The Tree Pattanakarn – Ekkamai คอนโดแห่งความสุขที่ให้คุณได้มากกว่าใครในย่านพัฒนาการ – เอกมัย

คอนโดสมัยนี้มีแต่แพงๆ ใครจะไปซื้อไหว! ที่พัฒนาการตอนต้นมีคำตอบ

ในช่วง 3-4 ปีให้หลังนี้มีคนบ่นเรื่องคอนโดราคาแพง จริงๆ แล้วหลายคนก็ยังอยากได้คอนโดแต่ก็สู้ราคาไม่ไหว ห้องเล็กๆ แต่ราคากระโดดไป 5-6 ล้านบาทเข้าไปแล้ว เงินเดือนก็ไม่ขึ้นแล้ว เศรษฐกิจก็ใช่ว่าจะดี แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาผ่อนได้ ท้ายสุดก็ต้องเช่าเขาไปอย่างเดียว ถือว่าเป็นแรงกดดันของชีวิตสำหรับชาวกรุงที่ต้องมารับกรรมจากการขึ้นราคาของที่ดินใจกลางเมือง

และยิ่งยุคสมัยนี้ปี 2019 แล้วจะหาคอนโด High-Rise ติดถนนใหญ่ที่มีราคาต่ำกว่าตารางเมตรละแสนบาทได้จากที่ไหนได้อีก หาลำบากมากๆ เพราะความนิยมของคอนโดมิเนียมยังคงมีสูงต่อเนื่อง ทั้งจากคนไทยด้วยกันเอง รวมไปถึงนักลงทุนชาวต่างชาติที่มาช่วยดันราคาให้ไปไกลถึงดวงจันทร์อีก แต่ไม่น่าเชื่อว่าทำเลอย่างพัฒนาการตอนต้น หรือแถวๆ แยกคลองตันที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเพชรบุรี – สุขุมวิท 71 – เอกมัย – พัฒนาการ – รามคำแหง จะเป็นย่านที่มี Supply คอนโดในระดับราคาที่หาซื้อได้ง่าย Affordable condo นี้ค่อนข้างเยอะ ซึ่งก็แน่นอนว่าขายดีสวนกระแสตลาดมากๆ ด้วย ก็เพราะมันมีดีมานด์ในระดับราคานี้น่ะสิ

พัฒนาการตอนต้นคือย่านน่าแปลกใจว่าทำไมถึงน่าอยู่

จะว่าไปแล้วย่านพัฒนาการตอนต้นนี้ก็มี Mass Transit ที่สำคัญเพียงแค่ Airport Rail Link สถานีรามคำแหงและรถไฟเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันปี 2019 Airport Rail Link ก็มีขบวนรถน้อยคันเหลือเกินจนทำให้ช่วงเช้าๆ เวลาเร่งด่วนกว่าคนจะได้ขึ้นก็ลำบาก บางครั้งต้องนั่งย้อนไปทางสุวรรณภูมิและนั่งย้อนกลับมาถึงจะได้ขึ้นไปทางมักกะสัน พญาไทได้ เป็นปัญหาด้านการจัดการขนส่งสาธารณะที่รัฐอย่างหน่วยงานรฟท. ก็เหมือนจะพยายามแก้ไขอยู่แต่ก็ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร

แม้ทำเลพัฒนาการตอนต้นจะไม่ได้เป็นรถไฟฟ้าสายหลักอย่างสายสีเขียวหรือสายสีน้ำเงินแต่อย่างใดและยังคงมีความลุ่มๆ ดอนๆ ของงานบริการ Airport Rail Link อยู่ แต่ความดีงามอีกอย่างที่น่าสนใจคือพัฒนาการตอนต้นนั้นอยู่ใกล้จุดยุทธศาสตร์แห่งไลฟ์สไตล์ยอดนิยมอย่างเอกมัยและทองหล่อ เดินทางไปสุขุมวิทได้ง่าย ไปพระรามเก้าก็ดี ชิลล์ๆ ที่รามคำแหงก็สะดวก แถมยังใกล้ทางด่วนอีกด้วย เรียกได้ว่ามีครบทุกอย่าง ทั้งรถไฟฟ้า ทางรถยนต์ รถไฟ อ้อ! และมีทางเรือด้วยนะ เป็นเรือโดยสารคลองแสนแสบ ท่าเรืออยู่ที่ด้านล่างสถานีรามคำแหง

เมื่อพูดถึงการใช้ชีวิตอยู่ในย่านพัฒนาการตอนต้น ปัจจุบันปี 2019 อาจจะยังดูไม่ค่อยมีอะไรมากนะ ดูแห้งแล้งไปหน่อย แต่อย่างน้อยถ้ามีคาเฟ่แบรนด์ดัง มีร้านสะดวกซื้อที่สถานีรามคำแหง บวกกับตลาดแถวคลองตันก็ยังมีอยู่ สามารถเดินไปได้ง่ายๆของกินได้สะดวก รวมไปถึงของกินที่อยู่ในเส้นพัฒนาการทั้งหมด แต่สำหรับไลฟ์สไตล์สำหรับคนคอนโดแบบรุ่นใหม่ก็ไม่ต้องห่วงเพราะอนาคตจะมีห้าง The Mall รามคำแหง ที่กำลังก่อสร้างในบริเวณช่วงต้นๆ รามคำแหงซึ่งขับรถไปแป๊บเดียวก็ถึงมาทำให้ชีวิตของคนย่านพัฒนาการตอนต้นสะดวกสบายมากขึ้นอีก

ทำเลย่านพัฒนาการตอนต้นนี้ถ้าให้เป็นคนก็คงกำลังอยู่ในช่วงใกล้จะวัยรุ่นเป็นวัยที่กำลังจะเติบโตและมีอนาคตที่ดี ดังนั้นตอนนี้ราคาจะยังไม่แพง ควรที่มาจับจองมาอยู่ก่อนที่จะแพงไปมากกว่านี้ ให้ลองนึกภาพในสมัยย่านอ่อนนุชในอดีตที่ยังราคาน่ารักอยู่ มาดูปัจจุบันคนก็ฮิตมาอยู่กันมากมาย พัฒนาการตอนต้นก็จะดำเนินรอยตามอ่อนนุชไปในที่สุด เพราะมันมีพื้นฐานหลายๆ อย่างที่คล้ายกันครับ

ความสำคัญของทำเลพัฒนาการตอนต้นนี้ จุดเด่นอยู่ที่ความเป็น Node of Transportation มีทางเลือกการเดินทางที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งทางเรือและรถไฟ รวมถึงรถไฟฟ้า และเป็นทำเลที่เรียกว่า “ในเมือง” ที่ยังสามารถหาคอนโดมิเนียมราคาไม่แพงได้จริง ถ้าเทียบกับย่านมักกะสัน พญาไทที่ราคาไปไกลนานแล้ว นอกจากนี้ย่านพัฒนาการตอนต้นยังเหมาะกับคนที่ทำงานย่านสุวรรณภูมิ หรือคนต่างชาติที่ต้องการอยู่อาศัยในทำเลรองเพื่อประหยัดเงิน

การมองเห็นว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ของย่านพัฒนาการตอนต้นนี้ ทำให้พฤกษาฯ ซึ่งเป็น developer ที่มียอดขายอันดับต้นๆ เข้ามาปักหลักช่วงชิงความเป็นหนึ่งในย่านก่อนใคร โดยพฤกษานับว่าเป็นเจ้าตลาดในย่านนี้ โดยส่งมาแล้วทุกแบรนด์ ทั้งแต่ Fuse, Plum, The Privacy, The Tree จนล่าสุดก็มี The Tree Pattanakarn – Ekkamai ซึ่งเป็นแบรนด์ The Tree โครงการที่สองเนื่องจากความสำเร็จของโครงการแรกที่เยื้องๆ กันนั่นเอง อนาคตไม่รู้จะมาอีกหรือไม่ สงสัยจะต้องยกมาทุกทีมทั้งบริษัทกันแล้วมั้งเนี่ย!

Location และสภาพแวดล้อมในปัจจุบันของ The Tree Pattanakarn – Ekkamai

The Tree Pattanakarn – Ekkamai (เดอะทรี พัฒนาการ – เอกมัย) ตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการ คลิกดูแผนที่ Google Maps ที่นี่

https://goo.gl/maps/KVXKGTyCN6EXBYRcA  เป็นทำเลที่สะดวกสบาย ขับรถแบบรถไม่ติดเพียง 5-6 นาทีก็ถึงเอกมัยและทองหล่อ เดินเท้าเพียง 300 เมตรก็ถึงสถานี Airport Rail Link รามคำแหงและท่าเรือ และเพียง 250 เมตรก็ถึงทางขึ้นทางด่วนฉลองรัชแล้ว อะไรจะใกล้ทุกสิ่งทุกอย่างขนาดนี้

ภาพสถานที่ตั้งสำนักงานขาย เป็นจุดเดียวกับที่ตั้งของโครงการจริง ตั้งอยู่ที่ถนนพัฒนาการช่วงต้น ด้านหน้าโครงการมีถนนและสะพานข้ามแยกมีทางเท้าเดินได้อย่างปลอดภัย ตรงข้ามกับโครงการ The Tree Pattanakarn – Ekkamai มีร้านสะดวกซื้อ 7-eleven  เราสามารถเดินข้ามถนนแล้วไปหยุดที่เกาะกลางถนนใต้สะพานไปเดินไปซื้อของได้อย่างสะดวก ประสบการณ์ข้ามถนนไม่อันตรายมีความปลอดภัยสูง เพราะอยู่ใกล้สี่แยก คนเดินเท้าสามารถรอให้ไฟแดงมาช่วยหยุดรถก่อนแล้วค่อยข้ามถนนก็ได้

สถานที่สำคัญแล้วก็โครงการมีตึกยูเอ็มทาวเวอร์ซึ่งเป็นสำนักงานมีออฟฟิศหลายบริษัทตั้งอยู่ในนั้น นอกจากนี้ข้างๆกันก็มีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

ทำเลย่านพัฒนาการตอนต้นอยู่ใกล้กับแยกคลองตัน ซึ่งเป็นสี่แยกสำคัญ สามารถไปสุขุมวิท พระโขนง ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เอกมัย ทองหล่อ ไปพัฒนาการ และไปรามคำแหงได้ ถือว่าเป็นทำเลที่สะดวกสบายเข้าออกได้จากหลายเส้นทาง

เดินทางไปอีกนิดหน่อยเฉพาะกับสกายวอล์คหน้าโรงแรมนาซ่า สามารถเดินเชื่อมไปยังสถานีรถไฟฟ้ารามคำแหงได้ ติดกับสถานีรถไฟฟ้า มีห้างชื่อว่า The Curve Station ข้างในมี Starbucks Coffee ร้าน 7-eleven ร้านแซนวิช Subway ร้านรับส่งพัสดุ Kerry ตลาดขายของและร้านอาหารตามสั่งในช่วงกลางวัน ถ้าเดินไปด้านหลังจะพบกับท่าเรือคลองแสนแสบ

ย่านพัฒนาการตอนต้น-แยกคลองตัน คือ High-rise Condominium Hub ที่ต้องจับตามอง

แยกคลองตันที่อยู่ใกล้ๆกับยางพัฒนาการตอนต้นมีคอนโดมิเนียมซึ่งพัฒนาโดยบริษัทพฤกษาอยู่หลายโครงการ ได้แก่ The Tree สุขุมวิท  71 – เอกมัย, Plum รามคำแหง, The Privacy Rama9 และ Fuse Mobius ทำให้ย่านนี้เป็นย่านที่อุดมไปด้วยคอนโดมิเนียมโครงการใหญ่ๆ ก็ถือว่ามีศักยภาพที่ดีในอนาคต เพราะเมื่อโครงการใหญ่ก็จะมีคนมาอยู่เยอะ เมื่อคนอยู่เยอะก็จะมีชุมชนและเกิดเศรษฐกิจรอบข้างมากขึ้น

ทีมพฤกษาที่ทำโครงการ The Tree Pattanakarn – Ekkamai แห่งนี้ เคยมีผลงานสร้างภายใต้แบรนด์ The Tree มาหลายไซต์แล้ว เช่น  The Tree Sukhumvit 71 – Ekkamai71 The Tree ดินแดง – ราชปรารภ , The Tree Ladprao 15

จากการศึกษาตลาดจะพบว่าที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมในย่านนี้มักจะเน้นในเรื่องของราคาเป็นหลักเพื่อที่จะสามารถแข่งขันกับคอนโดในช่วงเพชรบุรี-ทองหล่อได้ โดยพื้นที่ส่วนกลางที่มีก็ให้ตามมาตรฐาน มีสไตล์การออกแบบคอนโดมิเนียมแบบ Main class ทั่วไปและให้วัสดุภายในห้องแบบมาตรฐาน เช่น The Leaf, U Delight Residence ซึ่งเป็นของ developer รายอื่น ส่วนทางบริษัทพฤกษาก็มีการพัฒนาสินค้าในย่านนี้ให้ยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเราจะเห็นพัฒนาการของแนวคิดตั้งแต่ Fuse Mobius ที่เน้นความใหญ่ของพื้นที่โครงการและให้ประสบการณ์พื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็มขนาดใหญ่สไตล์ public green space ต่อมาคือ Plum รามคำแหงที่เน้นความ practical ของ facility สระว่ายน้ำให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และเวลาว่างของลูกค้าโดยไปเน้นความใหญ่ที่ห้อง Co-Working space ที่กลุ่มลูกค้าน่าจะได้ใช้งานจริงมากกว่า เน้นกลุ่มที่ต้องการ function เป็นหลัก ต่อมาคือ The Tree Sukhumvit 71-Ekkamai ที่เปิดตัวด้วยราคากระแทกใจและคอนเซปต์การออกแบบ Rooftop facility ที่ทุกคนต้องร้องว้าว เน้นกลุ่ม emotion ตัดสินใจด้วยอารมณ์เป็นหลัก และตามมาด้วย The Privacy Rama 9 ในสมัยที่คำว่าพระรามเก้ากำลังอินเทรนด์ เป็นโครงการที่คล้าย Plum รามคำแหงแต่มีการอัพเกรดมากขึ้นในด้านการตกแต่งภายในและอารมณ์ความรู้สึก และล่าสุดคือ The Tree Pattanakarn – Ekkamai ใหม่ล่าสุดก็จะชนะทุกโครงการที่ผ่านมาด้วย Facility Rooftop ที่ดูแฟนซีน่าทึ่งมากกว่าเดิม บวกกับ spec ภายในห้องและการสร้าง emotional benefit ที่เหนือกว่า เรียกได้ว่าจะเป็นโครงการที่หรูหรายืนหนึ่งมากที่สุดในปัจจุบัน แต่ราคาขายกลับไปไม่ทำออกมาสูงตามกระแสตลาดคอนโดกลางเมือง และแน่นอนว่าค่าเช่าที่คาดหวังได้ก็จะสามารถตั้งราคาสูงกว่าโครงการอื่นๆ ได้เช่นกันด้วยคุณลักษณะต่างๆ ที่จะบอกในบทความนี้

ทำไม The Tree Pattanakarn – Ekkamai ถึงมีคนบอกว่าเป็นคอนโดที่ดีงาม

ดีงามด้วยความสูง

The Tree Pattanakarn – Ekkamai  เป็นคอนโดมิเนียมแบบ High-rise  สูงมากถึง 29 ชั้น แต่ละชั้นก็ความสูงไม่ธรรมดาเพราะระยะจากพื้นถึงเพดานสูงถึง 2.8 เมตรชนะเหนือกว่าคู่แข่งทุกรายในย่าน ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดใหญ่ประมาณ 2 ไร่ 2 งาน 73.4 ตารางวา มีจำนวนยูนิตพักอาศัย 697 ยูนิต ยูนิตพาณิชย์ 2 ยูนิตคาดว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อแบรนด์ดัง รวมเป็นทั้งหมด 699 ยูนิต ซึ่งเป็นจำนวนที่เหมาะสมไม่มากไม่น้อยเกินไป เป็นจำนวนที่สามารถช่วยกันจ่ายค่าส่วนกลางได้อย่างไม่มีปัญหา ที่จอดรถมีให้ประมาณ 36%

ดีงามด้วย Facility แบบหรูหราเว่อร์วังในสไตล์คอนโดมิเนียม Luxury ในย่านแบรนด์เนม

The Tree Pattanakarn – Ekkamai โดดเด่นเหนือกว่าใครในย่านนี้ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีมากมายสไตล์ Triple Facilities นับตั้งแต่ชั้นล่างถึงชั้นบนสุด โดยเก็บค่าส่วนกลางแค่ 45 บาท/ตร.ม./เดือน และค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว)

ชั้น 1 มี Lobby Hive โถงต้อนรับ, Hive Mailbox ตู้จดหมาย, Luminous Active Garden สวนออกกำลังกาย, Luminous Bike จักรยานออกกำลังกายกลางแจ้ง , Crystal Wall แผงปีนผาจำลอง

ชั้น 5 มี Leafy Garden สวนพักผ่อน , Yoga Greenery ลานโยคะ, Morning Dew Spring ลานน้ำพุผุด

ชั้น 29 มี Sky Nest, Sky Co-Working Nest ห้องทำงาน, Playing Nest ห้องเกม, Recreation Nest ห้องดูทีวี, Sky Lounge, Sky Fitness, Sky Crystal Passage สะพานกระจก, Aqua Theatre ดูหนังในสระจากุชชี่, 360 Horizon Pool สระว่ายน้ำแบบว่ายเป็นวงกลมได้, Bird’s Eye View Aqua Pool สระกระจกยื่นออกจากขอบสระ

ชั้นดาดฟ้า มี Sky Nest Garden สวนพักผ่อนและลู่เดินออกกำลังกาย

ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง มีกล้องวงจรปิด พร้อมระบบ Key Card  มีระบบผ่านเข้าออกโครงการ ระบบผ่านประตู access control ระบบนับจำนวนรถเข้าออก แต่ละยูนิตได้สิทธิ์จอดรถแบบไม่ระบุตำแหน่ง 1 คันสำหรับห้อง 1Bed จะได้สิทธิ์จอดรถ 2 คัน สำหรับ 2Bed

เอาใจคน Digital Generation ด้วยบริการอินเตอร์เน็ต WiFi ที่ Lobby Hive, Sky Fitness, Sky Co-working Nest, Playing Nest, Recreation Nest โดยทางโครงการจะจัดเตรียมอุปกรณ์ WiFi ไว้ให้ส่วนค่าบริการรายเดือนจะดำเนินการโดยนิติบุคคลอาคารชุด

Luminous Active Garden สวนออกกำลังกาย, Luminous Bike จักรยานออกกำลังกายกลางแจ้ง

Sky Co-Working Nest ห้องทำงาน

Sky Fitness มีจุดเด่นเป็นหลังคาทรงรังนก

Lobby Hive

Sky Lounge

Leafy Garden สวนพักผ่อน , Yoga Greenery ลานโยคะ, Morning Dew Spring ลานน้ำพุ

Entrance ทางเข้า

Sky Nest, Sky Fitness, 360 Horizon Pool สระว่ายน้ำแบบว่ายเป็นวงกลมได้, Bird’s Eye View Aqua Pool สระกระจกยื่นออกจากขอบสระ

Sky Crystal Passage สะพานกระจก ด้านบนเพดานทำเป็นจอภาพขนาดใหญ่ไว้ดูหนังหรือกีฬาได้

ดีงามเพราะจุดเด่นที่เหนือระดับกว่าในราคาที่ดี

The Tree Pattanakarn – Ekkamai เป็นโครงการที่พัฒนาโดยบริษัทพฤกษา ซึ่งเป็น developer เจ้าตลาดอสังหาฯ ประเทศไทย ออกแบบเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายวาไรตี้มากที่สุด นับตั้งแต่ห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom ที่แต่ละแบบมีฟังก์ชั่นแปลกใหม่ กระจกเฉียง ระเบียงยื่น กระจกโค้ง ระเบียงสวน ภายในห้องพักอาศัยเพดานสูงกว่ามาตรฐานทั่วไปอยู่ที่ 2.8 เมตร บางห้องก็สูงพิเศษเพดานสูงถึง 4.55 เมตร โครงการนี้เต็มไปด้วยพื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้าครบทุกฟังชั่นล้ำเลิศที่สุดในย่านพัฒนาการ อลังการด้วย Spec พื้นที่ส่วนกลางที่เหนือระดับกว่าและได้วัสดุภายในห้องพักอาศัยอยู่ในระดับที่ค่อนข้างดีถือว่าคุ้มค่ากว่าโครงการในละแวกเดียวกัน เลือกใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกที่ดี ใช้งานดีและสวย ได้รับ emotional benefit ไปเต็มๆ ขายแบบ Fully fitted มีชุดครัว ห้องน้ำครบเซ็ทและแถมฟรีตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ให้ มีห้องแบบ 2 Bedroom กระจกโค้งเข้ามุมที่แทบเรียกว่าหาไม่ได้ในคอนโดระดับ segment ราคานี้ ทำให้สร้างความโดดเด่นจากภายนอกอาคารและภายในห้องจนทำให้ทุกคนต้องร้องว้าว ทำเลอยู่ใกล้รถไฟฟ้า Airport rail Link รามคำแหงเพียง 300 เมตรและใกล้ทางด่วนฉลองรัชเพียง 250 เมตรเท่านั้น อยู่ในย่านที่เชื่อมต่อกับย่านสำคัญอย่างเอกมัยทองหล่อพระราม 9 เพชรบุรี RCA  ประหลาดใจเพราะขายในราคาไม่แพงเริ่มต้นไม่ถึงตารางเมตรละแสนบาทซึ่งเป็นระดับราคาที่ขายดีมากสำหรับคอนโดในเมืองเพราะมีกลุ่มลูกค้าแบบนี้จำนวนมาก นอกจากนี้ยังเป็นทำเลที่มี demand ผู้คนเดินทางไปทำงานในชั้นใน อย่างย่านพญาไท มักกะสัน อโศกด้วยรถไฟฟ้า Airport rail Link จึงเหมาะกับทั้งผู้ที่ซื้ออยู่อาศัยเองและกลุ่มนักลงทุนซื้อปล่อยเช่าทำราคาค่าเช่าได้ดีทั้งจากคนไทยและคนต่างชาติ

เจาะลึก Plan โครงการ เลือกห้องแบบไหนมุมไหนดี

Master Plan

ตัวอย่าง Floor Plan บางชั้น

ชั้น 7 และ 12A สังเกตที่ระเบียงและห้องฝั่งทิศเหนือมีความเฉียง

ชั้น 16 ห้องฝั่งทิศเหนือจะไม่เฉียง

ชั้น 29 นอกจากจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำ และฟิตเนสแล้วยังมียูนิตพักอาศัย แบบ เพดานสูงด้วยเช่นกัน

Unit Plan

โครงการมีห้องทั้งหมด 3 Types คือ

1 Bedroom 23.15 – 30.95 ตร.ม.

1 Bedroom 31-40.6 ตร.ม.

2 Bedroom 55.85 – 56.55 ตร.ม.

สำหรับ Type ที่มีการเปิดเผยแปลนออกมามีดังนี้ครับ **รูปแบบแปลนและขนาดห้องอาจมีการเปลี่ยนแปลง สอบถามได้จากพนักงานขายครับ

1 Bedroom 25.85 ตร.ม. ห้องระเบียงและมีพื้นที่ภายในห้องแบบเฉียง ทำให้ห้องเกิดพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ได้วิวที่ดีมากขึ้นตามไปด้วย เพราะเป็นจะได้วิวเมืองที่สวยกว่าวิวสายไฟฟ้าแรงสูง

1 Bedroom 25.85 ตร.ม. เป็นห้องคล้าย Studio แบบยอดนิยม ที่มีครัวแบ่งโซนชัดเจน โดดเด่นด้วยระเบียงที่ยินดูวิวได้กว้างไกลมากขึ้น

1 Bedroom 29.55 ตร.ม. เป็นห้องที่อยู่อาศัยได้ลงตัว ห้องนั่งเล่นใหญ่ ครัวแยกพร้อมพื้นที่โต๊ะกินข้าว ห้องนอนมีประตูกั้นเป็นสัดส่วน

2 Bedroom 56.15 ตร.ม. และ 55.85 ตรม. เหมาะกับการอยู่อาศัยกันหลายๆ คน ทุกห้องตอบโจทย์ได้อย่างดี ห้องนั่งเล่น+ครัวที่กว้างขวางอยู่สบายเหมือนบ้าน มีห้องน้ำให้ถึง 2 ห้อง จุดเด่นของ type นี้อยู่ที่กระจกโค้งห้องมุมที่เทียบได้กับคอนโดมิเนียมระดับ Luxury เลยทีเดียว คาดว่ายูนิตแบบนี้จะขายดีครับ มีให้เลือกถึง 2 มุมใน 1 ชั้นแล้วแต่ว่าใครชอบด้านไหนครับ ทั้งสองแบบจะได้วิวไปทางถนนเพชรบุรีช่วงเอกมัย และสุขุมวิท 71 แต่ถ้าแบบ 2-11 ในชั้นล่างๆจะได้เห็นวิวบริเวณสวนส่วนกลางชั้น 5 ด้วยเช่นกัน

สำนักงานขาย

ตกแต่งโดยถอดแบบมาจาก facility จริงที่ลูกค้าจะได้สัมผัส

ให้ความรู้สึกหรูหรา ใช้เฟอร์นิเจอร์มีสีสันเพื่อสร้างอารมณ์ให้กับการพักอาศัย

วัสดุตกแต่งแวววาว กระเบื้องลายหินอ่อนสื่อถึงความหรูหรา

Model

โมเดลของ The Tree Pattanakarn – Ekkamai ทำได้ละเอียดดีครับ ลองมายืนดูกันได้

ด้านหลัง ทิศเหนือ

ทิศตะวันตก

ทิศใต้ มีทางเข้าโครงการ

ทิศตะวันออก

ถนนและสวนรอบโครงการ

สวนที่ชั้น 5

สวนและลานออกกำลังกายที่ชั้น 1

จะสังเกตว่ามีบางยูนิตที่ได้ระเบียงสวนที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางด้วย

ลองมายืนดูรายละเอียดของโมเดลครับ เพลินดี แต่ละชั้นมียูนิตที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน บางห้องมีห้องหน้าต่างเฉียงมุม ห้องหน้าตาตรง ห้องระเบียงเฉียง ระเบียงตรง กระจกโค้ง หลากหลายมาก ทำให้แต่ละห้องแม้จะ space คล้ายกัน แต่ก็ไม่เหมือนกัน ข้อนี้ทำให้มีผลดีในการตั้งราคาเช่าหรือขายได้ด้วยครับ

ห้องมุมกระจกโค้ง

สังเกตได้ว่าชั้นบนๆ จะเป็นห้องเพดานสูงพิเศษ

ป้ายชื่อโครงการติดไว้บนอาคาร ดูโดดเด่นและตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ The Tree

ถนนพัฒนาการ

ป้ายทางเข้าหน้าโครงการ มีเส้นสายที่สวยงาม ต้อนรับลูกบ้านทุกคน

จุด Drop-off รับส่งแบบถ้าฝนตกก็ตัวไม่เปียก

สวนบนชั้น 5 ห้องพักที่ชั้นเตี้ยๆ ก็จะได้วิวดีๆ แบบนี้

มีพื้นที่นั่งพักผ่อนกลางแจ้ง

สวนเดินเล่น วิ่งจ๊อกกิ้ง และจักรยานอยู่กับที่ปั่นออกกำลังกาย

สวนนี้อยู่ที่ชั้น 1 ครับ

ภาพ facility บนยอดตึก

Sky Nest

มีห้องทำงาน

ชั้นดาดฟ้ามีมีสวนเดินเล่น ลานออกกำลังกาย

สระว่ายน้ำ เป็นสระที่สามารถว่ายได้รอบห้องฟิตเนสที่อยู่ตรงกลาง sky nest

มีสระว่ายน้ำที่ยื่นออกออกมา สร้างประสบการณ์ใหม่

นั่งแช่จากุชชี่ไป ดูทีวีบนเพดานไป เป็นอะไรที่ว้าว

ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาด 25.85 ตร.ม. โดยประมาณ

เปิดประตูเข้าไปพบกับห้องครัวและห้องน้ำ ห้องครัวมีกระจกบานเลื่อนกั้น จากนั้นเข้าสู่โซนห้องนอนที่มีหน้าต่างเฉียงทำให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น จัดเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะแต่งหน้าก็ได้ ส่วนระเบียงก็มีความเฉียงเช่นกัน ทำให้เกิดวิวและมุมมองใหม่ๆ ระเบียงเป็นระเบียงมุม ที่สามารถรับลมชมวิวได้กว้างไกลขึ้น จะเห็นได้ว่าห้องรูปแบบนี้แม้จะมีขนาดกะทัดรัดแต่ก็ลงตัว และสามารถตอบสนองความต้องการทางด้านอารมณ์ได้เช่นกัน

ภาพประตูหน้าห้อง ประตูลายไม้สีโทนสว่างดูอบอุ่น แล้วหรูหราไปในตัว

และ Digital Door lock ที่ได้รับ เป็นของแบรนด์ Samsung ดูทันสมัย

เปิดประตูห้องเข้ามาพบกับชุดครัว มีพื้นที่วางตู้เย็น

ชุดครัวได้ตามที่เห็นเลย มีทั้งตู้บน ชั้นวางของ ตู้เก็บของชั้นล่าง พื้นที่วางไมโครเวฟ  เคาน์เตอร์ครัว ท็อปครัวทำจากหินเทียมผลิตภัณฑ์ใหม่จาก SCG ไม่มีรอยขีดข่วน ลองเอาส้อมถูทดสอบดูได้เลย

อ่างล้างจานพร้อมก๊อกน้ำ เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันแบบ ventilation ดูดควันออกไปด้านนอกอาคารเลย และมีกระเบื้องติดผนังให้ด้วยเพื่อความสวยงามและป้องกันผนังเปรอะ

ตู้ต่างๆสามารถเปิดออกได้แบบนี้

ใต้อ่างล้างจานมีถังขยะติดตั้งมาให้ด้วย

ประตูบานเลื่อนกระจกกั้นสามตอน ทางขวาคือประตูห้องน้ำ

เดินตรงไปเข้าสู่ห้องนอน

มีโซนนั่งเล่นติดกับเตียง เตียงไม่ได้ให้นะครับ

ตู้เสื้อผ้า แบบที่ได้ของจริงให้ตรวจสอบกับพนักงานขาย

มีแอร์ติดให้ 1 ตัว แอร์ Daikin ระบบอินเวอร์เตอร์

มุมมองห้องนอนจากหน้าต่าง

ด้วยความสูงจากพื้นถึงเพดานมากถึง 2.8 เมตร ทำให้แม้ห้องนี้จะกะทัดรัดแค่ 25.85 ตารางเมตรแต่กลับดูโล่งโปร่งสบาย ดังนั้นมูลค่าของห้องขนาด 25.85 ตารางเมตรของโครงการนี้ย่อมมีค่ามากกว่าโครงการอื่นที่เพดานเตี้ยกว่านี้ ดังนั้นเราไม่สามารถใช้ตารางเมตรมาเทียบกันได้ตรงๆ

ความสูงจากพื้นถึงเพดาน ห้องน้ำ 2.4 เมตร ห้องครัว 2.6 เมตร ห้องนอนและห้องนั่งเล่น 2.8 เมตร

ส่วนพื้นที่สำหรับนั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้

สาธิตการจัดวาง TV

น่าอยู่ไหมครับ

ริมหน้าต่างเฉียง สามารถจัดวางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ มีใครอยากดัดแปลงเป็นโต๊ะทำงานก็ได้

ส่วนของระเบียง สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ทั้งแบบฝาหน้าและฝาบน และมีพื้นที่สำหรับยืนชมวิวคล้ายกับมี Corner Unit

CDU แอร์แขวนไว้ด้านบน

หน้าต่างเป็นบานกระทุ้ง ปลอดภัยกว่า

กลับมาดูที่ห้องน้ำ ให้อุปกรณ์ต่างๆครบถ้วนตามรูปภาพ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นกระจกให้ มือจับเปิดประตูเป็นแบบที่แขวนผ้าเช็ดตัวได้ นอกจากนี้ภายในห้องอาบน้ำยังมีช่องว่างของได้ด้วย แล้วที่สำคัญมีก๊อกน้ำและ Rain shower ให้อีก ถือว่าสเปกสิ่งของที่ได้มีมูลค่าสูงกว่าโครงการรอบข้าง

สุขภัณฑ์เป็นแบรนด์ American Standard

ก๊อกน้ำอ่างล้างมือ

สายฉีดชำระ สุขภัณฑ์ นะที่แขวนกระดาษชำระ

มีพื้นที่สำหรับวางของแนวยาวเหนืออ่างล้างมือ ด้านล่างกระจกเงาก็มีที่วางของเช่นกัน นอกจากนี้ก็มีตู้เก็บของใต้อ่างล้างมือเอาไว้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดด้วย

สรุปจุดเด่นของห้อง One Bedroom 25.85 ตารางเมตร ความโดดเด่นอยู่ที่หน้าต่างเฉียง (แต่บางห้องก็เป็นหน้าต่างตรงนะครับ) ช่วยทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ได้รับวิวที่สวยงาม ระเบียงเหมือนได้ corner unit ตัวปิดแยกส่วนพร้อมระบบระบายอากาศ ห้องน้ำที่สวยงามและได้สเปคที่เทียบเท่ากับคอนโดระดับ luxury

ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom ขนาด 29.55 ตารางเมตร

เป็นห้องที่เรียกว่าลงตัวในการอยู่อาศัย เปิดเข้ามาเจอกับโซนห้องนอนห้องนั่งเล่นทางซ้ายเป็นห้องน้ำ และเป็นห้องน้ำที่ไม่ได้อยู่ในห้องนอน ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นและยังสะดวกในการใช้งานเมื่อมีแขกมาเยี่ยมอีกด้วย ส่วนโซนห้องครัวก็มีขนาดที่กว้างสามารถวางโต๊ะกินข้าวได้ด้วย

เปิดประตูเข้ามาพบกับห้องนั่งเล่นที่กว้างขวาง เพดานสูง 2.8 เมตร

ประตูห้องน้ำ ประตูห้องนอน และประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนเข้าสู่ครัว

พื้นที่สำหรับวางทีวี

ปูพื้นด้วยไม้ลามิเนต

พื้นที่กว้างสามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้

ด้านข้างโซฟายังมีพื้นที่เหลือสามารถจัดเป็นโต๊ะทำงานได้ หรือใครอยากจะสร้างตู้บิลท์อินเก็บของก็ได้

มาดูห้องครัวที่ติดกับห้องนั่งเล่น ถือว่าเป็นครัวที่กว้างมีทั้งชุดครัวและชุดโต๊ะกินข้าวอยู่ในห้องเดียวกัน

เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ชุดครัวครบเซ็ต

บานตู้ต่างๆ สามารถเปิดออกเก็บของได้เยอะแยะมากมาย และมีลิ้นชักต่างๆ

สังเกตตรงเครื่องดูดควันตรงนี้จะมีปล่องท่อเพื่อระบายอากาศออกไปนอกอาคาร คอนโดไหนที่มีระบบ ventilation แบบนี้ถือว่าดี เพราะส่วนใหญ่คอนโดระดับ segment นี้จะให้อย่างมากสุดก็แค่เครื่องดูดควันระบบหมุนเวียนซึ่งไม่ค่อยตอบโจทย์ในการใช้งานจริงสักเท่าไหร่

ลิ้นชักชั้นนี้สำหรับวางพวกช้อนส้อมมีดต่างๆ

ลิ้นชัก

ตู้เก็บของใต้อ่างล้างจานมีถังขยะแถมให้

เตาไฟฟ้ามี 2 หัว

อ่างล้างจาน

มีพื้นที่สำหรับทำครัวมากเพียงพอ

ตรงข้ามกับชุดครัวมีพื้นที่ว่างสำหรับวางชุดโต๊ะกินข้าว

ติดกับห้องครัวเป็นระเบียง

ระเบียงปูพื้นกระเบื้องขนาด 30 * 30 เซนติเมตร มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้ทั้งแบบฝาหน้าและฝาบน พร้อมก๊อกน้ำและวางระบบท่อระบายน้ำสำหรับเครื่องซักผ้าเอาไว้ให้แล้ว

CDU แอร์แขวนไว้ข้างบน ไม่เกะกะ

ต่อไปแวะเข้ามาดูห้องน้ำที่เข้าจากห้องนอนกันดีกว่า มีอุปกรณ์ต่างๆทุกอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นส่วนห้องอาบน้ำที่มีฉากกั้นกระจกพร้อมมือจับบานเปิดประตูที่เป็นราวแขวนผ้าเช็ดตัวได้ด้วย มีพื้นที่สำหรับวางของเป็นเล็กน้อยต่างๆทั่วห้องน้ำทั้งในห้องอาบน้ำส่วนเปียกและส่วนแห้ง แล้วแถมตู้เก็บของใต้อ่างล้างมือให้ด้วย ถือว่าเป็นห้องน้ำที่ออกแบบตอบโจทย์พฤติกรรมผู้ใช้งานได้อย่างดี ขอชื่นชมทีมงานที่จัดทำครับ

ฝักบัวมีอยู่ 2 แบบ เป็นแบบมือจับและแบบ Rain shower ผนังฝั่งฝักบัวเลือกใช้กระเบื้องลายหินอ่อนสีเทาเข้มตัดกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมโทนสว่างทำให้เกิดความรู้สึกสองอารมณ์อยู่ในห้องน้ำห้องเดียวกัน เป็นการเลือกใช้วัสดุที่สวยงาม

ต่อไปเราเข้าไปดูบรรยากาศภายในห้องนอนกันบ้าง

ตำแหน่งวางตู้เสื้อผ้า

ตำแหน่งจุดติดตั้งแขวนทีวี ส่วนแอร์ติดอยู่เหนือประตูทางเข้า เป็นตำแหน่งที่ดีลมไม่พัดโดยตรงเข้าสู่ตัวคนนอน

หน้าต่างสูงเกือบเต็มเพดาน

แสงธรรมชาติส่องเข้าได้อย่างเต็มที่

มีพื้นที่เหลือสามารถจัดเป็นโต๊ะแต่งหน้า วางโต๊ะหัวเตียง

มีหน้าต่างบานกระทุ้งด้านข้างหัวเตียง

ความดีงามของห้อง 1 Bedroom 29.55 ตารางเมตร อยู่ที่การออกแบบสัดส่วนของห้องเน้นความเป็นส่วนตัว คำนึงถึงความถูกสุขลักษณะและการระบายอากาศที่ดีเพื่อความเป็นอยู่อาศัยอย่างมีความสุขไปพร้อมกับสุขภาพดี

ห้องตัวอย่าง 2 Bedroom 55.85 ตารางเมตร

เป็นรูปแบบห้องที่ใหญ่ที่สุดเหมาะกับคนที่อยู่กันเป็นครอบครัวมากกว่า 2 คน จุดเด่นอยู่ที่ห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างแล้วเชื่อมต่อห้องครัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่ครัวก็แยกเป็นสัดส่วนมีประตูบานเลื่อนกั้นพร้อมระบบระบายอากาศในตัว สะดวกสบายไม่ต้องแย่งกันใช้ห้องน้ำเพราะมีห้องน้ำให้มากถึง 2 ห้อง ในมีห้องนอน Master Bedroom จะได้รับประสบการณ์จากวิวกระจกโค้งห้องมุมซึ่งปกติแล้วจะได้อยู่อาศัยแนวนี้ในคอนโดระดับ luxury เท่านั้น ดังนั้นโครงการ The Tree Pattanakarn – Ekkamai นี่ถือว่าเป็นมิติใหม่สำหรับคอนโด segment ระดับ main class ที่ได้สเปคเทียบเคียงกับระดับ luxury แตกต่างกันแค่ทำเลที่ตั้งเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าใครที่อยากได้สเปค Luxury แต่จ่ายราคาถูกกว่า คุ้มกว่า และไม่ซีเรียสกับทำเลว่าจะต้องใกล้ระดับเดินได้เพราะขับรถยนต์หรือใช้ taxi อยู่แล้วก็มาเลือกที่นี่ เพราะจะได้รับความรู้สึกที่ดีมากกว่ามูลค่าเงินที่จ่ายไปนั่นเอง

เริ่มก้าวเข้ามาสู่ห้องแบบ 2 Bedroom พบกับโถงหน้าห้อง ด้านในเป็นส่วนนั่งเล่นและกินข้าว ทางขวาคือครัว

เพราะความสูงจากพื้นถึงเพดาน 2.8 เมตรทำให้ห้องนี้ดูกว้างมากขึ้นเป็นพิเศษ

วางโซฟา และชุดโต๊ะกินข้าว

มีโถงทางเดินเข้าไปสู่ห้องนอนต่างๆ

พื้นที่วางทีวีขนาดใหญ่

ชุดโต๊ะกินข้าว

สาธิตการวางทีวี

โถงทางเดินหน้าประตูทางเข้า

ประตูกระจกบานเลื่อนไปสู่ระเบียง

พื้นที่ระเบียงค่อนข้างยาวมากทีเดียว ราวกันตกเป็นเหล็กแนวตั้งวางเป็นซี่ๆ

CDU แอร์ถูกแขวนไว้ข้างบน  ส่วนที่พื้นมีจุดวางเครื่องซักผ้าฝาบนหรือฝาหน้าก็ได้ พร้อมก๊อกน้ำ ปลั๊กไฟ และท่อระบายน้ำ

ถ้ามองเข้าไปที่ประตูทางเข้าจะเห็นได้ว่าด้านข้างมีห้องครัวที่เพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานได้ 2 กรณี ถ้าวันไหนต้องการครัวปิดทำอาหารกลิ่นแรงก็แค่ปิดบานประตู แต่ถ้าวันไหนอยากจัดปาร์ตี้สนุกสนานก็แค่เปิดบานประตูออก ถือว่าเป็นการออกแบบที่รองรับกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้อย่างยืดหยุ่น เกิดความคุ้มค่าในการใช้งาน นั่นก็ทำให้ราคาขายและราคาเช่ามีมูลค่าสูงขึ้นด้วย

โซนครัว ให้ชุดเฟอร์นิเจอร์อย่างที่เห็นในภาพ ยกเว้นตู้เย็นกับไมโครเวฟกับขวดกระปุกน้ำพริกน้ำปลาที่ต้องซื้อเอง 🙂

เป็นครัวแบบเข้ามุมตัว L ทำให้มีพื้นที่วางสิ่งของมากขึ้น

ตู้ชั้นบนมีทั้งแบบบานปิดและไม่มีบานปิด

เปิดตู้ออกมา เห็นปล่องระบายอากาศ

ชั้นวางไมโครเวฟ

ลิ้นชัก

แถมถังขยะให้

เตาไฟฟ้า

อ่างล้างจาน

เครื่องดูดควัน

โถงทางเดินเพื่อไปสู่ห้องน้ำกลาง และห้องนอนต่างๆ

ห้องน้ำกลาง

โซนอาบน้ำ

อ่างล้างมือและตู้ของเขา

สุขภัณฑ์ระบบ Wash Down สายฉีดชำระและที่แขวนกระดาษชำระ

มีพื้นที่วางของกระจุกกระจิก

บรรยากาศภายในห้องนอนเล็ก

สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้

ตำแหน่งติดตั้งแอร์อยู่ที่เหนือประตูทางเข้าห้องนอน

จะมาติดทีวีที่ผนังก็ได้

ขนาดหน้าต่างอาจจะไม่ได้ใหญ่เต็มพื้นที่แต่ก็ทำให้มีพื้นที่ผนังเปล่าสามารถติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ Built in เพิ่มเติมได้

ตู้เสื้อผ้า Built in เต็มความสูงห้อง

ต่อไปเข้ามาดูห้องไฮไลท์ของ type นี้ นั่นคือห้องนอน Master Bedroom พบกับกระจกโค้ง สไตล์แบบห้องมุม

สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้และยังมีพื้นที่เหลือด้านข้างอีกด้วย

พื้นที่ด้านข้างสามารถจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งหรือส่วนทำงานก็ได้

ตำแหน่งติดตั้งแอร์แบบแขวนผนังอยู่ข้างๆประตูทางเข้าห้องนอน

สาธิตการจัดวาง TV ภายในห้องนอน ตู้เสื้อผ้าติดตำแหน่งแบบนี้

สัมผัสประสบการณ์กระจกโค้งได้ที่นี่ The Tree Pattanakarn – Ekkamai

หน้าต่างสามารถเปิดออกได้เป็นแบบบานกระทุ้งขนาดใหญ่

ห้องนอน master bedroom นี้จะมีห้องน้ำในตัว

อุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบถ้วน

ฝักบัวมีทั้งแบบมือจับและ Rain shower แต่ไม่มีช่องวางของ

จุดเด่นอยู่ที่ห้องน้ำมีหน้าต่างระบายอากาศ

หน้าต่างระบายอากาศ

อ่างล้างมือและตู้เก็บของ

สุขภัณฑ์

หน้าตาสวิตช์ไฟ

ข้อมูลเกี่ยวกับราคาและเงื่อนไข The Tree Pattanakarn – Ekkamai

The Tree Pattanakarn – Ekkamai มีราคาขายเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 95,000 บาท (สำรวจข้อมูลเมื่อ กันยายน 2562)

โดยจะมีราคาห้องพิเศษ Promotion ราคา 1.59 ล้านบาท ผ่อน 999 บาท*

รับเพิ่ม 0% 6 เดือน

ลงทะเบียนวันนี้ได้รับส่วนลดสูงสุดถึง  200,000 บาท* คลิก https://tinyurl.com/y6t55vz7

พบกันในงาน VVIP DAY 21 กันยายน 2562

1 Bedroom 23.15 -30.95 ตร.ม.  ค่าจอง 5,000 บาท ค่าทำสัญญา 15,000 บาท

1 Bedroom 31- 40.6 ตร.ม. ค่าจอง 5,000 บาท ค่าทำสัญญา 25,000 บาท

2 Bedroom 55.85 – 56.55 ตร.ม. ค่าจอง 5000 บาท ค่าทำสัญญา 35,000 บาท

มีโปรโมชั่นผ่อน 0% 6 เดือน สอบถามได้ที่พนักงานขายประจำโครงการ The Tree Pattanakarn – Ekkamai ที่สำนักงานขาย ถนนพัฒนาการ คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2565

สนใจโครงการ The Tree Pattanakarn – Ekkamai

ติดต่อสอบถามที่พนักงานในสำนักงานขายได้เลย

ตำแหน่งสำนักงานขาย https://goo.gl/maps/K4ZkdeRcVZHRPb1R7 ปัจจุบันเปิดแล้ว มีที่จอดรถให้ครับ อยู่เลยจากสำนักงานขายไปนิดเดียว จอดฟรี  หรือถ้าใครจะมาด้วยรถไฟฟ้าก็ลงสถานี Airport Link รามคำแหง แล้วเดินข้ามถนนด้วย skywalk มาที่โรงแรมเวกัสนาซ่า แล้วเดินไปทางแยกคลองตัน เดินบนทางเท้ามาเรื่อยๆ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนพัฒนาการ ก็จะมองเห็นสำนักงานขายอยู่ในตึกแถวครับ เดินไม่ไกล ประมาณ 300 เมตร

ลงทะเบียนรับข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์โครงการ The Tree Pattanakarn – Ekkamai คลิกที่นี่

https://tinyurl.com/y6t55vz7

โทรศัพท์ Call Center 1739