เชื่อมตรงดิ่งไปยังซอยสุขุมวิท 49 นั่นคือวิ่งตรงดิ่งไปยังโรงพยาบาลสมิติเวช โรงพยาบาลขวัญใจชาวญี่ปุ่นกับชาวไทยผู้มีอันจะกิน วิ่งตรงดิ่งจริงๆนะครับ สุดซอยทองหล่อ 13 จะเจอตึกสมิติเวชกระแทกตาเต็มๆ ทำเลของ TELA  ยังใกล้ J avenue ใกล้ community mall อีกหลายแห่งในบริเวณนั้น ทั้งเสร็จแล้วและกำลังสร้าง ด้านหลังที่ที่ดินติดกับโครงการก็เป็น community mall ชื่อ seen space เรียกได้ว่าทำเลที่ตั้งนี่คือ thonglor midtown แท้ๆกันเลยทีเดียว  ไกลรถไฟฟ้าซักหน่อย แต่ระดับนี้แล้วคงไม่เดินไปรถไฟฟ้ากันบ่อยครั้งหรอก อยู่ท่ามกลางแหล่ง lifestyle มีหลายคนถึงกับบอกว่า ทองหล่อแท้ๆ คือช่วงกลางซอย ทำเลที่ดีที่สุดของทองหล่อคือแถวนี้ (ปล. celeb ที่เคยกล่าวคำพูดนี้ไว้ กำลังจะเปิดตัวคอนโดระดับเดียวกัน เยื้องๆกันพอดีๆ 555  )  ผมเห็นด้วยนะครับ ระยะจากรถไฟฟ้าไม่ใช่ประเด็นจริงๆ ถ้าสภาพแวดล้อมของโครงการเป็นที่สุดอยู่แล้ว และแถวนี้คือสิ่งที่สร้างชื่อให้ทองหล่อไม่เหมือนที่อื่น  ซึ่งในอนาคตถ้าบังเอิญ รถไฟฟ้าสายสีเทาได้มีโอกาสสร้างมาจริงๆ ทำเลที่ตั้งของ TELA ก็จะถือว่าใกล้รถไฟฟ้าเอามากๆอีกด้วย (สถานีทองหล่อ 10 )
Screen Shot 2015-04-01 at 7.02.33 AM Screen Shot 2015-04-01 at 7.01.59 AM
TELA มีทั้งหมดแค่ 88 ยูนิต ที่ดินเกือบๆจะ 2 ไร่  ห้องเริ่มต้นที่ชั้น 6 แต่อยู่ในระดับความสูง 2x เมตรจากพื้นดิน สูงพอสมควรเลยครับ คือพ้นอาคาร lowrise  8 ชั้น ที่ถูกควบคุมความสูงไว้ที่ 23 เมตร TELA มีความสูงเพดานตามมาตรฐานคอนโดระดับนี้ที่ 3.1 – 3.3 เมตร แล้วแต่ชั้น TELA มีขนาดห้องเริ่มต้นที่ 89 ตรม 2 bedroom type ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 280K  ซึ่งเรียกได้ว่าแพงขึ้นมาจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่จะเริ่มต้น 230K พอสมควรเลยครับ ต้องยกเครดิตให้ CBRE ผู้จัดจำหน่าย ที่ฉวยโอกาสตลาด ultimate luxury กำลังบูมสุดๆ สร้างกำไรให้แก่เจ้าของโครงการได้มากขึ้น และทางด้านกลุ่มลูกค้าในระดับนี้ ก็ยังรับกันได้ แหม๊!!!!  ก็ดันมีข่าวหลุดมาว่าแสนสิริจะเปิดตัวที่ 300k++ อะจิ อีกทั้ง HQ ตอนนี้ตลาดรีเซลล์ห้อง วิ่งไปแตะๆ 200K แล้วครับ
10392394_1592692197637494_8976000976768975273_n
ภาพโมเดลด้านหน้า
10428617_1592692230970824_9041586356012234122_n
ด้านข้างมุมมองจากทิศเหนือ ฝั่งนี้สวยมาก เสียดายมีตึก homplace บังความสวยไปเยอะ
10422267_1592692270970820_6507546016607199126_n
ด้านข้างมุมมองจากทิศใต้
11020480_1592692247637489_772264696666577979_n
โมเดลด้านหลัง
แต่ไม่ใช่ว่าราคาจะเริ่มต้นที่ 280K จริงจังนะครับ คือทาง  GAYSORN ได้เปิดขายรอบแรกสุด ให้กับกลุ่มเครือญาติ ตระกูลศรีวิกรม์ไปแล้ว ในราคา discount  พิเศษ (ผมได้ยินว่าเริ่มประมาณ 240K ) อันนี้ไม่ว่ากันครับ เป็นผมจะให้ราคาทุนเลยด้วยซ้ำ  ^^
เนื่องจาก  TELA เป็นอะไรที่ exclusive จริงๆ ทาง GAYSORN จึงไม่ welcome ระยะสั้นนักลงทุนซักเท่าไหร่ คือมีกฏว่าห้ามเปลี่ยนชื่อก่อน มกราคมปีหน้า และต้องใช้เงินก้อนทำสัญญาถึง 10%  นั่นคือห้องเริ่มต้น  28 ล้าน ต้องมีเงินก่อน 2.8 ล้านไปลงไว้ เกือบๆ 1 ปีเต็มๆ ถึงจะซื้อขายได้ ตัดกลุ่มนักลงทุนระยะสั้นไปได้เยอะ และจะทำให้เกิดการซื้อเพื่อเป็นสมบัติและครอบครอง ไว้อยู่จริงเป็น canvas of life ขึ้นมา 88 ยูนิตเท่านั้น ทำให้ยอดขายของ TELA วิ่งไปเร็วมาก ก็ขายแค่ 44 ยูนิตก็ 50% แล้ว ซึ่งตอนนี้ได้ข่าวว่าแตะๆ 50% แล้วจริงๆ TELA เป็นตึกสูงเน้นกระจกที่ดู Timeless เรียบและหรูมาก คุณชาญ ศริวิกรม์ บอสใหญ่ได้เข้ามาดูแลงาน design ด้วยตัวเองเลยนะครับ ไว้ใจได้เรื่องรสนิยม แปลนตึกไม่ซับซ้อนแต่ลงตัว มี lift core อยู่กลางตึก ห้องขนาดใหญ่เรียงตัวโดยรอบ สระน้ำและ facility อยู่ที่ชั้น 5 เค้าบอกว่าอยากจะสร้าง value ให้ห้องชั้นบนๆที่ขายราคาแพงมากๆ จุดนี้ผมว่าเป็นข้อเสียของ TELA นะครับ เนื่องจากสระนี้จะถูกส่องได้จากตึก homeplace และลูกบ้านผู้ใช้สระก็จะมีมุมมองที่ไม่เป็นส่วนตัวนัก ว่ายน้ำไปมีคนอื่นจ้องมองเข้ามา กระอักกระอ่วนอ่ะ ถ้าเป็นผม
11082596_1590689811171066_4438277909293014497_n
ตัวคอนโดยิ่งชั้นสูง ห้องยิ่งใหญ่ขึ้น แต่ขนาดพื้นที่ของชั้นจะเล็กลง ห้องใหญ่ๆนี่ได้เป็นลิฟท์ส่วนตัวกันเลย  นอกจากนี้ยิ่งสูงเพดานยิ่งสูงขึ้นครับ เพิ่มทีละ 10 เซน
11081164_1592692294304151_4682533448829101065_n
ตัวอย่างแปลนห้อง
10701989_10102993109241890_6939271404096119709_n
การออกแบบ landscape เน้นพื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อกับภายนอก มีบ่อน้ำขนาดใหญ่ รั้วโครงการที่ไม่สูง หลายๆช่วงไม่มีรั้วเลยด้วยซ้ำ   บางทีถนนทองหล่อ และ ซอยทองหล่อ 13 รถติดหยุดนิ่ง ผมกลัวว่าควันเสียและเสียงรถ อาจจะรบกวนผู้พักอาศัยได้นะครับ ด้านถนนซอยทองหล่อ 13 ที่แต่เดิมไม่มีฟุทบาท GAYSORN ได้ตัดที่ดินริ้วนึงทำเป็นฟุทบาทให้ ผู้สัญจรแถวนั้นสะดวกขึ้น และให้ผู้อยู่อาศัยใช้เดินทางไปยัง ร้านค้าต่างๆในซอยได้ง่าย และ ปลอดภัยขึ้น (ผู้รู้บางท่านบอกผมว่า  งานนี้ win win  GAYSORN ก็ได้สร้างตึกมีพื้นที่ขายมากขึ้นด้วย ) ตัวตึกคอนโด TELA ร่นจากถนนใหญ่ไป 3x เมตร สร้างความรู้สึก GRANDให้โครงการ
11079522_1592692100970837_5405420932204041811_n
11084307_1592692144304166_4302559673488700076_n
วิวโดยรอบของ TELA 
ด้านทิศเหนือชั้นล่างถึงกลางจะโดน homeplace บล็อกวิวระยะประชิด แต่ห้อง TYPE ที่หันด้านนี้เป็นห้องแบบกระจก 2 ทิศ  ทิศตะวันออกหันหาถนนทองหล่อ วิวโล่งตอนนี้ แต่อนาคตจะมี คอนโดสูงของแสนสิริที่ The Grass บังไปส่วนนึง และที่ดินข้างเคียงอาจขึ้นตึกสูงได้ แต่ถนน 6 เลนของทองหล่อเมื่อรวมกับระยะร่นของ TELA เอง ระยะร่นของฝั่งตรงข้าม ก็มากพอที่จะไม่ทำให้วิวด้านนี้อึดอัดนัก ต่อให้ worsecase ฝั่งตรงข้ามมีการสร้างตึกสูงขึ้นมา ทิศใต้หันหา starbucks และ community mall ใหม่ที่กำลังสร้าง วิวฝั่งนี้ผมว่าค่อนข้างจะปลอดภัย โอกาสน้อยที่จะโดนบล็อกวิว ทีเด็ดคือทิศตะวันตก วิวโล่งตลอดชาติ ซอยทองหล่อ 13 ขึ้นตึกสูงไม่ได้เพราะเขตทางไม่ถึง 10 เมตรแต่ด้านนี้ติดกับ seen space ที่มีบรรเลงดนตรีแบบ outdoor ถึงดึกดื่น อาจมีผลกระทบด้านเสียงบ้าง GAYSORN คิดถึงผลกระทบด้านเสียงที่อาจเกิดขึ้น ทั้งเสียงดนตรี เสียงรถ จึงจัดกระจก double glazed เป็น spec ของโครงการ กันเสียงกันความร้อนได้ดี (แต่ก็เป็นสิ่งที่คอนโดราคานี้ควรจัดให้อยู่แล้วนิ ^^ )
1378646_1592692320970815_9091303300317102585_n
ตัวอย่างวิวทิศตะวันตกชั้นล่างๆ
1517812_1590692247837489_6020159861875324186_n
สรุปเลยนะครับ สำหรับคนที่มีกำลังซื้อสูง ที่มองหาคอนโดดีๆ ที่มีขนาดที่ใหญ่พอจะอยู่ได้ อยู่ในทำเลที่ดีที่สุดด้าน lifestyle แห่งนึงในสยามประเทศ คอนโดที่มั่นใจได้ว่าสังคมจะดี ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว ที่จอดเพียงพอ 15x%  คิดจากจำนวนยูนิต ไม่ว่าจะถือเป็นทรัพย์สิน หรือเพื่ออยู่เอง ที่นี่เติมเต็มภาพแห่งชีวิตคุณได้ครับ ตอบโจทย์ !!!!!  ถ้าจะลงทุน ตอนนี้อาจช้าไปซักนิด เพราะราคาได้ปรับขึ้นมาแล้วอย่างน้อย 3% แต่ระยะยาวเชื่อว่าด้วยความ rare ยูนิตไม่มาก ตอนตึกเสร็จน่าจะขายต่อได้กำไร หลายล้าน ปล่อยเช่า หุหุหุหุหุ  อันนี้ผมว่าไม่ไหวอ่ะ ไม่มีทางคุ้ม ต่อให้ 89 ตรม ได้เดือนละ 100K เลยอ่ะ คิดเป็น yeild แบบไม่หักค่านายหน้า ค่าส่วนกลางก็ยัง ไม่คุ้มอยู่ดี เลยคำว่าซื้อคอนโดปล่อยเช่าแล้วคุ้มไปนานแล้วครับ ราคาคอนโดใหม่ๆสมัยนี้ จะขึ้นค่าเช่าแรงมากๆ ก็ไม่น่าจะไหว quattro HQ keyne ashton38 ที่spec ถือว่าด้อยกว่าไม่มาก และบางตัวผมว่าทำเลดีกว่า ตึกสวยกว่า ด้วยซ้ำ  มีต้นทุนที่ถูกกว่ากันเย๊อะ พูดเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย 20989_1592692174304163_6171230169257490784_n   11079046_1590977334475647_6100339884844524002_n

The Em District ….The Park District ….. The PARK 24 Phase II by Condoman

หลังจากที่รอกันมานานวันนี้ 27 มีนาคม Emquartier หรือที่เรียกกันว่า เอมโพเรียม2 ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ การมาของ Emquartier ได้กระตุ้นให้เกิดการพัฒนารอบๆ สถานีพร้อมพงษ์ The EM district station โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คอนโดมิเนียมราคาแพงถึงแพงมาก ผุดขึ้นมาอย่างมากมาย ซอยเด่นในย่านนี้มีอยู่ 2 ซอย ที่ศักดิ์ศรีพอๆกัน คือ ซอย39 พี่ใหญ่ฝั่งเลขคี่ และ ซอย 24 พี่ใหญ่ฝั่งเลขคู่ ทั้งสองซอยมีขนาดกว้างกว่า 10 เมตร ทำให้ที่ดินในซอย สามารถขึ้นตึกสูงได้  แล้วแต่คนนะครับว่าจะชอบ ฝั่งไหนมากกว่า ….เลือกเอา ว่าจะอยู่ฝั่ง Em1 หรือ Em2 วันนี้ผมจะเขียนถึงฝั่งเลขคู่ เขียนถึงซอย 24  ซอยที่ตั้งของ คอนโดที่รอคอยการเปิดตัวของ Emquartier อย่างใจจดใจจ่อที่สุด เพราะเค้ากั๊กเฟส 2 ไว้ มาขายในช่วง emquartier เปิดตัว พร้อมๆกับราคาที่ ทะยานฟ้าขึ้นมาจนทะลุ 200k …..Park 24 นั่นเองงงงงงงงง
10958091_1569896779917036_2564152821040567543_n
อย่างที่บอกนะครับ ซอย24 เป็นพี่ใหญ่ของฝั่งเลขคู่ โดยมีซอยลูกน้อง คือ ซอย 22 กับ 26 ทั้งสามซอยวิ่งทะลุเชื่อมต่อกันได้ แต่จะไม่ค่อยสะดวกเท่ากับฝั่งเลขคี่ เพราะทางเชื่อมจะอยู่ท้ายซอย ค่อนๆไปทางพระราม 4 แถมบางทางยังเป็น 1 way
การที่ PARK 24 มีที่ดินใหญ่มากจน ติดถนนซอยทั้ง 22 กับ24 ช่วยอำนวยความสะดวกและ กำจัดข้อเสียด้านการเชื่อมต่อระหว่างซอยไปได้แทบจะทั้งหมด เริ่มเลยละกัลลล  สถานี bts พร้อมพงษ์ เป็นสถานีสุด prime ที่ใครๆก็ใฝ่ฝันอยากจะมีคอนโดที่พักอาศัยที่นี่ แน่นอน The EM district   … ที่ประกอบไปด้วย Emporium Emquartier Emsphere เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด emsphere+context+aerial ภาพ render Emsphere ออกแบบโดยพี่ด้วง DBALP emsphere+sukhumvit+view+rev   Screen Shot 2015-03-27 at 12.01.06 PM The EM District  3 ห้างนี่อลังการรรรรรร จริงจัง ขนลุกเมื่อจินตนาการถึงตอนเปิดใช้งานครบทุกห้าง
ตอนนี้ Emporium ก็ปรับปรุงใหม่ดูดีมาก 
13102_1590079164565464_4506433058704633262_n การเชื่อมต่อของ emporium ไป emquartier อาศัยสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์เป็นหลัก
22301_1590079127898801_1085822531445927335_n
นอกจากนี้พร้อมพงษ์ยังเป็นแหล่งรวม lifestyle ทั้งโรงแรม 5 ดาว ร้านอาหาร ร้านนั่งชิวววว supermarket  โดยแถวนี้เป็นทำเลที่คนญี่ปุ่นอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากที่สุด เป็น little japan กันเลย แม่บ้านญี่ปุ่นจูงลูกน้อยหน้าตา จิ้มลิ้ม น่ารัก เดินกันขวักไขว่ (55555 ผมหมายถึงเด็กนะครับ อย่าเข้าใจผมผิด ) ไม่เพียงเท่านี้ สิ่งที่เป็นจุดเด่นอีกอย่างของพร้อมพงษ์ ที่สถานี prime อื่นๆไม่มีก็คือ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ สวนเบญจสิริ เรียกได้ว่า ครบทุกสิ่งอย่าง ทำให้ราคาที่ดินของย่านนี้ ถีบตัวแพงที่สุดในประเทศเรียบร้อยโรงเรียนญี่ปุ่น ซึ่งผู้ที่สร้างสถิติก็คือ พี่ PARK24 ผู้นี้นี่เองงงง ในราคาเกิน 2 ล้านต่อ ตรว (เป็นการซื้อที่เพิ่มเติมในฝั่งซอย 24 เพื่อเปิดทางให้ใกล้ BTS เพิ่มมูลค่าโครงการมหาศาล) สวนเบญ นี้อยู่ข้างๆเอมโพเรียม อยู่ติดรถไฟฟ้า และในอนาคตจะเป็นสวนที่เชื่อมต่อ Emporium กับ Emsphere เข้าด้วยกัน ตามภาพนี้
13059_1590079411232106_6021796850102334789_n
สวนเบญ คือปอดของชาว mid sukhumvit เป็นที่ออกกำลังกาย เล่นกีฬา พักผ่อน และยังเป็นสวนที่มีเครื่องเล่นเด็กที่น่าเล่นมากกกก   พ่อแม่หลายคู่ ชอบพาลูกน้อยมาเล่นกันที่สวนนี้ เรียกว่าบรรยากาศดีสุดๆ
10403622_1590079114565469_9218718458611202996_n
ผมก็ชอบพาลูกมานะครับ ลูกผมก็ชอบที่นี่ เล่นเครื่องเล่นเสร็จ อากาศร้อนเหงื่อออก ก็ไปเดินตากแอร์ต่อที่ เอมโพเรียม กินหนมกินน้ำกินข้าว ตามอัธยาศัย  ตอนเช้าตรู่ ตอนเย็น ตอนกลางคืน ก็มาออกกำลังกายวิ่งเล่นท่ามกลาง 3 ห้าง และหมู่โรงแรม 5 ดาวได้
ซอย 24 เป็นซอยหลักของฝั่งนี้ สองข้างทางเต็มไปด้วยตึกสูง โรงแรม 5 ดาว คอนโดมิเนียม เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ ช่วงหลัง landlord ขึ้นแต่โรงแรมครับ คงเสียดายทำเลไม่อยากขาย ทำให้คอนโดมิเนียมที่จะหาซื้อกันได้ต้องเถิบเข้าไปลึกหน่อย แต่อยู่ในระยะเดินได้คือ ประมาณ 600 เมตรจากรถไฟฟ้า จนถึง 900 เมตร ต้นซอย 24 มีทางเข้าห้างเอมโพเรียมอีกทางนึงด้วยครับ และยังมีซอยเล็กๆแยกย่อยไปที่สวนเบญ ชื่อซอยเมธีนิเวศน์ ซอยนี้ผมชอบใช้บริการครับ สะดวกดี Screen Shot 2015-03-26 at 4.43.34 PM อยากให้ ทุกคนลองมาเดินดูนะครับ ว่า 600 เมตรเนี่ยไม่ไกลเลย เพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยตึกสูง มีฟุทบาท มีร้านค้า เวลาอยู่บน บีทีเอส มองมายังตำแหน่งโครงการเมื่อแล้วเสร็จ จะเห็นตึกเด่นมาก น่าจะประมาณนี้ (ขออภัยใส่แค่ 2 ตึก) เห็นปะว่าไม่ไกลจริงๆ
1377367_1381516165421766_1657846379_n
ที่ดิน park 24 ติดถนนสองด้าน มีทางออกด้วยกัน 3 ทาง คือทางฝั่งซอย 24 เป็นทางเข้าออกร่วมกันทั้ง 2 เฟส ….ฝั่งซอย 22 จะแยกเป็น 2 ทาง เฟสใครเฟสมัน คั่นกลางด้วยบ้านใหญ่ไฮโซของเจ้าของที่ดินด้านหน้าฝั่งซอย 24 เดิม ที่ขายไปให้ park 24 นี่แหละ
10385363_1569894509917263_4456121181550423871_n
มุมมองจากซอย 22
ฝั่งซอย 22 สภาพแวดล้อมไม่ค่อยโอเคนะ แต่ยังดีมี 7-11  อยู่แถวๆหน้า Park 24 เลยครับ บางตึกที่ลึกจากฝั่งซอย 24 ก็สะดวกเวลาออกไปหาของกิน หาน้ำดื่ม ไม่ต้องเดินไกลมาก 11083898_1590167354556645_2897572999988443958_n ปากซอย 24 คือที่ตั้งของ emporium ปากซอย 22  ก็เป็นที่ตั้งของ emsphere ดังนั้น park 24 ที่เข้าออกได้ทั้งซอย 22 กับ 24 ก็คือคอนโดในซอย ที่ปากซอยเป็นห้างอย่างแท้จริง อันนี้คือที่ดิน emsphere ปากซอย 22 ครับ เดินจาก park 24 มาประมาณ 600 เมตรเช่นเดียวกัน10464324_1590079357898778_4086273588126837546_n 10325167_1449240128649369_1984457282195242159_n ท้ายซอยของ 22 กับ 24 จะออกไปพระราม 4 แถวนั้นก็เป็นแห่ง lifestyle เช่นเดียวกัน มีทั้ง starbuck macdonald และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังใกล้ k village community mall เปี่ยมรสนิยม ที่อนุญาตให้พาน้องหมา น้องแมว ไปเดินเล่นได้ ถ้าเป็นคนรักสัตว์ไปทีไรก็ วี๊ดว๊าย มีความสุข (ลูกสาวผมนี่ ชอบมาก กินไอสครีมรส มินท์ชอคชิปของ baskin robbins ไปดุน้องหมาไป คุณเธอว์บอก ฟินมาก) ช่วงนี้ผมซื้อจักรยานพับได้มาปั่น ผมว่าฝั่งซอยเลขคู่จะปั่นยากกว่าซอยเลขคี่ แต่ก็โอเคนะครับ ค่อนข้างปลอดภัยใช้ได้  ทาง  คุณธงชัย ceoของ park24 ก็เป็นคนรักจักรยาน เค้าจึงเตรียมพร้อมจัดจุดจอดจักรยาน มากพอ ให้ผู้พักอาศัยเพิ่มเติมจากที่โฆษณาโครงการไว้ด้วยครับ คร่าวๆแค่นี้ก่อนนะครับ ขอตัวไปเดินเล่น emquartier ก่อน 10505310_1590490514524329_6330696490686175105_n   11091222_1590490877857626_9205910598514472311_n   11081208_1590490827857631_2813307994795723853_n   10308091_1590490777857636_5808909435693155606_n   18494_1590490797857634_8127679390400472190_n   11024603_1590490757857638_4259583843992335276_n   997054_1590490697857644_1381220894053102908_n   ปล .มีโมเดล park 24 ครบทั้ง 5 ตึกตั้งโชว์ด้วยนะครับ  11071737_1590490654524315_550822586806860297_n

คำแนะนำเบื้องต้นก่อนเลือกซื้อ Ashton Chula – Silom

วันเสาร์ที่ 21 นี้ก็จะเป็นวันที่ทางอนันดาฯให้ลูกค้าเก่า AMC จองห้องของโครงการคอนโดเปิดใหม่ทั้ง 3 โครงการครับ แน่นอนที่สุดว่าโครงการที่มีกลุ่มนักลงทุน และนักเก็งกำไรสนใจมากที่สุดก็คือ Ashton Chula-Silom ครับ..ในตอนแรกผมก็กะว่าจะไม่เขียนลง detail อะไรเกี่ยวกับโครงการนี้ เพราะว่ากระแสมาแรงเหลือเกิน ถึงขั้นมีการเปิดหน้าเพจ และตั้งกระทู้ขายห้องรีเซลรอกันแล้ว แถมสื่อทุกสำนักก็กระหน่ำลงรายละเอียดไปจนหมดไส้หมดพุงแล้ว…แต่ก็ยังมีแฟนคลับหลายๆคนได้สอบถามมาว่า ไม่คิดจะเขียนอะไรเกี่ยวกับโครงการนี้บ้างเหรอ? เอาเป็นว่าผมขอเขียนในลักษณะที่เป็น buying tips ให้พิจารณาก่อนที่จะวู่วามจองห้องไป แล้วกันนะครับ (เข้าใจว่าในวันงานหลายๆคนก็คงจะสับสนอลหม่าน ไม่มีสติในการเลือกห้องครับ บางคนจิ้มไปอย่างงงๆ แล้วก็เดินมึนออกมาโดยที่ยังไม่ทันได้เห็นแปลนห้อง และราคาห้องที่เหลือด้วยซ้ำ) ที่ผมจะเขียนด้านล่างเป็นแค่ความเห็นส่วนตัวนะครับ สำหรับคนบางคนถ้าอยากได้อยู่แล้วและเชื่อมั่นในแบรนด์ + โลเคชั่นก็กำเงินเข้าไปเลือกได้เลยแบบไม่ต้องอ่านก็ได้ครับ แต่ถ้าคนไหนคิดเยอะหน่อย เพราะว่าต้องการซื้อเพื่อลงทุน ก็ขอให้ลองอ่านผ่านๆดูตามปัจจัยที่ผมยกขึ้นมานะครับ อย่างแรกเลยนะครับ เราลองมาดูสัดส่วน Unit ทั้งหมดของโครงการ Ashton Chula – Silom กันครับ ratio (2) PLAN (2) ถ้าดูตามนี้จะเห็นได้ว่าห้องที่มีเยอะที่สุดจะเป็นห้อง 1 ห้องนอน ขนาด 34.5 ตารางเมตรครับ ซึ่งกินสัดส่วนกันไปถึง 38.39% แถมยังเป็นห้องขนาด 1 นอนที่ใหญ่ที่สุดครับ เพราะฉะนั้นห้อง Type นี้หากใครคิดจะลงทุนระยะสั้น-กลาง อย่างน้อยต้องแข่งกับเจ้าของห้อง type นี้กันเองถึง 453 ห้องครับ และยังต้องโดนห้อง 1 นอนทิศตะวันออก (30.5 – 32.5 ตรม.) ที่ราคาต่อห้องต่ำกว่ามาชิงปาดหน้าเค้กแน่นอนครับ ห้อง Type ที่มีน้อยที่สุดแน่นอนครับว่าต้องเป็นห้อง 2 ห้องนอน ซึ่งมี 2 type คือ 2 นอน 2 น้ำ (63 – 66 ตรม. และ 2 นอน 1 น้ำ (53 – 57.5 ตรม.ครับ) สัดส่วนรวมกันแค่ 13.04% เท่านั้น งวดที่แล้วตอนขาย Ideo Q Chula ผมเห็นสัดส่วน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำน้อยกว่านี้อีกครับ และที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ ไม่สามารถหาซื้อห้องโครงการมือหนึ่งได้เลยครับในวันเปิดตัวที่พารากอน 2 ปีก่อน (จำได้แม่นว่าเคยเดินเข้าไปถามหาห้องรีเซล เจอเจ้าของห้องบวกราคาไปเกิน 1 ล้านบาท แต่ระหว่างที่ผมถามอยู่ก็มีคนมาซื้อไปเฉยเลยครับ!!!) เพราะฉะนั้นงวดนี้ผมว่าก็ออกมาอีหรอบเดิมอ่ะครับ ว่าห้องสองนอน สองน้ำ โดยเฉพาะ Type A1 โซนสูง นี่จะเป็นห้องที่คิวลำดับแรกๆเลือกจิ้มก่อนแน่นอนครับ เช่นเดียวกับสองนอนหนึ่งน้ำ Type B1  (ถ้าลำดับแรกๆซื้อลงทุนนะ) ห้องสตูดิโอ type เล็กสุดน่าจะปล่อยง่ายกว่าใช่หรือเปล่า? มีนักลงทุนหลายคนครับที่เวลาเลือกห้องเพื่อขายเร็ว ก็มักจะเลือกโดยใช้หลักการที่ว่าห้อง Type ที่ราคาต่อยูนิตต่ำที่สุดจะมีโอกาสในการขายออกก่อนมากที่สุด ในแปลนนี้จะมีคือห้องสตูดิโอขนาด 24.5 – 26 ตารางเมตรครับ ซึ่งจะวางค่อนมาทางแนวทิศตะวันออกของตึก แต่ระเบียงกับหน้าต่างหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ราคาต่อยูนิตถ้าคิดที่ประมาณตรมละ 190K ก็จะอยู่ที่ 4 ล้านปลายๆครับ แถมสัดส่วนจำนวนห้องก็มีแค่ราวๆ 20.85% หรือ 246 ห้อง ด้วยความคิดที่ว่าห้อง Type นี่แหละราคาถูกน่าจะได้กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อในฐานกว้างขึ้น แถมถ้าปล่อยเช่าก็น่าจะได้ competitive yield แต่ช้าก่อนครับ อย่าลืมว่าห้อง Type นี้ เป็นห้องโคตรฮิต ที่มีจำนวนเยอะมากในโครงการข้างเคียงอย่าง Ideo Q Chula ครับ (มีตั้งแต่ 21 – 24 – 28.5 ตรม.เลย) และตอนนี้ราคาห้องรีเซลที่ Ideo Q Chula ก็เห็นประกาศขายกันระหว่างตรมละ 155 – 170K ครับ….ผมคิดแบบง่ายๆเอาห้อง 1 นอนขนาด 28.5 ตรม. ที่ Q Chula มาแข่งกันขาย + ปล่อยเช่ากับห้องสตูดิโอขนาด 26 ตรม.ที่ Ashton Chula – Silom จะได้ราคาแข่งกันที่ 4,845,500 (Ideo Q Chula) และ 5,200,000 บาท (Ashton Chula – Silom) ครับ โดย owner Q Chula ยังได้ option ตัดราคาในส่วนของห้องขนาด 24 ตรม.หน้ากว้าง ที่ขายกันที่ราคา 3 ล้านปลายถึง 4 ล้านครับ (แปลนเดียวกันแต่สังเกตเห็นในแปลนว่าของ Ashton Chula – Silom ไม่ได้ตีฉากกั้นห้องนอนและห้องครัวให้ครับ) แต่ถ้าใครติดใจ Type นี้จริงๆ ผมแนะนำว่าให้เลือกชั้นเตี้ยๆครับ เพราะแว่วๆมาว่า Landscape ของโครงการ Ashton Chula – Silom ที่วางคอนเซปท์และรับผิดชอบทั้งหมดโดย TROP นี่จัดหนัก จัดเต็มเป็นสองเท่าของโครงการ Ashton Asoke ครับ โดยเฉพาะสวนชั้น 7 ที่เราเห็นใน perspective ว่ามี Green Mountain ขนาดใหญ่ยักษ์เป็นป่าอเมซอนอยู่รับ (เข้าใจว่าทาง TROP ใช้ Concept ว่า Botanic Cloud ครับ) ตาม Plan คือห้องชั้น 7 จะเหมือนมีระเบียงส่วนตัวที่เปิดออก มาเจอกลุ่มต้นไม้ใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำตึกครับ และห้องที่อยู่ระหว่างชั้น 7 –10 กว่าๆน่าจะได้ รับอานิสงค์จากกลุ่มต้นไม้นี้ไปเต็มๆครับ (อานิสงค์นี้รวมถึง type 34.5 ตรม.เช่นกันครับ ซึ่งผมคาดว่าโซนเตี้ยห้องแนวสองข้างขนาบสวนน่าจะขายดีมาก) ต่อมาเรามาดูวิวและระยะห่างของห้องแต่ละมุมกันครับ ผมเอา master plan ของโครงการมาวางลงแบบลวกๆใน google map ก็จะได้ประมาณ ด้านล่างนี้ครับ (scale มันไม่เป๊ะนะครับ เอาไปใช้ดูเป็นแนวระยะสายตาเล็งทิศคร่าวๆได้อย่างเดียว) คอนโด High Rise ระดับ Ultra Luxury วิวนี่สำคัญมากนะครับ ซึ่งถ้าดูโดยภาพรวมจะเห็นได้ว่าโครงการ Ashton Chula – Silom นั้นมีวิวที่ค่อนข้างเป็น defect ครับ โดยเฉพาะทิศตะวันตกเฉียงเหนือที่ชนทั้งวัดหัวลำโพง ซึ่งมีคิวทั้งไทยและจีนเต็มยาวตลอดปี (ซึ่งแน่นอนว่าคนที่เชื่อในเรื่องโชคลาง ฮวงจุ้ย คงเบือนหน้าหนีทิศนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นชั้นไหนครับ) และทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่โซนชั้นเตี้ยๆจะโดนกำแพงเมืองจีน เอ้ย..โรงแรมมณเฑียรบังอยู่สองตึกครับ ตึกนึงประมาณ 8 ชั้น และอีกตึกนึงประมาณ 20 ชั้น ในระยะประชิดมาก!!! อึดอัดโคตรๆครับ ASHTON-CHULA-SAM-YAN (1) ทีนี้เราลองมาดูภาพวิวกันครับ (ขอบคุณเพื่อนผู้ใจดีที่ไม่ประสงค์ออกนามในการเอื้อเฟื้อภาพครับ) เอามาจากระยะประมาณชั้น 10 ต้นๆ ฝั่งวัดหัวลำโพง ห้องที่รับอานิสงค์เต็มๆน่าจะเป็นห้องสองนอน สองน้ำ Type A2-23, D1M-1 -18 และแฉลบปลายหางตาเข้าห้อง 34.5 ตรมในแถบทิศตะวันตกเฉียงใต้ครับ DCIM100GOPROG0016557. ขณะเดียวกันฝั่งตะวันออกทั้งเฉียงเหนือและเฉียงใต้ห้องที่ไม่พ้นโรงแรมมณเฑียรชั้น 20 ก็จะได้วิวประมาณนี้ครับ DCIM100GOPROG0016544. ฝั่งทิศเหนือแน่นอนว่าจ๊ะเอ๋กับตึก Chamchuri Square ครับ แต่โซนเตี้ยชั้น 7 – 10 นั้นได้รับอานิสงค์จากกลุ่มต้นไม้ใหญ่ทั้งบนชั้น 7 และหน้าโครงการเช่นเดียวกันครับ ซึ่งน่าจะเป็นตัวกรองมลพิษทางเสียง และฝุ่นจากสะพานข้ามแยกได้พอสมควรครับ DCIM100GOPROG0016538. ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ โล่งนะ.. มีโรงเรียน กับวัดติดมาเป็น background อยู่ด้วยซีกนึง DCIM100GOPROG0016551. แต่ถ้าเป็นความสูงในระดับชั้น 30 ขึ้นไปผมว่าสามารถซื้อได้ทุกมุมครับ ถ้าไม่ซีเรียสว่าฝั่งตะวันตกจะมองเห็นวัดอยู่ด้านล่าง อย่างอันนี้คือทิศตะวันออกเฉียงใต้ครับ น่าจะเป็นห้อง 1 นอน กลุ่ม 30.5 – 32.5 ตรม. ประมาณเบอร์ 10-11-12 จะเห็นหมู่ตึกแถวสาทร – สีลม รวมถึงตึกที่น่าจะเป็น Landmark ใหม่ของกรุงเทพด้วยอย่าง Mahanakorn ครับ.. ยาวไปถึงพระรามสามคลองบางกระเจ้าโน้นครับ DCIM100GOPROG0026663. อันนี้ทิศเหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือที่หลายคนชอบครับ ห้อง A1 รับไปเต็มๆ มองเยื้องไปทางสนามม้า-สวนลุม และหมู่ตึกสูงแถวเพลินจิต วิทยุ ราชดำริ ได้ DCIM100GOPROG0026658. ฝั่งวัดก็สวยนะครับทำเป็นเล่นไป แต่ในอนาคตจะมีตึกสูงอีกอย่างน้อยสามตึกมาด้านนี้คือ Ideo Q Chula, โครงการของ TCC และ The Room พระรามสี่อยู่ลิบๆโน้น DCIM100GOPROG0026670. เรามาดูโซน High Floor ประมาณชั้นส่วนกลางกันบ้างดีกว่า สวยงามเคลิ้มทุกทิศครับขอบอก สามารถมองด้วยตาเปล่าเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้ถึงสองฝั่งครับ DCIM100GOPROG0026720. DCIM100GOPROG0026716. DCIM100GOPROG0026725. ปิดท้ายนี้ต้องขอบอกเลยว่าในแง่ของทำเลที่ตั้ง ก็คงไม่สามารถหาคอนโด Free Hold ที่ใกล้จุฬาฯมากขนาดนี้ได้อีกแล้วครับ ซึ่งการที่ไม่มีที่ดินเหลือแบบนี้ทำให้ราคาขายในอนาคตน่าจะปรับตัวขึ้นสูงไปกว่านี้ได้แน่นอนครับ อยู่ที่ว่าจะเพิ่มมากหรือเพิ่มน้อย โครงการอย่าง Ideo Q Chula Samyarn สามารถทำราคาเพิ่มขึ้นได้จากตรมละ 130-140K ต่อตรม. เป็น 150 -170K ต่อตรม. นับตั้งแต่เปิดตัวสองปีที่แล้ว ส่วน The Room พระรามสี่ ก็หาห้องซื้อยากเหลือเกินและราคาก็บวกมาจากตอนเปิดตัวราวๆตรมละสองหมื่น…ผมว่าถ้าใครที่มีเงินเย็น หรือมองเห็นอนาคตว่ายังไง demand จากคนแถวนั้นมันมีเข้ามาทุกปีแน่นอน เพราะยังไงต้องมีเด็กสอบติดจุฬาฯทุกปี ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ อยู่ที่ว่าคุณจะไว และแม่นยำแค่ไหนในการเลือกห้องครับ…ส่วนใครที่คิดจะขายต่อทันที ผมก็ขออวยพรให้ทุกคนโชคดี มีเงินใช้แล้วกันครับ (แต่ถ้าเปิดมาวันเสาร์คนที่จองพันกว่าห้อง เล่นขายหมดเลยทุกคน ก็ต้องทำใจไว้เผื่อนะครับ ว่ามันอาจไม่เป็นอย่างที่คุณหวังก็เป็นได้) ส่วนเรื่องปล่อยเช่า ตอนนี้ไม่มีโครงการใน segment เดียวกันพอที่จะให้ benchmark ได้ครับ เพราะ Ideo Q Chula กับ The Room พระรามสี่ก็กำลังสร้างอยู่ ส่วนโครงการที่เหลือก็ดูจะจับกลุ่มคนละ segment กันครับ (เห็น Virtiq กับ Wish@สามย่าน ปล่อยกันตารางเมตรละ 600 บาท และจามจุรี เรสซิเดนท์ก็มีแต่ห้องใหญ่ครับ ที่ปล่อยดีจริงๆก็จะเป็น CU Terrace แต่ก็คงนำมาเปรียบเทียบกับ Ashton Chula – Silom ไม่ได้เช่นกันครับ) อ่านจบแล้ว ก็สรุปและวิเคราะห์ต่อกันเองนะครับว่าควรจะซื้อดีหรือเปล่า และถ้าซื้อควรจะเลือกห้องไหนครับ บ๊ายบาย ไปนอนหละครับ ^^  

Q Chidlom ในมุมมองของผม by Condoman

Q Chidlom Phetchaburi เป็นคอนโดที่อนันดาไม่ใช้คำว่า Ideo เข้ามาในชื่อ และถือว่าเป็น sub brand ใหม่ สำหรับคอนโดเกรดกลางบนระดับ 170k ++ แต่ห่างรถไฟฟ้าเกิน 300 เมตร (ซึ่งผิด concept ที่อนันดาเคยประกาศไว้ว่าจะพัฒนาคอนโดระดับนี้ ในทำเลที่ใกล้รถไฟฟ้าเท่านั้น เลยต้องเลี่ยงบาลี มาใช้วิธีนี้ในการตั้งชื่อ) ฟังผ่านๆนึกว่าของ QH กันเลยทีเดียว
1507042_1581994652040582_1551215536710656940_n
คำว่า ชิดลมมันขลังสุดๆ ตอนแรกที่ได้ยินว่ามีคอนโด codename ว่า watergate ผมก็สนใจนะครับ แต่ก็สนใจในระดับนึงเท่านั้น  ก็พอรู้ทำเลคร่าวๆว่าอยู่ตรงไหน แต่พออนันดา สรุปชื่อออกมามีคำว่าชิดลม เกจความสนใจก็พุ่งทะลักจุดแตก ก็จริงของเค้า แปลงที่ดินของคอนโดนี้จะเรียกว่า”ชิดลม”ก็ไม่ผิด  แค่ตั้งชื่อก็เพิ่มมูลค่าของโครงการให้ดูแพงงงง ได้ทันที ทำเลที่ตั้งคือตั้งอยู่ระหว่าง ตึกคอนโดแมนฮัทตัน 34ชั้น กับตึก kpi 24 ชั้น  โดย Q จะมีความสูง 38 ชั้น แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ขนาดความสูงที่ชัดเจนเป๊ะๆ ว่าจะพอๆกับแมนฮัตตันหรือสูงกว่า  ที่ดินติดถนนเพชรบุรีด้านหน้า(ทิศเหนือ)และติดคลองแสนแซ่บ ด้านหลัง(ฝั่งทิศใต้)   ด้านข้างโดนขนาบด้วย 2 ตึก พูดถึงสภาพแวดล้อมกันก่อน ผมว่าด้านหน้ารถจะหนาแน่นทั้งวัน มลพิษไอเสียก็จะเยอะตาม style คอนโดติดถนน ด้านหลังก็มีกลิ่นคลอง มีเสียงเรือคลองแสนแสบ แต่ก แต่ก ๆๆๆๆๆๆๆ  แถมด้านหน้านะครับ จะมีทั้งสายไฟสายเคเบิ้ล สายโน่นนี่นั่นตกท้องช้างกัน ระเกะระกะ รกรุงรัง  นอกจากนี้ยังมีสะพานลอยคนข้ามวางเกะกะหน้าที่ดินโครงการไปอีกครึ่ง  ฟังแล้วเหี่ยวใช่ปะ แต่นี่คือธรรมชาติของย่านเมืองเก่าอย่างแถวนี้ ที่เจริญมาหลายสิบปี
11011886_1584812178425496_5860199206600895803_n
แล้วทำไมผมถึงกรี๊ด มาดูที่ทำเลที่ตั้งสิครับ คือแถวนี้เนี่ยคือ ประตูน้ำนะครับ ย่าน shopping เสื้อผ้าโหล ระดับจักรวาล คนทั่วทุกสารทิศจากทุกมุมโลกแห่กันมา การพัฒนายังไม่หยุดยั้ง ไม่เพียงแต่ของเกรดโหล แต่ยังจะมีการเชื่อมต่อกันของเกรดหรูแถวแยกราชประสงค์ ด้วยทางเดินลอยฟ้าเชื่อมที่เหมือน sky walk แต่เค้าใช้ชื่อว่า the bangkok skyline skyline มากับโปรเจกพัฒนาแยกราชประสงค์ หนึ่งในนั้นคือการพัฒนาของกลุ่มแพลตินัม ที่ด้านหลังตรงข้ามคลอง กับที่ดินโครงการ …… เค้าประมูลที่ได้มาจาก สำนักงานทรัพย์สิน จะพัฒนาโครงการที่ชื่อว่า
The Market  ก็เป็นห้างแนวๆ platinum ครับแต่มี design ที่เก๋ไก๋สไลเดอร์แมนกว่า
11009383_1578705409036173_395548644210206173_n
โครงการ เดอะ มาร์เกต นี้อยู่ห่างจาก q แค่ร้อยกว่าเมตร ก็คือทางเชื่อมเดินไปแยกราชประสงค์ก็อยู่ห่าง Q ไปอีกนิดเดียวเท่านั้น เดินเข้าทางลัดข้างๆ แมนฮัทตัน
Screen Shot 2015-03-19 at 8.24.09 AM
เรื่องของกินของใช้ผมไม่พูดถึงนะครับ this is ประตูน้ำ !!!!!!!!!!! สิ่งที่มีพัฒนาการขึ้นแบบจะเปลี่ยนโฉมของย่านนี้คือ สวนขนาดใหญ่ที่ต้องกล่าวขานคำว่า ทรงพระเจริญ ดังๆเลยครับ เพราะทำบนที่ดินของสำนักงานทรัพย์สิน เป็นปอดแห่งใหม่กลางกรุงเทพ สวนแห่งใหม่อยู่ข้างๆ Isetan CTW ซึ่งเชื่อมต่อกันได้กับ สยาม สยามพารากอน ขอบคุณภาพจาก Depth of Field
10462492_1578707485702632_5831780085739287553_n
Screen Shot 2015-03-19 at 8.23.37 AM
การพัฒนาของทำเลยังไม่หยุดยั้ง ตึกแถวเก่าๆแถวนี้ เช่น ของกรมการศาสนา ตลาดเฉลิมลาภตรงหัวมุม จะโดนทุบทิ้งปรับปรุงเป็นห้างติดแอร์หมด  อีกทั้งการมาของรถไฟฟ้าสายสีส้มเฟสวิ่งผ่าเมือง ในอนาคต (แม้จะโดนต่อต้านจนยกเลิกสถานีที่ใกล้แถวนี้ไป) คือสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็น สถานีตรงห้าง pantip Screen Shot 2015-03-19 at 8.25.12 AM คือ เยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ขอบคุณ สำนักงานทรัพย์สิน Landlord ของแถวนี้ด้วยครับ เอาหล่ะพูดเรื่องปัจจุบันกันดีกว่า Q จะอยู่ถนนเพชรบุรี เดินไปนิดเดียวถึงถนนชิดลม ถนนสุดพรีเมี่ยมสายนึงของประเทศไทย แน่นอนครับ เดินต่ออีกนิดก็คือ BTS ชิดลม ตามระยะที่ อนันดาบอกคือ 650 เมตร ไม่ไกลนะครับ พอได้แหละ ถนนชิดลมนี่เจริญจริงจัง ร้าน้าเยอะมาก และเป็นที่ตั้งของเซนทรัลชิดลม เชื่อมต่อไปเซนทรัลเอมบาสซี่  คือปั่นจักรยานพับได้ไป 650 เมตรเนี่ย โค ตะ ระ ใกล้นะครับ การขับรถสะดวกครับแต่รถเยอะและติด ที่สำคัญเสียววว คือ ต้องมาจากเพชรบุรีเท่านั้น ก็โครงการอยู่ถนนเพชรบุรีอ่ะ  มาจากไหนก็ต้องหาทางวนมาให้ได้ ผมแนะนำว่าวิ่งวนซ้ายจากถนนวิทยุครับ ถ้ามาจากในเมือง (แต่ถ้าวันดีคืนดี ตำรวจเกิดห้ามขับตรง ที่แยกชิดลมตัดเพชรบุรี จะทำไงดีเนี่ย 555 ) ถ้ามาจากราชเทวีตรงมาข้ามสะพานข้ามแยกแล้วหักขวาเข้าโครงการก็เสียวนะครับ แต่สะดวกดี มาจากราชประสงค์ตรงมาก็เลี้ยวขวาเข้าเพชรบุรีแล้วหักขวาเข้าโครงการอีกที  ที่ผมว่าเสียวเพราะ ต้องตัดกระแสรถวิ่งสวนอีกหลายเลนอ่ะ ถ้ารถติดๆก็ต้องระวังก้น จะโดนรถที่วิ่งตามพุ่งมาชนอีก ทีนี้ถ้ามาจากทางเหนือจะลำบากหน่อยต้องวิ่งทะลุอโศกเพชร แล้วเลี้ยวขวา หรือมาทางวิภาวดีเลี้ยวจะไปอนุเสาวรีย์แล้วเรียบทางรถไฟมาโผล่ นานา เพชรบุรี แล้วเลี้ยวขวา Screen Shot 2015-03-19 at 8.22.53 AM เรื่องทำเลผมไม่ลงลึกมากละกัน ผมรู้ว่าพี่น้อง รู้กันอยู่แล้ว มาถึง part ที่สำคัญที่สุดคือ part ของตัว product ตึก Q จะเป็นทรงสี่เหลี่ยมแต่โค้งมน ตาม style ของคอนโด อนันดาแบบพรีเมี่ยม lot หลังๆ หลังจากสร้างกระแสแบบเป็นปรากฏการณ์จาก Ashton Asoke โดยจะมีตึกสูงสองแท่งหนีบไว้ ดังที่บอกตอนต้น ขอบคุณเจ้าของภาพทุกคน ผมขออนุญาตเอาภาพมา edit นะครับ ภาพนี้เป็นมุมมองจาก ใต้ไปเหนือ
1977373_1578742745699106_6970719317675292386_n
ภาพนี้เป็นมุมมองจากเหนือไปใต้
10592824_1578743989032315_6281298633858460205_n 11015831_1579093602330687_7356446245098064046_n จะเห็นได้ว่าไม่ใช่จะโดนหนีบแบบ เต็มๆ แบบที่ vertical aree โดน แต่ตึก Q โชคดีมากที่ฝั่งตะวันออก ฝั่งตึก KPI ในโซน 8 ชั้นบน สูงพ้นตึก kpi ที่สูง 24 ชั้น (ประมาณ 24 ชั้น -28 ชั้น  ของคอนโด) ดังนั้นชั้น 28 ขึ้นไปของ Q ก็น่าจะพ้นสบายๆ  นี่คือแปลนของตึกที่หลุดมาครับ
Screen Shot 2015-03-19 at 10.32.30 AM
เป็นการผสมผสานระหว่าง private lift กับ Lift ส่วนกลางได้อย่างลงตัว และเหมาะสม ห้องใหญ่คุณก็ได้ private lift ไป ห้องเล็กไม่ได้ อันนี้แฟร์ดีครับ ห้อง 09 – 10 -11 จะหันทิศเหนือหาถนนเพชรบุรี  ห้อง 02 – 03 – 04 หันทิศใต้วิวเมืองคลองแสนแสบ ต่างคนต่างชอบนะครับ ชอบโล่งๆ ชอบตึกประตูน้ำเซนเตอร์ the palladium ก็เลือกทิศเหนือ 5555 ชอบวิวเมืองสวยๆ skyline แน่ๆ ของหลังสวนก็ เลือกทิศใต้  วิวทุกทิศจะคงที่แล้วไม่มีอะไร surprise นอกจากทิศเหนือที่มีโอกาสโดนตึกสูงสร้างมาบังในอนาคต  อนันดาเลือกจะเอาห้องเล็กไปไว้ด้านข้าง ก็ตามสูตรสำเร็จ  โดยอนันดาและ a49 ผู้ออกแบบ ชดเชยโดยการออกแบบห้องให้สุดเท่ห์เปิดมุมมองกว้างขึ้นด้วยกระจกโค้ง สวยๆจริงจัง ซึ่งจะช่วยลดความอึดอัดจากการโดนวิวบล็อกระยะประชิดได้ แต่อย่างที่บอกนะครับห้องทิศตะวันออกฝั่งหันหา kpi tower มีชั้นที่สูงพ้น ไม่โดนบัง ก่อให้เกิดห้องทีเด็ดขึ้นมาทันที คือได้แปลนห้องที่สวยมาก และวิวไม่บล็อก  ห้อง 12a กับ14 ชั้น 28ขึ้นไปคือ ห้องที่ผมแนะนำ และนอกจากนี้เหนือชั้น 32 ห้องด้านหน้าจะหายไปครับ ก่อกำเนิด ห้องระดับเทพเจ้า สำหรับ 35 ตรม ในท้องตลาดคอนโดสยามประเทศ  ฝั่งนี้ชั้นที่ไม่บล็อกยังเห็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของรถไฟมักกะสัน ที่อนาคตอาจกลายเป็นกลุ่มตึกสวยๆ หรือ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ Screen Shot 2015-03-19 at 11.52.48 AM ภาพรวมของวิว 
Screen Shot 2015-03-19 at 11.26.08 AM
แปลนยังพิเศษที่ปล่อง void ขนาดใหญ่ในตึก ชดเชยกับการที่ ช่องแสงปกติแทบไม่มี ลิฟท์ 6+1 ตัว กับ 480 ยูนิต นี่เยอะมากกกกกกกกกกกกกก สระน้ำลอยฟ้าอีกหล่ะ อนันดายังจัดให้ สวนกระแสกับเจ้าอื่นที่ตัด function นี้ทิ้งไปแล้ว ห้อง 44 ตรม เบอร์ 03 กับ 10 ดูจะน่าสงสาร private lift ก็ไม่มี แถมห้องยังแปลนธรรมดาสามัญชน ขนาดก็ใหญ่มากเพิ่มอีก 1 ตรมซื้อห้องข้างๆดีกว่ามั๊ย  ข้อดีที่เห็นคือวิวโล่ง ราคาน่าจะเริ่มที่165K ไปเรื่อยๆ ผมว่าราคาเหมาะสมกับสิ่งที่จัดให้นะครับ สำหรับการไกลรถไฟฟ้าแต่ อยู่ในทำเลที่ดีมาก ราคาก็วิ่งกระฉูดได้แบบที่ HQ ทองหล่อทำให้ดู  ผมไม่ได้บอกว่าที่นี่จะเป็น แบบ HQ นะ อันนั้นเป็นปรากฏการณ์การตั้งราคาผิด คืนกำไรให้นักลงทุนของแสนสิริ แต่ อนันดาที่ได้ชื่อว่า ไม่ยอมแบ่งกำไรให้ใคร ง่ายๆ คงไม่ตั้งราคาผิด  (แต่บอกก่อนนะครับ ไม่ใช่ว่าจะตั้งตามอำเภอใจ แล้วพวกเราจะยอมไล่ราคาซื้อตามกันง่ายๆนะครับ ยังไงคอนโดนี้ก็ห่างไกลรถไฟฟ้าจริงจัง อยู่ดี) สรุปนะครับ ผมชอบแปลนห้องกับทำเลมากกกก การลงทุนก็แล้วแต่ราคาที่ได้นะครับ ห้องฝั่งบล็อกวิวที่สูงไม่พ้น หลีกเลี่ยงได้ก็ดีนะครับ แต่ถ้าจะเอาก็ไม่เลวร้ายแบบสุดๆ (กระจกโค้งเปิดมุมมองได้) ถามว่าผมจัดมั๊ย ….ไม่พลาดแน่นอน

หลายสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Ashton Residence 41

โครงการ Ashton Residence 41 เป็นโครงการแรกของแบรนด์ Ashton ที่ทำออกมาเป็น Low rise ครับ แต่ขึ้นชื่อว่าแบรนด์ Ashton ทั้งทีรับรองว่าทางอนันดาไม่ยอมให้ออกมาน้อยหน้าแบรนด์ Luxury condo แบรนด์ไหนแน่นอนครับ ถึงแม้ว่าจะเป็น condo low rise ที่เสียเปรียบในด้าน exposure แต่ที่นี่เต็มไปด้วยจุดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์หลายอย่างครับ โดยโครงการนี้เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง A49 และ TROP ซึ่ง landscape และสระว่ายน้ำของโครงการ Ashton Residence 41 ออกแบบโดย TROP ครับ ขั้นแรกทาง A49 ได้มีการกำหนดรูปแบบอาคารและตำแหน่งสระ และทาง TROP รับหน้าที่ในการวาง concept ของ Landscape ทั้งโครงการให้สมบูรณ์ ตอบโจทย์การพักอาศัยในแบบ high end ที่สุดครับ ดังนั้นในบางประโยคที่ผมจะเขียน ผมขออนุญาตเอาแนวคิดจาก TROP มาใช้นะครับ ^^   สระว่ายน้ำได้รับแรงบันดาลใจจาก Barton Springs Pool
  • คงปฎิเสธไม่ได้ว่า สระว่ายน้ำของโครงการ Ashton Residence 41 นั้นได้ถูกนำมาใช้เป็นจุดขายหลักของโครงการ แต่จะมีสักกี่คนทีรู้บ้างครับว่า การออกแบบของสระว่ายน้ำที่นี่ถูกออกแบบในสไตล์ Creek Pool ด้วยแนวคิดการออกแบบที่เปรียบอาคารเป็นดั่งภูเขาที่มีสายธารน้ำไหลผ่านระหว่างกลาง ซึ่งสายธารน้ำทำหน้าที่เป็นสระว่ายน้ำที่สร้างพื้นที่ความเป็นส่วนตัวให้แต่ละห้องพักบนพื้นดิน โดยที่ไม่จำเป็นต้องสร้างรั้วให้รู้สึกอึดอัด ภายในสระน้ำนี้ได้มีการออกแบบให้เสมือนมีขั้นโขดหินตามธรรมชาติตลอดแนวขอบสระ เพื่อเป็นการสร้างมิติให้กับสระว่ายน้ำ และผู้ที่ลงไปใช้งานสามารถนั่งหรือนอน เพื่อพักผ่อนได้อย่างอิสระ และในขณะเดียวกันขั้นโขดหินนี้ยังใช้เป็นบันไดส่วนตัวเพื่อลงสู่สระว่ายน้ำของห้อง Duplex ได้อีกด้วย ซึ่งทางผู้ออกแบบโครงการอย่าง A49 และผู้รับผิดชอบ Landscape อย่าง TROP นั้นได้บอกเล่าที่มาของ Creek Pool สุดสวยนี่ว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Barton Springs Pool ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1837 นู้นแหน่ะ ที่เมืองออสติน รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา โดยสระนี้ได้เชื่อมต่อกับร่องน้ำของ Barton Creek ซึ่งได้รับน้ำที่ไหลมาจาก Barton Spring อีกทีครับ…ความสวยงามของ Barton Springs Pool นั้น ไม่ได้มีอยู่ที่ความกว้าง x ยาวของตัวสระแต่อย่างใด แต่กลับอยู่ที่ความกลมกลืนกับธรรมชาติทั้งต้นไม้ที่ปกคลุมขนาบข้างสระ และโขดหินเก่าแก่ตามธรรมชาติที่เกิดเรียงตัวกันเป็นขั้นบันไดอยู่รอบๆและใต้สระนี้ครับ….ซึ่งผู้เขียนก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อสระที่ Ashton Residence 41 สร้างขึ้นมาแล้วจะมีลูกเล่นอะไรสวยงาม เป็นธรรมชาติใต้สระแบบ Barton Springs Pool หรือเปล่าก็ยังไม่แน่ใจครับ
Credit รูปภาพจาก: http://www.austintexas.gov/faq/barton-springs และ http://www.sosalliance.org/community/newsletter/current-newsletter/407-last-chance-to-donate-first-splash-into-barton-springs barton-springs 157 Picture6 มุมมองที่เป็นมิตรกับสายตาพร้อมเพิ่มระยะห่างถึง 21 เมตร
  • จริงอยู่ครับว่าโครงการนี้ได้มีการออกแบบให้ทั้งตึก A และ B วางอยู่ขนานกัน โดยมี Creek Pool ผ่ากลางตึกทั้งสอง ซึ่งการออกแบบเช่นนี้ย่อมทำให้ คนที่อยู่ในห้องตรงข้ามตึกกันมองเห็นซึ่งกันและกันแน่นอน (หลายๆคนบอกว่าเสียตังหลาย สิบล้านเพื่อมาดู วิวห้องฝั่งตรงข้ามเนี่ยนะ) แต่ที่นี่ออกแบบได้พิเศษกว่าครับ กล่าวคือระยะห่างระหว่างตึกทั้งสองโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 12 เมตร เท่ากับความกว้างของ Creek Pool แต่ด้วยการจัดวาง Lay out ของตึกในแบบพิเศษ ซึ่งมีการจัดเรียงให้มุมหน้าต่างห้อง และระเบียงห้องทำมุม 45 องศากับห้องฝั่งตรงข้าม ทำให้ระยะห่างถ้าเรามองจากห้องของเราเองจะอยู่ที 21 เมตรครับ!!! ได้ระยะไกลกว่าเดิมถึงเกือบ 1 เท่า และนอกจากนั้นหากมองด้วย มุมมองปกติ ไม่ได้ชะโงกมอง วิวที่ได้ก็จะเป็นวิวของ Vertical Garden ของห้องฝั่งตรงข้ามครับ หาใช้ระเบียงห้องแต่อย่างใด…..น่าสนใจใช่ไหมครับ (ถ้าทำ Vertical Garden ออกมาดูดีนะ)
DSC_2194 Picture5 Picture4 Cliff Garden ที่สูงถึง 8 ชั้น
  • ตัวผมเองก็ยังไม่เคยเห็นตึก Low rise ที่ทำ Vertical Garden สูงระดับตึก 8 ชั้นมาก่อนเลยครับ ด้วยความที่มันสูงขนาดนี้ทางทีมออกแบบ (TROP) ก็เลยให้นิยามมันว่าเป็น Cliff Garden ซะเลยครับ ซึ่งคอนเซปท์ในการทำ Cliff Garden นี้จะเป็นการออกแบบให้ผนังระหว่างอาคารมี Vertical Green Wall ที่เริ่มจากสระว่ายน้ำ สูงขึ้นตลอดอาคารไปจนถึงชั้น 8 เพื่อลดความแข็งกระด้างของเปลือกอาคารด้วยความเขียวชะอุ่มของต้นไม้ เป็นการสร้างมุมมองที่สดชื่นให้แต่ละห้องพัก และเพิ่มพื้นที่ความเป็นส่วนตัวจากสายตาของผู้พักอาศัยของอาคารฝั่งตรงข้ามให้แก่ผู้พักอาศัยภายในโครงการเดียวกัน นอกจากนี้ยังเป็นการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่สระว่ายน้ำที่อยู่ชั้นล่างสู่สวนที่อยู่บนชั้นดาดฟ้า เหมือนดั่งว่า มีสายธารน้ำเบื้องล่างที่คอยล่อเลี้ยงพืชพรรณให้เติบโตเป็นขุนเขาที่สงบและร่มเย็นอยู่เบื้องบน พื้นที่โดยรอบอาคารออกแบบให้อาคารเชื่อมต่อกับสวนด้วยทางเดินไม้ที่สามารถเดินต่อเนื่องได้รอบอาคาร เปรียบเป็นระเบียงบ้านที่ทุกคนสามารถเข้ามาทำกิจกรรมพักผ่อนได้อ่านแล้วเคลิ้มตามเลยใช่ไหมครับ ฮา…
Picture2 Picture3 SCULPTURAL GREEN ROOF
  • พื้นที่สวนดาดฟ้าขนาดเต็มพื้นที่ทั้งสองอาคาร ได้มีการออกแบบให้เป็นดั่งเนินเขาที่เขียวขจีซึ่งมีพื้นที่การใช้งานแทรกอยู่  โดยมีการจัดแบ่งเป็นพื้นที่สำหรับงานระบบต่างๆ ของโครงการที่จำเป็นต้องจัดตั้งไว้บนชั้นดาดฟ้าเพื่อประสิทธิภาพที่สูงสุด  พื้นที่สวนสำหรับพักผ่อนและทำกิจกรรมของทุกคนในโครงการ และสำหรับคนที่ซื้อห้อง Duplex ชันบน ผมว่าเหมือนได้ space โบนัสเลยครับ เพราะว่ามีพื้นที่สวนส่วนตัวสำหรับห้องพัก Duplex โดยมีแนวเนินต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่นเป็น SCULPTURAL กั้นระหว่างพื้นที่การใช้งานเหล่านี้ ทั้งนี้เพื่อสร้างมุมมองที่สวยงามและสร้างขอบเขตของแต่ละพื้นที่ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น (แต่ผมก็ยังไม่เห็น Plan ที่ชัดเจนนะครับว่าจะกั้นพื้นที่อย่างไร เท่าที่เห็น Plan คร่าวๆ ก็เหมือนว่าชั้นดาดฟ้าต้องเดินขึ้นบันไดไป และพื้นที่ก็เปิดให้คนทั้งตึกมาใช้งานได้ครับ ไม่ได้กั้น space เฉพาะห้อง duplex…จะเป็นแบบไหน คนในอนันดา หรือทาง TROP ช่วยกระซิบมาทางผมหน่อยนะครับ please) >> ล่าสุดมีคนบอกว่าห้อง duplex ชั้นบน จะมีบันไดเดินไปดาดฟ้าได้ครับ
DSC_2193 DSC_2206 ที่จอดรถ 202% โดยมี Mechanical Parking ด้วย
  • โครงการนี้จะเป็นโครงการแรกของกลุ่มอนันดาฯครับ ที่ทำที่จอดรถเกิน 100% ซึ่งที่นี่ปาเข้าไป 202% หรือ 160 คัน จากจำนวนยูนิตทั้งหมด 79 ยูนิต นอกจากนั้นระบบ Mechanical parking ที่มีหลายๆ developer นำมาใช้ก็ได้ถูกเอามาใช้ที่นี่ด้วยครับ ซึ่งระบบจอดรถอัตโนมัติจะอยู่ที่ชั้นใต้ดินตึก B และตึก A จะเป็นระบบวนจอดครับ แบ่งเป็นสัดส่วนคือ (ตึก B จอดได้ 108 คัน และตึก A จอดได้ 52 คัน…แต่เห็นมีบางคนบอกว่าได้รวมกัน 135 คัน? ที่ถูกต้องเป็นยังไงก็ช่วยบอกอีกทีนะครับ แต่ยังไงก็เกิน 100% แน่ๆหละ)
Picture1 shutterstock_52670341   Credit ภาพ: ซื้อมาถูกต้องจาก Shutterstock  เลี้ยงสัตว์ได้นะจ๊ะ
  • ระยะหลังเริ่มมีคอนโดเกาะกระแส Niche Market สำหรับกลุ่ม Pet Lovers กันมากขึ้นครับ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นโครงการที่สองของอนันดาฯ ที่ให้ผู้พักอาศัยสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ต่อจากโครงการ Ashton Sukhumvit 38 (ตัวเล็กๆนะไม่น่าเกิน 15 กิโลฯ ไม่ใช่เอาหมูป่า หรือยีราฟ หรือเสือมาเลี้ยง) แหม..น่าทางสัตว์เลี้ยงแสนรักจะชอบที่นี่แน่นอนครับ เพราะมีทั้งสระทั้งสวนให้ว่ายน้ำพักผ่อนหย่อนใจ (ห้ามเอาสัตว์เลี้ยงว่ายน้ำร่วมกับคนนะครับ มีการออกแบบให้มีพื้นที่ขับถ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งทางผู้ออกแบบได้มีการคำนึงแล้วว่าพื้นที่นี้จะไม่ทำความรบกวนให้กับห้องพักอาศัยใดๆ) ที่สำคัญครับจากสถิติที่ผมดูหากใครซื้อปล่อยเช่าให้กับคนที่มีสัตว์เลี้ยงนี่ สามารถบวกค่าเช่าเพิ่มได้อีกเดือนละ 3,000 – 10,000 บาทต่อห้องเชียวนะครับ
shutterstock_136740902_resized shutterstock_140936773_resized Credit ภาพ: ซื้อมาถูกต้องจาก Shutterstock  ปิดท้ายด้วย Mood & Tone การแต่งห้องตัวอย่างของ PIA ครับ มี inspiration จากศาสตร์แห่งจักรา  Picture14 Picture11 Picture10 Picture13 Picture8 Picture7