ไอดีโอ โมบิ จรัญ-อินเตอร์เชนจ์ (Ideo Mobi Charan Interchange) เชื่อมต่อวิถีแห่งอดีต สู่ชีวิตติดรถไฟฟ้า 3 สาย

มีไม่กี่ทำเลในกรุงเทพฯครับ ที่จะมีศักดิ์ศรีพอจะเรียกได้ว่าเป็นย่านชุมชนเก่าแก่ ที่มีรูปแบบการดำเนินชีวิตที่สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น… คำว่า “ติดถิ่น” เป็น keyword สำคัญในด้านลักษณะทางพฤติกรรมศาสตร์ ที่หลายๆดีเวลลอปเปอร์มักจะมองหา เวลาที่ไป survey สถานที่ เพื่อซื้อที่ดินและนำมาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม เนื่องจากหากพบว่าทำเลที่กำลังเล็งอยู่ มีการพัฒนาของชุมชนโดยรอบอย่างสมบูรณ์ต่อเนื่อง ครบหมดทั้ง การคมนาคมขนส่ง รถไฟฟ้า อาหารการกิน แหล่งช้อปปิ้ง โรงพยาบาล สถาบันการศึกษา และหน่วยงานราชการ โดยที่ในขณะเดียวกันบรรดาผู้ที่อยู่อาศัยแถวนั้นก็ไม่อยากที่จะขายบ้านของตัวเองให้ใคร เพื่อย้ายไปเริ่มต้นใหม่ที่อื่น เพราะว่าติดถิ่นไปแล้วตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ… หากทำเลใดก็ตามที่มีผู้อยู่อาศัยในลักษณะนี้ก็รับรองได้เลยครับ ว่านั่นต้องเป็นหนึ่งในทำเลทอง ที่ราคาที่ดินจะมีแต่พุ่งสูงขึ้น และคอนโดไหนก็ตามที่มีโอกาสได้พัฒนาบริเวณนั้นก็จะได้รับอานิสงค์จากกลุ่มลูกค้า Local demand ไปได้ไม่ใช่น้อยเลย ทำเลที่คนติดถิ่นนั้นมีอยู่หลากหลายกระจายตัวออกไปครับ ไม่ว่าจะเป็นเยาวราช บางรัก ลาดพร้าววังหิน ปิ่นเกล้า สามย่าน หรือเตาปูน..ไม่นับรวมถึงทำเล CBD หลายทำเลที่ส่วนใหญ่แล้วไม่ได้มีจุดเริ่มต้นมาจากการเป็น residential area แต่อย่างใด….ทำเลจรัญสนิทวงศ์ ก็เป็นอีกหนึ่งทำเลครับ ที่มีความเป็น residential area มาแต่เก่าก่อน ผู้คนที่อยู่โดยรอบมักจะไม่ค่อยอยากจะย้ายไปไหน หากจะแยกถนนจรัญสนิทวงศ์ออกเป็นช่วงๆ ผมก็คิดว่าน่าจะแยกออกได้เป็น 4 ช่วงครับ 1. ช่วงสี่แยกท่าพระ 2. ช่วงแยกบางขุนนนท์ต่อเนื่องแยกปิ่นเกล้า 3. ช่วงบางพลัด สะพานซังฮี้ และ 4. ช่วงจรัญสนิทวงศ์ตอนปลายเชื่อมต่อสะพานพระราม 7…โดยหากวัดศักยภาพโดยใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ถนนจรัญสนิทวงศ์ทั้งเส้นก็จะเชื่อมต่อกันด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ซึ่งหลายๆคนว่ากันว่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายที่มีความสำคัญกับชาวกทม.มากที่สุดเพราะว่าจะวิ่งวนรอบกทม.และฝั่งธนเป็นวงกลม คล้ายๆกับสาย Yamanote Line ที่โตเกียว หรือ Circle Line ที่ London มีจุดที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นแทบจะทุกสี เรียกได้ว่าใครก็ตามที่อยู่ในทำเลที่มีสายสีน้ำเงินผ่านก็สะดวกสบายไปทั้งชาติ…แต่หากว่าเรานับเฉพาะช่วงที่เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายอื่น (Interchange) ก็จะพบว่าทำเลจรัญฯช่วงแยกท่าพระ และช่วงแยกบางขุนนนท์ ก็คือสองทำเลที่มีแต้มต่อมากที่สุดครับ วันนี้ผมได้มีโอกาสมาเยือนโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ช่วงแยกบางขุนนนท์ต่อเนื่องแยกปิ่นเกล้าครับ โครงการที่ว่านั้นคือ ไอดีโอ โมบิ จรัญ – อินเตอร์เชนจ์ (Ideo Mobi Charan Interchange) คอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่จากค่ายอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)…คอนโดแห่งนี้ถือว่าเป็นแบรนด์ ไอดีโอ โมบิ ใน generation ที่ 1.1 ครับ โดย generation แรกนั้น ประกอบไปด้วยแบรนด์ ไอดีโอ โมบิ สาทร, ไอดีโอ โมบิ พญาไท, ไอดีโอ โมบิ พระราม 9 และ ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท ซึ่งทั้งหมดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ไปเมื่อราวๆปีกว่า สองปีแล้ว….ที่บอกว่าเป็น generation ที่ 1.1 ก็เพราะว่าในด้านการดีไซน์ของโครงการ ไอดีโอ โมบิ จรัญ – อินเตอร์เชนจ์ ยังคงเน้นการดีไซน์ที่อิงกับเส้นสายแบบที่เราคุ้นตากันในแบรนด์ไอดีโอ โมบิ ยุคแรกๆ ไม่ว่าจะเป็น ทรงตึกแบบเหลี่ยม มี Facilities อยู่บนชั้นจอดรถ ลวดลาย facade ที่เน้นให้เห็นถึงการผสานกันระหว่าง Horizontal Line และ Vertical Line เป็นปูนสีขาวรอบตึก จะมีแตกต่างกันก็เพียงแค่นี่คือโครงการที่เพิ่งสร้างเสร็จ และก็ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลางมากเป็นพิเศษครับ…ซึ่งปัจจุบันนี้แบรนด์ไอดีโอ โมบิ ก็ได้เข้าไปสู่ 2nd generation ที่ให้ Rooftop facility และเพิ่มดีไซน์โค้งมน แหวกอากาศ ไปแล้วอย่างโครงการไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสท์เกต, ไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ และตัวล่าสุดคือ ไอดีโอ โมบิ บางซื่อ แกรนด์ อินเตอร์เชนจ์ ครับ
DSC_5178 copy
ภาพหน้าโครงการถ่ายจากทางเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์
ในเรื่องของการเดินทาง หลายคนที่ทำงานหรืออยู่อาศัยในใจกลางเมืองอย่างย่านสุขุมวิท พญาไท ฯลฯ อาจมองว่าพื้นที่ฝั่งธนฯ (แถวจรัญฯด้วยนะ ไม่ใช่วงเวียนใหญ่) เป็นพื้นที่ชานเมือง เดินทางไกล และลำบาก คงใช้เวลาในการเดินทางไปทำงานมากกว่าหากเลือกที่จะอยู่ในย่านนี้ แต่ด้วยการมาของรถไฟฟ้าทั้งสามสาย ทั้งสายสีน้ำเงิน สายสีแดง และสายสีส้ม จึงทำให้ย่านฝั่งธนฯแถวจรัญฯที่ดูไกล ใกล้ขึ้นและสามารถเดินทางไปรอบกรุงเทพฯได้อย่างรวดเร็วแบบประหยัดเวลาสุดๆ…แต่ช้าก่อน ตอนนี้รถไฟฟ้ายังสร้างไม่เสร็จครับ งั้นเอาเป็นว่าเรามาดูเส้นทางการเดินทางในแบบเข้าใจง่ายๆกันดีกว่าครับ
map
แผนที่โครงการ
Screenshot_1
ถ้าขับรถมาก็มาทางสะพานตากสิน วิ่งตรงมายาวโลดและเลี้ยวขวาที่แยกสถานี BTS ตลาดพลูครับ เพื่อลอดใต้อุโมงค์ที่สี่แยกท่าพระครับ
Screenshot_3
จากนั้นก็เข้าถนนจรัญแล้ว ตรงยาวมาอย่างเดียวจนเลยสามแยกไฟฉาย
Screenshot_4
เลยสามแยกไฟฉายมาประมาณ 300 เมตรก็จะเห็นตลาดสดบางขุนศรี ถัดไปเป็นห้างแมคโคร
Screenshot_5
Screenshot_6
เห็นตึกเด่นมากอยู่ตึกเดียวเลยครับ นั่นหล่ะเลี้ยวเข้าไปเลยซ้ายมือ
รอบโครงการมีอะไรบ้าง? ไอดีโอ โมบิ จรัญ อินเตอร์เชนจ์ ตั้งอยู่บนทำเลทองของการเดินทาง ด้วยรถไฟฟ้า 3 สาย ที่จะเชื่อมโยงคุณเข้าสู่ใจกลางเมือง และทุกมุมของกรุงเทพมหานครได้เพียงไม่กี่ก้าวจากคอนโด ซึ่งหากดูพื้นที่โดยรอบก็มีความเป็นไปได้ยากที่จะมีนักพัฒนาที่ดินรายอื่นมาสร้างคอนโด high rise ได้ใกล้สถานีทั้งสามได้เท่านี้อีกแล้ว นอกจากทางขึ้นลงสถานีจะใกล้ทางเข้าโครงการมากขนาดนี้ โดยรอบยังเป็นย่านชุมชนเก่า ทำให้โดยรอบโครงการมีศูนย์การค้าต่างๆรองรับ อาทิ Makro จรัญสนิทวงศ์ Foodlandจรัญสนิทวงศ์ และอยู่ใกล้สาธารณูปการหลัก อย่างโรงพยาบาลศิริราช ศูนย์กลางการแพทย์อันดับต้นๆของประเทศไทย ทำให้ลูกค้าหลักโครงการนี้ ก็คือเหล่าคุณหมอ และนักศึกษาแพทย์ พยาบาล เนื่องจากอยู่ไม่ไกล เพียง 900 เมตรจากที่ตั้งคอนโด และข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาก็เป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ท่าพระจันทร์ จากที่ตั้งคอนโดห่างไปอีก 1.5 กิโลเมตร ก็เป็นตำแหน่งที่ตั้งของ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า โลตัสปิ่นเกล้า พาต้าปิ่นเกล้า ย่านศูนย์กลางการค้าเก่าย่านปิ่นเกล้า และสามารถเดินทางไปยังพื้นที่เกาะกรุงรัตนโกสินทร์ ศูนย์กลางเมืองเก่าได้เพียง 2.5 กิโลเมตร…วู้ว นี่แหละคือสาเหตุที่ทำไมคนแถวนี้ถึงติดถิ่นนัก hl-main เมื่อทำเลที่ตั้งที่ทำให้คุณสามารถเดินทางไปยังส่วนต่างๆของกรุงเทพฯได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาแล้ว จึงทำให้คุณมีเวลามากขึ้นในการใช้ชีวิตตาม lifestyle โครงการนี้จึงออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่มากมาย เพียบพร้อม ให้คุณได้ใช้ชีวิตแบบตัวคุณเองอย่างครบครันบนเวลาที่เหลือเฟือ ทั้งห้องออกกำลังกาย ห้องสมุด สระว่ายน้ำ สวน ห้อง Theater อีกทั้งพื้นที่ร้านค้าด้านหน้าอาคารทางเข้าโครงการก็ถูกจับจองจากร้านค้ารายใหญ่อย่าง Max Valu และ Starbucks เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่า ตั้งแต่การเดินทาง พักผ่อน และจับจ่ายใช้สอย ภายในและโดยรอบโครงการ มีรองรับอย่างครบครัน DSC_5176 copy DSC_5177 copy ต้องบอกอีกนิดครับว่า Global Brand ดังอย่าง Starbucks เนี่ย เค้าค่อนข้างจะเลือกสรรทำเลในการเปิดสาขาพอสมควรนะครับ หลายๆที่ยินดีเสนอให้ Starbucks อยู่ฟรี พร้อมก่อสร้างให้ เค้าก็ยังไม่ยอมมาเลยครับ ถ้าไม่ใช่ทำเลยุทธศาสตร์ของเขาจริงๆ ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเปิดตามห้าง ออฟฟิศ เท่าที่ผมรู้มีคอนโดเพียงแค่ 2 ที่เท่านั้นครับ ที่ Starbucks ตัดสินใจเลือกมาเปิดสาขา ที่แรกคือ Ideo Q พญาไท และอีกที่ก็คือ ที่นี่แหละครับ ทางเข้าโครงการบริเวณสำนักงานขาย มีการรักษาต้นไม้ใหญ่ต้นนี้เอาไว้ โดยออกแบบ Landscape พร้อมที่นั่งพัก ให้ดูกลมกลืนไปเป็นองค์ประกอบเดียวกันครับ DSC_5181 copy ตัวอาคารของ ไอดีโอ โมบิ จรัญ อินเตอร์เชนจ์ ถูกออกแบบเป็น 2 ปีก คือ North & South บนพื้นที่ 5-3-68 ไร่ 22 ชั้น 1,196 ยูนิต ปีกทิศเหนือวางตัวเป็นตัว L กลับหัว ได้วิวทิศเหนือและตะวันออกของโครงการ ซึ่งเป็นบริเวณทางเข้าหลัก และติดทางขึ้นลงรถไฟฟ้าทั้ง 3 สายในอนาคต และบางส่วนได้วิวสวนและสระว่ายน้ำส่วนกลางด้านทิศตะวันตก ส่วนปีกด้านใต้วางตัวตั้งฉากกับถนนจรัญสนิทวงศ์ ได้วิวด้าน Makro และทิศตะวันตกได้วิวสวนและสระว่ายน้ำบริเวณพื้นที่ส่วนกลางชั้น 5 ที่เชื่อมโยงถึงกันทั้ง 2 ปีก ส่วนชั้น 6-ชั้น 22 มีห้องเชื่อมกันทั้ง 2 ฝั่ง N & S เห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางและรถไฟฟ้า มี Lobby บริการทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งผู้พักอาศัยสามารถขึ้นลงฝั่งใดก็ได้ แต่ชั้นที่พักอาศัยเพื่อความปลอดภัยสามารถเข้าออกได้เฉพาะชั้นของตนเอง ดูโมเดลโครงการในแต่ละด้านกันครับ
DSC_5186 copy
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เห็นสถานีรถไฟฟ้าบางขุนนนท์
DSC_5187 copy
หน้าโครงการทิศใต้
DSC_5189 copy
หลังโครงการทิศเหนือ
DSC_5188 copy
ทิศตะวันตกหันไปหาแมคโคร
DSC_5190 copy
ส่วนกลางพร้อมสระว่ายน้ำที่ชั้น 5
การจัดวางแปลนอาคารเป็น 2 ปีก ทำให้ห้องทั้งหมด 1,196 ยูนิต สามารถเห็นวิวโดยรอบได้ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์และบ้านเดี่ยว มีที่จอดรถให้บริการทั้งหมด 427 คัน ภายในอาคารตั้งแต่ชั้น 1-ชั้น 4 ห้องที่ทางโครงการออกแบบมีทั้งหมด 4 type คือ ห้อง studio A1-1 ขนาดพื้นที่ 21.5 ตร.ม. แบบหน้ากว้าง ส่วนใหญ่อยู่ปีกด้าน North และบางส่วนอยู่ติด Lift lobby ของชั้น 6-22 ได้วิวทิศตะวันออกและตกของโครงการ ห้อง studio A2-1 ขนาดพื้นที่ 21.5 ตร.ม. แบบหน้าลึก อยู่บริเวณปีก South เป็นหลัก ได้วิวเมืองด้านMakro ห้อง 1 bedroom B1-2 ขนาดพื้นที่ 33.5 ตร.ม. กระจายตัวอยู่ทั้งฝั่ง N & S ได้วิวพื้นที่ส่วนกลางอย่างสวนและสระน้ำ รวมทั้งมองเห็นวิวของห้องที่อยู่ปีกตรงกันข้าม ห้อง 2 bedroom C2-2 ขนาดพื้นที่ 45 ตร.ม. เป็นห้องหัวมุมมีอยู่ทุกชั้นทั้งฝั่ง N & S เช่นกัน เริ่มจากทางเข้าตัวอาคาร โครงการตั้งอยู่อย่างโดดเด่น บริเวณแยกถนนบางขุนนนท์และถนนจรัญสนิทวงศ์ สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีแดงในอนาคต คือสถานีบางขุนนนท์ จะอยู่บริเวณทางแยกหน้าโครงการพอดี…สามารถเลือกขึ้นไปที่ชั้นตัวเองได้ทั้งทาง Lobby A และ Lobby B ครับ แต่ละ Lobby จะมีลิฟท์โดยสาร 2 ตัว และลิฟท์บริการ 1 ตัว
DSC_5363 copy
ป้ายทางเข้าอาคารทางด้าน North
เราเริ่มจาก South Lobby กันดีกว่าครับ South Lobby จะมีขนาดใหญ่ กว้างขวาง ทางเข้าติดหน้าถนนจรัญสนิทวงศ์ ใกล้กับร้าน Starbucks ใช้สี Grey tone แต่ด้วยการติดตั้งหน้าต่างกระจกโดยรอบ ทำให้Lobby สว่าง และดูกว้างมากขึ้น
DSC_5175 copy
ทางเข้าอาจจะดูเล็กกลมกลืนไปกับ Shop แต่ด้านในโอ่โถงพอควร
IMG_2085 copy
South Lobby
IMG_2074 copy
ตอนนี้เซลล์จะนั่งอยู่สำนักงานขายด้านนอกครับ
DSC_5354 copy
ด้านในมี Sofa รับแขกถึง 3 setใหญ่
DSC_5355 copy DSC_5356 copy DSC_5357 copy
DSC_5360 copy
ด้านหลังเคาท์เตอร์ เป็นห้องจดหมายที่กว้างขวาง มีพื้นที่นั่งรอและวางของได้
IMG_2079 copy
ตรงข้ามห้องจดหมายเป็นห้องน้ำส่วนกลางไว้บริการ อย่างละ 2 ห้อง
IMG_2082(2) copy
ห้องน้ำ Lobby
ส่วน North Lobby เป็นบริเวณทางเข้าที่จอดรถของอาคาร
IMG_2114 copy
ด้านหน้าเป็นวงเวียน Drop off
DSC_5365 copy
ทางเข้า North Lobby
IMG_2110 copy
บริเวณที่ติดกับ North Lobby จะเป็น Max Valu
DSC_5365 copy
โทนสีจะดูสว่างกว่าและได้ Privacy กว่า
DSC_5364 copy
DSC_5366 copy
ภายในLobby มีขนาดเล็กกว่าด้านSouth Lobby ใช้โทนสีขาว น้ำตาล มีเคาท์เตอร์อยู่ตรงกลาง
DSC_5367 copy
ด้านซ้ายเป็นSofa และที่พักคอย 2setใหญ่
DSC_5369 copy DSC_5370 copy
DSC_5373 copy
ด้านขวาแบ่งเป็นทางขึ้นคอนโดด้าน North
DSC_5374 copy
ภายในโถงลิฟท์
DSC_5368 copy
ข้างๆกันเป็นห้องจดหมาย
DSC_5375 copy
และห้องน้ำส่วนกลางที่มีอย่างละ 1 ห้อง
ส่วนห้องตัวอย่างที่วันนี้ได้ขึ้นไปดู คือห้องชั้น 12A ฝั่ง South มีด้วยกัน 3 รูปแบบ คือ ห้อง Studio A2 ,ห้อง 1 bedroom B1 และห้อง 2 bedroom C2 ซึ่งโครงการขายห้องแบบตกแต่งครบพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ยกเว้น Prop ตกแต่ง, wallpaper,ผ้าม่าน,เครื่องใช้ไฟฟ้า และฟูกที่นอน เพดานสูง 2.5 เมตร และพื้นห้องเป็นลามิเนตหนา 8 มิล รูปแบบแรก ห้อง Studio A2 (S7-14) ขนาดพื้นที่ 21.5 ตร.ม. เป็นห้องหน้าลึก อยู่ทางทิศตะวันตก แปลนห้องแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ ติดประตูเป็นส่วนห้องน้ำ ห้องครัว ตรงกลางเป็น Living area ปลายสุดเป็นห้องนอน ที่เชื่อมต่อไปที่ระเบียง Screenshot_2
DSC_5197 copy
ประตูเป็นระบบ Digital Door Lock ของ Yale และระบบกลอนล็อคประตูปกติ คู่กัน
DSC_5198 copy
Mood & Tone โดยรวมของผนังและพื้นห้องเป็นโทนน้ำตาลอ่อน
พื้นที่ครัวอยู่ทางด้านขวาของห้อง ด้านบนเคาท์เตอร์มีชั้นเก็บของติดผนังสูงจรดเพดาน เครื่องดูดควันของMEX และมีช่องเจาะสำหรับวางไมโครเวฟรองรับ
DSC_5199 copy
เครืื่องซักผ้าเอาไว้ใต้เคาเตอร์ครัวครับ เป็นแบบฝาหน้า
DSC_5207 copy
ไอดีโอ โมบิ โครงการนี้ยังให้เป็น Hot Plate อยู่นะครับ
DSC_5208 copy
อุปกรณ์ครัวก็ได้ครบตามมาตรฐานคอนโดระดับกลางครับ
IMG_1864 copy
แต่ผมว่าตู้ด้านบนเก็บของได้น้อยไปหน่อยนะครับ ช่องนึงเป็นปล่องดูดควัน อีกช่องก็เอาเบรคเกอร์มาติด ช่องเบรคเกอร์ไม่ควรมีของอย่างกระดาษเก็บไว้นะครับ
ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ สุขภัณฑ์หลักของ COTTO ภายในแบ่งส่วนเปียก-แห้ง มีประตูกระจกใสกั้นเป็นสัดส่วน
IMG_1818 copy
กระเบื้องห้องน้ำเน้นโทนสีเทาสลับชาว ฝักบัวก็ตามมาตรฐาน
DSC_5200 copy
สุขภัณฑ์แบรนด์ Cotto พร้อมสายชำระสีขาว
DSC_5204 copy
รุ่นนี้เป็น ECO ครับ
DSC_5201 copy
อ่างล้างหน้าดูกะทัดรัดดี และมีดูเก็บของให้
DSC_5205 copy
Cotto เหมือนกันครับ
ด้านในบริเวณที่อาบน้ำ เป็นตำแหน่งเสาอาคาร แต่ก็ใช้มุมเสาให้เป็นประโยชน์ไม่เกิดช่องว่างที่ไม่ได้ใช้งาน ด้วยการใส่ลูกเล่นของ ชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำ
DSC_5203 copy
ห้องอาบน้ำมีซอกเอาไว้วางอุปกรณ์อาบน้ำได้ครับ
โดยห้อง Studio เฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะเป็นของ SB ทั้งหมด ประกอบด้วยตรงกลางห้องมี Sofa เล็ก 1 ชุด
IMG_1802 copy
เซลล์บอกว่าเฟอร์ในห้องเป็น SB ที่หาที่อื่นไม่ได้
ตรงข้ามเป็นชั้นวางของหรือชั้นวางทีวีที่สามารถปรับเป็นโต๊ะอาหารได้ โดยมีตำแหน่งปลั๊กและช่องเสียบเคเบิ้ลหลังชั้นวางของ
IMG_1805 copy
พับเก็บ
DSC_5218 copy
กางออก
ข้างชุด Sofa วางเตียงติดประตูระเบียงไปเลยครับ ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้า
DSC_5216 copy
หน้าต่างระเบียง ก็ค่อนข้างสูงดีครับ
DSC_5215 copy
มองจากเตียงห้องนี้วิวสวย ไม่มีตึกสูงเลยครับ
ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อสูงติดเพดาน มีกระจกอยู่ที่หน้าบาน 1 บาน
IMG_1814 copy
สีไฮกรอสทำออกแนวสีเทาดำ ตัดกับแสตนเลส ดูหรูเรียบครับ
ประตูออกระเบียง มีผ้าม่านและรางวิ่งจากตู้เสื้อผ้าจรดฝาผนังอีกด้าน ทำให้เวลาเปิดปิดสามารถเก็บได้เป็นระเบียบ
IMG_1808 copy
ข้างเตียงด้านผ้าม่านหาโคมไฟมาตั้งก็ได้นะครับ
ส่วนวิวจากหน้าต่างและระเบียงของห้องนี้เป็นวิวฝั่ง Makro ไม่มีอาคารสูงอื่นใดมาบดบังวิว IMG_1842 copy ห้องนี้มีแอร์ตัวเดียว เป่าลมร้อนออกด้านนอกครับ
IMG_1839 copy
คอมฯแอร์เป็นแบบแขวนเพดาน ด้างล่างพอจะมีที่เหลือไว้ตั้งโต๊ะวางต้นไม้เล็กๆได้ครับ
IMG_1841 copy
ราวกันตกเป็นเหล็กทาสีเทา ก็ตามมาตรฐานทั่วไปครับ ห้องนี้ระเบียงดูตื้น วางอะไรจริงจังไม่ได้ครับ
ห้องที่สอง เป็นห้อง 1 bedroom B1 (S7-17) ขนาดพื้นที่ 33.5 ตร.ม. แปลนห้องแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ ติดประตูเป็นครัว ด้านขวาเป็นห้องนอนมีห้องน้ำในตัว พร้อมที่นั่ง Bay Window ตรงกลางเป็นห้องนั่งเล่น และอีกส่วนคือบริเวณระเบียงที่เป็นระเบียง 2 ชั้น Screenshot_1 เปิดเข้ามาในห้องด้านซ้ายเป็นเคาท์เตอร์ครัว ประกอบด้วยอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และช่องใส่เครื่องซักผ้าฝาหน้า
DSC_5236 copy
การแบ่งห้องดูเป็นสัดส่วนมากกว่าห้องสตูดิโอ
เหนือเคาท์เตอร์ครัวเป็นชั้นวางของสูงจรดเพดาน เก็บเครื่องดูดควันและสามารถวางไมโครเวฟได้
DSC_5237 copy
ครัวแบบเดียวกันกับห้องสตูดิโอ
DSC_5239 copy
เครื่องซักผ้าก็เอามาวางไว้ใต้เค้านเตอร์ครัว เหมือนห้องอื่น ใครโอนแล้วอยากเปลี่ยนพื้นเป็นกระเบื้องก็ตามสบายนะครับ จะได้หมดห่วงเรื่องน้ำ
อีกด้านของเค้าน์เตอร์ครัว วาตู้เย็นได้ครับ ขนาดก็ไม่ควรจะใหญ่กว่านี้ไม่งั้นก็คงจะเปิดประตูยากนิดนึงครับ IMG_1870 copy ถัดมาขวามือเป็นโต๊ะอาหารขนาดเล็ก ซึ่งความพิเศษของเฟอร์นิเจอร์ห้อง 1 bedroom คือออกแบบโดยแบรนด์ Quattro Design
DSC_5244 copy
Quattro นี่เค้าเน้นกระจกครับ
ปลายห้องเป็นห้องนั่งเล่น วางโซฟา และทางออกระเบียง มีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ที่ทำให้สามารถเปิดรับลมได้กว้าง
IMG_1919 copy
Prop ของห้องนี้จะเน้นสีทอง มีกวาง เจ้าประจำของอนันดาฯอีกแระ
วิวด้านทิศเหนือ เห็นอาคารฝั่งปีก North ด้านล่างเป็นวิวคอร์ทสวนและสระน้ำส่วนกลาง เชื่อมต่อกับวิวชุมชนเมืองข้างๆ
IMG_1911 copy
ห้องทางสองปีกนี้จะหันเข้าหากันครับ แต่ถ้ามองลงล่างจะได้วิวส่วนกลาง ผมว่าถ้าทำราคาให้ถูกลงก็จะน่าสนใจมาก
IMG_1912 copy
มองลงด้านล่างก็จะเห็นส่วนกลาง ผมว่าชั้นล่างๆได้เปรียบกว่านะ
ด้านซ้ายของห้องเป็นทางเข้าห้องนอน ไม่มีระเบียง แต่มีหน้าต่างพร้อมที่นั่งเล่นเล็กๆเป็น Bay window สามารถจัดมุมทำงานในอีกมุมห้องได้
IMG_1885 copy
Bay Window นั่งเล่นได้
IMG_1887 copy
โต๊ะทำงานหันหน้าชนกำแพง
DSC_5263 copy
ทีวีต้องใช้แบบแขวนผนังครับ ไม่งั้นจะเดินลำบาก
DSC_5270 copy
เตียงนอนวางได้ 5 ฟุต จะวางใหญ่กว่านี้ก็ได้ครับ แต่คงต้องซื้อเปลี่ยนเอง
มองจาก Bay Window ก็มีมุมแฉลบปลายตึกออกครับ
DSC_5251 copy
วิวนี้ก็พอไหวน่า
ด้านซ้ายของห้องนอนเป็นตู้เสื้อผ้าสูงติดเพดาน พร้อมกระจกที่หน้าบาน
DSC_5260 copy
เตียงมีพื้นที่เสาด้านหลังเหลือนิดนึง
DSC_5268 copy
ข้างๆตู้เสื้อผ้าเป็นห้องน้ำครับ
DSC_5269 copy
ลายหน้าบานเป็นลายหนังงู
ห้อง 1 bedroom ห้องน้ำถูกจัดวางให้เชื่อมต่อกับห้องนอน บริเวณด้านซ้ายของห้องนอน ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้ง มีประตูกระจกใสกั้น สุขภัณฑ์หลักเป็น COTTO อ่างล้างหน้า มีบานกระจกติดผนัง เข้ามุม พร้อมชั้นวางในตัว ด้านล่างมีตู้เก็บของเชื่อมจากตัวอ่างล้างหน้า บริเวณที่อาบน้ำ เป็นตำแหน่งเสาอาคาร แต่ใช้ประโยชน์เป็นชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำแทน DSC_5254 copy
DSC_5255 copy
โดยรวมแล้วเหมือนกับห้องสตูดิโอทุกอย่างครับ
DSC_5256 copy
ดูฝักบัวใกล้ๆ
DSC_5257 copy
ชั้นวางของก็เหมือนกัน
DSC_5258 copy
จริงๆน่าจะเปลี่ยนเป็นกระจกเต็มบานนะครับ
ห้องสุดท้ายเป็น ห้อง 2 bedroom(S7-15) ขนาดพื้นที่ 45 ตร.ม. เป็นห้องหัวมุม ได้วิวทั้งด้านตะวันตกและทิศใต้ เลย์เอ้าท์ห้องแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 ส่วน เป็นสองห้องนอน 1 ห้องน้ำ คือ ห้องนั่งเล่นตรงกลางเชื่อมต่อพื้นที่ระเบียง 2 ชั้น ห้องนั่งเล่นเชื่อมห้องนอนทั้ง 2 ห้อง และเชื่อมส่วนห้องน้ำ ห้องครัว เข้าด้วยกัน Screenshot_3 ห้องนั่งเล่นตรงกลาง แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนคือซ้ายมือติดประตูเป็นมุมโต๊ะอาหาร 4 ที่นั่ง เฟอร์นิเจอร์ของห้อง 2 bedroom เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบโดยแบรนด์ Quattro Design เช่นเดียวกับห้อง 1 bedroom
DSC_5272 copy
จุดเด่นคือได้ช่องแสงยาวตั้งแต่พื้นที่ครัว ถึงโซฟาครับ
DSC_5276 copy
ครัววางอยู่หลัง โซฟา แปลนนี้คล้ายๆกับ Ideo S9 ครับ
โต๊ะทานข้าวถูกจัดวางอยู่หน้าประตู อาจจะดูไม่ Practical เท่าไหร่ เพราะไม่ได้อยู่ในโซนเดียวกับครัวครับ แต่ข้อดีคือมีพื้นที่ดูทีวีที่เยอะขึ้นครับ
DSC_5279 copy
โต๊ะทานข้าวแบบสี่ที่นั่ง
IMG_1955 copy
แอร์วางอยู่เหนือโต๊ะทานข้าวครับ
ด้านติดประตูระเบียงเป็นพื้นที่โซฟาและมุมดูทีวี ที่สามารถเห็นวิวด้าน Makro ได้มุมกว้าง
DSC_5289 copy
วิวจากระเบียงสองชั้น
DSC_5296 copy
แมคโคร วิวยอดฮิตของฝั่งนี้ ^^
DSC_5288 copy
ระยะดูทีวีห่างใช้ได้ครับ
ด้านหลังโซฟาเป็นบริเวณครัว ประกอบด้วยอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า มีเจาะช่องวางเครื่องซักผ้า และมุมวางตู้เย็นด้านซ้าย
DSC_5285 copy
ผมว่าที่นี่ดีตรงที่ชุดครัวให้สูงติดฝ้าไปเลยครับ แต่แหม่สองนอนน่าจะให้ใหญ่กว่านี้นะ
DSC_5302 copy
ตู้เย็น size เดียวกับทุกห้องแต่วางข้างครัวไปเลยครับ
ด้านซ้ายของครัวเป็นห้องน้ำ สุขภัณฑ์หลักเป็น COTTO ภายในแบ่งส่วนเปียก-แห้ง มีประตูกระจกใสกั้นเป็นสัดส่วน แบบเดียวกับทุกห้อง
IMG_1962 copy
หน้าต่างข้างครัว ไว้ระบายอากาศได้ครับ
IMG_1958 copy
ห้องน้ำเหมือนกับห้องอื่นๆ
มองเข้ามาจากระเบียง
IMG_1973 copy
พื้นที่โต๊ะกินข้าวเหลือเยอะครับ น่าจะทำเป็นชั้นวางของเพิ่มได้อีก
ด้านขวาของห้องเป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็ก
IMG_1927 copy
ซ้ายคือ Master Bedroom
ห้องนอนใหญ่อยู่บริเวณหัวมุมอาคาร หัวมุมเตียงผ้าม่านเป็นกระจกเข้ามุมต่อเนื่อง Take View ได้สองด้านครับ
IMG_1944 copy
สวยงาม
วิวห้องนอนใหญ่เป็นวิวเดียวกับบริเวณห้องนั่งเล่น…Makro
DSC_5301 copy
เตียงเล็กแต่ผมว่าดูแน่นไปเลย เพราะหัวเตียงใหญ่มาก
DSC_5290 copy
กระจกโดย Quattro
IMG_1942 copy
มีตู้วางพื้นได้นะครับ แต่ด้วยระยะติดปลั๊กไฟอยู่สูงก็เลยแขวนทีวีเอาดีกว่า
IMG_1937 copy
ทีวีใช้แบบแขวนผนังเอาครับ พร้อมโต๊ะทำงานตั้งข้างๆ
ด้านซ้ายเป็นตู้เสื้อผ้าสูงติดเพดาน พร้อมกระจกแต่งตัว
IMG_1938 copy
ตู้เสื้อผ้าห้องนี้ดูเรียบๆครับ
ห้องนอนเล็กเห็นวิวด้านทิศเหนือ
IMG_1945 copy
จะทิศไหนก็วิวโล่งครับ
ข้างหัวเตียงมีมุมทำงานเล็กๆได้ 1 ตัว และด้านขวาติดประตูเป็นตู้เสื้อผ้าสูงติดเพดาน IMG_1952 copy โดยรวมของห้องทั้ง 3 แบบ ถึงแม้ขนาดห้องจะดูเล็กหากเทียบกับขนาดที่ควรจะเป็น แต่ด้วยการแบ่งพื้นที่ใช้งานได้เป็นสัดส่วน และการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความเฉพาะเหมาะกับแต่ละห้อง ก็ถือว่าใช้ Space ของห้องได้อย่างคุ้มค่า ทำให้ห้องขนาดเล็ก มีพื้นที่เหลือเฟือในการใช้งานอื่นๆ พื้นที่ส่วนกลางของคอนโด อยู่บริเวณชั้น 5 แบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน หลักๆ ด้วยกัน คือ พื้นที่สวนและสระน้ำฝั่งทิศตะวันตก พื้นที่ห้อง Theater และห้องสมุด ฝั่งทิศเหนือ ซึ่งติดกับ North Lift Lobby พื้นที่สระว่ายน้ำทางทิศใต้ ซึ่งยังไม่สามารถเข้าไปดูได้ และพื้นที่ส่วนกลางบริเวณ Social club และ ฟิตเนต ที่เป็นพื้นที่กลางเชื่อมส่วนต่างๆเข้าด้วยกัน และติด South Lift Lobby
Screenshot_4
ส่วนกลางจุดเด่นคือมีสองสระครับ
พื้นที่สวนและสระน้ำฝั่งทิศตะวันตก เป็นสระน้ำ รูปตัว U ล้อมรอบด้วยสวน และที่นั่งพักริมน้ำ ตรงกลางเป็นคอร์ทที่นั่ง out door
DSC_5322 copy
สระยังไม่สมบูรณ์นะครับ
DSC_5323 copy
มีพื้นที่เล่นระดับ
DSC_5329 copy
ลวดลายพื้นสระก็ทำให้เข้ากับ Theme ตึกครับ
DSC_5330 copy
มีที่นั่งรายรอบสระ
DSC_5331 copy
ด้านหลังจะเป็นพื้นที่ของ Social Club
DSC_5333 copy
Contour Garden น่านั่งมากครับ
DSC_5334 copy
พื้นที่ไม่ใหญ่มากแต่ว่ามี detail เยอะดีครับ
DSC_5337 copy
มองสูงดูยอดตึก
DSC_5338 copy
สระตื้นๆครับ พอว่ายเล่นได้
พื้นที่ส่วนกลางส่วน Social club สามารถเห็นวิวสระน้ำ มีที่นั่งรองรับจำนวนมาก ทั้งโซฟา หรือบาร์สูง พร้อมปลั๊กไฟบริการทุกโต๊ะที่นั่ง
DSC_5317 copy
Pantry ใช้สำหรับจัด Party ส่วนตัวได้ครับ
DSC_5310 copy
ขวามือเป็นห้องฟิตเนส
DSC_5320 copy DSC_5321 copy DSC_5324 copy DSC_5325 copy DSC_5327 copy ด้านขวาเป็นห้องฟิตเนต ที่สามารถเห็นวิวสระว่ายน้ำ Swimming pool ที่มีความลึกและยาว (แต่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยจึงไม่มีรูปถ่าย)
DSC_5311 copy
ส่วนจักรยาน
DSC_5312 copy
มีใส่ wording เป็น inspiration ด้วยแฮะ
DSC_5313 copy
คนยังเล่นน้อยอยู่ครับ
DSC_5314 copy
Weight Training
DSC_5315 copy
เครื่องเดินวงรี
DSC_5316 copy
ลู่วิ่ง
ออกจาก Social Club ไปส่วนของห้องสมุดและห้อง Theatre กันบ้างครับ
DSC_5326 copy
ฝ้าระแนงดูมี detail มากครับ
ห้องสมุด มีมุมอ่านหนังสือ ทั้งแบบ โซฟาและแบบเค้านท์เตอร์ส่วนตัว
DSC_5339 copy
ดูไม่กว้างเท่าไหร่ แต่ที่นั่งเยอะมากครับ
DSC_5340 copy
โซฟาก็มี
DSC_5342 copy
Co-working Space ก็ได้
DSC_5343 copy
เอนกายนอนก็ได้
DSC_5344 copy
ปลั๊กไฟพร้อม
DSC_5345 copy
ห้องส่วนตัวก็มีนะครับ
DSC_5346 copy
น่านั่งทำงานมากครับ
IMG_2049 copy
คอกส่วนตัว ถ้ามีโทรศัพท์ให้ด้วยนี่มันใช่เลย
มาดูห้อง Theatre กันบ้างครับ เป็นคอนโดอนันดาฯที่แรกที่มีห้องดูหนัง ขนาด 14 ที่นั่ง ชุดนั่งโซฟาของ Zimm Theater Seat
IMG_2052 copy
ยี่ห้อนี้ดีนะครับ
ภายในห้องออกแบบผนัง และอุปกรณ์เครื่องเสียงแบบในโรงภาพยนตร์ ลดเสียงรบกวนและเสียงก้อง ทั้งพื้น ผนังและเพดาน
DSC_5352 copy
จอใหญ่มาก
โดยสรุปแล้วด้วยทำเลของ ไอดีโอ โมบิ จรัญ อินเตอร์เชนจ์ ถือว่ามีแต้มต่อในเรื่องการเดินทางในอนาคต (เมื่อรถไฟฟ้าทั้งสามสายสร้างเสร็จ) เป็นอย่างมากครับ ด้วยรถไฟฟ้า 3 สายในอนาคต ที่จะทำให้คุณไปทุกที่ได้ด้วยความสะดวกสบายบนเวลาที่น้อยกว่า ส่วนขนาดห้องถึงแม้ขนาดจะดูเล็ก แต่ด้วยการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่มีเฉพาะในโครงการและการใช้ทุก Space อย่างคุ้มค่า ประกอบกับวิวด้านนอกที่เปิดโล่งไม่มีอาคารสูงอื่นใดมาบดบัง ก็ทำให้ห้องยังดูโปร่ง โล่ง บนพื้นที่ที่จำกัดและไม่ดูคับแคบจนเกินไป โครงการจับกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มคนวัยเริ่มทำงานในละแวกนั้น จนถึงกลุ่มครอบครัวขนาดเล็ก จึงทำให้รูปแบบหลักของห้องนั้นเป็นห้องที่มีขนาดเล็กเพียงแค่ 21.5 ตรม. และขนาดพื้นที่ห้อง 2 ห้องนอนก็ยังมีขนาดเพียงแค่ 45 ตรม. และมีแค่ห้องน้ำเดียว…การออกแบบห้องในรูปแบบนี้ โครงการจึงจำเป็นต้องสร้างบรรยากาศ และประสบการณ์การอยู่อาศัยนอกห้องทดแทน ด้วยการให้ Full Facility ที่มีความหลากหลายให้เลือกใช้มาก ไม่ว่าจะเป็น Social Club, Mini Theatre, Fitness, Steam Room, Library, Laundry, Urban Pool, Relax Pool สวนลอยฟ้า จนถึงร้านค้าชั้นนำอย่าง Max Valu และ Starbuck…เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกว่าชีวิตมีพร้อมแล้วทุกสิ่งที่นี่ ด้วยจำนวนยูนิตที่มีถึง 1,196 ยูนิต ในทางปฏิบัติ เมื่อเข้าอยู่จริงพร้อมกันหมดแล้ว ก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการใช้ส่วนกลางพร้อมๆกันโดยมิได้นัดหมาย ซึ่งจุดนี้การบริหารงานนิติบุคคลอันเข้มแข็ง เป็นระเบียบ ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นมากกว่าเรื่องอื่น INFO ยอดขาย ณ ปัจจุบันของโครงการอยู่ที่ราวๆ 85% โดยยอดขายในช่วงแรกค่อนข้างเป็นไปอย่างช้าๆ ไม่หวือหวา เนื่องจากปัจจัยสองประการก็คือ 1. เป็นโครงการ High Rise เพียงแห่งเดียวในย่านนี้ ซึ่งบังเอิญมีราคาที่สูงที่สุดกว่าที่อื่นๆ จึงทำให้กลุ่มผู้ซื้อยังคงตื่นตกใจกับราคาต่อตรม. ที่สูงถึงตรม.ละ 110,000 บาท 2. เป็นโครงการที่ทางอนันดาฯต้องมาเริ่มทำการตลาดใหม่กับกลุ่มคน Local Area ซึ่งไม่เคยมีฐานลูกค้ามาก่อน และคนแถวนี้ ก็แน่นอนว่ายังคุ้นชินกับชีวิตแนวราบมากกว่า ตอนนี้หลังจากโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ เช่นเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าที่เห็นสถานีมาวางอยู่เบื้องหน้าโครงการแล้ว (ถึงแม้ว่าจะเลื่อนเปิดออกไปก็เถอะ ทั้งสายสีน้ำเงินที่ยังรอความชัดเจนของสะพานข้ามแยกท่าพระ สายสีส้มที่เพิ่งจะสรุปว่าจะใช้เส้นทางเดิม และรถไฟชานเมืองสายสีแดง ตลิ่งชัน ศาลายา ที่ก็ยังคงไม่ได้เริ่มสร้างสถานีส่วนต่อขยายช่วงตลิ่งชัน ศิริราช) ซึ่งก็ตรงกับจังหวะที่คนในกรุงเทพฯ รวมถึงในย่านนี้ก็เริ่มที่จะรับรู้แล้วว่า ราคาของโครงการที่เฉลี่ยตรม.ละแสนนิดๆก็ถือว่าเป็นราคาแห่งอนาคตของที่นี่ (ปัจจุบันราคาขายขยับขึ้นไปที่ราวๆตรม.ละ 123K แต่ขายพร้อมเฟอร์ฯและโปรฯมากมายก่ายกอง) และสร้างเสร็จออกมาก็ดูเป็นงานละเอียดมากแตกต่างจากซีรีย์เก่าๆที่ผ่านมา ส่วนคู่แข่งใกล้ที่สุด คือ Dbura พรานนก ของแสนสิริ ที่มีราคาเริ่มโครงการอยู่ที่ ตารางเมตรละ 80,000 บาท ซึ่งตอนนี้ขายและโอนไปหมดแล้ว ส่วนราคารีเซลหลังโอนอยู่ที่ประมาณ ตารางเมตรละ 97,000 บาท ซึ่งก็ประสบปัญหาพอสมควรในช่วงใกล้โอนเพราะมีคนทิ้งดาวน์เป็นจำนวนมาก….ดังนั้นโครงการไอดีโอ โมบิ จรัญ อินเตอร์เชนจ์ จึงไร้คู่แข่งในตลาดพร้อมอยู่ไปโดยปริยาย ซึ่งเร็วๆนี้ค่ายเอพีก็เตรียมที่จะเปิดโครงการ Life ปิ่นเกล้าในราคาเฉลี่ยที่น่าจะแพงกว่าไอดีโอ โมบิ จรัญฯ ประกอบกับมาตรการด้านอสังหาฯของทางรัฐบาลล่าสุด ที่เน้นกลุ่มคอนโดพร้อมโอนราคาต่ำสามล้าน ซึ่งเป็นราคาห้องส่วนใหญ่ของไอดีโอ โมบิ จรัญฯ จึงน่าจะทำให้บรรดาผู้ที่ยังลังเลอยู่ว่าจะซื้อดีมั้ย ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ภายใต้ข้อเท็จจริงว่า “I have no choice” MAP หากคุณเป็นคนที่ติดในถิ่นฐานของตัวเอง หรือเป็นคนที่บังเอิญต้องมาทำงานไม่ว่าจะศิริราช หรือว่าเรียนหนังสือที่มธ. หรือถ้าคุณอยากอยู่ในย่านฝั่งธนฯ ย่านที่พักอาศัยที่รายล้อมด้วยศูนย์กลางการค้าคุณภาพ อยู่ท่ามกลางชุมชนเก่าดั้งเดิมของย่านปิ่นเกล้า แต่ยังสามารถเดินทางไปยังส่วนต่างๆของกรุงเทพฯได้สะดวกรวดเร็ว และที่สำคัญมองในราคารวมต่อยูนิตที่ยังคงมีราคาต่ำกว่าสามล้าน ผมว่าที่นี่ดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายของคุณครับ ปัจจุบันโครงการขายไปแล้วเกือบ 85% โปรโมชั่นที่มีคือ (อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้กรุณาสอบถามกับพนักงานขายอีกครั้งนะครับ) ห้อง Studio ซื้อพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ราคาเริ่มต้น 2.75 ล้านได้อยู่ฟรี 1 ปี พร้อมทัวร์ญี่ปุ่น และฟรี Samsung Galaxy S6 Edge หรือซื้อห้องเปล่าราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.79 ล้านบาท รับ Cash Back คืน 300,000 บาท ภายใน 60 วัน (เงื่อนไขตามบริษัทกำหนด) ห้อง 1bedroom และ 2 bedroom ซื้อพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ได้อยู่ฟรี 1 ปี พร้อมทัวร์ฝรั่งเศส และฟรี Samsung Galaxy S6 Edge หรือซื้อห้องเปล่ารับ Cash Back 250,000-350,000 บาท(เงื่อนไขตามบริษัทกำหนด) ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4.2 ล้านบาท

พาชม Centric Sea Pattaya คอนโด highrise วิวทะเล พร้อมเข้าอยู่

ข้อมูลโครงการคร่าวๆ เซนทริก ซี  เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 3 อาคาร 999 ยูนิต บนเนื้อที่ดิน 6 ไร่เศษ ที่จอดรถประมาณ 35% รวมซ้อนคัน อาคาร A สูง 44 ชั้น อาคาร B สูง 32 ชั้น อาคาร C สูง 7 ชั้น Facility จัดหนัก สระน้ำ sky pool, sky fitness, sky lounge ที่ชั้น top floor ของตึก A  และ B
และชั้น 4 ของตึก C  (สระที่ชั้น 44 ของตึก A น่าจะเป็นสระที่สูงที่สุดของพัทยาในตอนนี้) สวนบนอาคาร ที่ชั้น 3 ของตึก A , B  และชั้น 4 ของตึก C
ที่จอดรถ และ Lobby ในแต่ละอาคาร
Facility ทั้งหมดเป็นของส่วนกลางสามารถใช้ได้ทุกส่วนครับ ไม่ได้แยกตึกใครตึกมัน
20151001105545_gallery_17_th
Screen Shot 2015-10-21 at 10.11.58 PM
Location อยู่ที่พัทยาสาย 2 ซึ่งเป็นถนน 1 way ห้องล้อมด้วยความเจริญแหล่ง lifestyle การเข้าสู่โครงการคือมาจากเส้นพัทยากลางแล้วเลี้ยวเข้าถนนพัทยาสาย 2 ตรงมาประมาณ 300 เมตรโครงการจะอยู่เยื้องๆ Hard Rock Hotel  
Screen Shot 2015-10-21 at 10.45.26 PM
มาดูของจริงกันเลยครับ ทางเข้าโครงการเป็นซอยที่ดินลึกเข้าไปบานใน (สำนักงานขายไม่ได้เป็นส่วนของโครงการ)
P1060690
P1060693
ถนนภายใน พื้นที่ว่าง landscape ภาพรวมทำออกมาดูดีมีรสนิยม lighting ตอนกลางคืนก็สวย
P1060770
P1060698
P1060830
ทางเข้าที่ดินหน้าแคบเป็นซอยทำให้ช่วงแรกของทางเข้าจะมีอาคารโรงแรมดูแล้วคล้ายเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ โชคดีครับ ที่โรงแรมออกแบบมาให้หันด้านพื้นที่เปิดโล่งมาหา ทำให้ของจริงไม่อึดอัด
P1060826
แต่ที่ค่อนข้างขัดใจผมเลยคือ ถนนหน้าตึก C มียางมะตอยมาลาดไว้บนผิวหน้า ไม่เนียนครับตรงจุดนี้
P1060806
กำแพงหน้า lobby ตึก a แต่งสวยครับ รถกอล์ฟรับส่งนี้ เห็นทางเซลล์ว่าพอขายหมดจะไม่เก็บไว้ที่นี่
P1060769
lobby ที่นี่สวยทั้ง 3 อาคาร ขนาดไม่ใหญ่ ไม่ใช่ double volume แต่ลงตัว ผมชอบ design ของประตู key card ที่กั้นส่วนลูกบ้านมาก lobby ตึก A 
P1060699
P1060701
P1060702
โถงลิฟท์ตึก A
P1060768
lobby ตึก B
P1060773
ห้องจดหมายตึก B
P1060772
โถงลิฟท์ตึก B ปูหินซะสวยเลย
P1060775
P1060776
lobby ตึก C (ตึก 7 ชั้น ) จะอยู่ที่ชั้น 4 เลยครับ ตึกนี้เหมาะกับการขับรถเข้ามาจอดแล้วขึ้นลิฟท์ขึ้นไปเลย ถ้าเดินมาต้องทะลุลานจอดรถกว่าจะถึงลิฟท์ style จะออกแนว อาร์ทๆหน่อย
P1060814
P1060813
ตึกนี้ทั้งสระ fitness lobby สวน จะอยู่รวมที่ชั้นนี้เลยครับ
ไปดูสวนที่ชั้น 3 ของตึก B กันครับ
P1060779
มองไปเป็นชั้น facility ของตึก C
P1060782
P1060784
สวนชั้น 3 ของตึก A ก็หันไปหาตึก C เช่นกัน ใช่แล้วครับ ผู้ออกแบบจงใจให้ตึก C ด้านในได้วิวสวนสวยๆ ของตึก A,B ทดแทนวิวที่ขาดหายไป ตึก C จะมี landscape สวยๆ สวนร่มรื่นที่ชั้นล่างด้านหลังอาคาร เพิ่มมาเป็นพิเศษ ชดเชยวิวที่ขาดหายเช่นกัน
P1060809
P1060811
สวนชั้น 4 ของตึก C
P1060821
สระว่ายน้ำ ถือเป็นจุดเด่นจุด highlight ของโครงการนี้ที่ SC เน้นมาก จะสวยแค่ไหนติดตามต่อเลยครับ
เริ่มจากสระน้ำของตึก C ที่ชั้น 4 ไม่มีวิว แต่มันก็ชดเชยได้ด้วยการออกแบบ
P1060816
สระน้ำชั้น 44 ของตึก A  Peak สุดๆ ยิ่งตอนกลางคืนยิ่งสวยมากกก นอกจากนี้ยังมีสวนและที่นั่งชิวขนาดใหญ่ คือแบบประทับใจสุดๆครับ อยากให้ลองมาดูของจริงกัน สระขนาดไม่ใหญ่นะ แต่รับประกันความงาม
P1060755
20151020092336_สระว่ายน้ำอาคารA
20151020092336_ชั้นสระว่ายน้ำ อาคารA
P1060748
P1060832
สระน้ำชั้น 32 ของตึก B ก็สวยไม่แพ้กัน แอบเก๋ที่พอออกจากลิฟท์ต้องเดินขึ้นบันไดหลายขั้นเพื่อจะมาถึงสระ
P1060788
P1060789
P1060790
P1060793
20151020092336_สระว่ายน้ำอาคารB
P1060799
P1060801
ตึก A และ B เหนือสระน้ำจะมี sky fitness และ sky lounge เป็นห้องที่สูงที่สุดของอาคาร ชมทั้งวิวทะเล cityview และ วิวสระ ลองมาดูแปลนกันครับ
Screen Shot 2015-10-21 at 11.50.21 PM
จากแปลนจะเห็นว่า ถ้าจะขึ้นไปใช้บริการทั้ง sky fitness และ sky lounge ต้องเดินบันไดขึ้นไปเท่านั้น คือการออกกำลังเริ่มจากผลักประตูเหล็กที่ค่อนข้างหนักเพื่อขึ้นไปด้านบนกันเลยทีเดียว ผู้สูงอายุคงลำบากครับ ที่จะไปใช้บริการ
P1060763
บันไดทางขึ้น
P1060761
ขึ้นมาแล้วความรู้สึกคือสวยมากกกกกกก
P1060760
P1060758
วิ่งไปชมทะเลไป ฟิน ลืมเหนื่อยครับ
P1060759
20151001110802_gallery_5_th
fitness ตึก B
20151001111326_gallery_13_th
สรุปคือ facility ที่นี่สวย สูง เยอะ น่าเล่น พาใครมาดูก็ไม่อายอ่ะ อวดได้อย่างเต็มภาคภูมิ แต่ถ้าคุณหรือคนที่คุณพามาเข่าไม่ดี คงเดินไปใช้ส่วนเหนือสระลำบากหน่อย มาดูส่วนพักอาศัยกันบ้างครับ โถงทางเดินโทนขาว ประตูสีขาวสะอาดตา โถงลิฟท์มีหน้าต่างแต่บานเล็กไปอ่ะครับ ตามความคิดผม มันน่าจะสูงกว่านี้อีกซัก 30 เซนติเมตร จะได้ไม่ดูแปลกๆเหมือนที่เป็นอยู่
P1060842
P1060765
P1060767
ลูกบิดเป็นแท่งเหล็กที่ประตูเข้ายูนิต และเป็นหัวกลมธรรมดาที่ด้านใน
ผมไปดูห้องพักหลายห้องครับ ในห้องให้เฟอร์มาด้วยเกือบครบ สำหรับ1 bed มีบาน slide กระจก 3 ตอนกั้นส่วนห้อง living กับห้องนอน บานกว้างใช้ได้แต่ความสูงเตี้ยไปอ่ะครับ ผมกะๆดูน่าจะประมาณ 2 เมตร แต่โดยรวมใช้ได้นะ อลูมิเนียมสีธรรมชาติ ธรรมดาๆ  ระเบียงราวเหล็ก คอมแอร์แขวนเหนือหัวทำให้ออกไปรับลมทะเลดูวิวที่ระเบียงได้ไม่ติดขัดแม้จะเปิดแอร์อยู่
P1060721
บานเลื่อนแบ่ง 3 หน้ากว้างพอเปิดสุดทำให้ช่องเปิดกว้างงงง
P1060720
P1060711
วิวทะเลจากระเบียงห้อง ดูดวงอาทิตย์ตกนี่มันโรแมนติกฝุดๆ
P1060713
P1060718
พื้นลามิเนท สีสวยสัมผัสดี
P1060739
ที่นี่มี 2 bed 58 ตรม ที่แปลนน่าสนใจไม่เคยเห็นที่ไหน ห้องน้ำจะมี โถสุขภัณฑ์ 2 ชุด โดยจะแชร์ที่อาบน้ำและอ่างล้างหน้ากัน  แปลกดี
P1060728
P1060730
P1060736
P1060738
P1060737
P1060734
P1060725
วันที่ 23-25 นี้ เป็นวันหยุดยาว ใครที่มีแผนจะไปเที่ยวพัทยา หรือยังไม่มีแผนจะทำอะไร ผมเชียร์ให้แวะไปเยี่ยมชมโครงการดูของจริงครับ SC จัดโปรโมชั่นพิเศษพอดี เริ่ม 1.99 ล้าน
P1060689
ส่งท้ายด้วยภาพสวยๆละกัน ขอบคุณที่ติดตามครับ
P1060756
P1060796 P1060818

เซนทริก ซี พัทยา …. “ความสุขลงทุนได้” จริงหรือไม่?

เซนทริก ซี พัทยา (Centric Sea Pattaya) เป็นคอนโดแรกในพัทยาของ SC Asset  คอนโดนี้สร้างบนที่ดินที่เดิมทีเป็นของตระกูลชินวัตร ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SC แบ่งที่ดินบางส่วนขายต่อมาให้กับ SC พัฒนาโครงการ 20151001101549_overview_big_th ทำเลที่ตั้งอยู่ในช่วงที่ดีมาก ของเส้นพัทยาสาย2 แวดล้อมด้วยความเจริญ เป็นทำเลที่เข้าถึงคำว่าพัทยา ที่ไม่ได้มีแต่ หาดทราย สายลมและทะเล อย่างเดียว คึกครื้น คึกคัก กันแทบจะ 24 ชั่วโมง จริงอยู่ที่คอนโดไม่ได้ติดหาด แต่ไม่ได้ไกลจากทะเลเลยนะครับ ทำให้ห้องฝั่งตะวันตกที่หันหาทะเล ได้วิวทะเลสวยๆ สระชั้นดาดฟ้า sky pool วิวยิ่งสวยมาก P1060748 P1060794 จุดเด่นของที่นี่นอกจากความสูงของอาคารแล้ว ยังมีสีอาคารที่สวยโดดเด่น มองเห็นได้จากที่ไกลๆเรียกว่า exposure ดีจริงจัง    บรรยากาศโครงการดูดีมีรสนิยมตั้งแต่ทางเข้าโครงการ จนถึงโถงต้อนรับ โถงลิฟท์ สระว่ายน้ำและsky fitness ที่ชั้นบนสุดของอาคารสูงทั้งสอง และชั้น 4 ของอาคารเตี้ยด้านหลัง รู้สึกชอบครับถ้าเทียบสิ่งที่ได้กับราคาขายผมว่าโอเคเลย  ขอบอกว่าห้องวิวทะเลนี่สวยจริงจัง ภาพถ่ายโครงการสวยๆและรายละเอียดโครงการและโปรโมชั่น ขอยกไปไว้ในบทความต่อไปนะครับ “พาชม Centric Sea Pattaya คอนโด highrise วิวทะเล พร้อมเข้าอยู่” P1060698 การพัฒนาในอนาคต ว่ากันว่าจะมี เอเชียทีค พัทยา มาลงแถวๆนี้ เครือ CP เองก็มีโปรเจก Iconsiam ที่นาจอมเทียน และยังมีที่ว่างรอการพัฒนาอีกมาก คอนโดระดับ super luxury เตรียมจะเปิดตัวทำ new high Kingdom Property บริษัทที่มี Nigel Cornick อดีต CEO ของไรมอนแลนด์เป็นเจ้าของ เตรียมเปิดตัวคอนโดสุดหรูติดหาดวงศ์อมาตย์ ชื่อว่า Mustique ในราคาที่ว่ากันว่าเป็น new high ของที่นี่ ผู้คร่ำหวอดบางคนฟันธงว่าบางทีอาจกล้าขายราคาแตะๆ 200K ต่อ ตรม SC มองเห็นอนาคต จึงออกแคมเปญโปรโมชั่นใหม่ ที่เน้นโปรโมทเกี่ยวกับความคุ้มค่าในการลงทุนในคอนโด เซนทริก ซี แห่งนี้ 20151014145700_home banner_CT-PAT_h ว่าแต่ พัทยายังน่าลงทุนจริงหรือไม่ ซื้อคอนโดปล่อยเช่าที่พัทยาในช่วงนี้ที่เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มมีปัญหา ตลาดหุ้นแกว่งตัวผันผวนจะหาคนเช่าได้รึเปล่า  oversupply เกิดขึ้นหรือยัง สิ่งเหล่านี้คือเครื่องหมายคำถามครับ วันนี้ผมเลยนัด คุณ S นักลงทุนคอนโดพัทยาตัวจริง มาพูดคุยสอบถามเรื่องราวเหล่านี้ ว่าเค้าปล่อยเช่าได้จริงมั๊ย ผลตอบแทนเท่าไหร่ ถือไว้กี่ที่ ทำไมถึงกล้าซื้อ การสนทนาอย่างเป็นกันเอง ของหนุ่มกรุงเทพวัย 30++  2คน ข้างสระน้ำชั้น44 ที่สูงที่สุดในพัทยา  บรรยากาศชิลชิลตอนหัวค่ำ ลมทะเลเย็นๆพัดเข้าหาแรงสะใจ จิบน้ำแร่แช่เย็น มอง night view skyline pattaya city สวยๆ P1060832 สรุปได้ดังนี้ คุณ S ถือห้องที่เซนทริกพัทยาไว้ 3 ห้อง เป็น type 1bed  วิวทะเลทั้งหมด ซื้อไว้เพื่อปล่อยเช่าโดยมองว่าที่นี่ ราคาคอนโดยังไม่สูงเว่อร์เหมือนกรุงเทพ แทบไม่น่าเชื่อว่า ทั้ง 3 ห้อง ปล่อยเช่าได้ทั้งหมดแล้ว โดยใช้เวลาประกาศใน web ต่างๆ เพียงประมาณ 1 เดือน ผู้เช่าทั้ง 3 มีทั้งชาวเอเชีย ยุโรป และอเมริกัน มาอยู่จริงจัง ทั้ง longstay มาอยู่ถาวร และ มาเพื่อทำงาน ผู้เช่าจะให้น้ำหนักกับวิวทะเล โดยคุณ S เชื่อว่าที่ปล่อยได้เร็วและได้ yield ที่ดี เพราะห้องเห็นทะเลสวยงาม แม้คอนโดเซนทริก จะไม่ติดทะเล ก็ไม่ใช่ประเด็นสำหรับคนอยู่ระยะยาว  (แต่จริงๆเซนทริกสามารถเดินทะลุที่ดินที่ขวางอยู่ ที่เค้าว่ากันว่าอีกหน่อยจะเป็นเอเชียทีคไปสู่ทะเลได้) P1060736 ชาวต่างชาติที่เลือกมาพักทำเลนี้เพราะ อยู่ในเมืองใกล้ห้างใกล้แหล่ง lifestyle แต่ไม่วุ่นวายจนเกินไปนัก ค่าเช่าที่ได้สำหรับห้อง 37 – 40 ตรม คือ 23,000-25,000 บาทต่อเดือน คิดเป็น yield 7%++ เท่าที่คุณ S รู้มาคือ มีคนญี่ปุ่นต้องการเช่าคอนโดเซนทริกหลายคน ชาวยุโรปก็มี (ตอนที่ผมนั่งรอคุณxxxxในสำนักงานขายก็มีฝรั่งมาถามหาห้องพักระยะยาวอยู่ 1-2 คน) คุณ S ยังบอกผมว่า ถ้าห้องไม่ใช่วิวทะเลหน้าตรง ราคาปล่อยเช่าน่าจะ drop ลงจาก 2 หมื่นกว่าเป็นหมื่นปลายๆ P1060721 ที่จริงคุณ S ยังถือคอนโดริมหาดวงศ์อมาตย์ไว้อีกจำนวนหนึ่ง แต่เค้าว่าปล่อยเช่ายากกว่าที่นี่ คุณ S วิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นเพราะคอนโดนั้นติดหาดติดทะเลก็จริงแต่ห้องที่เค้าซื้อเป็นห้องราคาถูกกว่า ที่ไม่เห็นวิวทะเล และราคารวมของห้องค่อนข้างสูงเลยต้องปล่อยเช่าในราคาสูง สรุปเน้นๆคือ เค้าเชื่อว่าพัทยายังน่าสนใจ และเค้ายังมองหาโอกาสจะเก็บเข้าพอร์ทเพิ่มถ้าเจอห้องสวยราคาถูก ตัวผมเองนั้น มาพัทยาค่อนข้างบ่อย ทั้งมาทำธุระและมาพักผ่อน (ที่จริงก็มีคนรู้จักอยู่ที่นี่) ได้เห็นถึงแง่มุมต่างๆของพัทยามาพอสมควร การเดินทางจากกรุงเทพที่แสนจะสะดวกสบาย  lifestyle ที่นี่ก็ครบถ้วนไม่ได้แตกต่างจากกรุงเทพ ผมเองก็ยังมองหาคอนโดมิเนียมซักห้องสองห้องไว้เป็นบ้านหลังที่สอง หรือปล่อยเช่าให้ชาวต่างชาติ  ที่นี่มีตลาดเช่าที่ใหญ่และได้ราคาดี จาก expat ที่มาทำงานแถวนี้ คนรู้จักผมเองเป็นวิศวกรน้ำมันจากประเทศแถบยุโรป เค้าได้งบเช่าที่พักอาศัยจากบริษัทเดือนละ 8 หมื่นบาทครับ ก็เช่าอยู่ 5-6 ปี จนในที่สุดก็มาซื้อเป็นของตัวเอง เค้าเคยบอกผมว่าถึงเค้าจะทำงานที่แหลมฉบัง แต่เค้าก็เลือกจะมาพักที่คอนโดริมทะเลติดหาดวงศ์อำมาตย์มากกว่า เค้าใช้คำว่า “ live like you are always on vacation” 20151001105724_gallery_2_th วันที่ผมมาเขียนบทความนี้ ผมพักที่เซนทารามิราจ ที่แทบจะไม่มีห้องพักว่าง กลุ่มชาวรัสเซียยังไม่กลับมาก็จริง แต่ก็ทดแทนด้วย กลุ่มชาวจีน ชาวอินเดีย และชาวไทยอย่างพวกเรา ผมเชื่อนะครับว่า พัทยายังไปได้แม้บางช่วงอาจจะสะดุดไปบ้าง ช่วงนี้ SC กำลังจะออกโปรโมชั่น ภาครัฐก็มีนโยบายกระตุ้นอสังหา ค่าเงินบาทก็อ่อนค่าทำให้ชาวต่างชาติเริ่มรู้สึกว่าคอนโดเราถูกลงไปอีก ปัจจัยต่างๆมาหนุนบวกกันขนาดนี้ ผมเชื่อว่าคอนโดนี้คงขายหมด sold out ในเร็ววันอย่างแน่นอน ข้อควรระวังคือ ในปีหน้าจะมีคอนโดเสร็จเพิ่ม supply เข้าสู่ตลาดอีกมาก ที่เด่นๆก็ The Base Central Pattaya / Unixx  พระตำหนัก สุดท้ายขอพูดถึงข้อเสียของทำเลนี้กันบ้าง คือพัทยายังไงก็เต็มไปด้วย สถานบันเทิงเริงรมย์  และย่านพัทยาสาย 2 เนี่ย ก็ใกล้สถานที่พวกนี้เอามากๆ หาดพัทยาเหนือถึงกลางตรงนี้ก็ไม่ใช่หาดที่เหมาะแก่การเล่นน้ำหรือนั่งชิลลลแต่อย่างใด พัทยาสาย2 ยังเป็นถนน one way การเข้าสู่โครงการไม่สะดวกเท่าถนน 2 way นะครับบบบบ อย่าลืมติดตามภาคต่อของเซนทริกซีนะครับ  ขอบคุณมากกกกก P1060754 “พาชม Centric Sea Pattaya คอนโด highrise วิวทะเล พร้อมเข้าอยู่”

Chambers Chaan (แชมเบอร์ส ชาน) อบอุ่นเหมือนอยู่บ้านในบรรยากาศที่คุ้นเคย…

เพราะ “ชานบ้าน”…เป็นส่วนสำคัญมากของสถาปัตยกรรมเขตร้อน เป็นเสมือนใจบ้านที่เชื่อมโยงร้อยเรียงพื้นที่ส่วนต่างๆของบ้านเข้าไว้ด้วยกัน Chambers Chaan (แชมเบอร์ส ชาน) ลาดพร้าว-วังหิน จึงดึงลักษณะพิเศษของ “ชาน” มาเป็นองค์ประกอบหลักของโครงการ แต่มีการดัดแปลงและผสมการออกแบบสไตล์โมเดิร์น ทำให้เกิด “ชาน” ที่มีความเฉพาะตัวบนคอนโดกลางย่านลาดพร้าว-วังหิน ย่านที่พักอาศัยดั้งเดิมที่มีคุณภาพ Chambers Chaan (แชมเบอร์ส ชาน) ตั้งอยู่ติดลาดพร้าว-วังหิน ซอย 66 ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งอยู่บนถนนเส้นหลัก หรือติดการคมนาคมระบบราง แต่ก็ใช่ว่าจะเดินทางลำบาก เพราะข้อดีของถนนลาดพร้าว-วังหิน คือ สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นหลักของเมืองได้ถึง5สาย ทั้ง ลาดพร้าว รัชดาภิเษก พหลโยธิน เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ หรือประดิษฐมนูกิจ ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปไหน ก็ถือว่าอยู่บนทำเลที่สะดวกอยู่ไม่น้อย อีกทั้งโดยรอบเป็นย่านชุมชนเก่าที่มีความเจริญมาอย่างต่อเนื่อง มีเรื่องราวของ บ้านจัดสรรแห่งแรกอย่างหมู่บ้านเสนานิเวศน์ก็เลือกมาตั้งอยู่บริเวณนี้ จนมีการพัฒนาเรื่อยมา ทำให้คนท้องถิ่นไม่ย้ายไปที่อื่น อยู่ติดที่ เพราะความสะดวกสบายเพียบพร้อมทัดเทียมในเมือง ที่รายล้อมด้วย Community mall อย่าง The Jas และ Plaza Lagoon มี Lotus และร้านอาหารชื่อดังที่หมุนเวียนตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งร้านซ้งเป็ดพะโล้และร้านข้าวมันไก่วังหิน ร้านอาหารชื่อดังก็ตั้งอยู่ใกล้ๆ อีกสิ่งที่น่าสนใจในทำเลนี้ คือ นอกจากที่ผืนนี้แล้ว ก็มีความเป็นไปได้ยากที่จะได้จับจองทำเลแห่งนี้ด้วยราคาที่จับต้องได้ เพราะโดยรอบถูกจับจองด้วยหมู่บ้าน บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมราคาสูงลิบลิ่ว…Chambers Chaan จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อมาทดแทน product ประเภทบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ที่มีราคาค่อนข้างสูง โดยการออกแบบโครงการจะมีการผสมผสานของความเป็นบ้าน มาในพื้นที่ส่วนกลางในผู้อยู่อาศัยรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ตอบโจทย์กลุ่มคนที่รักทำเลรักถิ่น โดยยังได้อารมณ์ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านในราคาที่ไม่สูงเท่ากับซื้อบ้านในย่านนี้ IMG_2374 copy IMG_2378 copy IMG_2381 copy “แชมเบอร์ส ชาน” คอนโดอารมณ์บ้าน บนถนนลาดพร้าววังหิน ประวัติของแบรนด์แชมเบอร์ส CHAMBER-CHAAN GGplan+ Chambers Chaan นำ “ชาน” ที่แสดงออกถึงพื้นที่พิเศษกึ่งกลางแจ้งกึ่งในร่ม (semi public) และเชื่อมต่อพื้นที่ outdoor และ indoor เข้าด้วยกันมาใช้ในการออกแบบ ทำให้ภาพรวมของสถาปัตยกรรมดูอบอุ่นเป็นสไตล์บ้านตามคอนเซปที่ตั้งไว้ มีลูกเล่นของสเปซในอาคาร และ ระแนงไม้แนวตั้ง คลุมธีมด้วยสีเอิร์ทโทน ทำให้ได้อารมณ์ความเป็นบ้านที่น่าอยู่ ดูอบอุ่นมากขึ้น โครงการแบ่งอาคารออกเป็น 2 อาคาร 3 ตึก 317 ยูนิต (อาคาร B แบ่งเป็นสองส่วน) บนเนื้อที่ 3-3-35 ไร่ มีทางเข้าออกหลักคือบนถนนลาดพร้าว-วังหิน แปลงที่ดินโครงการหน้าแคบและลึก ทำให้สามารถออกแบบให้ทุกห้องมีระเบียงและหน้าต่างสูงหันทางทิศเหนือและทิศใต้ ทำให้ทุกอาคาร โปล่ง โล่ง รับลม รับแดด และสามารถชมวิวได้มุมกว้าง เพราะโดยรอบเป็นตึกแถว และหมู่บ้าน อีกทั้งการจัดวางห้องในอาคาร เน้นห้องแนวกว้าง ไม่เน้นช่วงลึกแบบคอนโดทั่วไป Chaan-Masterplan_oct2015_master IMG_2186 copy ภาพรวมโครงการ ตัวอาคาร 2 อาคาร 3 ตึก ประกอบด้วย ตึก A, B1, B2 ทุกตึกมีล็อบบี้เฉพาะของแต่ละตึก ที่จอดรถส่วนใหญ่ถูกจัดวางไว้อยู่บริเวณชั้น 1 ของตึก A และบริเวณโดยรอบโครงการ มีบางส่วนอยู่ใต้ตึก B1 กับ B2 รวมที่จอดรถทั้งโครงการ 156 คัน (ไม่นับซ้อนคัน) โดยตึก A จะติดทางเข้าหลักและใกล้ถนนลาดพร้าว-วังหิน มีทั้งหมด 8 ชั้น 176 unit ตึกนี้เน้นห้อง 1 bedroom, Type : 1A ขนาด 29-31 ตร.ม. เป็นส่วนใหญ่ และมีห้อง 1 bedroom plus, Type : 1B ขนาด 40-44 ตร.ม. ในตำแหน่งห้องหัวมุมของแต่ละชั้น ชั้นดาดฟ้าเป็นสวน และบริเวณชั้น 5-6 ติดถนนมี Pocket Garden บริเวณมุมอาคาร ที่ Blend เข้ากับ design ของตึกที่เน้นการสัมผัสกับธรรมชาติ โดยการจัดวางในตำแหน่งนี้ ทำให้สามารถดึงแสง ลม ธรรมชาติเข้าสู่อาคาร และสามารถมองเห็นได้จากถนนเมื่อขับรถผ่าน เป็นการสร้างความสวยงามให้กับตึก A ได้เป็นอย่างดี…อีกจุดที่น่าสนใจสำหรับตึก A คือด้วยการที่ห้องส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก จึงมีราคาต่อห้องถูกกว่า ตึก A จึงมีความเป็น Affordable price อย่างมาก IMG_2185 copy สวนบนดาดฟ้าตึก A IMG_2194 copy Pocket บริเวณชั้น 5-6 ของตึก A ที่สวยงามโดดเด่นเมื่อมองจากภายนอก IMG_2195 copy ถัดเข้ามาคือ ตึก B1 มีทั้งหมด 7 ชั้น 54 unit อยู่ติดพื้นที่ส่วนกลางอย่าง ฟิตเนส สำนักงานนิติฯ สระว่ายน้ำ โดยตึกนี้มีห้องคละกันคละทุกรูปแบบทั้ง 1 bedroom, Type : 1A ขนาด 29-31 ตร.ม. 1 bedroom plus, Type : 1B ขนาด 40-44 ตร.ม. 2bedroom, Type : 2A ขนาด 55-56 ตร.ม. และ 1 bedroom chaan, Type : 1C ห้อง signature ของโครงการ ขนาดพื้นที่ 40-42 ตร.ม. อีกลูกเล่นของตึกนี้คือ ห้องนั่งเล่นของห้องที่ชั้น 6 ถูกออกแบบให้มีความพิเศษด้วยความสูงจากพื้นจรดเพดานถึง 4.3 เมตร (ห้องปรกติ ระยะพื้น-เพดานสูง 2.45 เมตร) และมีเพียง 9 ห้องเท่านั้น ด้วยจำนวนห้องที่น้อยกว่าตึกอื่นๆทำให้ตึกนี้มีความ private มากกว่า และเป็นตึกรวมห้อง signature ไว้ในที่เดียว IMG_2188 copy ตึกสุดท้าย คือตึก B2 อยู่ปลายสุดของโครงการ ถือว่าเป็นตึกที่ full facility มากที่สุด มีทั้งหมด 8 ชั้น 87 unit โดยเริ่มมีห้องพักตั้งแต่ชั้น 1 ปีกด้านใน ติดสระว่ายน้ำ ตึกนี้มีห้องเพียง 2 แบบ โดยเน้นเป็นห้องขนาดใหญ่ คือ 1 bedroom plus, Type : 1B ขนาด 40-44 ตร.ม. และ 2bedroom, Type : 2A ขนาด 55-56 ตร.ม. ซึ่งทุกห้องของ 2bedroom ในตึกนี้ได้ห้องหัวมุมทุกห้อง IMG_2189 copy รูปแบบห้อง มีทั้งหมด 4 แบบ คือ แบบ signature : 1 bedroom chaan , Type : 1C ห้อง signature ตามชื่อของโครงการ ขนาดพื้นที่ 40-42 ตร.ม. มี 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1ชานใหญ่ 1ห้องน้ำ และ 1 ห้องครัวพร้อมระเบียง มีเพียง 12 ห้อง Chaan-unitplan_oct2015_chaan 2 bedroom, Type : 2A ขนาดพื้นที่ 55-56 ตร.ม. มี 2 ห้องนอน 1ห้องนั่งเล่น 2 ห้องน้ำและ 1 ห้องครัวพร้อมระเบียง อีก 2 แบบ เป็นประเภทที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ จึงเลือกนำมาทำเป็นห้องตัวอย่าง คือ 1 bedroom, Type : 1A ขนาดพื้นที่ 29-31 ตร.ม. มี 1 ห้องนอน 1ห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำและ1ห้องครัว พร้อมระเบียง 1 bedroom plus, Type : 1B ขนาดพื้นที่ 40-44 ตร.ม. มี 1 ห้องนอน 1 ห้อง plus (ที่สามารถปรับเป็นห้องอื่นๆได้ตามต้องการ) 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องน้ำและ 1 ห้องครัวพร้อมระเบียง Chaan-unitplan_oct2015_standard ห้องตัวอย่างห้องแรก 1 bedroom, Type : 1A 30 ตร.ม. IMG_2207 copy ประตูสูง 2.2 เมตร เป็นระบบก้านโยกล็อค 2 ชั้น เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็น Living area ที่สามารถเห็นวิวโดยมองทะลุผ่านประตูห้องนอน ไปยังหน้าต่างบานใหญ่สูงจากพื้นจรดเพดานบริเวณห้องนอน ทำให้ความสูงของห้อง 2.4 เมตร ดูสูงและกว้างขึ้นอีก ระบบไฟ เป็นแบบ downlight ทั้งหมด IMG_2208 copy ถึงแม้ห้องจะถูกแบ่งและกั้นเป็นสัดส่วนแบบทั่วไป แต่ด้วยการจัดวางห้องแบบแนวกว้าง และหน้าต่างบานใหญ่ที่ห้องนอน ทำให้ภาพรวมของห้องดูกว้างขึ้น สามารถสัมผัสกับแสงธรรมชาติ ส่องสว่างทั่วห้อง ได้เป็นอย่างดี IMG_2240 copy บริเวณด้านหลังประตู มีการออกแบบตู้สูงจากพื้นถึงฝ้า เพื่อเก็บระบบงานไฟ และสามารถใช้เป็นตู้ใส่ของหรือรองเท้าได้ ผนังห้องหลังทีวี ของจริงเป็นคอนกรีตทาสีโทนน้ำตาลเทา IMG_2263 copyIMG_2264 copy ห้องนั่งเล่นมีหน้ากว้างถึง 2.9 เมตร ทำให้มีระยะห่างเหลือเฟือครับ IMG_2218 copy โซฟา (เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดรวมชุดครัวเป็นแบรนด์ INDEX) จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถปรับใช้งานได้ทั้งนั่งทำงาน นั่งทานข้าว และนั่งดูทีวี เรียกได้ว่าตั้งแค่ชุดเดียวพอ ไม่ต้องเปลืองเนื้อที่ครับ IMG_2215 copy เข้าสู่ห้องนอน จุดเด่นคือหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดฝ้า ที่สามารถมองวิวได้ทั้งภายในห้องนอนและจากห้องนั่งเล่น สามารถเปิดรับลมได้เต็มที่…บานเลื่อนเข้าห้องนอนเป็นแบบเลื่อนซ้าย-ขวา IMG_2221 copy  IMG_2237 copy IMG_2238 copy หน้าต่างสูง บานใหญ่สะใจมากครับ   IMG_2214 copyIMG_2226 copyIMG_2231 copy IMG_2232 copy ปลายเตียงเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง และ ตู้เสื้อผ้าจากแบรนด์ INDEX เช่นกัน โดยเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดเป็นระบบบานปิดแบบ Soft Close IMG_2229 copy มาในส่วนห้องน้ำและห้องครัว มีประตูบานเลื่อนใสขุ่นกั้นพื้นที่ แต่ก็พอที่จะให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ IMG_2219 copy ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ ที่ภายในแบ่งสัดส่วนเปียก-แห้ง โครงการไม่ได้แถมฉากกั้นอาบน้ำให้นะครับ IMG_2243 copy มีเจาะช่องข้างฝักบัวสำหรับวางอุปกรณ์การอาบน้ำต่างๆไว้รองรับ ส่วนสุขภัณฑ์ เป็นของ American Standard ทั้งหมด IMG_2277 copy บริเวณส่วนแห้ง มีกระจกบานใหญ่ติดให้ตามแนวผนังทั้งผืน…นี่มันเลียนแบบคอนโดเกรด A ชัดๆ IMG_2245 copy ส่วนห้องครัวเชื่อมต่อไปที่ระเบียง ประตูออกระเบียงเป็นแบบบานเลื่อน 3 ตอน บริเวณระเบียงด้านซ้ายสามารถวางเครื่องซักผ้าได้ 1 เครื่อง IMG_2249 copy แบ่งสัดส่วนอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และช่องสำหรับไมโครเวฟและอุปกรณ์ทำครัว…ที่นี้ให้ที่ดูดควันด้วยครับ IMG_2250 copy ด้านบนเป็นตู้เก็บของและเครื่องดูดควัน ด้านซ้ายติดทางเข้าห้องน้ำเว้นที่สำหรับวางตู้เย็น ชุดครัวทั้งหมดเป็นของ Teka โครงการไม่ได้ติดกระเบื้อง back splash มาให้แต่ทาสีแบบพิเศษที่สามารถเช็ดล้างคราบสกปรกออกได้โดยง่ายครับ IMG_2252 copy IMG_2253 copy IMG_2260 copy IMG_2262 copy ห้องถัดไป คือ 1 bedroom plus, Type : 1B ขนาดพื้นที่ 40-43 ตรม IMG_2265 copy เปิดเข้าไป ใช้การออกแบบเดียวกับห้อง 1 bedroom คือ มีหน้าต่างบานใหญ่จากพื้นจรดเพดาน รับแสงธรรมชาติ…บริเวณตรงกลางเป็นห้องนั่งเล่น ที่เชื่อมทุกห้องเข้าด้วยกัน IMG_2269 copy IMG_2271 copy ด้านซ้ายมือห้องแรก เป็นห้องตามคอนเซปชื่อ 1 bedroom plus คือห้องที่ออกแบบไว้สามารถปรับการใช้งานได้แบบอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ห้องแต่งตัว หรือปรับเป็นห้องนอนเล็กสำหรับครอบครัว มีตู้เสื้อผ้าไว้รองรับ IMG_2278 copy IMG_2280 copy ประตูห้องเป็นบานเลื่อนกระจกใส ถึงเป็นห้องที่ไม่มีหน้าต่าง แต่ก็สามารถรับแสงได้จากหน้าต่างบานใหญ่บริเวณห้องนั่งเล่น ทำให้ห้องไม่อับ และไม่อึดอัดเมื่อใช้งาน IMG_2283 copy ห้องซ้ายมือถัดไป เป็นห้องนอนไม่มีระเบียง แต่มีหน้าต่างบานใหญ่เหมือนห้องนั่งเล่นทดแทน IMG_2295 copyIMG_2307 copy ห้องตัวอย่างมีการติดกระจกบานใหญ่บริเวณหัวเตียง ยิ่งช่วยทำให้ห้องนอนดูกว้างและสว่างมากขึ้น IMG_2296 copy ด้านขวาของเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าวางตัวยาวเต็มผนัง IMG_2300 copy เหนือตู้เสื้อผ้าเว้นที่ติดแอร์เล็กไว้ 1 ตัว และมีพื้นที่สำหรับเก็บของเหนือตู้เสื้อผ้า IMG_2297 copy IMG_2293 copy ไปที่บริเวณห้องครัว ทางด้านขวาของห้อง กั้นด้วยประตูบานเลื่อนใสขุ่น เพื่อแบ่งสัดส่วนการใช้งาน ป้องกันกลิ่น และระบายอากาศผ่านทางระเบียงได้ IMG_2294 copy IMG_2342 copy ชั้นทำครัววางเข้ามุม เป็นอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า 2 หัว IMG_2319 copy และเจาะช่องสำหรับเครื่องซักผ้า ฝาหน้าได้อย่างเป็นระเบียบ IMG_2324 copy IMG_2327 copy เหนือท็อปครัว เป็นชั้นเก็บของและเครื่องดูดควัน IMG_2336 copy IMG_2338 copy ปลายห้องครัว ด้านชิดระเบียงเว้นที่ไว้สำหรับวางตู้เย็นได้ ประตูระเบียงเป็นแบบบานเลื่อน 3 ตอน เพื่อเปิดได้กว้างขึ้น IMG_2321 copy ถึงแม้จะน่าเสียดายที่ไม่มีห้องตัวอย่างแบบ signature ชาน หรือห้องที่เพดานสูง 4.3 เมตร มาโชว์ แต่แค่ภาพรวมห้องนี้ ก็พอจะจินตนาการได้ เพราะหน้าต่างบานใหญ่สามารถเชื่อมโยงธรรมชาติเข้าสู่ภายในห้องได้เป็นอย่างดี เป็นเสมือนชานใต้หลังคาที่เชื่อมโยงทุกห้องไว้ พร้อมเปิดรับแสง ลม จากธรรมชาติได้ เหมาะกับคอนโดสไตล์บ้านหลังนี้ INO มาถึงพื้นที่ส่วนกลาง ก็ยังคงคอนเซปท์ ชานบ้าน ที่กว้างขวาง รับลม รับแสงธรรมาติมาจัดวางไว้ในพื้นที่ส่วนกลางที่เชื่อมกับสระบัว สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และสวนหย่อมรอบๆ เก็บรายละเอียดของงานรูปแบบชานไม้ ระเบียงไม้มาใช้เป็นลูกเล่น ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่นั่งอยู่ ณ ชานบ้านขนาดใหญ่ CHAMBERS CHAAN_POOL_FINAL-01 CHAMBERS CHAAN_TERRACE_FINAL-01 Mood and tone ของพื้นที่ส่วนกลางสามารถรับรู้บรรยากาศได้จากพื้นที่ sale office (ตั้งอยู่ห่างจากพื้นที่ก่อสร้างจริง 200 เมตร ใกล้ซอยลาดพร้าว วังหิน 70) วัสดุจริงมีการเปลี่ยนแปลงตามการก่อสร้างจริง มีประตูกระจกบานใหญ่ สามารถเลือกเปิด หรือปิดได้ตามแต่สภาพอากาศและความต้องการ แสงสามารถส่องเข้าถึง สว่างทั่วทั้งพื้นที่ ระเบียง หรือชานของอาคาร ใช้ระแนงเลียนแบบไม้เป็นกันสาด ลดปริมาณแสงแดดจัด ทำให้มีส่วนร่มบ้างรำไรสลับกัน ตามสไตล์ชานบ้าน ระเบียงบ้านแบบไทยๆ สไตล์ที่คุ้นเคย IMG_2182 copy  IMG_2344 copy IMG_2349 copy IMG_2352 copy IMG_2364 copyIMG_2206 copy บริเวณที่ตั้งโครงการจริง IMG_2180 copy โดยสรุปแล้ว ทำเลลาดพร้าว-วังหินเป็นทำเลที่สามารถเชื่อมโยงการเดินทางไปยังถนนเส้นหลักๆของเมืองได้ แต่ก็คงต้องอาศัยกลุ่มลูกค้าที่ติดถิ่น หรือชื่นชอบในไลฟ์สไตล์ 24 ชม. โดยเฉพาะร้านอาหารดังย่านนี้สักหน่อย โครงการออกแบบมาเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายที่อยากซื้อบ้านในบริเวณนี้ เนื่องจากลักษณะทางพฤติกรรมของคนแถวนี้มักจะอยู่ติดถิ่น ไม่อยากย้ายไปไหน แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องทำเลที่มีแต่การพัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮมที่มีราคาค่อนข้างสูงมาก จนอาจจะเกินกำลังของดีมานท์ในย่านนี้ Chambers Chaan “บ้านในราคาคอนโด” จึงน่าจะตอบโจทย์ของดีมานท์กลุ่มดังกล่าวไม่ใช่น้อย ส่วนโครงการคอนโดแบรนด์อื่น เท่าที่เห็นก็มีแค่เจ้าเดียวที่อยู่ห่างออกไปราวๆ 2 กม. อย่าง The Privacy ลาดพร้าว เสนา คอนโดเกรด แมส ของค่ายพฤกษา เปิดราคาที่ 1.09 ล้านบาท ตัวโครงการเน้นกลุ่มคนวัยเริ่มต้นทำงาน อยู่คนเดียว ด้วยขนาดห้อง 1 Bedroom : 22.5-26.00 ตร.ม. และ Combine room : 45.00 ตร.ม. ไม่ได้มีรายละเอียดห้องที่ซับซ้อนนัก จึงไม่น่าจะใช่คู่แข่งโดยตรงของ Chambers Chaan IMG_2361 copy ส่วนเรื่องสภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่รอบๆนั้น เนื่องจากย่านนี้เจริญมานาน ทำให้ทุกอย่างเพียบพร้อม และยิ่งเสริมด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่อำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัยอย่างสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนรอบโครงการ หรือมุมพักผ่อนริมสระบัวที่ออกแบบให้สอดคล้องกับความเป็นชานบ้าน semi outdoor อันกว้างขวาง เชื่อมต่อกับ Lobby ที่ออกแบบให้สามารถรับแสงธรรมชาติจากประตูบานใหญ่ และประกอบกับการตกแต่งด้วยงานไม้ ทำให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่โปร่งโล่ง เป็นชานบ้านส่วนกลางที่น่าใช้งานและพักผ่อนอย่างมาก ส่วนตัวอาคารมีดีเทลและลูกเล่นมากมาย อีกทั้งการคงเอกลักษณ์ของหน้าต่างบานใหญ่กับทุกๆห้อง ก็ดูเหมาะกับคอนเซป “ชาน” ที่ทางโครงการตั้งโจทย์ไว้ อีกทั้งโครงการนี้ก็น่าจะประหยัดพลังงานอยู่ไม่น้อย หากใช้การออกแบบตามความตั้งใจ ในการเปิดรับแสงและลมจากธรรมชาติให้มากที่สุด

มาดูกันทำไมถึงแพง The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok

วันนี้ (15 ตค. 2558) เป็นวันที่ประวัติศาสตร์วงการคอนโดไทยจะต้องจารึกครับ ว่ามีอีกหนึ่งคอนโดระดับ Ultra Luxury ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ถือกำเนิดขึ้นมา โดยเป็นการเปิดตัวขายพร้อมกันทั้ง 3 เมืองใหญ่อย่าง กรุงเทพฯ ลอนดอน และฮ่องกง The Residences at Mandarin Oriental Bangkok เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เป็นโครงการที่พักอาศัยแห่งที่สองภายใต้อภิมหาโปรเจค ไอคอน สยาม (Icon Siam) ต่อจากโครงการ Magnolias Waterfront Residences at Icon Siam ครับ หลายต่อหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าทำไมโครงการที่สอง ถึงมีราคาต่อตรม.แพงกว่าโครงการแรกถึงราวๆ 70% (มีบางห้องที่มีราคาต่อตรม.แพงกว่าเท่าตัว)…ส่วนตัวแล้วผมมองว่านี่คือเรื่องของแบรนด์ดิ้งล้วนๆครับ เนื่องจากโครงการ The Residences at Mandarin Oriental Bangkok เป็นโครงการที่เกิดจากการ Co-creation กันระหว่างทาง บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ในเครือแมกโนเลียฯและ CP) กับแบรนด์โรงแรมระดับโลกที่มีตำนานและ story อันยาวนานอย่าง แมนดาริน โอเรียนเต็ล โฮเต็ล กรุ๊ป ผู้เป็นเจ้าของและผู้บริหารโรงแรม รีสอร์ท และเรสซิเดนซ์ที่หรูหราที่สุดในโลก ซึ่งได้รับรางวัลประกันคุณภาพมากมาย ปัจจุบันมีโรงแรมที่บริหารและอยู่ในระหว่างพัฒนา 46 โรงแรม มีจำนวนห้องพักรวมกันเกือบ 11,000 ห้องใน 25 ประเทศ แน่นอนว่างานนี้ แมนดาริน โอเรียนเต็ล โฮเต็ล กรุ๊ป นั้นเป็นพระเอก และเป็น endorser อย่างมากในการเพิ่มมูลค่าของแบรนด์ The Residences at Mandarin Oriental Bangkok ให้สูงกว่าตึกแรกที่ก่อสร้างและบริหารโดยแมคโนเลียฯเจ้าเดียวครับ…คนทั่วโลกรู้ดีกว่าแบรนด์แมนดาริน โอเรียนเต็ล นั้นแข็งแกร่งแค่ไหนในเชิงการบริหารงานโรงแรมระดับโลก อาจกล่าวได้ว่าถ้าไปถามบรรดาเหล่าเศรษฐีทั่วโลกที่นิยมชมชอบการเข้าพักในโรงแรมระดับเกิน 5 ดาวขึ้นไป ชื่อของแมนดาริน โอเรียนเต็ล (โดยเฉพาะที่กรุงเทพฯ) ย่อมติดอันดับ Top of Mind ในเรื่องของคุณภาพการบริการในแบบ beyond expectation แน่นอนครับ หากล้วงลึกไปถึง Brand Promise ของแบรนด์ แมนดาริน โอเรียนเต็ล ก็จะพบประโยคเด็ดที่ว่า “ความมุ่งมั่นตั้งใจที่เหนือกว่า ในการบริหารที่พักอาศัยและการให้บริการด้วยมาตรฐานที่เป็นเลิศที่สุด เป็นมาตรฐานที่ทำให้ชื่อแมนดาริน โอเรียนเต็ลเป็นสัญลักษณ์ของมาตรฐานความหรูหราชั้นยอดทั่วโลก”ซึ่งโครงการนี้ถือว่าเป็นโครงการที่พักอาศัย แบรนด์ ‘แมนดาริน โอเรียนเต็ล’ โครงการแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในตลาดของคอนโดระดับ Ultra Luxury เรามักจะเห็นหลายๆโครงการที่มุ่งเน้นในเรื่องของการบริการหลังการขาย ที่ไม่ได้จำกัดถึงแค่เรื่องของงานนิติบุคคลเพียงอย่างเดียวครับ แต่ยังรวมไปถึงการบริการที่เฉพาะเจาะจงลงไปถึงระดับ personalized เป็นรายบุคคล ชนิดที่ว่าถ้าคุณเดินลงไปล้อบบี้ พนักงาน แม่บ้านทุกคนก็จะรู้หมดว่าคุณชื่ออะไร อยากทานอะไร กำลังจะออกไปไหน ถือประเป๋าแบรนด์ไหน และขับรถป้ายทะเบียนอะไรครับ…งานบริการในลักษณะเฉพาะแบบนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากถ้าเป็น developer แต่หากว่าได้พันธมิตรที่มีความสามารถในเชิงบริการแบบนี้เข้ามาช่วย Co-creation ให้กับโครงการได้ก็จะส่งผลดีมหาศาลในด้านของ Brand Value และ Property Value ครับ ผมเชื่อว่าลูกค้าที่มีเงินในระดับหลายพันล้านขึ้นไป และเป็นกลุ่มเป้าหมายของ The Residences at Mandarin Oriental Bangkok ไม่มีใครเค้าคิดพิจารณาในเชิง detail วัสดุห้อง เปรียบเทียบราคากับโครงการข้างเคียง หรือแม้กระทั่งการเดินทางครับ…ในทางกลับกันสิ่งที่จับต้องได้ในใจของลูกค้ากลุ่มนี้ก็คืองานด้านการบริการ เขาเหล่านี้ต้องการ service แบบที่ proactive ใช้ได้ สั่งได้ หาใช่ต้องการแค่ห้องนอนที่ทนทาน และห้องรับแขกที่กว้างขวาง ในศาสตร์ด้านการสร้างแบรนด์เรามักจะเรียกกลุ่มคนเหล่านี้เป็น Strivers และ Achievers กล่าวคือคนสองกลุ่มนี้มักจะให้ความสำคัญในเรื่องของสถานภาพและการยอมรับทางสังคม คู่ควรกับสิ่งที่ดีมีระดับ ยึดติดกับแบรนด์เท่านั้นโดยการวัดว่าของสิ่งไหนที่คู่ควรกับพวกเขาเหล่านั้นก็คือระดับราคา และชื่อเสียงของแบรนด์ที่เป็นที่นิยมในหมู่กลุ่มคนในสถานะเดียวกัน ของโหลหาง่าย มีเยอะ และไม่ใช่เป็นที่สุดของราคาไม่ใช้ครับ!!! เพื่อตอบคำถามหลายๆคนในเรื่องนี้ คุณธนวันต์ ชัยวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “คุณภาพของที่พักอาศัยแต่ละยูนิตเทียบเท่าหรือเหนือกว่าที่พักอาศัยที่ดีที่สุดของโลก ซึ่งนั่นทำให้เรามั่นใจว่าโครงการจะได้รับการตอบรับจับจองจากกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็ว ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ทั่วโลก เป็นกลุ่มคนที่เลือกซื้อความหรูหราขั้นสูงสุด และรู้ดีว่าโครงการที่มีความพิเศษอย่างโครงการของเรา เนื่องด้วยทั้งทำเลที่ตั้งและชื่อเสียงของแบรนด์ เป็นเรื่องยากมากที่จะมีโครงการแบบนี้เกิดขึ้นอีก ซึ่งคนกลุ่มนี้ตัดสินใจควักกระเป๋าซื้อเพราะเขาต้องการเป็นเจ้าของ ‘ของสะสม’ ที่หายาก ที่ทำให้พวกเขามีอะไรที่พิเศษและแตกต่าง ปัจจัยสำคัญอื่นๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อโครงการของลูกค้ากลุ่มนี้ก็คือคุณภาพของการออกแบบ การก่อสร้าง และบริการต่างๆ รวมถึงความเชื่อมั่นว่าการบริหารจัดการอาคารจะได้มาตรฐานระดับโลกอย่างแท้จริง ลูกค้ากลุ่มนี้รู้ว่าทรัพย์สินหายากแบบนี้อยู่เหนือความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจและมีมูลค่าสูงขึ้นตลอดเวลา นั่นคือเหตุผลว่า เราจึงได้รับความสนใจจากลูกค้าจองที่พักอาศัยสุดหรูของเราล่วงหน้า ตั้งแต่เรายังไม่เคาะราคาขาย เป็นจำนวนกว่า 30 ยูนิตจากทั้งหมด 146 ยูนิตเห็นไหมครับว่าขายแพงเพราะความเป็น Global legendary brand ที่ทั่วโลกรู้จัก และการซื้อที่นี่จะช่วยสร้างสถานะใหม่ที่สูงขึ้นไปอีกให้กับพวกเขาเหล่านั้นครับ ในทางด้านการบริการของโครงการ ผมก็ยังไม่ได้รับข้อมูล in detail ว่ามี service พิเศษ อะไรที่ผู้เป็นเจ้าของจะได้รับจาก กลุ่ม แมนดาริน โอเรียนเต็ล โฮเต็ล กรุ๊ป รู้คร่าวๆเพียงว่า จะได้เป็นสมาชิก Residences Elite Programme ของแมนดาริน โอเรียนเต็ล โดยอัตโนมัติ ซึ่งมอบสิทธิพิเศษที่ครอบคลุมทั่วโลก และการยอมรับในระดับพิเศษ เมื่อเข้าพักในโรงแรมในเครือแมนดาริน โอเรียนเต็ล นอกจากนั้น ผู้พักอาศัยในโครงการยังได้รับสิทธิพิเศษและการยอมรับระดับวีไอพี เมื่อใช้บริการหรือ ช้อปกับร้านค้าภายในโครงการไอคอนสยาม เอาไว้วันหลังผมจะมาลงลึกเกี่ยวกับศาสตร์ของ Beyond Luxury Branding มาให้คุณผู้อ่านได้ทราบครับ แต่ตอนนี้เรามาดูรายละเอียดโครงการพร้อมรูปภาพกันดีกว่าครับ Fact sheet 52 ชั้น 146 ยูนิต ภายใต้พื้นที่ 4.9 ไร่ แบ่งห้องออกเป็น 4 แบบ
  • 2 ห้องนอน                      127.87 ตรม. – 165.40 ตรม.
  • 3 ห้องนอน                      222.21 ตรม. – 228.88 ตรม.
  • Penthouse                     380.93 ตรม. – 383.98 ตรม.
  • Penthouse Duplex       386.12 ตรม. – 707.28 ตรม.
CCI15102558 Facilities และ Amenities ที่เด่นๆจะมี River Clubhouse ที่รวมทุกอย่างไว้ในชั้น 4-5 ครับ และชั้น 36 จะเป็น Sky Pavilion หลายคนบอกว่าเสียดายน่าจะอยู่ Rooftop แต่อย่าลืมครับคอนโดระดับนี้ถ้าเอา facility ไปอยู่ Rooftop ห้อง Penthouse ใต้ Rooftop จะขายยากมากครับ CCI15102558_0002 Purchasing Options สามารถเลือกได้ว่าจะซื้อแบบ Fully Fitted หรือว่าจะเป็นแบบ Fully Furnished ซึ่งออกแบบและตกแต่งโดยนักออกแบบตกแต่งภายในชื่อดังของโลก จอยซ์ แวง ซึ่งมีผลงานออกแบบตกแต่งภายในโครงการดังๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม แมนดาริน โอเรียนเต็ล แลนด์มาร์ก ในฮ่องกง แมนดาริน โอเรียนเต็ล ลอนดอน ซินเทียนตี้ เพนท์เฮาส์ และสำนักงานใหญ่เคเอชเอช CCI15102558_0003 Services By Mandarin Oriental, Bangkok นี่คือสิ่งที่ทำให้คอนโดมีราคาแพงเยี่ยงนี้ครับ Services จะแบ่งเป็นสองส่วนคือ at residences และ at hotel ครับ รายละเอียดยังมีน้อยมาก คาดว่ากำลังอยู่ระหว่าง develop…แต่ตอนที่คุณริชาร์ด เบเกอร์ รองประธานกรรมการบริหาร และผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติงานภูมิภาคเอเชีย แมนดาริน โอเรียนเต็ล โฮเต็ล กรุ๊ป พูดในงานแถลงข่าวผมได้ยินว่าจะมี Leasing Service Program by Mandarin Oriental ด้วยครับ จะเป็น Time Sharing Strategy หรือเปล่า ต้องคอยดูกันครับ CCI15102558_0005 มาดูรูปภาพกันบ้างครับ เริ่มจากภายนอก ความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ • ทำเลที่ตั้งที่สวยงามมีมนต์เสน่ห์ – เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนที่ดินผืนงามริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในโครงการไอคอนสยามเนื้อที่ 50 ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการที่พักอาศัยระดับหรูขนาดความสูง 70 ชั้นอีกหนึ่งโครงการ คือ โครงการแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ และเป็นที่ตั้งของอาณาจักร 2 ศูนย์การค้าแห่งยุคที่สุดของความอลังการล้ำเลิศ ที่หรูหราที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง รวมทั้งสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวแห่งใหม่ทั้ง 7 ที่จะเป็นปรากฏการณ์ใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย รวมทั้งทางเดินริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ • การผสมผสานที่ยอดเยี่ยมและลงตัว – ชื่อเสียงระดับตำนานของแบรนด์แมนดาริน โอเรียนเต็ล ผสมผสานกับความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ และมนต์เสน่ห์ของกลิ่นไอความเป็นไทย รวมเข้ากับการออกแบบและก่อสร้างที่ได้มาตรฐานระดับโลก และความพิถีพิถันและใส่ใจแม้แต่ในรายละเอียดที่เล็กที่สุด ICONSIAM - MO - Exterior - 01 ICONSIAM - MO - Exterior - 02 ICONSIAM - MO - Exterior - 03 ภายในล้อบบี้ และส่วนกลาง ICONSIAM - MO - Facilities - 01 ICONSIAM - MO - Facilities - 02 ICONSIAM - MO - Facilities - 03 ICONSIAM - MO - Facilities - 04 ICONSIAM - MO - Facilities - 05 ICONSIAM - MO - Facilities - 06 ICONSIAM - MO - Facilities - 07 ICONSIAM - MO - Facilities - 08 ICONSIAM - MO - Facilities - Skylounge เงินลงทุนต่อพื้นที่ขายหนึ่งตรม.ที่มากกว่าโครงการอื่น • เพิ่มเงินลงทุนรวมของโครงการเป็น 9,000 ล้านบาท – เงินลงทุนต่อพื้นที่ขายหนึ่งตารางเมตร เป็นจำนวนเงินมากกว่า 30% ของจำนวนเงินที่โครงการที่พักอาศัยที่ดีที่สุดโครงการอื่นๆ โดยทั่วไปในกรุงเทพฯ ใช้กัน • แต่ละยูนิต มีทางเข้าลิฟต์โดยสารที่เป็นส่วนตัว มีเพดานห้องที่สูงถึง 3.20 เมตรและมีพื้นที่ส่วนกลางต่อยูนิตที่ใหญ่กว่าคอนโดมิเนียมเกรดเอส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ ประมาณสามเท่า • ราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 350,000 บาทต่อตารางเมตร และ ห้องเพนท์เฮาส์ เริ่มต้นที่ประมาณ 550,000 ล้านบาทต่อตารางเมตร • ขนาดห้องตั้งแต่ประมาณ 130 – 230 ตารางเมตรต่อยูนิต และห้องเพนท์เฮาส์ และดูเพล็กซ์เพนท์เฮาส์ ขนาดตั้งแต่ 380 – 710 ตารางเมตร ห้องขนาด 2 ห้องนอน The Residences at Mandarin Oriental - Bedroom - 01 The Residences at Mandarin Oriental - Bedroom - 02 The Residences at Mandarin Oriental - Living room - 01 The Residences at Mandarin Oriental - Living room - 02 The Residences at Mandarin Oriental - Master bathroom The Residences at Mandarin Oriental - Master bedroom The Residences at Mandarin Oriental - Powder room ห้องขนาด 3 ห้องนอน ICONSIAM - MO - Two Bedrooms - Dining ICONSIAM - MO - Two Bedrooms - Lift Hall ICONSIAM - MO - Two Bedrooms - Living - 01 ICONSIAM - MO - Two Bedrooms - Living - 02 ICONSIAM - MO - Two Bedrooms - Master bath ICONSIAM - MO - Two Bedrooms - Master Bedroom ห้อง Penthouse Duplex ICONSIAM - MO - Penthouse - Living ICONSIAM - MO - Penthouse - Master Bath - 02 ICONSIAM - MO - Penthouse - Masterbedroom ICONSIAM - MO - Penthouse - Dining - 01 ICONSIAM - MO - Penthouse - Dining - 02 ICONSIAM - MO - Penthouse - Family room ICONSIAM - MO - Penthouse - Master Bath - 01