คอนโดสวยๆ ดูดี แต่ราคาไม่แพง อยู่แห่งหนใด หรือคำตอบที่ใช่จะเป็น The Excel Groove

เขียนโดย นายโฮม

ไลฟ์สไตล์คนยุคนี้ ต้องดูดี สวยงาม เก๋ เท่ ตามเทรนด์ยุค social networks แต่ส่วนใหญ่แล้วความสวยมักมีราคาเสมอ เราต้องควักเงินจำนวนมากเพื่อแลกมาซึ่งความสวยงาม แต่ปัจจุบันก็ไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป เราคงเคยเห็นไลฟ์สไตล์ดูดีคนยุคนี้แต่ไม่ต้องจ่ายแพงก็ได้ ร้านกาแฟดูดีบางร้านก็คิดค่ากาแฟไม่แพง แก้วละ 60 บาทก็ยังมี เสื้อผ้าแบรนด์เก๋ๆ เดี๋ยวนี้ก็มีการบริหารต้นทุน ทำให้ลูกค้าได้ซื้อของดูดีและราคาถูกมาสวมใส่ได้เช่นกัน ตัวละไม่เกิน 500 บาทก็หาได้เยอะแยะ

คอนเซปต์ประมาณว่า “High So(ciety) Low Budget” เทรนด์นี้ กำลังมาแรงเพราะด้วยเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยจะดีนักในยามนี้ หากผู้ประกอบการรายใดทำสินค้าคอนเซปต์นี้ขึ้นมาได้ ย่อมได้รับความสนใจจากลูกค้าแน่นอน

คอนโดมิเนียมก็เช่นกัน ยุคนี้จะมาออกแบบโครงการหน้าตา basic ธรรมดาๆ คงไม่เพียงพอ ลูกค้าเดี๋ยวนี้ใส่ใจรายละเอียดมากขึ้น สระว่ายน้ำต้องสวย facility ต้องดูดีมีครบ  ผู้พัฒนาโครงการต้องใส่ใจต่อภาพลักษณ์ของผู้อยู่อาศัยด้วย ลองนึกถึงเวลามีคนพิเศษหรือเพื่อนขับรถพามาส่งคอนโดเราสิ เราคงไม่อยากจะพบกับเหตุการณ์ว่า “จอดแวะส่งที่้เซเว่นก่อนก็ได้เดี๋ยวเราเดินเข้าคอนโดเอง” เพราะอาจจะอายกลัวคนอื่นรู้ว่านอนที่ไหนแล้วมองด้วยความประหลาดใจว่า นี่เธอนอนที่นี่จริงๆ เหรอ? เหตุผลเรื่องระดับความดูดีของที่พักอาศัยนี้อาจจะมีคนค้านว่า “อยู่ที่ไหนก็นอนได้เหมือนๆ กัน” ซึ่งก็ต้องบอกว่าจริงครับ ที่ไหนก็นอนได้ มีเหตุผล มีคุณค่าเท่ากัน แต่จริงๆ มันก็แตกต่างในรายละเอียดและแตกต่างด้านอารมณ์ความรู้สึกซึ่งเป็นจุดตัดสินใจของคนเราโดยไม่รู้ตัว ของแบบนี้แตกต่างกันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เอาเป็นว่าเลือกตามความสบายใจละกัน

แต่เท่าที่ผมสังเกตแบบไม่โลกสวยเลยนะ ในยุคนี้มีีอิทธิพลจาก social network ที่กดดันให้คนต้องโชว์สิ่งที่ตัวเองมี หลายคนชอบถ่ายภาพตัวเองอยู่ในคอนโด ถ่ายรูปตัวเองตอนออกกำลังกายในฟิตเนส ถ่ายรูปตัวเองนอนบนเก้าอี้ริมสระว่ายน้ำช่วงเย็นๆ หลายคนอยากทำโชว์มั่ง แต่โชว์ไม่ได้ เพราะคอนโดที่อยู่มันไม่ค่อยสวย ไม่มีมุมให้ถ่ายรูปไง และเหตุผลเล็กๆ แค่ข้อนี้แหละที่เป็นจุดตัดสินใจให้หลายคนมองหาสิ่งที่ดีกว่านั่นเองครับ

เอาละครับ บ่นมาซะยาวกับการวิเคราะห์ทางสังคม 555 ทีนี้เมื่อโจทย์ที่ผมได้รับคือ ไปหามาว่ามีคอนโดโครงการไหนบ้างที่เข้าคอนเซปต์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนที่อยากดูดีแต่ไม่อยากจ่ายแพง (Look great , best price) เท่าที่ผมดูตามแนวรถไฟฟ้าเส้นสุขุมวิท โครงการที่มีเข้าตากรรมการคือ Elio Del Ray สถานีอุดมสุข มี facility งดงาม สระว่ายน้ำ และมี landscape design เหมือนไปตากอากาศรีสอร์ท แต่เสียใจด้วยเพราะขายเกือบหมดแล้ว ยูนิตดีๆ มีคนซื้อหมดแล้ว จบไป ไม่พูดต่อ ขอมาพูดถึงโครงการใหม่ที่กำลังจะเปิดขายดีกว่า ที่เข้าคอนเซปต์ดูดีไม่จ่ายแพงนั่นคือ The Excel Groove แหม่ แค่ชื่อก็ดูสนุกแล้ว ดิ เอ็กเซล กรู๊ฟฟฟ!

สารภาพเลยครั้งแรกที่เห็นภาพสระว่ายน้ำและ club house นี้ ชอบมากครับ เพราะดูดีมาก ดีไซน์สวยน่าถ่ายรูปโชว์ แต่ไม่รู้จะสร้างให้สวยเหมือนภาพกราฟิกหรือเปล่านะ ต้องตามดูอีกที

ยิ่งพอเหลือบไปเห็นราคาที่โฆษณาไว้ยิ่งตกใจ เฮ้ยจริงเหรอ อำเล่นหรือเปล่า ต่ำล้านบาทก็มีด้วยเหรอ ต่ำล้านไม่ค่อยแปลกใจ เพราะหลายโครงการก็ทำต่ำล้านได้ แต่มันต่างตรงที่ โครงการนี้ดีไซน์สวยเกินหน้าเกินตาเกินราคา อ่านไปดูเหมือนเว่อร์ แต่มันคือความรู้สึกครั้งแรกเลย 555 เป็นเหยื่อการตลาดซะแล้ว แต่! เราต้องไม่ตกเป็นเหยื่อ ของแบบนี้มันต้องพิสูจน์

ผมก็หาข้อมูลต่อว่า The Excel Groove นี้มันอยู่ที่ไหน อะไรยังไง ก็พบว่าโครงการนี้อยู่ตรงสุขุมวิท 105 หรือเค้าเรียกกันว่าซอยลาซาลครับ แต่ไม่ได้อยู่ปากซอยลาซาลนะ ที่ตั้งจริงๆ อยู่ที่ ลาซาล 52

ห่างจากรถไฟฟ้าสถานีแบริ่ง 4 กิโลเมตรครับ เรียกได้ว่า “ไกลรถไฟฟ้า” แต่เส้นทางไม่ซับซ้อนไม่ต้องเลี้ยวมากเพราะติดถนนใหญ่

ทางโครงการเค้าโฆษณาบอกว่าโลเคชั่นนี้ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีศรีลาซาล 600 เมตร แต่ผมไม่เอามาคิดพิจารณาครับเพราะยังไม่มีวี่แววการก่อสร้างอะไรเลย ขอไม่นับ มันเป็นเรื่องของอนาคตอีกยาวไกล ไกลมากด้วย ดูสิ แค่สายสีม่วงยังรอจนเหงือกแห้งเลย เฮ้อ…

แต่ยังดีที่โครงการมีแผนทำรถ shuttle รับส่ง แต่ยังไม่สรุปว่าจะเป็นรถแบบไหน รถตู้ รถกอล์ฟ หรือแบบไหน ก่อนตัดสินใจซื้อลองสอบถามโครงการและให้เขาทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนนะครับ

ใช้เวลาเดินทางถึงสถานีแบริ่งโดยรถยนต์ประมาณ 13 นาที (ไม่รวมเวลารถติดที่เกิดขึ้นได้ในเวลาเร่งด่วน เช่น เช้าๆ และเย็นๆ ที่พ่อแม่จะมารับส่งลูกที่โรงเรียน ซอยลาซาลนี้มีโรงเรียนนะครับ หึหึ) ใครอยากส่องโลเคชั่นใน google map ก็ตามหมุดนี้ไปเลยครับ The Excel Groove

https://goo.gl/maps/9GkwiRSQMpv เป็นหมุดคร่าวๆ นะครับ หน้าปากซอยลาซาล 52 จะมีสำนักงานขาย The Excel Groove อยู่ ไปดูกันได้ ผมไปมาแล้ว มีที่จอดรถง่าย มีสองแถวแดงผ่านด้วยนะ สมมุติมาจากรถไฟฟ้า BTS แบริ่งก็เดินไปขึ้นท่ารถสองแถวในซอยสุขุมวิท 105 ตรงนี้
https://goo.gl/maps/GrEMUFhpWE12 ที่ตรงข้ามเยื้องๆ กับ Centerpoint Studio (หมายเหตุ ตรงซอยลาซาล 1 จะมีสำนักงานขาย The Excel เหมือนกัน แต่ไม่ใช่ของ The Excel Groove นะครับ คนละอัน จำไว้ว่าของ Groove ต้องซอยลาซาล 52 เท่านั้น) ถ้าจะโทรถามเส้นทาง โทรเลย 02 105 4390 หรือ 095 558 8456 ขอสาย The Excel Groove

ตอนที่ผมไปดู ผมนั่งแท็กซี่จากปากซอยแบริ่ง 1 ไป บรรยากาศซอยลาซาลจะเป็นสไตล์ industrial ผสมกับ residential คือมีโรงงาน ร้านค้าตึกแถวสไตล์พื้นฐาน บางร้านดูย้อนยุคหน่อยๆ ตลาดไม่ติดแอร์ ร้านสะดวกซื้อ หอพัก อพาร์ทเมนต์ คอนโดมิเนียมใหม่ๆ บ้านเดี่ยว แนวๆ นี้สลับกันไป

ตลาดนี้คึกคัก

ตึกแถวและร้านค้าในซอยลาซาล

คอนโดมิเนียมก็มี แต่ดูราคาสิ 1.59

ถามว่าลาซาลเป็นย่านที่ถูกใจคนรุ่นใหม่ที่ชอบไลฟ์สไตล์ดูดีไหม ก็ขอตอบว่ายังไม่ใช่ ไม่โดนใจนัก เพราะร้านรวงต่างๆ ยังไม่ผ่านการออกแบบหรือรีโนเวทกัน ทำเลลาซาลคิดว่าเหมาะกับคนใช้รถยนต์มากกว่าเพราะ ไม่มีขนส่งสาธารณะหลักอย่างรถเมล์ขสมก. มีแต่รถสองแถวแดง แท๊กซี่ สมมุติถ้าอยากไปดูหนัง ไปเดินเล่นพักผ่อนรับแอร์ในห้างก็ต้องขับรถไปเซ็นทรัลบางนา เมกาบางนา แม็คโคร บิ๊กซีศรีนครินทร์ พาราไดซ์ ไลฟ์สไตล์ก็จะเป็นประมาณนี้

โอเค ตอนนี้มาถึงโครงการ The Excel Groove แล้ว สำนักงานขายมี sky tube สีชมพูอยู่หน้าโครงการ

เมื่อผมมาถึงแล้ว ต้องไม่กลับไปตัวเปล่า เลยเอารูปและเขียนรีวิวห้องตัวอย่างมาให้ชมกันสำหรับคนไม่มีเวลาไปเอง แต่ยังไงคนจะซื้อคอนโดมันก็ต้องไปดูของจริง เดินดูรอบๆ สถานที่จริงอีกทีนะครับ ข้อมูลที่เขียนลงในนี้จะมีแค่บางส่วนที่ได้รับมาเท่านั้น เพราะตอนที่ผมไปข้อมูลต่างๆ ยังไม่ครบถ้วนนัก ถามพนักงานไปก็ยังไม่ตอบบางคำถามเลย เอาเป็นว่าสงสัยตรงไหนก็ไปถามเพิ่มเติมกันเองละกันนะครับ อิๆ

สำนักงานขาย ย่อมบ่งบอกสไตล์การตกแต่งของพื้นที่ส่วนกลาง สไตล์การออกแบบที่ใช้คือ Luxury Loft ใช้วัสดุที่ให้ความรู้สึกดิบ เหล็ก ปูน หิน ใช้สีโทนดำ ขาว ทองผสมกันให้เกิดความหรูหรา

พอจะเริ่มจินตนาการพื้นที่ส่วนกลางกันได้แล้วจากภาพนี้

ต่อไปมาดูภาพรวมของโครงการ The Excel Groove ว่าเป็นยังไง มีอะไรบ้าง

โมเดลครับ ภาพนี้คือด้านหน้า ทิศเหนือ

Club house และสระว่ายน้ำ

ทิศใต้

ด้านทิศตะวันออก

ตะวันตก

ภาพ floor plan ชั้น 1 ครับ มีที่จอดรถประมาณ 43%

Facility ที่ให้บริการ ได้แก่ Garden , Jogging Track, สระว่ายน้ำ , Pool Deck , Coffee Gallery ที่เป็น Co-working space ได้ด้วย, ห้องน้ำหญิง-ชาย, Lobby, สำนักงานนิติบุคคล , ลิฟต์ 2 ตัว

ชั้นพักอาศัย 2-8 มี Floor plan ที่เหมือนกัน มีรูปแบบยูนิตทั้งหมด 3 Type คือ A เทาอ่อนสุด B เทา C เทาเข้ม ไล่จากเล็กไปหาใหญ่

Type A ขนาด 25 ตารางเมตร 1 Bedroom

layout ยอดนิยม ที่คนส่วนใหญ่มักจะคุ้นตา Type นี้จะไม่มีประตูแบ่งส่วนครัวนะครับ ถ้าทำอาหารทีก็เปิดประตูระเบียงระบายกลิ่นได้เลย

• มีโต๊ะนั่งทานข้าวที่ไม่ค่อยนั่งจริงกันหรอก ส่วนใหญ่ไปจบกันที่โซฟาหน้าทีวี
• ได้ตู้เสื้อผ้า 2 บานเปิด สำหรับหนุ่มๆ น่าจะพอ แต่สำหรับสาวเสื้อผ้าเยอะ บอกเลยแบบนี้มีงานติดตู้เพิ่มข้างโซฟา
• มีประตูกระจกสไลด์แบ่งระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน กันเสียงลอดออกประตูหน้าห้องได้ อิๆ (ก็บางทีเปิดเพลงฟังดังไง)
• ยูนิตแบบนี้มีเยอะที่สุดในโครงการ 15 ยูนิตต่อชั้น น่าจะขายดีนะแบบนี้
• เหมาะสำหรับคนชอบห้องเล็กๆ กะทัดรัด มีครบ หรือคนที่ชอบกิจกรรมข้างนอก กลับมาห้องแค่เพื่อพักผ่อนอย่างเดียว

Type B ขนาด 27.5 ตารางเมตร 1 Bedroom

อันนี้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย อยู่สบายขึ้นเยอะเลย

• ได้ตู้เสื้อผ้าใหญ่ขึ้น
• มีโต๊ะทำงานหรือจะวางเครื่องแต่งหน้าก็ได้ในห้องนอน
• มีประตูกั้นระหว่างครัวและห้องนั่งเล่นด้วย
• มีชั้นวางของข้างบนตู้เย็น
• เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำนู่นทำนี่ในห้องเพราะมีหลายมุมกิจกรรม

Type C ขนาด 30 ตารางเมตร 1 Bedroom

• มี 2 ยูนิตต่อชั้น
• แปลกมากตรงครัวเป็นแบบครัวปิดภายในสไตล์คอนโดเมืองฝรั่ง มีเครื่องดูดอากาศช่วยอย่างเดียว อีกวิธีคือเปิดประตูระเบียงให้กลิ่นลอยผ่านห้องนั่งเล่นไป
• แปลกอีกอย่างคือห้องน้ำอยู่เส้นทางเดินเดียวกับครัว สมมุติ ภรรยาต้มแกงจืดอยู่แล้ว สามีปวดท้องก็ต้องกวักมือเรียกเมียให้ออกมาก่อนหรือให้ภรรยาหลบไปแล้วถึงจะแทรกตัวเข้าห้องน้ำไปได้
• ยูนิตนี้จะได้แสงสว่างเข้ามาในห้องนั่งเล่นมากเป็นพิเศษ แต่ครัวและห้องน้ำจะมืด
• เหมาะสำหรับคนที่ใช้ชีวิตในห้องนั่งเล่นเป็นส่วนใหญ่

ดู Plan เรียบๆ 2 มิติกันแล้ว ทีนี้มาดูห้องตัวอย่างกันดีกว่า ที่นี่ขายแบบ Fully Furnished ไม่มีผ้าม่าน เตาไฟฟ้า และที่ดูดควันนะครับ รายละเอียดของสเปคต้องถามพนักงานขายที่หน้างานอีกที เพราะวันที่ผมเข้าไปทางทีมงานยังไม่สรุปสเปคที่ชัดเจนมาให้ครับ

ประตูหน้าห้องทุกยูนิตมี Digital Door Lock ยี่ห้อ Samsung ให้

เริ่มที่ยูนิต Type A 25 ตารางเมตร

เปิดประตู พบกับนั่งห้องนั่งเล่น เฟอร์นิเจอร์ที่โครงการให้ฟรีคือ โซฟาแบบนี้เลย

ฝ้าของจริงเป็นเรียบธรรมดา ไม่ได้แบบห้องตัวอย่าง

มีบานสไลด์กั้นระหว่างห้องนอนและนั่งเล่น

หน้าต่างห้องนอนดีไซน์นี้

มุมมองจากห้องนอน มองไปที่ประตูทางเข้า

มุมมองจากโซฟา มองไปเห็นครัว

เข้ามาดูครัวใกล้ๆ

เปิดทุกบานให้เห็นไปเลยว่าใส่อะไรได้บ้าง ไม่มีเตาไฟฟ้าและที่ดูดควันนะครับ

โครงการให้โต๊ะกินข้าวบิลท์อินและเก้าอี้ 2 ตัว

ตู้เย็นไม่ได้ให้นะครับ

มุมมองจากตู้เย็น โต๊ะให้แต่ชั้นวางของด้านบนไม่ได้ให้

ซิงค์ล้างจาน ยังไม่สรุปยี่ห้อ

เดินไปดูระเบียงสักหน่อย

เงยหน้าเจอคอมเพรซเซอร์แอร์

อ่อ โครงการติดราวตากผ้าให้ด้วยนะ

กลับหลังหันมาดูห้องน้ำ

โซนแห้งเป็นแบบนี้ กระจกได้บานใหญ่แบบนี้เลย แต่กรอบไม้ไม่ได้นะ

มีประตูกระจกกั้นโซนเปียกโซนแห้ง

สุขภัณฑ์ American Standard

สายชำระเป็นแบบนี้

ฝักบัวปรับความสูงได้

ตบท้ายด้วยภาพรวมของ plan ยูนิตแบบ  25 ตารางเมตรอีกครั้ง Type A จะเป็นสีเทาอ่อนที่สุดครับ

จากรูป ทางขวาคือทิศเหนือครับ ดังนั้นยูนิต 25 ตารางเมตรส่วนใหญ่จะได้รับแดดตะวันตกครับ ชั้นเตี้ยๆ จะได้วิวสวน Jogging Track และถ้าต้นไม้โตก็จะมีร่มบังแดดครับ

ส่วนยูนิตทิศเหนือก็จะได้วิวลานจอดรถ

ยูนิตทิศตะวันออกจะติดกับที่ดินอื่นครับ

ชอบมุมไหนเลือกไว้ล่วงหน้าได้เลย

ยูนิตที่แนะนำ คือ ยูนิตที่วิวหันทิศใต้ มี 1 ยูนิต/ชั้นเท่านั้น มีมุมตึกของยูนิตข้างๆ ช่วยบังแดดตอนบ่ายให้โดนแดดไม่เต็ม 100% ครับ

ต่อไปมาดูห้องตัวอย่าง Type B 27.5 ตารางเมตร

เปิดประตูเข้ามาเจอห้องนั่งเล่นก่อน

ให้โซฟา ตู้ทีวี แอร์ยังไม่ตกลงยี่ห้อครับ

ได้โต๊ะกินข้าวและเก้าอี้

อีกมุมหนึ่ง

ถ้าแต่งห้องติดกระจกเงาสีแบบนี้ก็สวยดีและทำให้ห้องกว้างขึ้น แต่เค้าไม่ได้ให้นะ มีแต่ผนังทาสีปกติ

ประตูกระจกบานสไลด์กั้น

ให้เตียง ไม่ให้ฟูก

ผนังหัวเตียงเค้าติดฟอร์ไมก้าลายหินมาให้ดูเป็นไอเดีย ของจริงก็ทาสีปกติ

มุมมองจากหน้าต่างห้องนอน

มุมมองจากปลายเตียง

สำหรับสาวๆ โต๊ะนี้วางตำแหน่งได้ดีมาก ผู้ออกแบบคำนึงถึงสาวๆ เพราะโต๊ะแต่งหน้าต้องได้รับแสงธรรมชาติ ช่วยทำให้แต่งหน้าได้สวยขึ้น พอออกไปข้างนอกจริงหน้าของเราที่ออกมาจะไม่หลอกหรือขาววอกเกินไป สำหรับหนุ่มๆ ไม่ได้แต่งหน้า ก็ดัดแปลงเป็นที่นั่งทำงานเล็กๆ ก็ได้

มุมมองจากหัวเตียง

มีแอร์อยู่ข้างในหลบๆ หน่อย เวลานอนแอร์เป่าค่อนข้างไกลตัว ซึ่งดีครับ ลมเย็นไม่เป่าลงหัวเรามากเกินไป

มีตู้เสื้อผ้า 3 บาน

เปิดบานตู้ออกมาเป็นแบบนี้ เรียบๆ

เดินออกจากห้องนอน ภาพนี้มุมมองจากโซฟาครับ

มองไปเห็นครัวซึ่งมีประตูเลื่อนกั้นกันกลิ่นได้

ชุดครัวเป็นแบบนี้ ได้ตามนี้เลยครับ ยกเว้นตู้เย็นและเตา

ลองเปิดดูข้างใน

ไมโครเวฟวางตรงไหนดี น่าจะวางบนตู้เย็นก็พอได้

พื้นที่ท็อปที่เอาไว้เตรียมอาหารค่อนข้างเล็ก แนะนำให้ซื้อแผ่นปิดซิงค์มาวางเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งาน

หันซ้าย เป็นห้องน้ำ

ห้องน้ำใช้ผนังสีขาว ดูสบายตา กระเบื้องปูทั้งห้อง ทำความสะอาดง่าย กระจกเงาได้ขนาดตามนี้ แต่ไม่ให้กรอบไม้ ได้อ่างล้างหน้าและตู้ใต้อ่างตามนี้

กระจกกั้นโซนเปียก ฝักบัวเลื่อนขึ้นลงได้ และที่วางขวดแชมพู

แวะดูระเบียง มีก็อกน้ำ ให้ราวตากผ้า ทาสีผนังสีเข้มซึ่งดีครับ ไม่เลอะง่าย

จบแล้วครับ ก่อนจากห้อง Type B แวะดูภาพห้องนั่งเล่นอีกครั้ง

สำหรับคนชอบ Type B แต่ละชั้นมียูนิตแบบนี้ 9 ยูนิต (สีเทาเข้มกลาง) อยู่ทิศตะวันออกทั้งหมด เหมาะกับคนไลฟ์สไตล์ตื่นเช้าครับ ทุกยูนิตค่อนข้างมีสภาพวิวใกล้เคียงกัน แตกต่างกันแค่สูงต่ำเท่านั้น

ยูนิตที่แนะนำ ขอแนะนำยูนิตที่ใกล้โถงลิฟต์มากที่สุด สาเหตุเพราะไม่ต้องเดินไกล

แบบสุดท้าย exclusive ที่สุดที่จะพาไปชมคือ Type C 30 ตารางเมตร

เปิดประตูเข้ามา จะเป็นห้องนั่งเล่นยาวไปจนถึงระเบียง เราเริ่มจากหันซ้ายก่อนจะมีโต๊ะกินข้าว เก้าอี้ โซฟา

มีโต๊ะกลาง

เขยิบทางขวามาอีกมีโต๊ะทำงานติดระเบียง

เดินกลับมานั่งที่โซฟา มีตู้ทีวี เดี๋ยวจะพาเดินไปทางขวาก่อน คือห้องครัว

เปิดบานสไลด์ มีลิ้นชักและตู้ชุดครัวแบบนี่ ด้านในสุดมีพื้นที่วางตู้เย็น

ดูครัวให้ชัดขึ้น

กลับหลังหัน เจอห้องน้ำ

มองขวาเป็นโซนเปียก

เดินออกมาที่โซฟาอีกครั้ง แล้วจะเดินไปทางซ้าย

เข้าสู่ห้องนอน

หน้าต่างบานใหญ่

หันขวาเป็นตู้เสื้อผ้า 2 บานและโต๊ะเครื่องแป้ง

สำหรับคนชอบห้อง Type C มักเป็นคนที่มีชีวิตอยู่ในห้องนั่งเล่นเป็นส่วนใหญ่ เพราะได้กว้างเป็นพิเศษ

ยูนิตที่แนะนำมากที่สุดคือ ยูนิตวิวทิศใต้เพราะได้วิวสวนสีเขียว

แอบเสียดายที่ยูนิตแบบนี้ไม่ได้หันระเบียงไปทางสระว่ายน้ำ ถ้าหันไปสระว่ายน้ำจะน่าสนใจมากขึ้นกว่านี้อีกหลายเท่า

สรุปรวบยอด

The Excel Groove เหมาะกับผู้พักอาศัยเดิมย่านลาซาล นักลงทุนรายย่อยสายปล่อยเช่า เจ้าของหอพักลงทุนเพื่อปล่อยเช่า คนทำงานย่านบางนาตราดและศรีนครินทร์ที่มีรถยนต์ขับ คนที่ต้องการอัพเกรดคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น รวมถึง คนที่ใส่ใจเรื่องดีไซน์ของสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย และคนที่ยอมรับกับการนั่ง รถขนส่งมวลชนขนาดเล็กเพื่อมาสถานีรถไฟฟ้าได้ เช่น จักรยานยนต์รับจ้าง รถสองแถวไม่ติดแอร์ (รถแดง)

จุดเด่นของโครงการก็ต้องบอกว่าเป็นสองเรื่องหลักได้แก่ การดีไซน์รูปแบบอาคาร และราคาที่ถูกแสนถูกครับ ถึงแม้ว่าโครงการจะอยู่ค่อนข้างห่างไกลจาก BTS แบริ่งพอสมควร แต่ผมมองว่ากลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการนี้ก็น่าจะเป็นคนที่คุ้นชินกับทำเลในซอย รวมไปถึงทำงานในเส้นถนนศรีนครินทร์มากกว่า คนที่จะเลือกเดินทางไปทำงานในเมืองโดยใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก การที่ All Inspire Development เป็น local developer ที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการในทำเลนี้เป็นหลักอยู่แล้ว ก็น่าจะสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มคนซื้อได้ในระดับหนึ่ง

ในด้านของราคา The Excel Groove มีราคาเริ่มต้นที่ 990,000 บาทตามแบบที่เห็นในโฆษณา โดยเป็นราคาสำหรับยูนิต ขนาด 25 ตร.ม. ชั้นล่างๆ ครับ ก็ยังถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้าง competitive กว่าโครงการข้างเคียงทั้งหมด โดยที่นี่ขายแบบ Fully Furnished ด้วยครับ

ใครที่สนใจอยากเป็นเจ้าของคอนโด ในย่านลาซาลภายใต้ชายคาของ The Excel Groove ก็เข้าไปที่สำนักงาน The Excel Groove ซอยลาซาล 52

หรือโทรสอบถามเส้นทางได้ที่ 095-558-8456 Line ID : excelgroove

The Excel Groove เป็นตัวเลือกไม่กี่ตัวสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการอยุ่คอนโดมิเนียมดีไซน์สวยในราคาไม่แพงครับ ถ้าสนใจลองเข้าไปคุยกับพนักงานขายได้ครับ ที่สำนักงานขายปากซอยลาซาล 52 ครับ แต่ยังไม่เปิดจองนะครับ เค้าจะเปิด Presale ในวันที่ 28-29 พ.ค. 2559

เงื่อนไขการเป็นเจ้าของ

• 25 ตร.ม.  จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 20,000 บาท   ผ่อนดาวน์ 10%ของราคาขาย หาร 18 งวด
• 27.50 ตร.ม.  จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท    ผ่อนดาวน์ 10%ของราคาขาย หาร 18 งวด
• 30.00 ตร.ม.  จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท    ผ่อนดาวน์ 10%ของราคาขาย หาร 18 งวด
• ส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า และลูกค้าลงทะเบียน  10,000 บาท
• โปรแกรมส่วนลด สำหรับ Friend get Friend 5,000 บาท ต่อการแนะนำ 1 ท่าน และ สามารถแนะนำได้สูงสุด 5 ท่าน
  *หักส่วนลดราคาขาย ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
• ค่าส่วนกลาง 40 บาท ต่อ ตร.ม.
• ค่ากองทุน 600 ต่อ ตร.ม.

ย้ำอีกครั้ง สำนักงานขายหน้าตาแบบนี้ครับ