สัมผัสความหรูหราของห้องเพ้นท์เฮ้าส์ คอลเลคชั่นล่าสุดของ Menam Residences คอนโดหรูฟรีโฮลด์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

“ย่านเจริญกรุง” ชื่อนี้ที่ใครๆ ต่างก็รู้จัก เนื่องจากเป็นย่านชุมชนการค้าเก่าแก่ริมแม่น้ำฝั่งพระนคร ที่ในอดีตเคยเป็นท่าเรือสินค้า และเป็นจุดค้าขายแลกเปลี่ยนกับต่างประเทศ มีผู้คนจากหลายสัญชาติเข้าออกพื้นที่ย่านนี้มาโดยตลอด ซึ่งในปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติล้วนแล้วแต่แวะเวียนอยู่ในย่านนี้อย่างไม่ขาดสาย อีกด้วยการจราจรที่สามารถเดินทางได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางเรือ การจราจรบนท้องถนน หรือการเดินทางโดยรถไฟฟ้า ก็มีให้เลือกได้ตามสะดวก

เมื่อมีการเดินทางที่สะดวกสบายแล้วนั้น โครงการทางด้านอสังหาฯ ที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็ถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมักเป็นไปในรูปแบบของพื้นที่ Lifestyle Commercial เป็นส่วนใหญ่ จนทำให้ที่ดินที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยานั้นได้ถูกทำการพัฒนากันจนเกือบเต็มพื้นที่แล้วแถมที่ดินยังมีราคาสูงอีกด้วย

ซึ่งว่าด้วยเรื่องของทำเลนั้น ยิ่งทำเลดีๆ มีทัศนียภาพสวยๆ ไม่ว่าจะเป็นดีเวลลอปเปอร์เจ้าไหนก็ต้องการกันทั้งนั้น เป็นที่เข้าใจกันเป็นอย่างดีว่าในปัจจุบันนี้คอนโดจะราคาถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง หากอยู่ในทำเลที่ติดรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพชั้นในก็มักจะมีราคาที่แพงกว่าคอนโดใกล้รถไฟฟ้าอื่นๆ ที่อยู่ห่างออกไป ซึ่งใครๆ ก็ฝันอยากที่จะมีโอกาสเป็นเจ้าของคอนโดที่ทั้งใกล้รถไฟฟ้าและยังอยู่ริมแม่น้ำ ให้คุณได้เติมเต็มความสดชื่นอย่างเต็มที่ในทุกช่วงเวลาแห่งการอยู่อาศัย ที่ Menam Residences (แม่น้ำ เรสซิเดนท์)

คลิกที่นี่เพื่อชมรายการ OPEN HOUSE  รีวิวโครงการ Menam Residences : https://propholic.com/prop-channel/open-house-propholic-menam-residences/

นอกจากที่คุณจะได้รับความภาคภูมิใจในการอยู่อาศัยแบบเหนือระดับ เพราะเป็นคอนโดหรูริมแม่น้ำ Freehold เพียงหนึ่งเดียวในย่านเจริญกรุงแล้ว ยังแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียว และสะดวกสบายไปกับการบริการสุด Exclusive ระดับโรงแรม 5 ดาว ให้ทุกวันเป็นเหมือนวันพักผ่อนของคุณ

Menam Residences คอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน และอยู่ใกล้กับเขต CBD ในย่านสีลมและสาทร อยู่ห่างจากโครงการรถไฟฟ้าสถานีสะพานตากสินเพียงแค่ 1.6 กม. และ Asiatique The Riverfront เพียงแค่ 300 เมตร และใกล้กับโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอย่าง โชรส์เบอรี ที่ติดกับโรงแรมสุดหรูอย่างชาเทรียมอีกด้วย ซึ่งตัวอาคารมีความสูงถึง 54 ชั้น และมีจำนวนยูนิตเพียงแค่ 294 ยูนิต พร้อมกับที่จอดรถถึง 117% และไฮไลท์ที่สำคัญคือที่นี่มีการออกแบบ Floor Plan ให้เป็น Single Loaded Corridor โดยที่จัดวาง CDU ของแอร์ไว้ที่ด้านนอกห้อง จึงรับประกันได้ว่าทุกยูนิตจะหันเข้าหาแม่น้ำ ให้ผู้พักอาศัยได้ Take View โค้งน้ำเจ้าพระยาจากภายในห้องได้อย่างเต็มตา

ซึ่งในอนาคตทำเลนี้จะมีการพัฒนาโครงการใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำอีกหลายโครงการ ทั้ง องค์การสะพานปลาใหม่ โครงการเจ้าพระยาเอสเตท ที่ประกอบไปด้วย โรงแรม Four Seasons, Capella และ Four Seasons Private Residences อีกทั้งเอเชียทีคอีก 2 เฟส

อีกหนึ่งสถานที่แลนด์มาร์คของไทยคือ Asiatique The Riverfront ที่ชาวต่างชาติชอบมาเที่ยว สามารถเดินจากโครงการไปได้แบบชิลๆ เลย

ทางโครงการยังให้ที่จอดรถมากถึง 117% โดยลูกบ้านจะได้ไม่ต้องกังวลในเรื่องของปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพออีกต่อไป

สำหรับห้อง Penthouse ของแม่น้ำ เรสซิเดนท์ นั้นมีองค์ประกอบของความหรูหรา ที่ดึงเอาบริบทของวิวแม่น้ำเข้าพระยาอันสวยงาม มาผสมผสานกับความเป็น Luxury in Space ได้อย่างลงตัว โดยผลงานการออกแบบภายในจะถูกรังสรรค์โดยบริษัทออกแบบชั้นนำอย่าง Leo Inter ที่มีผลงานระดับโลกมากมายไม่ว่าจะเป็น โรงแรมห้าดาว คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน อย่าง โรงแรม Shangri-La สิงคโปร์, Givenchy Suite, บ้านพักตากอากาศที่ประเทศยูเครน ของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน, โรงแรม St.Regis ที่ประเทศรัสเซีย และ The Emirates Palace โรงแรมหรูในกรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งมีนักออกแบบตกแต่งภายในน้อยคนที่จะได้รับโอกาสทำงานในสถานที่ระดับโลกเหล่านี้

ภาพจาก : https://www.facebook.com/Leo-international-design-group-116227288418596/

ซึ่งทาง Leo Inter นั้นได้ถ่ายทอดออกมาเป็นคอนเซปท์ในการแต่งห้องเป็น 2 แบบ สองสไตล์ โดยที่ยังคงยึดในหลักของการแต่งห้องให้สมกับความหรูหราของโครงการ และความหายากของที่ดินริมแม่น้ำในการพัฒนาโครงการในแบบ Freehold ก็คือ

มี Pattern ที่เป็นเอกลักษณ์ และการเลือกใช้วัสดุ แบรนด์เนม ราคาแพง ซึ่งมีการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และวัสดุในการตกแต่งห้องที่ดูหรูหรา ทันสมัย ตอบโจทย์กับผู้พักอาศัยอย่างมีระดับ มีการนำเข้าวัสดุตกแต่งเกรดพรีเมี่ยมจากต่างประเทศเพื่อให้ทุกอย่างยังคง Pattern ไปตามที่ได้วางไว้ เช่น วอลเปเปอร์ที่ใช้ทั้งของไทยและของนำเข้าจากญี่ปุ่นและวอลปริ้นที่ดีไซน์เนอร์ออกแบบเอง วัสดุตกแต่งห้องน้ำและครัวนอกนำเข้าจากเยอรมัน ยิ่งเพิ่มให้ห้องดูมีสไตล์ พร้อมกับการจัดวางที่ดูสวยหรูและสอดคล้องกับธีมหลัก

การดีไซน์ให้ตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบครอบครัวใหญ่ถึง 2 Generations ที่มีความชอบแตกต่างกันไป มีการดีไซน์ห้องให้สามารถเข้าได้กับทุกเพศทุกวัย ตอบโจทย์ตั้งแต่วัยรุ่นเด็กๆ จนถึงวัยผู้ใหญ่ทำงาน ออกแบบให้มีห้องต่างๆ เป็นสัดส่วน ทั้งห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น แม้กระทั่งห้องเด็กเล่น ให้ทุกคนสามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ในทุกพื้นที่ ด้วยการดีไซน์ที่ไม่หนักไปทางใดทางหนึ่งจนมากเกินไป

การ Tailor Made furniture ให้ตรงกับ Function การใช้งานในแต่ละห้อง การเลือกใช้โทนสีที่ดูมีความสุขุมนุ่มลึก มีเสน่ห์ลึกลับชวนค้นหา แต่ยังคงเน้นความเรียบง่ายด้วยการใช้วัสดุน้อยชิ้น โดยใช้ไม้ และโลหะเป็นองค์ประกอบหลัก ตัดกับเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอันเป็นเอกลักษณ์เพื่อช่วยสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พักอาศัย

มาพบกับ 2 ห้องไฮไลท์ของโครงการ ที่มีเหลือขายอยู่เพียงไม่กี่ยูนิต นั้นคือห้อง Duplex Penthouse ที่มีการเล่นวัสดุหลากหลาย และวัสดุแต่ละชิ้นเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นหินอ่อนที่ใช้ตกแต่ง Wallpaper ที่ติดอยู่ทางขึ้นบันได หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็ถูกจัดวางไว้อย่างลงตัว บ่งบอกได้ถึงรสนิยมของผู้อาศัย ห้องแรกการตกแต่งจะออกไปในแนวของความอ่อนหวานและอ่อนโยน ภายในห้องเป็นโทนขาวสดใส ที่ทำให้มองแล้วรู้สึกสบายตาและสบายใจ ส่วนอีกห้องก็จะแฝงไปด้วยความเท่ห์ มีความเป็นสมัยใหม่ที่สามารถเอาใจคนใน Generation ใหม่ได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังทำให้การที่ได้เดินเข้ามาในบ้านหลังนี้จะรู้สึกได้ถึงความหรูหราร่วมสมัยในทันที จึงเป็นที่มาของงานออกแบบที่แตกต่างกันทั้งสองห้องในสไตล์ “Modern Classic” และแนว “Modern Asian”

เริ่มกันที่ห้องแรกเป็นห้อง Duplex Penthouse ที่ทั้งโครงการมีแค่ 9 ยูนิตเท่านั้น ห้อง Type P3 หมายเลขห้อง 4901 ขนาด 4 ห้องนอน กับอีก 1 ห้องอเนกประสงค์ที่สามารถตกแต่งเป็นห้องแม่บ้านก็ได้ ที่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์และพร็อพทุกอย่างที่ตกแต่งไว้ในห้อง

ห้อง Type P3 ที่เป็นแบบ Duplex Penthouse สไตล์การตกแต่งห้องมีความอ่อนหวานและความอ่อนโยน โดยจะสังเกตจากตัวห้องที่มีการเลือกใช้สีที่เบาให้ความรู้สึกละมุนและวัสดุโทนสว่างในการตกแต่งห้อง เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้อง ห้องนี้จึงถูกออกแบบภายใต้แรงบันดาลใจที่เป็นผู้หญิง แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกเป็นผู้หญิงสมัยใหม่ มีรสนิยมที่เป็น Working Women ไปด้วย จากการออกแบบที่ลงตัวและกลมกลืนกันมากๆ สมดั่งคอนเซปท์ “Modern Classic”

ความพิเศษก็จะอยู่ตรงที่ส่วนพื้นที่ Double Volume สูงถึง 6.4 เมตร ที่สามารถชมวิวแม่น้ำจากในห้องได้อย่างไกลสุดสายตาจากโซน Living & Dining Area ในส่วนของครัวนั้นผู้ซื้อจะได้ทั้ง Pantry และครัวไทย โดยในส่วนของ Pantry ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Sie Matic (เยอรมัน) เคาน์เตอร์เป็นหินควอส Style Stone เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ gaggenau ในส่วนโถงกลางนี้ไม่ว่าจะนั่งทานอาหารหรือทำกิจกรรมภายในครอบครัวก็ยังสามารถชมวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาที่อยู่ด้านนอกได้ และพื้นที่ระเบียงด้านนอกก็กว้างขวางติดกับโซน Living โดยโครงการขายแบบ Fully Furnished ของทุกอย่างที่ถูกตกแต่งภายในห้องจะเป็นของผู้ซื้อทั้งหมด เพียงแค่ลากกระเป๋าเสื้อผ้าเข้ามาใบเดียวก็อยู่ได้แล้ว และภายในห้องนอนมีการ Built-in ตู้เสื้อผ้า ตู้เก็บของ เป็นของเกรดเอมีคุณภาพสมกับราคาจริงๆ โดยห้องที่อยู่ด้านหลังของโซน Living สามารถตกแต่งให้เป็นห้องนอนหรือห้องทำงานก็ได้เช่นกัน

ขึ้นบันไดมาที่ชั้น 2 ก็จะพบกับห้อง Master Bedroom ที่อยู่ฝั่งขวามือ มีความ Luxury in Space ห้องมีขนาดกว้างพร้อมกับติดกระจกแบบเต็มความสูงเพื่อให้ผู้พักอาศัยสามารถเห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งอ่างอาบน้ำในห้องน้ำและตู้เสื้อผ้าที่เพียงพอต่อคุณผู้หญิง อีกฝั่งก็จะเป็นห้องนอนที่ผู้ซื้อสามารถปรับเป็นห้องทำงานได้หากต้องการ เพราะห้องนี้มีหน้าต่างเป็นกระจกที่สามารถมองลงไปยังโซน Living ของชั้นล่างได้ ซึ่งผู้ที่นอนอยู่ชั้นสองก็สามารถชมวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยามุมเดียวกับชั้นล่างได้เช่นกัน

ซึ่งนอกจากจะได้รับความโปร่งโล่ง และแสงอาทิตย์ส่องผ่านได้ทุกห้องแล้ว ยังสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไว้ในทุกส่วนของห้องได้อย่างลงตัว แถมยังได้ที่จอดรถแบบ Fix ไม่ต้องแย่งกันจอดรถกับห้องอื่นๆ

ประตูห้องใช้ไม้จริงและมีความหนา ปิดผิวด้วยไม้วีเนียร์ มีซีนยางที่วงกบประตูเพื่อ ช่วยลดเสียงรบกวนจากด้านนอกเข้ามาภายในห้องได้

ข้างๆ เป็นโซน Living และ Dining Area ติดกระจกเต็มความสูงไปถึงชั้น 2 สามารถเปิดออกไปยังระเบียงได้ วัสดุที่ใช้ในห้องนั่งเล่น เป็นหินขาว White Venus ตัดด้วยหินดำ Black Merquina เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ชั้นนำที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่นแบรนด์ ชนินทร์ ลิฟวิ่ง

โซน Dining Area ใช้วิวเดียวกันกับ Living ไม่ทำให้รู้สึกว่าวิวถูกบล็อค แต่ในช่วงบ่ายอาจมีแดดส่องเข้ามาภายในห้อง หากรู้สึกร้อนก็ปิดม่านสีขาวกรองแสงได้ ไม่ทำให้ห้องมืดจนเกินไป

ส่วนของ Pantry ใช้ผลิตภัณฑ์ของ SieMatic (เยอรมัน) หน้าบานเป็นลามิเนตและสีขาวพ่นด้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าใช้ของ Gaggenau ก๊อกล้างจานยี่ห้อ Hansgrohe เหมาะสำหรับการทำอาหารง่ายที่ไม่มีควันมากเกินไป ทำให้ล้างและเก็บกวาดง่าย

ถัดจากโซน Living และครัว เข้ามาด้านในจะมีห้องว่างไว้ 1 ห้อง อาจใช้เป็นห้องแม่บ้านหรือตกแต่งให้กลายเป็นเด็กเล่นก็ได้ เป็นห้องแบบมีหน้าต่างเปิดให้แสงเข้ามาได้

ข้างๆ ห้องเด็กเล่นมีอีกหนึ่งห้องนอน มีห้องน้ำในตัว

ห้องน้ำในห้องนอนที่ไม่ใช่ Master พื้น Shower จะเป็นหินแกรนิตดำพ่นไฟ เพื่อให้ทนทานต่อการใช้งาน และไม่ลื่นขณะอาบน้ำ

ถัดมาเป็นห้องนอนห้องสุดท้ายของชั้น 1 ซึ่งห้องมีขนาดกว้าง ถือได้ว่าเป็น Master Bedroom อีกหนึ่งห้องเลยก็ว่าได้ มองวิวด้านนอกได้มุมเดียวกันกับห้อง Master Bedroom ที่อยู่ชั้น 2

วกกลับมาที่บันไดเพื่อจะขึ้นไปยังชั้นสอง เป็นทางเดินที่สามารถเดินผ่านสองคนได้อย่างสบาย ไม่คับแคบถึงขนาดวางชั้นวางของติดกับบันไดยังรู้สึกกว้าง และมีห้องน้ำ ห้องเก็บของอยู่ใต้บันได

บันไดปูพื้นจากหินขาว White Venus ราวบันไดเป็นไม้จริงและกระจกเทมเปอร์

ห้องฝั่งตรงข้ามของ Master Bedroom มี Walk-in Closet และอ่างในห้องน้ำ

สามารถมองลงไปยังโซน Living ชั้นล่างได้แบบนี้

ห้อง Master Bedroom ที่มีพื้นที่กว้างขวาง รับวิวโค้งแม้น้ำเจ้าพระยาได้เต็มที่ มี Walk-in Closet ขนาดใหญ่ไว้สำหรับคุณผู้หญิงที่มีความสุขในการซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย

ซึ่งห้องนอนทุกห้องใช้พื้นไม้ Engineering Wood ไม้โอ๊คปูลายก้างปลา สีของไม้จะมีทั้งสีเข้มและสีอ่อน

ห้องน้ำใน Master มีสีขาวสะอาดตา พื้น Shower เป็นหินควอส แบรนด์ Style Stone ซึ่งเป็นหินเทียมที่ทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี โดยได้นำหินดังกล่าวไปพ่น Water Jet ให้เกิดเป็นร่องเพื่อกันลื่น และมีอ่างล้างหน้าแบบ His and Her

มี Rain Shower แบบติดเพดาน มีม่านเปิดรับแสงจากด้านนอก ทำให้ห้องน้ำสว่างอยู่ตลอดและไม่ต้องเปิดไฟเวลาอาบน้ำ

ส่วนอีกห้องหนึ่งคือ Type P1 หมายเลขห้อง 4902 ขนาด 279.89 ตร.ม. บนชั้น 49 เช่นกัน ห้องนี้ถูกแบ่งออกเป็น 5 ห้องนอน และ 1 ห้องแม่บ้าน ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์และพร็อพเช่นกัน ห้องนี้ก็เป็นแบบ Duplex Penthouse โดยที่มีสไตล์การตกแต่งภายใต้ theme “Modern Asian”ที่สะท้อนอัตลักษณ์ และรสนิยมของผู้พักอาศัยที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของวิถีชีวิตตะวันออกได้เป็นอย่างดี ด้วยโทนสีของห้องที่มีความมืดกว่าห้องแรก บ่งบอกได้ถึงความเท่ห์ในแบบของผู้ชายและความทันสมัยของคน Generation ใหม่ ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง เฟอร์นิเจอร์ก็จะถูกคุมโทนให้เข้ากับสีของห้องด้วยเช่นกัน

หากเทียบกับห้องแรก ห้อง 4902 นี้ดูจะมีความโดดเด่นในเชิงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง ที่ให้บรรยากาศของความเป็น Oriental Antique แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นของเก่าสะสม ในทางกลับกันความเป็น Oriental Antique นี้ถูกนำมา Refurbished ใหม่ด้วยการใช้วัสดุ ประเภทโลหะสลับกับไม้ พร้อมโทนสีที่ดูฉูดฉาด ช่วยสร้างพลังบวกให้กับผู้พักอาศัยได้เป็นอย่างดี

บริเวณโซน Living and Dining Area ที่เปิดโล่งเป็น Double Volume ด้วยความสูง 6.4 เมตร ส่วนของห้อง Duplex Penthouse นี้มีห้องแม่บ้าน พร้อมห้องซักรีดในตัว ที่แยกส่วนชัดเจนจากทางเข้าห้องหลัก และยังมีส่วนครัวแยกเป็นทั้ง Pantry และครัวไทยขนาดใหญ่ที่พร้อมให้คุณใช้ชีวิตแบบครอบครัวใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์ ชั้นล่างมีทั้งหมด 3 ห้องนอนใหญ่ที่มีขนาดพอๆกัน โดยโครงการดัดแปลงเอาห้องนอน 1 ห้องในชั้นล่างมาทำเป็นห้องทำงาน และห้องแม่บ้านถูกดัดแปลงเป็น Kid Room เพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันไปของผู้อยู่อาศัยในหลาย generations

ในส่วนของชั้นสองเมื่อเดินขึ้นบันไดมาก็จะพบกับ Foyer แนวยาวมีประตูเข้าออกที่สามารถออกไปยังโถงทางเดินชั้น 50 ได้ ก่อนที่จะแยกโซนไปยังห้องนอนขนาดใหญ่ทั้ง 2 ห้อง ที่มีทั้งห้องแต่งตัวขนาดใหญ่ในตัวห้องน้ำแบบ His & Her พร้อมอ่างอาบน้ำติดหน้าต่าง และขายแบบ Fully Furnished เหมือนกับห้องแรก

บานประตูเป็นประตูไม้เหมือนกับห้อง 4901 ที่จับประตูยี่ห้อ Yale ตั้งรหัสผ่านเวลาเข้าห้อง พร้อมสมาร์ทโฮมออโตเมติกที่อยู่ถัดจากประตูห้องเข้ามาข้างใน

เนื่องจากห้องอยู่มุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้มีการจัดโซน Living & Dining Area ไว้มุมเดียวกัน Celling สูง 6.4 เมตร กระจกสูงไปถึงชั้น 2 ของตัวห้อง

ในส่วนของ Pantry ยังอยู่บริเวณหน้าห้อง ใช้ผลิตภัณฑ์ของ SieMatic หน้าบานเป็นแบบสีพ่น High Gloss เครื่องใช้ไฟฟ้าของ Gaggenau ก๊อกล้างจานยี่ห้อ Hansgrohe เคาน์เตอร์หินควอสยี่ห้อ Style Stone

แต่ครัวไทยของนี้จะอยู่โซนหลังห้อง หน้าบานเป็นกระจกพ่นสีขอบสแตนเลสสี Rose Gold เครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อ Siemens

ข้างครัวไทยเป็นห้องแม่บ้าน ที่สามารถตกแต่งเป็นห้องเด็กเล่นหรือห้องอเนกประสงค์ของครอบครัวก็ได้

ถัดมาจากแม่บ้าน มีอีกหนึ่งห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้ามที่ถูกตกแต่งเป็นห้องทำงาน มีห้องน้ำในตัว สามารถเปิดม่านรับวิวแม่น้ำได้ หรือผู้ซื้ออยากเปลี่ยนให้เป็นห้องนอนอีกหนึ่งห้องก็สามารถทำได้เช่นกัน

เดินผ่านโซน Living มาอีกทางฝั่งหนึ่งของห้องจะมีห้องนอนอีกสองห้องพร้อมห้องน้ำในตัว

วกขึ้นมายังชั้น 2 บันไดใช้ไม้จริง ราวบันไดเป็นไม้จริงและกระจกเทมเปอร์

มี Wallpaper แบบสั่งทำพิเศษ ลวดลายสะดุดตาเป็น Backdrop จะจุดพักสายตาก่อนที่จะพาขึ้นไปยังชั้นสอง

ห้องนอนแรกติดกับบันไดฝั่งซ้ายมือ มีขนาดกว้างกว่าห้องนอนชั้นล่าง มีอ่างในห้องน้ำและอ่างล้างหน้าแบบ His & Her พร้อม Walk-in Closet ภายในห้อง

เดินออกมาจากห้องนอนที่ติดกับบันไดจะเป็น Foyer เชื่อมเดินไปยัง Master Bedroom แตกต่างจากห้อง 4901 คือมีทางเดินที่มองลงไปยังโซน Living ชั้นล่างได้ สามารถมองเห็นทุกกิจกรรมของคนในครอบครัว พร้อมรับวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้มุมเดียวกับโซน Living

Master Bedroom ที่มีขนาดกว้าง และ Walk – in Closet ขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับคุณแม่บ้านที่ชอบการชอปปิ้ง และยังมีมุมวางโต๊ะทำงานสำหรับคุณผู้ชายด้วย

จะใช้ชีวิตริมแม่น้ำทั้งที พื้นที่ส่วนกลางก็เป็นอีกหนึ่งความสมบูรณ์แบบของ Menam Residences เนื่องจากที่นี่มีส่วนกลางจัดเต็มในแบบ Triple Facilities ตั้งแต่ชั้น G ที่ประกอบไปด้วย Lush Garden, Lobby ทั้ง Indoor และ Outdoor พร้อมห้องประชุมส่วนตัว โดยที่ชั้น 10 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลัก ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ที่ออกแบบให้ตัวสระล้อมรอบอาคารในแบบ 270 องศา ห้องสมุด ฟิตเนส ออนเซ็นแยกชายหญิง บ่อน้ำร้อน Outdoor และ Kids Room และพื้นที่ Sky Lounge

พร้อม Outdoor Terrace & Reflection Pond บนชั้น 41 ที่จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของกรุงเทพฯ ได้เกือบ 360 องศา ไม่ว่าจะรับลมเย็นๆ ในช่วงเช้า หรือปาร์ตี้เล็กๆ ในตอนกลางคืนก็จะได้เห็นสีสันของแสงไฟที่สวยงามอีกหนึ่งมุม

โดยราคาขายเฉลี่ยของคอนโดริมแม่น้ำในบริเวณใกล้ๆ กับเขต CBD ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 300,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไป โดยมีบางโครงการที่มีราคาขายมากกว่า 550,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งนับว่าเป็นศูนย์รวมของคอนโดระดับ Super Luxury อย่างแท้จริง บางโครงการมีจุดขายเพิ่มเติมในความเป็นโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส พร้อมการ Co-Branding กับแบรนด์โรงแรมชั้นนำระดับโลก เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในด้านมาตรฐานการบริการ

ซึ่งการเปิดตัวของ Asiatique The Riverfront ที่เป็นสถานที่ชอปปิ้งท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์มอลล์ชื่อดังระดับโลก (ที่ในอนาคตจะมีโครงการ Asiatique เฟสที่ 2 อยู่ฝั่งตรงข้าม Asiatique ปัจจุบัน และเฟสถัดไปที่อยู่อีกด้านของแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งเจริญนคร) ก็ทำให้โครงการคอนโดฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยากลับมาดูคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง

คอนโดริมน้ำหลายๆ แห่งเป็นเป้าสายตาให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่สัญจรทางแม่น้ำ สีสันแห่งวิถีชีวิตริมน้ำจึงค่อยๆ ทยอยกลับมาสู่ชีวิตคนกรุงดังเดิม เจริญกรุงในวันนี้เป็นย่านที่มีความหลากหลายในด้าน Lifestyle มาก มีการผสมผสานกันทั้งนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมผ่านไปมา คนในพื้นที่ที่อยู่อาศัยมาแล้วยาวนาน คนทำงานที่เพิ่งย้ายเข้ามาไม่นาน หรือชาวต่างชาติที่มาพักผ่อนระยะยาวริมแม่น้ำ เพราะเจริญกรุงมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยว วัด มัสยิด สถานที่ราชการ แหล่งชอปปิ้ง ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ร้านค้าแผงลอย อาคารพาณิชย์ บ้านเดี่ยว หอพัก อพาร์ทเมนต์ และคอนโดมิเนียม ถือว่าเป็นย่านที่รวมไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบไว้ในบริเวณเดียวกัน…ดังนั้นการได้เป็นเจ้าของคอนโดระดับ Luxury แบบ Freehold  ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีราคาต่อตรม.เพียงแค่ราวๆ 2 แสนกลางๆก็นับได้ว่าเป็นการถือครองทรัพย์สินที่พร้อมจะทวีมูลค่ามหาศาลได้มากขึ้นในอนาคต

และนี่คือทั้งหมดของโครงการ Menam Residences โครงการคอนโดหรูที่มอบจิตวิญญาณของการใช้ชีวิตริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ทุกวัน ความหรูหราเกินมาตรฐานของโครงการยังถูกการันตีด้วยรางวัลระดับชาติมากมายถึง 6 รางวัล ทั้งจากเวที Thailand Property Awards และ Asia Pacific Property Awards ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ติดแม่น้ำและยังใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานตากสิน เป็นคอนโดหรูริมแม่น้ำ Freehold เพียงหนึ่งเดียวในย่านเจริญกรุงและมีราคาดีที่สุดในตลาด ณ ปัจจุบัน สะดวกสบายด้วยที่จอดรถถึง 117% พร้อมกับพื้นที่ส่วนกลางแบบ Triple Facilities รวมถึงเดินไปถึง Asiatique The Riverfront ได้ภายในไม่กี่นาที ใกล้กับ CBD ทั้งสีลมและสาทร

Menam Residences จึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งคอนโดที่ในอนาคตจะยิ่งมีมูลค่าเพิ่มสูงมากขึ้น ไม่เฉพาะในหมู่คนไทย แต่ยังรวมไปถึงชาวต่างชาติที่มักจะนิยมชมชอบการสัญจรทางเรือ ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่ต้องสะดุดตากับโครงการที่เป็น Landmark แห่งนี้ ทุกครั้งที่แวะมายัง Asiatique The Riverfront