มาแล้ว! Ideo O2 และ Q Chidlom

ในปีนี้บริษัท อนันดาฯ มีแผนเปิดโครงการคอนโดค่อนข้างเยอะครับ โดยเมื่อเดือนที่แล้วก็มีการเปิดบริษัทร่วมทุนกับทางกลุ่มบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จำกัด (Mitsui Fudosan Co., Ltd.) ซึ่งประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมร่วมกันเบื้องต้น 5 โครงการในปีนี้ ผ่าน 5 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย บางนา จำกัด, บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย ชิดลม จำกัด, บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย ช่องนนทรี จำกัด, บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย เตาปูน จำกัด และบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย ท่าพระ จำกัด โดยแต่ละบริษัทร่วมทุนอนันดาฯ จะถือหุ้น 51% และกลุ่มมิตซุย จะถือหุ้น 49% จาก 5 โครงการดังกล่าวเรายังไม่เห็นโฉมหน้าของโครงการไหนเลยใช่ไหมครับ… แต่คุณผู้อ่านรู้ไหมครับว่าประมาณกลางเดือนหน้านี้ เค้าจะเปิดขายกัน 2 โครงการจาก 5 โครงการข้างบนแล้วครับ!!! ซึ่งมันก็ค่อนข้างชัวร์ว่ากลุ่มลูกค้าเก่าอนันดาฯ (AMC) นั้นย่อมได้รับสิทธิ์ซื้อกันก่อน ตั้งแต่ปลายเดือนนี้หรือไม่ก็ต้นเดือนสค.เป็นอย่างช้าครับ…รวดเร็วจนเตรียมเงินกันแทบไม่ทันใช่ไหมครับ เพราะว่า AMC หลายๆคนก็เพิ่งจะจอง ไอดีโอ S115 มาไม่กี่สัปดาห์เอง (แว่วๆมาว่ายอดขายของ S115 ขายไปได้ประมาณ 60% จากชั้นที่เปิดขายทั้งหมดในรอบพรีเซลครับ และเตรียมจะขายอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ อาทิตย์นี้ครับ…) โดยสองโครงการใหม่ที่จะเปิดในช่วงเดือนหน้าคือ……Ideo O2 และ Q Chidlom ครับ แล้วมันมีอะไรน่าตื่นเต้นใน Ideo O2 บ้างล่ะ? ตอนนี้ผมว่าบรรดาพวกคนในวงการอสังหาฯก็น่าจะทราบมาบ้างแล้วนะครับว่า ทางอนันดาฯเตรียมจะเปิดโครงการแถวๆช่วงสี่แยกบางนา แต่ไม่ได้ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท (คนซื้อ Ideo Mobi Sukhumvit Eastgate คงจะโล่งใจได้ในระดับหนึ่งนะครับ)…ด้วยการที่โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนสรรพาวุธนี่หละ ก็เลยเป็นที่มาของ Code Name สุดเหี้ยมโหดอันมีนามว่า “Weapon” ครับ ในตอนแรกเริ่ม หลายต่อหลายคนก็พลันคิดไปว่าโครงการนี้คงจะใช้ชื่อแบรนด์ว่า Elio แน่นอน เพราะหลังจากมีข่าวแพลมๆว่าที่ดินมีขนาดใหญ่ประมาณ 14 ไร่ มันต้องเป็น Low rise ราคาถูกแต่ให้พื้นที่ส่วนกลางยังกะสวนน้ำ Vana Nava Huahin สไตล์ Elio Del Ray แน่นอน!!…แต่ในที่สุดทางอนันดาฯก็ได้ฟันธงมาแล้วครับว่าโครงการนี้ใช้ชื่อว่า “Ideo O2” ครับ Ideo O2 เป็นแบรนด์ที่ส่วนตัวแล้ว ผมมองว่าตั้งชื่อแบรนด์ได้น่าคิดว่ามันจะมีโครงการ 2,3,4 ตามมาอีกครับ เนื่องจากหากเราพิจารณาจาก Brand Architecture ของบริษัท อนันดาฯ แล้วก็จะพบว่าเค้ามีการวางกลยุทธ์ของแบรนด์ในแบบผสมผสานกันระหว่าง Sub brand with graduation และ Sub brand with domination ครับ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ Real Estate Brand Portfolio) sub brand with graduation (ตั้งรหัสตัวอักษรตามชื่อแบรนด์หลัก) แต่ละแบรนด์มี Product Portfolio ที่มี Concept & Character ชัดเจน ประกอบด้วย Ideo Q, Ideo Verve, Ideo Mix, Ideo Blucove, Ideo Morph, Ideo Mobi, Elio และ Ideo O2 ส่วน sub brand with domination ก็จะเป็นโครงการที่เน้นไปที่ชื่อทำเลอย่าง Ideo S115, Ideo Sathorn Thaphra, Ideo Wutthakat, Ashton Chula Silom, Ashton Asoke การที่ใช้คำว่า O2 ซึ่งสื่อถึง “ออกซิเจน” นี่ล่ะครับคือคอนเซปท์และแรงบันดาลใจของการรังสรรค์โครงการนี้ ซึ่งในอนาคตผมก็เชื่อว่าทางอนันดาฯ ก็สามารถนำชื่อ O2 นี้มาสานต่อได้อีกในหลายทำเลครับ… Ideo O2 ประกอบไปด้วยตึกทั้งหมด 3 ตึก ความสูงขนาด 33- 34 ชั้น (ข้อมูลอย่างเป็นทางการยังไม่ออกนะครับ) ที่ไม่ได้สร้างเชื่อมกันเป็นกำแพงเมืองจีนเหมือนกับโครงการใหญ่ๆบางโครงการครับ จากภาพ perspective ที่ผมเห็น ดูเหมือนว่าโครงการนี้จะเล่นกับคอนเซปท์ “ออกซิเจน” อย่างเต็มที่ เพราะว่าคุณจะพบกับส่วนกลางขนาดมหึมาชนิดที่ Elio Del Ray ยังต้องเรียกพี่ (จริงๆผมว่าตึกก็ดูเหมือน Elio Del Ray ขยายร่างนะครับ ฮา) ไม่ว่าจะเป็น สระ free form ยาวหลายร้อยเมตร ที่เชื่อมต่อตั้งแต่ตึก A ยาวไปจนถึงสุดตึก C

หรือสวนขนาดยักษ์ ที่มีทั้งลู่วิ่งและเลนจักรยาน ที่ได้รับการยอมรับในมาตรฐานจาก Peppermint Bike Park สนามปั่นจักรยานชื่อดังย่านเกษตรนวมินทร์ ที่มีสารพัด Track ให้ทดสอบความสามารถและอุปสรรคในการขับขี่จักรยาน เช่น เนินสูง, แอ่งน้ำ, สะพานไม้, Wall Ride วู้วววว…. ขอบคุณรูปภาพ และอ่านรีวิวเพิ่มเติมได้จาก perpermint-bike-park

มีทางเดิน Shortcut เลียบคลองไปโผล่แถวๆ BTS บางนาได้…ถ้าลองพิจารณาดู master plan ด้านล่างนี้จะเห็นได้ว่าช่วงซ้ายสุดของโครงการจะเป็นพื้นที่ติดคลองบางนาครับ ซึ่งถ้าลองกะพื้นที่ดูจะพบว่า หากใช้ทางออกนี้ ก็เดินอีกเพียงแค่ราวๆ 100 กว่าเมตรก็ถึง BTS บางนาแล้วครับ (คนซื้อตึกซ้ายสุดก็จะเดินใกล้ที่สุดแถมพื้นที่สวนส่วนใหญ่รวมถึงเลนจักรยาน ก็จะอยู่บริเวณนี้ด้วยเช่นกันครับ) ส่วนตึกด้านที่ติดกับถนนสรรพาวุธ ซึ่งเป็นทางเข้าออกหลักนั้น น่าจะเหมาะกับคนที่ใช้รถเป็นพิเศษเพราะว่าแค่ออกจากโครงการก็เจอทางด่วนแล้วครับ แต่ถ้าจะเดินไป BTS ก็มีให้เลือกสองทางเดินก็คือเดินตัดสวนน้ำ และสวนสวยในโครงการ หรือจะเดินอ้อมออกไปทางถนนสุขุมวิทก็ได้เช่นกันครับ (ระยะทางผมว่าน่าจะประมาณ 600 – 700 เมตรครับ)

ในส่วนของห้องโหมดหลัก เท่าที่เห็นก็จะเป็นสไตล์ห้องหน้ากว้าง ตั้งแต่ 1 นอน 26 ตรม. จนถึง 2 นอน 52 ตรม.ครับ (ผมว่าห้องสองนอนเลย์เอ้าท์นี้เป็นแบบที่ผมชอบมากที่สุดเลยครับ)…แอบกระซิบว่าชั้น 6 มีพื้นที่สวนใหญ่ ส่วนตัวที่นอกระเบียง ในแบบที่ใครก็เข้าไปยุ่มย่ามไม่ได้ ยกเว้นพนักงานนิติบุคคลด้วยครับ ที่สำคัญคือโครงการนี้ให้ Fully Furnished นะครับ

สำหรับราคาเริ่มต้น ผมทราบมาว่าอยู่ที่ประมาณ 2.2 ล้านบาท สำหรับห้องขนาด 26 ตรม. ครับ คิดเป็นต่อตรม.ก็ราวๆ 85K จัดว่าเป็น Competitive Price มากๆเมื่อเทียบกับคอนโดที่ขนาบข้างอยู่อย่าง The Coast และถัดไปอย่าง The Sky หรือแม้แต่ Ideo Mobi Sukhumvit Eastgate ณ ปัจจุบันนี้ทำเลสี่แยกบางนา ยังคงต้องรอความหวังอยู่ 3 อย่างครับ นั่นคือการพัฒนาโครงการ Bitec ที่ปัจจุบันเริ่มก่อสร้างโครงการภิรัช ทาวเวอร์ ไปแล้ว/ การมาของ Bangkok Mall และความหวังของโครงการที่พัฒนาโดยกทม. เองอย่าง รถไฟฟ้ารางคู่ขนาดเบา (Light Rail Transit) สายบางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ที่ไม่รู้ว่าจะจบลงตรงไหน อย่างไร หรือจบแล้วไม่ทำแล้ว?) โดยสายนี้จะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท (อ่อนนุช-แบริ่ง) สถานีบางนาเลยครับ..แต่ถึงยังไงก็เหอะก็คงจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่าโครงการ Ideo O2 จะเป็นโครงการ big brand รายเดียวที่มีราคาขายที่ undermarket กว่าทุกโครงการแบรนด์ดังแถวนั้นครับ อ้าวแล้วนี่ผมลืมพูดถึง Q Chidlom ไปหรือเปล่านะ…เอาเป็นว่าไว้คราวหน้าผมจะมาบอกความคืบหน้า พร้อม detail เจาะลึกโดยละเอียดให้อีกครั้งแล้วกันครับ ตอนนี้เอารูปตึกที่เค้าว่ากันว่าเป็นสไตล์ Futuristic Art Deco ไปดูก่อนแล้วกันนะครับ…อ้อ version นี้ไม่มี private lift ให้ซักกะห้องนะครับ และราคาก็น่าจะถูกลงจากที่ตั้งราคาไว้คราวแรกครับ ส่วนคุณคอนโดแมนก็คงต้องเปลี่ยนห้องที่จองไว้น่ะครับ เพราะห้องนั้นมันแปลงร่างเป็น duplex ไปแว้วววววว (แต่แปลน 35 ตรม.เหมือนจะเปลี่ยนแค่นิ้ดดดเดียวเองครับ) สำหรับรายละเอียดอื่นๆ โปรดอดใจรอข้อมูลอีกไม่นานครับ…

The Line Sukhumvit 71, เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71

The Line 71 // TAUPE ปรีดี แสนสิริกับบีทีเอส มีแผนจะเปิดคอนโดร่วมกัน 9 โครงการ (จดทะเบียนบริษัทเรียบร้อยแล้ว 9 บริษัทชื่อว่า แสนสิริบีทีเอส โฮลดิ้ง 1-9) โดยทั้ง 9 บริษัทเป็นไปได้ทั้งการนำ landbank เก่าของแสนสิริ หรือ bts มาขายเข้าบริษัทร่วม หรือซื้อที่ดินใหม่เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นระยะห่างจาก BTS หรือ MRT ต้องไม่เกิน 500 เมตร

1510371_1631115807128466_3281213572732735511_n

ประกาศแล้ว 5 โครงการเหลืออีก 4

The Line Sukhumvit 71 พร้อมกว่าใคร จึงเป็นโปรเจก The Line ตัวที่ 2 ที่เปิดตัวต่อจาก The Line Mochit ที่ประสบความสำเร็จสุดๆๆๆๆๆ

เดิม The Line Sukhumvit 71 ชื่อว่า TAUPE เป็นโปรเจกดองเค็มของแสนสิริ หนึ่งใน Live with attitude collection (ที่มีพวก Wyne Teal Onyx Nye Ceil Sari ) แต่เนื่องจากทำเลแปลกๆ และ WYNE ไม่ร้อนแรงเท่าไหร่ แสนสิริจึงกล้าๆกลัวๆไม่เปิดขายซักที ทั้งๆที่ขอ eia ผ่าน และเริ่มสร้างมาซักพักแล้ว

TAUPE หน้าตาเป็นแบบเนี้ย

รอจน The Room 69 ของ LH มาดึงราคาแถวนี้ขึ้น รอจนสถานีพระโขนงจะมีโปรเจกใหม่ๆเกิด มีการเคลียร์ที่ดินหลายแปลง (เค้าว่าจะมีทั้งโรงแรม ibis style มีทั้ง community mall ) รอจน W district เสร็จครบทุกเฟส รอจนมี BTS มาร่วมทุน

วันนี้แสนสิริพร้อมแล้ว ที่จะเปิดตัว แบบปรับแบบเพิ่มความหรูขายพร้อมทุกสิ่งอย่าง และราคาที่ค่อนข้างหวือหวา

Location – ที่แปลงนี้อยู่ที่ปรีดีซอย 3 แปลงด้านหลังของ W district (มีถนนซอยคั่น) รอบด้านเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์ W district เองก็มีส่วน retail ค้าขายแต่เท่าที่ผมไปสำรวจมาหลายครั้ง เงียบเหลือเกืน ><

ตึกแถวดูเก่าๆ แปลงที่ดินของแสนสิริก็ซื้อด้านหน้าไม่ได้ทั้งหมด ติดอาคารพาณิชย์ 2 คูหา ทำให้หน้าที่ดินดูแปลกๆ คือยังไงปรีดีก็คือปรีดีอ่ะครับ แม้จะยังไม่ข้ามคลองพระโขนง แต่สภาพแวดล้อมก็ไม่ใช่ mid sukhumvit style แต่ช้าก่อนถึงจะไม่ค่อยน่าอภิรมย์ทางความรู้สึก แต่แถวนี้ก็ใกล้แหล่งของกินของใช้ ห่างรถไฟฟ้าในระยะพอเดินได้ 450 m แบบลัดเข้า W district คนญี่ปุ่นก็พอมีมาเช่าประปราย (ผมถามข้อมูลมาจาก agent เจ้าใหญ่ในวงการ) ซอยนี้ยังเชื่อมต่อกับเอกมัยซอย 12 เชื่อมต่อไปทองหล่อ 10 ได้แถวๆกลางซอย

1486714_1625270004379713_1937365567912569273_n

ที่น่าสนใจคือซอย ปรีดี 2 สามารถไปขึ้นทางด่วนได้สะดวกสุดๆ และยังลัดไป T77 ที่ดินอานาจักรของแสนสิริที่อ่อนนุชได้ T77 มีคอนโด ทาวน์เฮ้าส์ แล้วก็คอมมูนิตี้มอลล์ อีกหน่อยจะมีโรงเรียนนานาชาติ Bangkok Prep ด้วย “แต่ยังไง ปรีดีก็คือปรีดีครับ ความเห็นส่วนตัวผม ปรีดีนี่สภาพแวดล้อมดูไม่สวยเอามากๆๆๆๆ ” Project details: 29 ชั้น 291 ยูนิต ที่จอด 50% ราคาเฉลี่ย 160k ผ่อนดาวน์ 13 งวด ตึกจะเสร็จต้นปี 2560 มาดูแปลนกันดีกว่า ชั้น G มี landscape สวนสวยๆ มี sculpture garden (สวนที่มีประติมากรรม) drop off ด้านหน้า แล้วเดินเข้ามาสู่ lobby ที่มีกระจก2ด้าน บานใหญ่เต็มแนวผนัง double volume ให้แสงธรรมชาติเข้าเต็มๆ เปิดรับวิว landscape ของโครงการ แต่แน่นอนวิวที่เปิดเข้ามาก็ต้องมีตึกแถวเก่าๆเข้ามาด้วย

มีแผ่นหินอ่อนจัดเรียงเป็นลายสวยๆอยู่ที่ผนังด้านหลัง reception สวยอ่ะ

มีห้องจดหมายdesign ประมาณนี้

มีลิฟท์ 3 + 1 ตัว ก็โอเคนะครับ สำหรับยุคนี้สมัยนี้ ที่โถงลิฟท์ชั้นนี้ตกแต่งสวยเป็นพิเศษ (ชั้นอื่นคงเป็นปูนฉาบทาสี ธรรมดาตาม style Sansiri ที่ไม่เน้นกับโถงลิฟท์ชั้นทั่วไปเท่าไหร่)

ชั้น 2-5 เป็นที่จอดรถ 50% กับ 400 เมตรจาก bts กับ 160k avg น้อยไปครับ อย่างน้อยต้อง 60% อ่ะ

ชั้น 6 เป็นชั้นที่ผมเน้นย้ำ ชั้นนี้เป็นชั้น facility มีสระน้ำ มีfitness และมีห้องพัก ห้องพักชั้นนี้พิเศษสุดๆ คือมีเพดานพื้นถึงฝ้า สูงถึง3.2 เมตร ( ชั้นอื่นๆสูง2.7 เมตร) กระจกก็สูงขึ้นตามด้วยนะครับ อลังงงง ระดับ 3.2 เมตร นี่คือสูงกว่าหรือเทียบเท่า super ultimate luxury ยิ่งเพดานสูง กระจกสูงห้องยิ่งดูโปร่งดูแพง ที่สำคัญ rare item นะครับ สำหรับระดับราคานี้

10369181_1625268824379831_5466378959679446369_n

เค้ามีประตูกั้นชัดเจนเพื่อความ privacy และมีส่วนที่กั้นผนังทางเดินด้วยกระจกใส ทำให้มี 3 ห้องที่ประตูจะตรงข้ามกระจกใสตรงนี้ เป็น single coridor ที่มองออกไปเป็นวิวสระ classiccccc ห้องชั้นนี้มีตั้งแต่ 29.75 ตรม ซึ่งเมื่อคูณ 160K เข้าไปราคาก็พอกับได้นะครับกับ spec ซึ่งถ้าเปิดฝ้าออกจะดัน volume ของห้องขึ้นไปได้อีก ต่อเติมเป็นห้อง loft ได้ (ลองตรวจสอบกับแสนสิริดูอีกทีนะครับว่าดันขึ้นไปได้กี่เมตร)

11692644_1631383450435035_1394584166218708486_n

ผมเชียร์ให้ซื้อชั้นนี้ โดยเฉพาะห้องสุดหายาก the one and the only ของตึก ห้อง606 กระจกเต็มแผ่นเต็มผนัง 2 ด้าน 43 ตรม สวยมากกกก (แต่วิวอาจจะไม่สวยตามห้องนะครับ หลังคาตึกแถวเก่าๆ)

11707822_1631385830434797_2736184735770047204_n

ชั้น 7-27 เป็นชั้น typical

มีวิวตามนี้ครับ ห้องที่เป็น highlight ก็คือห้อง 2 bed ทั้งหลาย กระจกจะพื้นทะลุฝ้า บางห้องเข้ามุมต่อเนื่องด้วย

the-line-sukhumvit-71-sansiri-unblocked-north-east-view

วิวทิศเหนือโล่งๆ ในชั้นล่างๆจะเห็นวิวสระชัดหน่อย แต่เป็นสระแนวกว้าง

the-line-sukhumvit-71-sansiri-south-east-view

วิวทิศตะวันออกมองไปที่กลุ่มตึก T77 และอ่อนนุช เห็นทางด่วนและคลองพระโขนงในชั้นสูงๆ ห้อง 2 bed จะเป็นวิวนี้ครับ ซึ่งเป็นวิวหันออกด้านหน้าโครงการด้วย ในชั้นล่างๆจะได้วิว landscape ของโครงการชัดๆ

the-line-sukhumvit-71-sansiri-north-west-view

วิวทิศตะวันตก มองลอดหลังตึก the room69 ไปดู city view ฝั่งนี้จะเป็น 1 bed ขนาด 4x ตรม ที่ได้หน้าต่างจัดเต็ม 2 ด้าน

the-line-sukhumvit-71-sansiri-southwest-view

วิวทิศใต้ ชน Leluk Skywalk W district

ชั้น 28 เป็นชั้นที่เพิ่มห้อง 2 bed ขึ้นมามากกว่าชั้นอื่น

ชั้น roof top เป็นสวนดาดฟ้า มาดูแปลนห้อง ที่น่าสนใจ แบบ 1 bed ทั่วไปจะเป็นการกั้นห้องสมัยใหม่ ใช้บานกระจกใสพื้นชนฝ้ากั้นส่วนนอนออกไป ห้องแบบนี้จะโปร่งกว่าเพราะพื้นที่เชื่อมต่อกันเต็มๆแต่ก็เสียความเป็น privacy แสนสิริจัดให้ ทุกสิ่งอย่าง แม้กระทั่งจานชามช้อนส้อม เฟอร์

โดยจะมีห้อง 08 ที่หันทิศเหนือที่ได้หน้ากว้างกว่าพื้นที่ใหญ่กว่า

ชุดครัวจัดให้ครบตามนี้ครับ Body -Partcle board with melamine finished Door panel -Particle board with High Gloss Solid Color – HPL -Granite top -Black mirror back splash มีชุดจานชามช้อนส้อม เครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย

มี 1 bed แบบพิเศษที่หน้ากว้างกว่าและ 1 bed แบบแยกส่วนห้องนอนออกไปชัดเจน ผมชอบห้องมุมคู่ตรงปลายตึกทิศตะวันตก หน้าต่าง 2 ทิศ จัดเต็มมาก ห้อง 05 กับ 06

2 bed ที่นี่สวยครับ โดยเฉพาะคู่หน้าได้กระจกบานเต็ม ดูแปลนและดูรูปสวยๆเลยครับ สุดยอดดดดด ผมว่าสวยกว่า 2 bed ที่ได้หน้าต่างด้านเดียวเยอะเลยครับ

อันนี้เป็นตัวอย่างรายการเฟอร์นิเจอร์ ที่แสนสิริจัดมาให้นะครับ credit:คุณบอย

11225364_10153491696037292_2473965803235751078_n

11188330_10153491695877292_5018128595111003256_n

18789_10153491695772292_4946639582655355917_n

ผมลองคำนวนราคาห้อง 2 bed เอาเป็นว่า 60 ตรม ราคา 167,000 บาท ต่อตรม จะเท่ากับราคารวมประมาณ 10ล้านนนนนนน แหม๊!!!! พระโขนง ปรีดี กับห้อง 10 ล้านบาท วู้วววววว ซื้อไม่ลงครับ อย่างไรก็ตาม ถ้าได้ห้องชั้น 6 เพดานสูงในราคาราวๆ 140K (ผมประมาณราคาเอา) ผมว่าน่าสนใจนะ 2 bed 10 ล้าน จัดเต็มสุดขีด อาจจะขายคนพื้นที่รึเปล่า คำถามนี้เกิดขึ้นในใจผมครับ ผมเลยไปสอบถามเฮียเงาะ ผู้คร่ำหวอดในพื้นที่และเป็น นักลงทุนคอนโดรายใหญ่ เฮียเค้าว่าดังนี้ “ตึกสวยแต่สิ่งแวดล้อมไม่ได้ locationก็ไม่ใช่… New CBD รึ??ก็เปล่า!!! ห้างก็ไม่มี สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆทั้งขึ้นลงทางด่วน และเดินไกลจาก BTS มากพอๆกับ Aspire แวดล้อมด้วยตลาดสด ซอยตรงข้ามนี่สุเหร่า แถมคนแถวนั้นไม่ค่อยสุภาพนัก…. โอยยยย..!!! นี่ The Line ใกล้สุดคือ Max valu (จัสโก้เก่า) เดินไกลและข้ามถนน ส่วน community อย่าง Skywalk ขอไม่นับนะ เพราะมันไม่มีอะไรในนั้นเลย นี่ถ้า 160k/sqm ไปริทึ่มหรือ the room 69 ดีกว่า ด้วยประการทั้งปวง คนับ แหม่!!! ข้อดี external อย่างเดียวที่คิดได้คือกลางคืน ร้านแผงลอยริมฟุตบาทขายของเยอะ ร้านยำอร่อย หรือจะเดินข้ามถนนซอยแสงทิพย์ของกินเพียบนะครับ ถ้ามอง internal factor เรื่องแบบห้อง ตัวตึก ส่วนกลาง การออกแบบ น่าสนใจครับ ยิ่งแถมเฟอร์มาแบบนี้ยิ่งชอบครับ (ขี้เกียจแต่งห้อง) แต่อย่างว่าครับ ถ้า location แบบนี้ ราคาต่อตรม เท่านี้!!!! “ เฮียเงาะคนพื้นที่เค้าว่ามางี้ ผมคนนอกพื้นที่ก็ไม่มีอะไรจะขัด สรุป – แสนสิริจัดเต็ม ปรับlook สวยมาก สวยสุดขีด สวยเว่อร์ เพื่อชดเชยทำเลที่ด้อยกว่า สำหรับผมเป็นกลยุทธ์ที่ถูกต้อง แต่ผิดพลาดที่ราคาครับ แพงเกินจิตใต้สำนึกอีกแล้ว T-T 160k avg แสนสิริกล้าตั้งราคาเพราะรู้ว่ามีคนรอซื้อ โดยเฉพาะลูกค้า สิงคโปร์และฮ่องกง ที่มาแรงเหลือเกิน ได้ข่าวว่าตึกนี้ agent ขอโควต้าไป 49% ด้วยซ้ำแต่ไม่รู้แสนสิริให้แค่ไหน ผมชอบหน้าตาตึกนะ ชอบ layout ห้องด้วย โดยเฉพาะชั้น 6 สวยมากกกกกกกก ใครอยากซื้อก็ไม่เลวร้ายครับ ยังไงก็เป็นสุขุมวิทแท้ๆ สถานีพระโขนงโดยที่ยังไม่ข้ามคลอง ยังพอ assume ว่าเป็น mid sukhumvit ชายขอบได้อยู่ ปล. เปิดจองพร้อมกันทั่วโลกเร็วๆนี้ (แต่ไทยล็อกกันไปแล้ว)

AQ ARIA Asoke…เพราะชีวิตที่ดีต้องการพื้นที่และอากาศที่มากกว่า

“ARIA แปลว่าอะไรคะคุณยงยุทธ”….นี่คือคำถามแรกที่มาจากนักข่าวสาวท่านหนึ่งในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ AQ ARIA ASOKE ของค่าย AQ Estate ที่ช่วงหลังๆมานี้ถึงแม้จะไม่ค่อยมีโครงการคอนโดใหม่เปิดตัว แต่ด้วยฝีมือของผู้มากประสบการณ์กว่า 20 ปีในยุทธจักรอสังหาฯอย่างคุณยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ รับรองว่ามีทีเด็ดชัวร์ครับ….ผมเองก็นึกสงสัยอยู่เหมือนกันครับว่าคำว่า ARIA แปลว่าอะไรจนเผลอแอบคิดว่าหรืออาจจะเป็นคำพ้องรูปกับ Aquarius Estate ที่เป็นชื่อบริษัทฯเก่ารึเปล่า แต่คำตอบมาเฉลยตรงที่ ARIA แปลว่า อากาศ ในภาษาอิตาเลียน ครับ….ซึ่งการตั้งชื่อแบบนี้มันสื่อได้ตรงถึง functional benefits ที่ผู้อยู่อาศัยในโครงการนี้จะได้รับไปเต็มๆเลยครับ นั่นคือการได้สูดอากาศที่มากขึ้นครับ….

คุณยงยุทธกล่าวเน้นย้ำว่าเหตุผลของการสร้างคอนโดที่มีความโดดเด่นในด้าน functional benefits ทั้งในเรื่องความสูงของห้องที่สูงถึง 3.60 เมตร การให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Extreme Fully furnished หรือจำนวนยูนิตที่น้อยเพียงแค่ 315 ยูนิต และมีแค่ห้องแบบ 1 ห้องนอนทั้งตึก นั้นไม่ได้ถูกจงใจจับใส่ เพื่อมากลบจุดด้อยในด้านทำเลแต่อย่างใด… หากมองอย่างเผินๆแล้วระยะเดิน 350 เมตรจาก MRT สถานีพระรามเก้า และการที่โครงการอยู่ติดทางด่วนเลย ย่อมเป็นทำเลที่ underdog กว่าหลายโครงการที่อยู่รายรอบ GLAND The New CBD อยู่แล้วครับ… ผมจะไม่ขอลงลึกถึงเรื่องทำเลและแปลนของห้องเนื่องจากคุณคอนโดแมนได้แบไต๋ไปให้ผู้อ่านเห็นหมดแล้วตามลิงค์นี้ครับ ฮา… ส่องกล้องมองแปลน AQ ARIA Asoke กับคอนโดแมน แต่จะว่ากันตามตรงแล้วถ้าไม่นับโครงการรอบๆ The New CBD อย่าง Ideo Mobi, Condolette Midst, Aspire Rama 9 และโครงการใหม่ๆอีก 2-3 โครงการที่จะเกิดขึ้นแถวๆนั้น AQ ARIA ASOKE ไม่ได้มีทำเลเป็นรอง Rhythm Asoke I และ Rhythm Asoke II แต่อย่างใดครับ ผมฟันธง!!!!! AQ Estate เลือกที่จะเปิดตัวโครงการนี้ให้ช้าที่สุด รอจนโครงการของ AP ทั้ง 3 โครงการที่รายล้อมอยู่สามทิศ (รวม Life Asoke ด้วย) เปิดตัวแบบหมดเปลือกก่อน จึงเริ่มเปิดขายในแบบที่ไม่กลัวว่ายอด take up rate และ absorption rate จะต่ำกว่าชาวบ้าน เพราะคุณยงยุทธพกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋าว่ามาตรฐานคอนโดของ AQ Estate นั้นมันมัน beyond expectation ของลูกค้าจริงๆครับ…มาถึงวันนี้หากใครก็ตามที่เดินเข้าไปดูห้องหนึ่งนอนของ ARIA แล้วเดินไปเทียบกับหนึ่งนอนของสามโครงการที่ผมกล่าวมา ผมว่ายังไงซะเกิน 50% ก็ต้องเลือกซื้อ AQ ARIA ASOKE ด้วยเหตุผลสารพันที่ผมจะกล่าวในบรรทัดต่อไปครับ (ARIA เลือกที่จะให้ลูกค้าดูห้องตัวอย่างได้ตั้งแต่วันนี้ และเปิดพรีเซลในวันที่ 27 มิย. จังหวะเดียวกับที่ AP มีงาน Space Connect ที่สยาม พารากอน ในวันที่ 25-28 มิย. โดยกุมความได้เปรียบในเรื่องความพร้อมของห้องตัวอย่าง ราคาที่ final พร้อม benchmark กับคู่แข่งทั้งหมดแล้ว และเกาะกระแสโฆษณาของ Life Asoke ….ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัวเลยครับ เห็นหรือยังครับว่าคุณยงยุทธแกแยบยลขนาดไหน!!!!) 360 ซม. Volume of Space ที่น่าจะเป็น Trendsetter ในอนาคตอันใกล้ ห้องเพดานสูงสไตล์ Loft ไม่ได้มีแค่โครงการ AQ ARIA ASOKE เพียงที่เดียวครับ หากนับเพียงแค่โครงการของ AQ Estate ก็จะมีโครงการ Estes รัตนาธิเบศน์ ครับที่มีห้อง type สูง 3.60 เมตร เช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้ถูกวางเป็น Mode หลักของโครงการ เนื่องจากห้อง 1 นอนแบบ Loft ของ Estes นั้นมีขนาดประมาณ 31 ตรม. และห้อง 1 นอนขนาด 28 ตรม.กลับทำมาเป็นห้องไม่มีชั้นลอยซะงั้น มันก็เลยดูขาดๆเกินๆยังไงไม่รู้ครับ…แต่มาในงวดนี้ AQ เอาจุดบอดของ Estes มา remake ใหม่ ราวกับเป็น DVD ธรรมดากับ DVD Bluray ไปเลยครับ เราจะได้เห็นงานละเอียดคุ้มค่าแก่ราคาไม่ว่าจะเป็นกระจก Full Height, ราวกันตกเป็นกระจกพร้อมขอบอลูมิเนียมสีเดียวกับเฟรมหน้าต่าง, บานประตูห้องน้ำแบบอลูมิเนียมอบสีน้ำตาลพรีเมียม พื้น Engineered Wood หน้ากว้าง8 นิ้ว, ไฟ LED Downlight, กระเบื้องหินอ่อน, แอร์ระบบ Inverter, Washlet Bidet จาก Toto, ช่องเสียบสายชาร์จ USB ในห้องน้ำและหัวเตียง ฯลฯ USB Port ในห้องน้ำ

บานประตูห้องน้ำสไตล์คอนโดที่ญี่ปุ่นมากครับ ทนทานไม่กลัวน้ำ

เปรียบเทียบกับห้องขนาด 1 นอน 31 ตรม. ที่ Estes

ห้องขนาด 1 นอน 28 ตรม. ที่ AQ ARIA ASOKE

นอกจากนี้ หากใครที่อยู่ในแวดวงอสังหาฯก็จะรู้ดีว่าคุณยงยุทธนั้น เคยเป็นที่ปรึกษาในการวางคอนเซปท์ พัฒนารูปแบบโครงการภายใต้แบรนด์ Ideo ในยุคบุกเบิก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Ideo Morph 38 ครับ…ใช่ครับ Morph 38 หรือ Skyle ที่เป็นห้องแบบ Loft เพดานสูงถึง 4.8 เมตรทั้งโครงการ The Real “Double Volume” ของแท้ที่โดดเด่นเป็นสง่าอยู่ในซอยสุขุมวิท 38 ครับ (คือสูงจนต้องแถมบันไดลิงมาปีนทุกห้องน่ะคุณคิดดูละกัน) ห้องที่ Morph 38 – Skyle

นับตั้งแต่การมาของ Skyle ในครั้งนั้น สร้างแรงกระเพื่อมให้หลายๆ developer คิดที่จะพัฒนาห้องสไตล์ Loft แบบมีชั้นลอยนี้ออกมาหลายเจ้าครับ ไม่ว่าจะเป็น Moff Design (Maximum of Flexible Function ) สูง 4 เมตร จากค่าย Property Perfect หรือ Blossom Condo@Fashion และล่าสุดคือ Siamese Exclusive ที่จัดเพดานสูงมาสองระดับคือ 3.2 เมตรและ 4.45 เมตร MOFF Design ใน product line ของ Metro Sky

การที่หลายต่อหลายเจ้าเริ่มมาพัฒนาห้อง type แบบนี้ ผมมองว่ามีนัยสำคัญครับ… จากการสอบถามในโครงการที่มีการขายคละแบบทั้งห้อง style loft และห้องแบบธรรมดา พบว่าห้องแบบ Loft นั้นมีคนสนใจซื้อมากกว่าครับ….เข้าตำราของแปลกมักจะเป็นที่สนใจและขายง่ายครับ!!!! ยิ่ง AQ ARIA ASOKE วางตัวชัดเจนว่างวดนี้ขายห้องแบบเดียวกันทั้ง 315 ยูนิตเลย ชนิดที่ไม่เกรงใจ demand 2 นอน ที่มีเคืองว่าแม้แต่จะขอ combine unit ยังไม่ให้ฉันเลยเรอะ!!!! แล้วแบบนี้มันเข้าตำราของแปลกหายาก ราคาดีตรงไหนล่ะ ในเมื่อมันเป็นห้องแบบเดียวกันทั้งตึก? แปลกสิครับ เพราะคุณอย่าลืมว่าในระยะ 1 KM รอบโครงการ AQ ARIA ASOKE นั้นมี supply ไหนบ้างที่เป็นห้องแบบนี้ครับ และ supply ใหม่เมื่อรวม Life Asoke เข้าไปมันทะลุห้าพันยูนิตครับ และจำนวน 315 ยูนิตนี้คิดเป็นกี่ % ของ Supply ทั้งหมดครับ!!!!! มองออกไหมครับคุณผู้อ่าน….คนซื้อ AQ ARIA ASOKE จึงไม่ได้แข่งกันขาย แข่งกันปล่อยเช่ากับคนที่ซื้อโครงการเดียวกันครับ ยิ่งหากเรา zoom in ลงไปถึงตัวราคา Rhythm Asoke I และ Rhythm Asoke II ที่เค้าว่ากันว่าห้อง type Studio – 1 นอนที่มีขนาด 21 – 28 ตรม. ขายดีมาก ราคาล่าสุดที่ผมทราบมามีราคาเฉลี่ยที่ 158K – 165K ตามลำดับ และไม่มีเฟอร์นิเจอร์แพคเกจในแบบ AQ Extreme ครับ นอกจากนี้ยังไม่มี extra volume เป็นความสูงอีก 1 เมตรและพื้นที่ชั้นลอยที่ให้เปล่าโดยไม่คิดในโฉนดอีกครับ

ราคาเริ่มต้นของ ARIA แค่ 3.98 ล้าน และเอาเฉลี่ยที่ 160K มาคำนวณดูก็จะพบว่าราคาห้องคือ 4.48 ล้าน คิดเบื้องต้นแค่นี้ก็ถูกกว่าราคาเฉลี่ยของห้องขนาด 28 – 31 ตรม. ของทั้งสองโครงการแล้วครับ และถ้าสมมติจะซื้อปล่อยเช่าที่ไหนน่าจะได้ yield คุ้มค่ากว่ากันครับ ลองคิดตามดูนะครับ เมื่อเห็นเป็นแบบนี้แล้วคอนโดมิเนียมเพดานสูง 360 ซม. ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาโดย AQ Estate นั้นจะสร้างจุดเปลี่ยนสำคัญในทิศทางการพัฒนาคอนโดมิเนียมต่อจากนี้ไป และเป็นไปได้ว่าจะมีการพัฒนาคอนโดมิเนียมในลักษณะใกล้เคียงกันออกสู่ตลาดแน่นอนครับ

ความสูงของห้องที่เหนือกว่าคอนโด high rise มาตรฐานประมาณ 1 เมตรนั้น นอกจากจะช่วยในด้านความรู้สึกโปร่งโล่ง และมีพื้นที่เก็บของ ปรับเปลี่ยนให้ทำสิ่งต่างๆได้มากขึ้น ก็ยังมีผลในเรื่องของระบบไหลเวียนของอากาศภายในห้องด้วยครับ ซึ่งทางคุณยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ บอกว่ามิติความสูงที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่ได้เพื่อเพียงความรู้สึกโปร่งเท่านั้น หากแต่ความสูงเพดานที่360 ซม.นั้นเป็นความสูงที่ทีมพัฒนาโปรดักท์ออกแบบมาเพื่อเพิ่มพื้นที่อยู่ให้อาศัยได้จริงได้เพิ่มอีกถึง38%

สิ่งหนึ่งที่ยากจะเลียนแบบก็คือ ไม่ใช่ว่าทุกเจ้าอยากจะทำห้อง Style แบบนี้ก็ทำได้ เพราะคำนวณออกมาแล้ว ทางทีม AQ เปิดเผยอย่างภาคภูมิใจ และตัวผมเองก็ตื้นตันใจมากครับ ในคำพูดที่ว่า ในการทำโครงการนี้คิดคำนวณเบ็ดเสร็จ GFA vs NFA ทำให้มี efficiency แค่ 42% เท่านั้น…บระเจ้าาาา จะมี developer เจ้าไหนบ้างครับ ที่เป็นพ่อพระขนาดก่อสร้างคอนโดที่ได้ efficiency แค่เนี้ยยย ในขณะที่เจ้าอื่นก็ต้องมี 60% เป็นอย่างน้อย!!!!!! “พื้นที่ขายที่ลดลง และแน่นอนความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นของผู้อยู่อาศัย เนื่องจากมีจำนวนห้องพักเพียง 315 ห้อง และอีกหนึ่งร้านค้าถือเป็นจำนวนที่น้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมในบริเวณใกล้เคียงและที่พิเศษยิ่งไปกว่านั้นคือทุกห้องพักที่ AQ ARIA ASOKE นั้นล้วนเป็นห้องขนาดหนึ่งห้องนอนทั้งหมด กล่าวคือความหนาแน่นของผู้อยู่อาศัยนั้นนอกจากจำนวนห้องน้อยแล้ว จำนวนผู้อยู่อาศัยในแต่ละห้องก็ยังน้อยอีกด้วย นำมาซึ่งที่จอดรถที่มากกว่ามาตรฐานโดยมีปริมาณที่จอดถึงกว่า 44% สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับโครงการในระดับเดียวกันที่มีที่จอดรถเฉลี่ยอยู่ที่30-40%” คุณยงยุทธกล่าว ข้อดีอื่นๆของที่นี่ผมว่าก็เป็นส่วนกลางที่ผมว่าให้มามากเกินพอสำหรับห้องแค่ 315 ห้องด้วยซ้ำครับ เพราะแบ่งเป็น 3 ชั้น 3 โซน โดยชั้น facility หลักที่ชั้น 7 คุณยงยุทธกล่าวอย่างแมนๆว่าผมจะไม่ยอมให้ชั้นนี้มีห้องพักเด็ดขาด เพราะไม่อย่างงั้นคนที่อยู่ชั้นนี้ก็จะทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของชั้นนี้ มาตากผ้าที่ระเบียงวิวสระบ้างอะไรบ้าง แบบนี้จะทำให้โครงการดูลดค่าลงมามากเมื่อมีคนเข้าอยู่ มันก็เลยนำมาซึ่ง whole floor facility ซะเลยครับ เจ๋งอ่ะมีห้องซ้อมมวย กับ Co-Working Space แบบจริงจังด้วย และทาง AQ ก็ยังคงคิดอยู่ว่าจะเอา บ่อออนเซ็น ที่สร้างชื่อเสียงอย่างมากไว้ที่ Aequa49 มาไว้ที่นี่ดีหรือไม่? เอ้าใครอยากได้เรียกร้องกันมาเรยคร้าบบบบ…

แต่ช้าก่อน ก่อนที่คุณจะหลงเสน่ห์หนุ่มรูปงามนามว่า ARIA มากไปกว่านี้ ตบหน้าตัวเองสองทีแล้ว ดึงสติขึ้นมาก่อนครับ เพราะในความสง่างามราวกับเทพบุตรนั้น ก็มีความโหดร้ายซ่อนอยู่เช่นกันครับ…ข้อเสียของที่นี่ก็คือ การมีพื้นที่ขายแค่ไม่ถึงครึ่งจาก GFA และยิ่งมีแต่ห้อง 1 นอนล้วนๆด้วย ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับค่าใช้จ่ายส่วนกลางไปเต็มๆแน่นอนครับ ตอนนี้ผมยังไม่ทราบว่าค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่แท้จริงแล้วเป็นเท่าไหร่ แต่แว่วๆว่าแพงครับ ซึ่งอาจจะต้องไป weight กับอัตราค่าเช่าที่ต้องบวกขึ้นจากปกติเช่นกัน หรือใครที่มองว่าค่าใช้จ่ายส่วนกลางนี้มันดูแล้วคุ้มค่ากันกับส่วนกลางที่เหลือเฟือมากๆ อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองครับ ต้องวัดใจว่าจะเชื่อมั่นในฝีมือคุณยงยุทธมากแค่ไหนว่าเมื่อเสร็จแล้วที่นี่ราคาจะพุ่งทั้งรีเซลและค่าเช่า สมดังที่เค้าวาดฝัน Blueprinting Your Future ไว้หรือไม่ อย่างไรครับ ประการต่อมาก็คือทำเลย่านอโศก รัชดา ตรงจุดที่โครงการ ARIA นั้นตั้งอยู่มันเดินทางลำบากชะมัดครับ!!!! ไม่ว่าจะเป็นการขับรถที่ถ้ามาจาก Central Rama 9 แบบไม่ทำผิดกฎจราจรก็ต้องไปเลี้ยวขวาที่แยกอโศกเพชรฯและเลี้ยวขวาอีกทีเพื่อออกมาทางเส้นเลียบแอร์พอร์ตลิงค์ ฟังดูเหมือนง่ายนะครับ แต่สำหรับคนที่อยู่แถวนี้รู็กันดีว่าในช่วงเวลาเร่งด่วน มันรถติดเกินชั่วโมงแน่ๆครับ ส่วนการเดินจาก MRT น่ะเหรอ!!! หวังว่าเมื่อ Rhythm Asoke I สร้างเสร็จจะช่วยสร้างความรู้สึกปลอดภัยน่าเดินมากกว่านี้ครับ นอกจากนั้นผมมองว่าแพคเกจการขาย (ตอนนี้ยังไม่ final ราคาค่าจอง ทำสัญญาและผ่อนดาวน์ครับ) แต่ได้ยินคร่าวๆว่าแพคเกจผ่อนดาวน์ล่อใจนักเก็งกำไรมาก คือตกประมาณเดือนละ 9,000 บาทกว่าๆ (ผิดถูกอย่างไรวานบอกนะครับ) สิ่งนี้อาจจะเอื้อให้นักเก็งกำไรหลายๆรายหวังเข้ามาขย่มตลาด ตัดราคาขายรีเซล ไม่ยอมโอนฯ จนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ราคารีเซลไม่กระเตื้องเช่นกัน ยิ่งไม่มีห้องขนาดสองนอนที่ปกติจะเป็น demand ที่อยู่จริงแล้วก็ยังคงเดาทิศทางยากครับ สำหรับการปล่อยเช่าหรือครับ? อย่างที่ผมบอกด้านบนก็คือ ARIA นั้นมีภาษีเหนือกว่า 2-3 โครงการในระยะใกล้ครับ แต่การที่จะ achieve rental yield ได้เท่านั้นจริง คงต้องรอให้ตึกสร้างเสร็จ ได้รับความร่วมมือจาก owner ในการสร้างมาตรฐานค่าเช่าที่สูงกว่า โดยที่ให้คนเช่าเป็นผู้ตัดสินใจครับ…อย่าไปเทียบราคากับโครงการที่นอกเหนือจากทำเล Rama 9 The New CBD เลยครับ please เพราะคนที่ซื้อทำเลนี้คือคนละกลุ่มกับคนซื้อทำเลสุขุมวิทตอนกลางหรือทำเลอื่นๆน่ะครับ เอ้า เขียนมาเยอะแล้วเอาเป็นว่าใครอยากได้ก็เปิดลงทะเบียนแล้ววันนี้ที่ www.aqestate.com หรือ โทร 1636 Sales Gallery และห้องตัวอย่างเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันที่15 มิ.ย. และเปิดให้จองได้ในงานPre-opening วันที่27 มิ.ย. นี้นะครับ ปล. ของพรีเมี่ยมเค้าเกร๋มากเรยครับ เป็นถุงกระดาษทรงสูงชะลูด Key Visual เป็นผู้หญิงปีนบันได พร้อมตลับเมตรอยู่ในถุงมาให้วัดความสูงห้องด้วยตัวเองกันเลยทีเดียวเชียว….

ส่วนของแถมถ้าจองในวันงานพรีเซลคือ………

AQ Aria Asoke

ส่องกล้องมองแปลน AQ ARIA Asoke กับคอนโดแมน

ตอนนี้หลายๆคนมุ่งความสนใจไปที่ Life Asoke คอนโด 166x ยูนิต จาก AP โปรเจกยักษ์ร่วมทุนกับญี่ปุ่นมูลค่าโครงการประมาณ 6พันล้าน กฤษฎามหานคร หรือ ที่ตอนนี้รู้จักกันในนาม AQ Estate มีที่ดินแปลงนึงอยู่ย่านนั้น ดองไว้นานจนคนสนใจกลายเป็นไม่สนใจไปหลายคน ก็ใช้จังหวะที่ตอนนี้ ช่วงกระแสทำเลกำลังมา …. เปิดตัว AQ ARIA โครงการใหม่(แต่เรารู้กันตั้งนานละว่าจะมี555)

เค้าว่า ARIA แปลว่าอากาศ มาจากภาษาอิตาลี สื่อถึง volume ของห้องที่มากกว่า AQ Aria อยู่ที่แปลงหัวมุมถัดจาก RHYTHM ASOKE I เยื้องตรงข้าม RHYTHM ASOKE II ที่ดินติดถนน 3 ด้าน พิเศษมากคือ มีด้านนึงแทบจะติดจนเกือบจะเป็นชีวิตชิดทางด่วน การเดินทางโดยรถยนต์ในทำเลนี้ ไม่ค่อยโอเคครับ จะสะดวกสบายหน่อยก็ถ้าลงมาจากทางด่วน หรือมาจากจตุรทิศ จะลำบากมากๆคือมาจากทางเหนือ รวมถึงการมาจากเซนทรัลพระราม 9 ด้วย เรียกได้ว่าเดินคงเร็วกว่าหลายเท่า ในช่วงเวลาเร่งด่วน

พูดถึงการเดินเท้าจาก MRT สถานีพระราม 9 หรือจากเซนทรัลแกรนด์พระราม9 ถือว่าใกล้นะครับ คือประมาณ 350 เมตร แต่สภาพทางไม่ค่อยน่าเดิน ยิ่งช่วงนี้ ร้อนมากกกกก ไม่ไกลก็ไม่ค่อยไหวครับ สำหรับผมยอมเดินซัก 600 เมตรที่ทำเลที่น่าเดินดีกว่า แต่ก็นะถ้าวัดตรงๆจาก MRT สถานีชั้นใน New CBD ในระยะน้อยกว่า 350 เมตร ดูแต่ตัวเลขถือว่าดีมั่กๆ

ดูเฉพาะทำเลเหมือนจะไม่ค่อยน่าสนใจ แต่ช้าก่อนนนน เรารู้ผู้บริหาร AQ คนใหม่อย่างคุณ ยงยุทธ อดีตผู้บริหารแสนสิริ และเจ้าของ aquarius ผู้พัฒนา AEQUA49 คอนโดคุณภาพที่หลายๆคนยอมรับ เค้าก็รู้ครับ (แม้คุณยงยุทธ จะเน้นย้ำในวันแถลงข่าวว่า ต่อให้ติดรถไฟฟ้า ทำเลพรีเมี่ยมกว่านี้ก็จะจัดเต็มแบบนี้เช่นกันครับ ไม่ใช่จัดเต็มให้เพราะทำเลด้อยกว่าแต่อย่างใด) เค้าเลยจัดคอนโดแนวใหม่ เพดาน 3.6 เมตร ที่ทาง AQ เคยนำเสนอสู่ท้องตลาดมาแล้วที่ estes รัตนาธิเบศร์ และพัฒนารูปแบบให้ดีขึ้นไปอีกหลายขั้น จัด spec มาเต็มเหนี่ยว เรียกว่าฟังดูแล้วอย่างกับคอนโดราคา 200k++

รายละเอียด spec ตามนี้เลยครับ ให้ทีวี 40 นิ้วด้วย

มาดูรูปแบบตึกกันก่อน ที่นี่จะเป็น 1 bedroom ทุกยูนิต และcombined ไม่ได้นะครับ มีเพดาน 3.6 เมตร กระจกพื้นถึงฝ้าเข้ามุม ดู grand ดู luxury ดู wowww มากกกกกก ชั้น1 จะเป็น lobby ห้องประชุม ร้านค้า มีทางเข้าออกที่ฝั่ง อโศกรัชดาเท่านั้น

ชั้น2-6 เป็นที่จอดรถครับ และชั้น6 ยังมีห้องพักคนงาน ทำให้ไม่ต้องไปนอนหลับตามที่ต่างๆ ซึ่งดูไม่ค่อยดี ชั้น 7 เป็นชั้น facility ครับ สูงพ้นทางด่วนมาพอสมควร สระอยู่ทิศตะวันออก เปิดรับวิวด้านหน้าโครงการ ฝั่งถนน อันนี้ตอนใช้จริงไม่รู้จะมีเสียงรถกับมลพิษมารบกวนรึเปล่า (เคยไปใช้สระของ ivy thonglor ก็ประมาณนี้แต่ไม่รู้สึกว่ารบกวนอะไรครับ แต่ที่นี่ใกล้ทางด่วนผมไม่กล้าฟันธง) ด้านนี้ยังจะเห็นตึก RHYTHM asoke II ด้วยครับ ชั้นนี้ยังมี working space พร้อมอุปกรณ์ทำงานเต็มเหนี่ยว มีfitness และห้องนั่งเล่นชิลชิลล์ ที่เร้าใจกว่าคือมี kids room ซึ่งคอนโดส่วนใหญ่ละเลย ในนี้จะจัดเต็มของเล่นให้ น้องๆหนูๆได้มันส์สะใจ

ชั้น 8-21 เป็น typical floorplan แบบนี้ครับ

ชั้น 22 ชั้นนี้พิเศษ ปีกด้านหน้าจะหายไปกลายเป็นสวนสวยๆ ซึ่งผู้อยู่อาศัยทุกคนขึ้นมาได้ครับ ไม่ต้องกังวลเรื่อง privacy สำหรับคนอยู่ชั้นนี้ เพราะมีประตู keycard อีกชั้น

ชั้น 23-28 เป็นชั้นพักอาศัยที่ไม่มีปีกตึกด้านหน้าโครงการ ห้องพักจะน้อยกว่าแถม โถงลิฟท์ยังเปิดรับวิวโล่งแบบสุดๆ อลังงง ไฮโซ

ชั้น 29 เป็น top floor facility มีสวนมี lounge

มีชั้นไหน ห้องไหนน่าสนใจบ้าง ก่อนอื่นมาดูความสูงเทียบกันก่อนครับ 3 ตึกในทำเลนี้ ความสูง 3.6 เมตรของ ARIA ทำให้ในชั้นเดียวกัน ระดับจะสูงกว่าใคร ความสูงพอๆกับ RHYTHM asoke I RHYTHM asoke II จะเตี้ยที่สุดในสามตึก ทำให้ชั้นสูงๆของ ARIA ในทิศตะวันออกจะได้วิวโล่งสูงพ้นแล้ว

11334047_1622445247995522_8376336976201016191_o

และนี่คือแปลนตึกทั้ง 3 เมื่อเทียบกัน เล็งกันให้ดีครับชีวีจะเป็นสุข

11401418_1622104731362907_2361004748100346684_n

ห้องทีเด็ดชุดแรกที่ผมชอบ คือห้องวิวสระตามแนวยาวทิศใต้ครับ ได้วิวเมืองสวยๆและวิวสระของตัวเอง โดยความสูงที่วิวสระจะสวยที่สุดผมว่าประมาณชั้น 10

ห้องทีเด็ดชุดต่อมาคือห้องทิศเหนือที่ปีกตึกด้านหน้า จะได้วิว super tower ในชั้นที่สูงพอจะเห็นสระของ RHYTHM asoke I ด้วยครับ ถ้าชั้นที่ไม่เห็นสระก็จะได้วิว landscape และ ห้องfitness ของ ริทึ่ม

ห้องทิศตะวันออกก็จะได้วิวสระแนวสั้น(สวยสู้แนวยาวไม่ได้) แต่จะได้วิวสระของ RHYTHM asoke II ด้วยเป็นของแถม

ห้องทิศตะวันตกทาง AQ บอกว่าที่ดินข้างเคียงเป็นที่ดินรถไฟครับ ซึ่งวิวจะเขียวสวยจากป่ามักกะสัน ทีนี้ต้องระวังป้ายโฆษณานะครับ ในชั้นล่างๆอาจโดนบล็อกได้ ผมแนะนำให้หลีกเลี่ยงชั้นล่างๆทิศตะวันตกครับ ภาพวิวทั้งหมดเป็นระดับชั้น 23 ครับ

ผมหลงรักห้องชั้น 22 เป็นห้องชั้นพิเศษที่มีสวนของโครงการอยู่หน้าโถงลิฟท์ และมี privacy ด้วยจาก keycard อีกชั้น เหมาะกับคนชอบสวนครับ

11401563_1622105391362841_3229102131341552588_n

ห้องชั้น 22 ขึ้นไปไม่มีปีกตึกด้านหน้า จำนวนห้องต่อชั้นจะน้อยลง และได้กระจกอลังง ที่หน้าโถงลิฟท์ครับ

ทุกห้องของที่นี่เป็น 1 bed แตกต่างกันไปทั้งขนาดและรูปแบบ

มี 1 bed แบบพิเศษที่ได้กระจกมากกว่า ห้องหน้ากว้างกว่าคือแบบ 2A ห้อง 09

มี 1bed ที่น่าจะมี sexy bathroom กระจกบานใหญ่ อ๊างงงงงงงง

11188445_1622181961355184_6010637272001222320_n

มี1 bed ห้อง 13 / 16 ที่มีห้องน้ำไม่เหมือนห้องอื่น คือจะเป็นทรงด้านเท่า ไม่ใช่แนวยาว TYPE แบบนี้ตู้เย็นจะวางข้างๆครัวครับ แตกต่าง ห้องที่นี่จะขายพร้อมเฟอร์ เครื่องไฟฟ้า ผ้าม่าน ชุดเครื่องนอน ครบทุกสิ่งอย่างครับ กระจกบานใหญ่สูงพื้นถึงฝ้าเข้ามุม พื้นไม้แบบเอนจิเนียร์หน้ากว้าง 8 นิ้ว สัมผัสสบายเท้า เป็นพื้นไม้ที่ spec สูงมากนะครับ หน้ากว้างกว่าปกติ

11427209_1622149561358424_9163432598976858947_n

บานประตูห้องน้ำเป็น กระจกฝ้าเฟรมอลูมิเนียม ทนน้ำและดูแพง

11407106_1622135854693128_1076637093544919441_n

วัสดุที่ใช้บุผนัง ปูพื้นห้องน้ำสวยงามครับ ให้ auto washlet ของ toto (ยุดนี้ขาดไม่ได้ซะแล้วกับคอนโดระดับราคานี้) พิเศษคือมีช่องเสียบ usb ไว้ชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าในห้องน้ำครับ ผมเจอประจำนั่งอ่านข่าวไป ทำธุระไป แบทดันหมด 5555 ที่นี่ไม่ต้องกังวลครับ ในห้องมาพร้อมระบบน้ำร้อน น้ำเย็น ติดตั้งมาให้แล้ว

11412273_1622364491336931_8509184643112359845_n

11114010_1622364504670263_8654776653347540512_n

แอร์ให้ 1 เครื่องแขวนผนังแบบ invertor บีทียูใหญ่ ค่าไฟก็จะมากกว่าแบบ แยก 2 เครื่อง แต่เนื่องจากอินเวอร์เตอร์จะประหยัดไฟกว่าแบบธรรมดา ก็คงไม่ใช่ประเด็นอะไร การแบ่งพื้นที่ใช้สอยในห้องทำได้ดีครับ มีส่วนครัวอยู่หน้าห้อง มีตู้ครอบตู้เย็นยกระดับขึ้นมามีพื้นที่วางรองเท้าใต้ตู้เย็นได้ แต่วัสดุของตู้ครอบตู้เย็นผมว่า ธรรมดาไปหน่อย ชุดครัวให้แบบ hi gloss พ่นซึ่งดีกว่าแบบแปะผิว

ชั้นล่างจะมีส่วนนั่งดูทีวีเพดานสูง และส่วนห้องทำงานเพดานเตี้ยใต้ชั้นลอย บานประตูออกระเบียงเป็นกระจกใส ราวกันตกที่ระเบียงเป็นกระจกใสนะครับ คือที่นี่มันดูแพง hi class มาก ที่ระเบียงยังวางเครื่องซักผ้าแยกชิ้นกับเครื่องอบผ้า ใช้งานมีประสิทธิภาพกว่าแบบชิ้นเดียว คอมแอร์ปิดมิดชิดครับ

11401465_1622136118026435_2340008476838454967_n

11428562_1622364621336918_5185195766602839201_n

ไฟทั้งห้องเป็น LED ชั้นลอยเป็นส่วนที่นอน ไม่ได้คิดรวมในพื้นที่ห้อง และไม่มีโฉนดนะครับ ตรงนี้เตี้ยจังผมสูง 177 ยืนตรงไม่ได้เลยครับ ต้องปรับตัว หรือไม่ก็ปรับแปลนเอาเตียงไปไว้ด้านล่าง ข้างบนนั่งทำงาน ผมว่า function โอเคครับ

11392978_1622364531336927_3371989682323321337_n

11266668_1622364548003592_6395107478005103030_n

ชุดเครื่องนอนจัดมาให้ทั้งหมด มีแบรนด์ด้วยนะครับเค้าว่า ระดับโรงแรม5 ดาว ผมชอบที่นี่มาก ดูแพงเกินราคาขาย (เฉลี่ย 16x,xxx บาท ต่อ ตรม) ตอนแรกผมยังรู้สึกแพง แต่พอมาเห็นของแล้ว รู้สึกคุ้มค่าครับ ทีนี้ติดที่ทำเล ถ้าคนรับได้ผมว่าสอยเข้าปอดเหอะ นานๆจะมี product แบบนี้ออกมาสู่ท้องตลาด แต่ถ้าจะลงทุนเพื่อปล่อยเช่า ไม่แน่ใจว่าคนจะยอมเดินไกลเพื่อมาจ่ายแพงกว่า หรูกว่า น่าอยู่กว่า เช่าห้องธรรมดาๆใกล้สถานีรึเปล่า สมมติ 165,000 บาทต่อตรม ห้อง 28 ตรมก็เท่ากับ 4.62 ล้าน ได้พื้นที่ใช้สอยจริงประมาณ 37 ตรม ราคาปล่อยเช่าห้อง 37 ตรมแถวนั้นประมาณ 24,000-27,000 บาท ต่อเดือน สรุป ตอนแรกผมว่าจะไม่ซื้อ ด้วยหลายๆเหตุผล แต่ตอนนี้ไม่แน่แล้วครับ สัมผัสได้ถึงความตั้งใจ จากทีมงาน AQ สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณที่ส่งมาให้ ผู้บริโภค คุณยงยุทธ บอกว่าที่เลือกให้ของดีๆแบบนี้ เพราะวันนึง ถ้าราคาคอนโดนี้มีโอกาสขึ้นไปถึง 200k คนที่มาซื้อต่อจะได้ รู้สึกได้ถึง value ของห้อง ที่ spec สูงรอรับกับราคาอนาคตไปแล้ว ที่เลือกใช้กระจกเยอะๆ เพราะตัวตึกจะได้ดูใหม่อยู่เสมอ ผมฟันธงว่าตึกนี้สร้างเสร็จจะสวยมาก และเก่ายาก อ้อตึกนี้ออกแบบโดย ทีมสถาปนิก dbstudio เจ้าของผลงาน via botani คอนโด lowrise ที่ผมว่าดีที่สุดในชั่วโมงนี้ นะครับ กรี๊ดดดด ชอบจัง ของแถมภาพโมเดลตึกในหลายๆมุมครับ

11390141_1622136368026410_6369437976618973418_n

11391251_1622364654670248_8832392931094318094_n

11393140_1622364668003580_7214609435706144527_n

helipad บรรยากาศโดยรอบโครงการที่ชั้น 1 ชีวิตชิดทางด่วน และวิวเพื่อนบ้าน

11401051_1622364398003607_8335455213987585197_n

11401311_1622364354670278_1066203760025950887_n

เห็น supertower ด้วยนะครับ คืออย่างนี้ครับ ต่อ ตรมเหมือนจะแพงมาก แต่เฟอร์และของที่จัดให้ มีมูลค่าประมาณ 420,000 บาท …สมมติห้อง 28 ตรม ราคาขาย165k ก็เท่ากับ 4.62 ล้าน พื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติมที่ชั้นลอย 9 ตรม อ่ะผมคิดแค่ 60% เพราะด้านบนเพดานไม่สูงนัก ก็คือเพิ่มขึ้นมา 5.4 ตรม ……ก็คิดเป็น 28+5.4 = 33.4 ตรม หารออกมาเท่ากับ 138k ยิ่งถ้าขายห้องเปล่า หักออก 300,000 คิดออกมาจะเท่ากับ 129k เพดาน3.6 เมตร กระจก full height คุ้มป่ะหล่ะ

LPN พร้อมปักหมุด leasehold ตัวแรกกับ Lumpini Place Rama4-Ratchadapisek

เมื่อไม่นานมานี้ LPN ประกาศความร่วมมือกับ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ นำที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินทำเลไผ่สิงโต มาพัฒนาเป็นโครงการนำร่อง วันนี้ผมได้รวบรวมข้อมูลเท่าที่มี มาให้อ่านกันครับ เพราะโครงการนี้ทำเลนี้ คนสนใจมากเหลือเกินนนนนนน ก่อนอื่นต้องบอกว่าทำเลนี้เป็นทำเลที่ถือว่า ชั้นในสุดๆของกทม คือแค่ 1 สถานีจาก asoke interchange ที่คอนโดใหม่ๆขายกันไม่มีต่ำกว่า200k แล้ว สถานีศูนย์สิริกิติ์เองก็มีแผนที่จะพัฒนาอีกมากมายครับ ที่ดินแปลงนี้ห่างจากทางเข้าออกสถานี MRT ประมาณ 80 เมตรครับ แต่ถ้านับจนถึงปากทางเข้าคอนโดก็ประมาณ 130 เมตร โดยต้องข้ามถนนและข้ามคลอง ใช่ครับที่ดินถูกล้อมด้วยคลอง 2 ด้าน ก็ส่งกลิ่นบ้าง ผมดมแล้วก็ไม่ได้เหม็นจนทนไม่ไหว กลิ่นเบาบางกว่า คลองแสนแสบซะอีกครับ

11391338_1621730571400323_1918444944121185510_n

ภาพนี้ผมถ่ายจากแถวๆทางขึ้นลง MRT เลยครับมองไปยังที่ดิน ที่ดินแปลงนี้เป็น phase แรกของการพัฒนา ของสำนักงานทรัพย์สิน โดยแผนแม่บทจะเป็นประมาณนี้ครับ ตอนนี้เคลียร์ที่ไปเรียบร้อยละ

นอกจากนี้ทำเลนี้ยังเป็นถิ่นของ เสี่ยเจริญ คือเดิมมีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตอนนี้เสี่ยสั่งลุยเพิ่ม FYI center ขึ้นมากำลังก่อสร้างอยู่ FYI center ประกอบไปด้วย อาคารสำนักงาน 12 ชั้น พร้อมโรงแรม 239ห้อง เสี่ยยังไม่หยุดลุย ยังประมูลที่ดินแปลงหัวมุมพระราม4 ที่ติดกับศูนย์สิริกิติ์เตรียมขึ้นโปรเจกอีก ข่าวว่าจะเป็น ห้าง ออฟฟิส โรงแรม

10385476_693733710663866_4305742138103511591_n

เมื่อรวมกับที่ดินของ สนง ทรัพย์สิน ….แถวนี้จะพัฒนาไปได้อีกเยอะ อ้อยังมี Siamese queens คอนโดที่จำนงจองยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์รอขึ้นอยู่ด้วยครับ แผนที่ก็ประมาณนี้ เชื่อมต่อสองฝั่งด้วยรถไฟใต้ดินได้เลย

คือจะบอกว่าทำเลดีมากกกกกกกกกก แทบจะติดรถไฟฟ้าmrt แถมใกล้ย่านธุรกิจ วิวก็สวยโฮกกกก รายละเอียดของโครงการเป็นดังนี้ สำนักงานทรัพย์สินซึ่งเป็น landlord ได้ติดต่อไปทาง LPN ที่ขึ้นชื่อด้านพัฒนาคอนโดแบบ economy แล้วมีชุมชนน่าอยู่เป็นจุดขาย บอกว่าอยากให้เข้ามาเป็น partner เช่าที่ดินไปแปลงนึง ไปขายแบบ leasehold จุดประสงค์คือทาง ทรัพย์สินต้องการให้ lpn ถ่ายทอด know-how ให้นั่นเอง จะได้เอาไปใช้กับโครงการอื่นๆ(อันนี้ ผบห LPN พูดนะครับ)

เงื่อนไขการเช่าระยะยาวประมาณ 2+30 ปี คือให้เวลาก่อสร้าง 2 ปีจนแล้วเสร็จ และตึกที่ LPN เอามาขายแบบ lease จะมีสัญญาให้ 30 ปี หลังจากนั้นตึกจะตกเป็นของ สำนักงานทรัพย์สิน (ถึงตอนนั้นคงเก่าจนไม่เหลือสภาพแล้วมั๊งครับ แหะแหะ) LPN จะพัฒนาเป็นคอนโด 8 ชั้น มีรายละเอียดดังนี้ ที่ดินขนาด 595 ตารางวา จำนวน 193ยูนิต ที่จอดรถ 58 คัน คิดเป็น 30% (น่าจะไม่รวมซ้อนคัน) ลิฟท์ 2 ตัว ที่พักเริ่มที่ชั้น2 สัญญาเช่า 30 ปีไม่มีต่อสัญญา ราคาขายคาดว่า 1.2-1.5ล้านต่อยูนิต ชื่อโครงการจะเป็น Lumpini Place Rama4-Ratchadapisek ใช้เกรด place ให้สมกับทำเลซะหน่อย (ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง) และนี่คือหน้าตาตึกครับ

11406974_1621730111400369_8941693601613972729_n

กระจกเยอะใช้ได้เลยนะครับ แถมยังคงเก็บต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ในที่ดินนี้มานานไว้ด้วย แต่ก็นะ LPN style

ภาพนี้เป็นภาพที่หลุดมาก่อน แหม๊!!!!เห็นครั้งแรกนี่ นึกว่าคอนโดทาวน์ โชคดีนะครับที่เป็นแค่แบบร่าง

ตัวอาคารเป็นตัว U ทิศเหนือจะมีวิวที่สวยมากกกกกกก ตามนี้เลยครับ นี่เป็นผังชั้น 1

มาดูภาพมุมสูงของที่ดิน และภาพวิวต่างๆกันนะครับ ด้านหน้าทิศตะวันตกเป็นทางรถเข้า ติดคลอง และถนนซอย ตรงข้ามถนนซอยเป็นลานจอด park&rideของ MRT ตรงข้ามถนนรัชดาเป็น อาคารตลาดหุ้น ที่จะย้ายไปรัชดาเร็วๆนี้ มีฉากหลังเป็นวิวเมืองสวยๆ

11403376_1621730341400346_770139772661944776_n

นี่ผมปีนขึ้นไปที่ชั้น 8 แฟลตข้างๆถ่ายภาพมาฝากครับ

11390110_1621730214733692_8937502474726645993_n

ทิศเหนือวิวสวยมากเป็นที่ดิน รฟม น่าจะวิวโล่งตลอด แต่ด้านนี้ก็ติดคลองอาจมีปัญหาเรื่องกลิ่นเช่นกัน

11390228_1621730234733690_9002563260319626414_n

17776_1621730371400343_2642358595365921706_n

ทิศตะวันออกเฉียงเหนือจะเป็นที่ดิน Siamese queens คอนโดสวยมากกกก ที่จะเปิดขายเร็วๆนี้ ซึ่งแน่นอนครับเพิ่มความไฮโซให้ทำเลนี้อีกมาก

11390078_1621730128067034_7153382663444724386_n

ทิศตะวันออกเป็นอพาร์ทเมนท์ บล็อกวิวสนิท

11407116_1621730251400355_6616972961164812048_n

ทิศใต้ติดแฟลต ก็บล็อกวิวสนิทและเหม็นด้วยครับ ผมให้หลีกเลี่ยง

11233776_1621730274733686_8431246406313962501_n

ผมยืนที่ชั้น8แล้วก้มไปถ่ายภาพแนวรั้วครับ

แถมท้ายด้วยความคืบหน้าการก่อสร้าง FYI Center ครับ อยู่ทางใต้ของ LPN น่าจะโดนแฟลตข้างๆบังจนไม่เห็นครับ

1476649_1621730191400361_7896368045011243872_n

ปกติผมไม่ค่อยจะสนใจ LPN ซักเท่าไหร่ (ยกเว้น LPN24) แต่ตัวนี้ ด้วยทำเลกับราคาที่จะขาย แม้จะเป็นlease hold ก็ถือว่าน่าสนใจมากมายมหาศาล ใจกลางเมืองขนาดนี้ 1.35 ล้านราคาเฉลี่ยเนี่ยนะ ผมได้สอบถามราคาค่าเช่ากับอพาร์ทเมนท์เก่าๆ ด้านหลัง เค้าบอกว่าห้อง 1x ตรม ปล่อยอยู่ 4,000 บาท เคยคุยกันในเฟสกับเพื่อนๆไปรอบนึง หลายคนมั่นใจว่า 12,000 ต่อเดือนก็ปล่อยได้ สมมติราคาซื้อ 1.5 ล้านก็คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 8.8% (คิดที่ 11 เดือนต่อปี ) คุ้มนะเนี่ย ถ้าปล่อยไม่ได้ซื้อไว้นอนดูวิวสวยๆก็ไม่เลว ข้อเสียคือ ที่ดินจะติดกับแฟลตเก่า ซึ่งไม่ค่อยจะสะอาดครับ มีกลิ่นเหม็นขยะโชยมาเป็นระยะ ผมแนะนำให้หลีกเลี่ยงห้องทิศใต้เด็ดขาดเลยนะครับ อีกอย่างคือชุมชนนี้แม้จะเป็นใจกลางเมือง แต่ผู้อยู่อาศัยก็เป็นคนรายได้น้อยซะส่วนใหญ่ บางทีบางพฤติกรรมอาจไม่ถูกใจ หรืออาจดูไม่น่าไว้ใจสำหรับคนชั้นกลางบ้าง ต้องบอกกันไว้ก่อน แต่ผมเชื่อว่าไม่น่าจะมีอะไรต้องวิตกครับ การขับรถเข้าสามารถทะลุไปซอยสุขุมวิท 22 ได้นะครับผมเคยลองมาละ แต่รถติดใช้ได้เลยเวลาเร่งด่วน ใครสนใจลองขับรถไปสำรวจกันนะครับ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สรุป ผมว่าน่าซื้อครับ แต่วิวที่บล็อกไป 2 ด้าน นั่นทำให้ห้องไม่บล็อกวิวมีไม่มาก ยูนิตก็น้อยอยู่แล้ว ห้องไม่บล็อกวิวยังน้อยอีก ใครซื้อห้องสวยๆได้นี่โชคดีสุดๆครับ LPN มั่นใจว่า 10 นาที sold out ตอนนี้ยังไม่รู้เลยครับว่าจะใช้วิธีไหนในการขาย ขอให้เป็นจับ tag ทีเถิดดดดด ผมจะไปหย่อนเสี่ยงโชคกับเค้าบ้าง ท่ามกลางราคาขายคอนโดปีนี้ที่แพงอย่างน่าสยดสยอง คอนโด lease hold อาจเป็นตัวเลือกทดแทนที่น่าสนใจกว่าก็เป็นได้นะครับ