ใช้ชีวิตย่านพระราม 9 ท่ามกลางศูนย์ธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในกรุงเทพ ที่ Condolette Midst พระราม 9

ถ้าจะย้อนอดีตย่านแยกพระราม 9 ไปเมื่อ 25 ปีที่แล้ว เมื่อพ.ศ. 2534 ย่านพระราม 9 จะบูมมากเพราะมีห้างสรรพสินค้าที่ชื่อว่า “ไทยเยาฮัน” (Bangkok Yaohan No.1) เป็นอภิมหาโครงการยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นมาลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเยอะมากๆ ผู้ก่อตั้งอาณาจักรห้างเยาฮันก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคือ คัตสึ วาดะ เจ้าของชีวประวัติซีรี่ส์ละครญี่ปุ่นเรื่องราวชีวิตของ “โอชิน” ที่เราฮิตดูกันมาทุกรุ่นทุกคนนั่นเอง แต่ทว่าห้างเยาฮันในประเทศไทยก็ต้องประสบปัญหาดั่งชีวิตโอชินแล้วก็ถอนตัวออกไปเมื่อปี พ.ศ. 2540 จนกลายมาเป็น Fortune Town ที่รุ่งเรืองในปัจจุบัน

ห้างเยาฮันอยู่ตรงลูกศรสีแดง

ภาพจาก http://pantip.com/topic/30600171

ภาพแยกพระราม 9 ตั้งแต่ก่อนมีสะพานข้ามแยก ปัจจุบันที่ดินแปลงที่มีต้นไม้เยอะๆ ก็กลายเป็นโครงการคอนโดมิเนียมไปแล้วเรียบร้อย

ภาพจาก http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=hihacky&date=26-07-2014&group=24&gblog=5

ภาพด้านล่างนี้ถ่ายจากตึกฟอร์จูนทาวน์ เป็นพื้นที่ตรงข้ามห้างเยาฮันหรือ Fortune Town เคยเป็นที่ดินว่างเปล่าผืนใหญ่รอการพัฒนา

ภาพจาก http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=hihacky&date=26-07-2014&group=24&gblog=5

แต่เมื่อไม่นานมานี้ พ.ศ.2554 มีการลงทุนครั้งใหญ่จากกลุ่ม G Land และพันธมิตรต่างๆ เข้ามาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ บนที่ดินแปลงใหญ่ผืนนั้น ทำให้แผนที่่ภาพถ่ายดาวเทียมต้องเปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบนี้ครับ กลายเป็นโครงการต่างๆ ที่ต่อไปจะพาเดินดูครับว่ามีตึกอะไรกันบ้าง

ภาพข้างบนสื่อให้เห็นว่าปัจจุบันย่านแยกพระราม 9 ถือว่าเป็นย่านที่มีอัตราการเติบโตเร็วมากในทุกมิติการใช้งานทั้งอสังหาฯ เพื่ออยู่อาศัย (เขียว) อสังหาฯ พาณิชย์ (แดง) และการคมนาคมที่สะดวก (น้ำเงิน) มีจุดตัดจุดเชื่อมต่อของระบบคมนาคมอยู่รายล้อม ทำให้ย่านนี้มีความหนาแน่นของกิจกรรมการค้าสูงมาก รวมถึงมีสถานฑูตจีนตั้งอยู่ด้วย (เหลือง) ทำให้ย่านนี้เป็นอีกหนึ่งย่านที่ชาวจีนนิยมผ่านไปผ่านมาครับ

รถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9 เปิดให้ใช้บริการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 มาถึงวันนี้ก็ผ่านมา 12 ปีแล้ว ทำให้เห็นว่าระบบคมนาคมที่สะดวกทำให้ย่านต่างๆ ที่มีจุดตัด interchange มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วมากขึ้นเพราะดึงดูดจำนวนผู้คนและทำให้นักลงทุนทุกระดับหันมาสนใจลงทุน

รถไฟฟ้า MRT ที่แสนสะดวกสบาย รวดเร็ว ปลอดภัย แถมเปิดแอร์เย็นตลอดวันถูกใจคนไทย ถือเป็น facility สำคัญของย่านพระราม 9 ครับ

วันนี้ผมจะพาทุกท่านเดินเยี่ยมชมให้เห็นพัฒนาการที่ผ่านมาและโครงการในอนาคตของย่านพระราม 9 และจะพูดถึงที่อยู่อาศัยที่น่าสนใจในย่านพระราม 9 ด้วยครับ เพื่อให้เห็นภาพรวมของย่านนี้ครับ ตามมาดูกันเลย

ผมจะเริ่มพาเดินจากสถานีรถไฟฟ้า MRT พระราม 9 แวะดูป้ายทางออกก็เห็นได้ว่ามีสถานที่สำคัญและศูนย์ธุรกิจต่างๆ เช่น อาคารฟอร์จูนทาวน์ที่มีทั้งโรงแรม ออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้า เทสโก้โลตัสซูเปอร์มาเก็ต ตึกออฟฟิศทรูทาวเวอร์ ห้างเซ็นทรัลพระราม 9 ตึกออฟฟิศชำนาญเพ็ญชาติ เป็นต้น

ผมจะพาเดินเส้นทางแบบนี้ครับ เริ่มจากทางออกที่ 3 สถานีพระราม 9 แล้วเลี้ยวซ้ายจากถนนรัชดาภิเษกเข้าสู่ถนนพระราม 9 เดินผ่านตึกต่างๆ แล้ววนซ้ายออกรัชดาภิเษกแล้วจะเลี้ยวซ้ายพาเดินผ่านโครงการคอนโดมิเนียมต่างๆ บนถนนพระราม 9 อีกทีครับ

นี่คือแยกพระราม 9 ครับ

ที่สี่แยกจะมีG Land Tower กำลังก่อสร้าง เป็นอาคารสำนักงานระดับพรีเมียมสูง 26 ชั้นและ 36 ชั้น รูปร่างของอาคารโดดเด่นเห็นแต่ไกลเพราะเป็นตึกรูปตัว G (ถ้าดูจากอีกด้านจะคล้ายอักษร อ.อ่าง) ตึกแห่งนี้จะยกระดับให้ย่านพระราม 9 กลายเป็น New Central Business District (New CBD) แห่งใหม่ดึงดูดนักธุรกิจมาเปิดทำการที่นี่

แต่การเติบโตยังไม่หยุดแค่ตึก G Land Tower เพราะในอนาคตจะมีโครงการระดับ iconic building อย่าง The Super Tower สูงถึง 615 เมตร หรือครึ่งกิโลเมตรกว่าๆ (ถ้า EIA ผ่าน) ย่านใดที่มีอาคารสำนักงานจำนวนมากยิ่งทำให้ย่านนั้นมีตำแหน่งงาน มีเงินทุนหลั่งไหลเข้ามามาก ส่งผลให้กลายเป็นย่านการค้าเศรษฐกิจเติบโต

ภาพรวมของโครงการ ไล่จากซ้ายสุดคือ G Land Tower , Podium Super Tower 2, The Super Tower และ Unilever House

ภาพจาก: http://www.grandcanalland.com/commercial_thesupertower.php

Podium Super Tower 2 สูง 14 ชั้น กำลังก่อสร้าง (เขียนเมื่อ ส.ค. 2559)

หน้าตาอาคาร Podium Super Tower 2 ครับ

เดินต่อมามี Unilever House

ข้างในตึกมีร้านค้าต่างๆ เช่น McDonald’s, Starbucks Coffee, Au Bon Pain

ร้านขายยาก็มีครับ

ภาพถ่ายจากอาคาร Unilever House จะเห็นตึกสูงๆ ไล่จากซ้ายสุดคือ Condolette Midst Rama 9, Ideo Mobi Rama 9 และตึก G Land Tower

เดินออกจาก Unilever House ตรงมาทางทิศเหนือ จะพบกับโครงการในอนาคตคือ New World Grand Rama 9 Bangkok Hotel เป็นโรงแรม 285 ห้องพัก

โรงแรมดังกล่าวคาดว่าจะเปิดทำการปี 2018

ภาพจาก: http://www.grandcanalland.com/commercial_hotel.php

เดินถัดมาอีกหน่อยจะเป็นคอนโดมิเนียมรุ่นปู่ จดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 ชื่อ สยามคอนโดมิเนียม แต่ก่อนไม่ทาสีใหม่ แต่ปัจจุบันทาสีใหม่แล้ว

ตรงข้ามสยามคอนโดมิเนียมเป็น The 9 Towers มี 2 ตึก A และ B

ภายในอาคาร The 9 Tower มีบริษัทมากมายมาดำเนินธุรกิจภายในอาคารครับ

ด้านล่างตึกมีธนาคารกรุงเทพ

ธนาคารไทยพาณิชย์

ร้านกาแฟนั่งชิลๆ

และร้านอาหารสีฟ้า

จาก The 9 Towers ตึก B จะมีทางเดิน sky walk เชื่อมต่อเข้ากับ The Shoppes Grand Rama 9

เป็นศูนย์รวมร้านอาหารและไลฟ์สไตล์ ส่วนตึกสูงๆ ด้านบน The Shoppes จะเป็นคอนโดมิเนียม Belle Grand Rama 9 ครับ มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติรายได้สูงอยู่อาศัย

ภายใน The Shoppes Grand Rama 9 มีร้านอาหารต่างๆ คอยบริการสำหรับคนทำงานแถวๆ นี้ เช่น ร้าน Kaizen ร้าน Sukiya

ร้านอาหารจีน Grand Peking ร้านอาหารนานาชาติ Mix Restaurant & Bar

เดินมาจาก The Shoppes มุ่งหน้าออกสู่ถนนรัชดาภิเษกจะพบกับห้างสรรพสินค้า Central Plaza Grand Rama 9

ตรงข้าม Central Plaza เป็น Fortune Town ครับ

ตึกสูงที่ตั้งอยู่บนห้างคือ Central Plaza Grand Rama 9 Tower สูง 17 ชั้น มีร้านต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพ ความสวยความงาม สถาบันการศึกษาต่างๆ ที่เรียนพิเศษเสริมทักษะของเด็กๆ และชั้น 14-17 เป็นออฟฟิศของโรบินสันครับ

นอกจากค้าขายบนดินแล้วยังมีสถานที่ค้าขายใต้ดินที่ Metro Nine ภายในสถานีรถไฟฟ้า MRT พระราม 9 ด้วยครับ ช้อปปิ้งกันได้ทุกที่

บทสรุปของย่านพระราม 9

จากภาพต่างๆ ในปัจจุบันและภาพอนาคตโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบต่างๆ ที่ผมพาเดินชมวันนี้ ผู้เขียนขอฟันธง 100% ว่า ย่านพระราม 9 จะกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพและจะเติบโตสูงขึ้นมีอนาคตดีได้อีก ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น เป็นถนนเส้นเดียวกันที่เชื่อมต่อเข้าสู่ CBD ดั้งเดิมอย่างอโศกและมีรถไฟฟ้า MRT เชื่อมต่อเข้าสู่ย่าน CBD เก่าอย่างสีลม ได้ด้วยรถไฟฟ้าขบวนเดียวกัน ไม่ต้องเปลี่ยนขบวน นอกจากนี้เป็นทำเลที่ใกล้ทางด่วน ใกล้แอร์พอร์ตลิงค์สถานีมักกะสัน ซึ่งเคยถูกวางแผนให้เป็น CBD แต่โครงการยังติดขัดอยู่ แต่ก็ยังไม่หมดอนาคตซะทีเดียว ย่านพระราม 9 เชื่อมต่อตรงกับถนนรัชดาภิเษกซึ่งปัจจุบันเป็นทั้งย่านที่อยู่อาศัยแนวสูงที่มีคนจำนวนมากอาศัยอยู่ส่งผลให้เกิดห้างสรรพสินค้ารูปแบบต่างๆ ได้แก่ ห้างโรงหนังอย่าง Esplanade ห้างของกินอย่าง The Street ห้างสิ่งของในบ้านอย่าง HomePro และห้างของชำอย่าง Tesco Lotus และ Big C นอกจากนี้ยังมี Railway Bazaar Ratchadapisek หรือตลาดนัดรถไฟรัชดาสุดฮิตของนักท่องเที่ยวที่พักในโรงแรมต่างๆ ย่านรัชดาครับ ทำให้ย่านนี้ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและไลฟ์สไตล์ของคนกรุงและนักท่องเที่ยวผสมผสานเข้ากันและทุกโครงการทั้งเล็กใหญ่จะพากันจับมือดึงย่านพระราม 9 นี้ให้กลายเป็น Destination และเป็น CBD แห่งใหม่ในที่สุดครับ และแนวโน้มอาจจะเติบโตแซงหน้า CBD รุ่นเก่าในแถบอื่นเข้ามาอีกด้วยเพราะมีข่าวเกี่ยวกับการตบเท้าย้ายออฟฟิศของบริษัทใหญ่ๆ จากที่ดั้งเดิมย้ายมาแถบย่านรัชดาและพระราม 9 กันมากขึ้นครับ จึงสรุปได้ว่าย่่านพระราม 9 เป็นทำเลที่น่าลงทุนและน่าอยู่เพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนครับ

เมื่อพูดถึงความน่าอยู่ก็คงต้องพูดถึงโครงการคอนโดมิเนียมต่างๆ ที่รายล้อม New CBD แห่งนี้ครับ

โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ที่มีการออกแบบไลฟ์สไตล์น่าอยู่ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในแผนที่บริเวณสีเขียวครับ ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับอาณาจักร G Land ครับ

จากฝั่ง G Land Tower ข้ามถนนพระราม 9 ไป

เดินต่อมาอีก100 เมตรจะพบกับคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมอยู่แห่งใหม่ชื่อ Condolette Midst Rama 9 (ขอเรียกสั้นๆว่า Midst Rama 9) เป็นหนึ่งในโครงการของเครือ Pruksa RealEstate ยักษ์ใหญ่วงการอสังหาฯ ไทย คำว่า Midst แปลว่า “ท่ามกลาง” สื่อถึงว่าโครงการนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางความเจริญเติบโตของย่าน New CBD ด้วย location แห่งนี้ทำให้โครงการ Midst เป็นคอนโดมิเนียมสำหรับคนทำงานที่มีรายได้สูงย่านนี้ โครงการนี้ผู้พักอาศัยส่วนใหญ่เป็นคนไทยวัยทำงานอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป แต่ไม่ถึง 60 ปี นับว่าบรรยากาศโดยรวม เป็นคอนโดมิเนียมคนวัยทำงานรายได้สูงครับ นอกจากนี้ทำเลที่ตั้งของ Midst Rama 9 นั้นไม่เปลี่ยวเพราะมีแสงไฟจาก Max valu คอยช่วยส่องทางให้ ซึ่งแตกต่างจากบริเวณถนนอโศกระหว่างสี่แยกพระราม 9 กับทางด่วนตรงนั้นจะเปลี่ยวกว่า ข้อดีอีกประการของ Location นี้คือสามารถเดินข้ามถนนที่ทางม้าลายก็เดินเข้าตึก G Land Tower ในอนาคตได้เลยทันที จึงสะดวกมากสำหรับคนทำงานย่านนี้

ในภาพ Midst Rama 9 จะอยู่ตรงกลาง สถาปัตยกรรมของ Midst Rama 9 สื่อถึงความอลังการ จริงจัง แข็งแรง สุขุม คลาสสิก ไร้กาลเวลา แม้ในอนาคตหลายปีผ่านไปก็จะยังดูไม่ตกยุคเพราะออกแบบให้มีความเรียบง่ายแต่ไม่ราบเรียบ

อาคารสูงทางซ้ายคือคอนโดมิเนียมโครงการ Aspire Rama 9 และอาคารขวามือคือคอนโดมิเนียมโครงการ Ideo Mobi Rama 9

ระยะห่างระหว่าง Midst Rama 9 และ Ideo Mobi Rama 9 ถือว่ามีระยะที่ห่างกันมากพอสมควร และมีการออกแบบที่หลบเลี่ยงการปะทะระหว่างกันด้วย

ภายในโครงการ Midst Rama 9 มีพื้นที่วาง Daybed สำหรับพักผ่อนยามเย็น

เดินเปิดประตู Lobby เข้ามามี Sofa หลายขนาดคอยรองรับ ออกแบบให้มีความรู้สึกสุขุม เงียบสงบ มีแบบแผน ให้ความรู้สึกน่าเชื่อถือ

อีกมุมหนึ่งของ Lobby

Mailbox area ออกแบบอย่างมีแบบแผน

เดินเข้ามา Lift Lobby ออกแบบเส้นสายแบบเรียบง่ายแต่ไม่ราบเรียบ

ที่ Lift Lobby จะลดความมีแบบแผนลงโดยนำภาพจิตรกรรม และแจกันรูปร่างโค้งเพื่อลดทอนความแข็งให้อ่อนโยนลง

ภายในลิฟต์คำนึงถึงการออกแบบแนวคิดอารยสถาปัตย์ (Universal Design) สำหรับผู้พิการด้วย

กดลิฟต์ขึ้นมาชั้นพักอาศัยจะพบกับ Lift Lobby รูปแบบนี้ ถือว่ายังคงคอนเซปต์เดิมกับ Lift Lobby ชั้นล่าง ไม่แตกต่างกันมากนัก

โถงลิฟต์มีป้ายบอกชั้น ด้านข้างมีประตูหนีไฟ

เดินเข้ามาใน Corridor ยังคงรักษาคอนเซปต์การออกแบบเดิมไว้อยู่

ลักษณะของห้องพักอาศัยส่วนใหญ่ที่ยังมีขายอยู่ตอนนี้คือรูปแบบ One Bedroom 34.5 ตารางเมตร จุดเด่นของห้อง type นี้คือ ส่วน Kitchen มีบานกระจกกั้นเป็นสัดส่วน ช่วยลดเรื่องกลิ่นที่จะเข้าไปในส่วน Living แต่ด้วยการใช้กระจกใส ทำให้ไม่มืดทึบหรืออึดอัด สำหรับ Dining และ Living จะอยู่ในโซนต่อเนื่องกัน และยังเชื่อมต่อออกไปถึง Balcony ที่เป็น Double window บานหน้าต่างระเบียงสามารถเปิดปิดกันฝุ่นได้ ทำให้เราจะได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นโดยจะทำเป็นที่ตากผ้าหรือจะทำเป็นเก้าอี้นั่งทอดสายตาไปข้างนอกก็ได้ ส่วนพื้นที่ Bedroom จะเชื่อมต่อกับ Bathroom เพื่อความสะดวกเวลาก่อนนอนและตื่นนอนครับ

ประตูทางเข้าห้องมี Digital Door Lock แถมให้

เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบกับครัวก่อน เป็นการออกแบบใช้พื้นที่ทางเดินให้เกิดประโยชน์และยังสะดวกเวลาซื้อของกินเข้าบ้านไม่ต้องถือไกล เปิดประตูมาวางที่เคาน์เตอร์เอาเข้าตู้เย็นได้เลย

ภาพชุดครัวด้านซ้าย ประกอบไปด้วยอ่างล้างจาน ที่วางไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันระบบหมุนเวียน พื้นที่วางเครื่องซักผ้าและตู้เก็บภาชนะ

ฝั่งขวามือของรูป คือกระจกบานสไลด์สำหรับกั้นส่วนครัว

เครื่องดูดควันยี่ห้อ Franke

อ่างล้างจานแบบมุมเหลี่ยม อาจจะทำความสะอาดตามมุมยากหน่อย แต่จุได้เยอะ และดูทันสมัย

กลับหลังหันเป็นบริเวณเตรียมอาหาร ตู้เก็บของ ชั้นวางภาชนะและพื้นที่วางตู้เย็น

ผ่านห้องครัว จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ซ้ายเป็น Living room และขวาเป็น Bedroom ทั้ง 2 ส่วนจะมีระเบียงด้านนอกเชื่อมต่อกันได้

ห้องนั่งเล่นมีชั้นวางโทรทัศน์ แอร์ โซฟา ทางโครงการเลือกที่ทำผนังเพื่อวางแอร์ไว้ด้านหน้าต่างทำให้แสงจากข้างนอกส่องเข้าห้องให้น้อยลงช่วยลดความร้อนสะสม

พื้นที่ระเบียงสามารถใช้สอยได้สารพัดประโยชน์เพราะมี Double Window ปิดกันฝุ่นกันฝน หรือถ้าอยากระบายอากาศให้ลมพัดผ่านก็เปิดหน้าต่างด้านนอกสุดได้

หันขวาไปเป็นห้องวางเครื่องคอมเพรสเซอร์แอร์

หน้าต่างด้านนอกเป็นกระจกแบบ Floor to Ceiling บานใหญ่

เดินผ่านกลับมาแล้วหันไปดูมุมห้องนอนครับ ถ้าเราอยากให้ห้องดูกว้างก็ติดกระจกเงาเต็มผนังแบบนี้ก็ได้ครับ ในห้องนอนมีแอร์อีก 1 ตัว

จากห้องนอนเดินออกไประเบียงได้ มีหน้าต่างช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ ทำให้ห้องดูสดชื่น

มุมมองถ่ายจากระเบียงมองเข้าไปยังห้องนอน จะเห็นทางซ้ายเป็นตู้เสื้อผ้า และทางขวาเป็นประตูห้องน้ำ

บานประตูห้องน้ำมีมือจับเขาควายแบบนี้ครับ

การออกแบบห้องน้ำ กั้นส่วนเปียกส่วนแห้งด้วยกระจก Tempered บริเวณ Shower มีช่องวางขวดแชมพูให้เพียงพอ

ฝักบัวและก็อกน้ำร้อน น้ำเย็น สามารถติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนได้

โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ American Standard พร้อมที่ใส่ม้วนทิชชู่และสายชำระ

ปลั๊กไฟกันเปียกภายในห้องน้ำ สะดวกใช้เวลาต้องการไดร์เป่าผม

ตบท้ายห้องตัวอย่างด้วยภาพสวยๆ อีกครั้งครับ

สรุปภาพรวมของห้องรูปแบบ One Bedroom 34.5 ตารางเมตร เป็นรูปแบบห้องที่เหมาะกับคนวัยทำงานที่มักจะกินข้าวนอกบ้านหรือซื้ออาหารสำเร็จรูปมาทาน เป็นรูปแบบที่เหมาะกับการพักผ่อนทั้งบนโซฟาและบนเตียง เพราะเป็นห้องเชื่อมต่อกัน สามารถดูโทรทัศน์จากบนเตียงร่วมกับอีกคนที่นั่งบนโซฟาก็ได้ จุดเด่นคือระเบียงอเนกประสงค์ที่ใช้ประโยชน์ได้มากกว่าตากผ้า เป็นการออกแบบให้มี multi-function และยังทำให้ภาพลักษณ์ภายนอกของตึกดูเป็นระเบียบเรียบร้อยอีกด้วย รูปแบบห้องแบบนี้เหมาะกับการพักผ่อนในวันทำงานได้ดีครับ

ที่ชั้น 30 แล้วเดินขึ้น Rooftop จะเป็น Sky Garden

มี Rooftop Patio เป็นลานนั่งเล่นรับลมดูวิวยามเย็นและค่ำคืน อนาคตจะมองไปเห็นตึก The Super Tower และตึก G Land Tower ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามโดดเด่น

รับลมชมวิวหันไปทางตึกใบหยกก็ได้

เก้าอี้นั่งชมวิว คอนเซปต์เหมือนนั่งริมหน้าต่างของบ้านยักษ์

พื้นที่ตรงนี้สามารถประยุกต์เป็นลานการแสดงเล็กๆ น้อยๆ ได้ หรือจัดงานปาร์ตี้บนชั้นดาดฟ้าก็ทำได้โดยการขออนุญาตใช้พื้นที่กับนิติบุคคลฯ

บริเวณนั่งชมวิวบน Sun Lounger

ต่อไปจะมาชม facility อื่นๆ อย่าง Gym , Pool และ Meeting room ที่ชั้น 8 ครับ

เริ่มที่ Gym มีอุปกรณ์ครบทั้งลู่วิ่ง จักรยาน ห้องขนาดไม่ใหญ่มากนักทำให้รู้สึกถึงความ Cozy

ดัมเบลล์

Meeting room / Muti-purpose Room ริมสระว่ายน้ำ ใช้นั่งทำงาน นั่งคุยแบบเพลิดเพลินได้ การตกแต่งดูคลาสสิก จริงจัง ขึงขัง

Meeting room / Muti-purpose Room มีบริเวณผ่อนคลายอยู่ด้วยกัน

เตียงอาบแดด นั่งพักผ่อนยามเย็นให้ความเย็นของสระว่ายน้ำพัดเข้าหาตัวได้

สระว่ายน้ำมีขนาดไม่ใหญ่ ให้ความรู้สึกส่วนตัว ผ่อนคล้าย เงียบสงบ  ดูหลบซ่อนจากความวุ่นวาย ไม่ใช่สระว่ายน้ำใหญ่ที่ตั้งอกตั้งใจว่าย แต่เป็น Relax pool มากกว่า

นอกจากนี้ยังมี Jacuzzi pool ช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานด้วย

มีบางยูนิตที่อยู่ชิดกับสระว่ายน้ำเลยครับ แต่ขายหมดแล้ว

Midst Rama 9 กับจุดเด่นที่แตกต่างในราคาที่คุณจับต้องได้

Midst Rama 9 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมแต่งครบ Fully Furnished เพิ่งสร้างเสร็จพร้อมอยู่ล่าสุดเพียงโครงการเดียวบนถนนพระราม 9 เหมาะกับคนที่ต้องการพักอาศัยตั้งแต่วันนี้ทันทีไม่ต้องรอโครงการอื่นๆ ที่กำลังก่อสร้างครับ ยูนิตที่ยังมีขายเหลืออยู่น้อยเต็มทีแล้วครับ คงต้องรีบกันหน่อย ตอนนี้จะมียูนิตรูปแบบ 34.58 ตารางเมตรซึ่งมีจุดเด่นของห้องคือมีระเบียงเอนกประสงค์พร้อมฟังก์ชั่น Double Window มาพร้อมกระจกแบบ Full Height รับวิวกลางคืนได้เต็มตา Midst  Rama 9 มี Lobby แบบ Triple Volume ทำให้ภาพลักษณ์ของคอนโดมิเนียมดูโอ่โถงสไตล์ Exclusive Elegant ใช้รับแขกหรือทำงานแบบไม่ทางการในวันพักผ่อนได้ Midst Rama 9 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมน่าอยู่เหมาะกับคนวัยทำงานที่ทำงานแถวอโศก รัชดาภิเษก และเหมาะที่สุดสำหรับคนทำงานย่านพระราม 9 ที่ทำงานบริเวณ New CBD เพราะ Midst Rama 9 ตั้งอยู่ตรงข้ามอาณาจักร G Land แค่เดินข้ามถนนก็ถึงแล้ว และสามารถเดินขึ้นไปชมทิวทัศน์รอบเมืองเทพหรือจะย่าง BBQ ที่ Rooftop Patio หรือจะนั่งชมทิวทัศน์ The Super Tower ตึกที่สูงที่สุดของประเทศไทยในอนาคตที่บริเวณ Swimming Pool และ Jacuzzi Pool ก็ได้เพราะเป็นสระว่ายน้ำแบบ See Through สามารถมองทะลุกระจกทอดอารมณ์ผ่อนคลายความเครียดจากงานหนักทั้งวันได้ นอกจากนี้ปัจจัยเรื่องความใกล้ออฟฟิศระดับ A Class หลายอาคาร ใกล้โรงแรม ห้างสรรพสินค้า สิ่งอำนวยความสะดวก และใกล้สถานีรถไฟฟ้าเพียง 200 เมตรทำให้ Midst Rama 9 เหมาะกับการซื้อไว้เพื่อปล่อยเช่าพนักงานออฟฟิศที่มีรายได้สูง เหตุผลและจุดเด่นต่างๆ เหล่านี้ทำให้ Midst Rama 9 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่น่าสนใจในตอนนี้ครับ

นอกจากนี้ Midst Rama 9 ยังนับว่าเป็นโครงการใหม่แห่งเดียวในย่านพระราม 9 จุดที่ใกล้ New CBD มากที่สุด ที่มียูนิตเหลือขายพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที เพราะโครงการอื่นๆ รอบข้างอย่าง Rhythm Asoke 1-2 นั้นยังสร้างไม่เสร็จ นอกจากนี้ Midst Rama 9 เป็นโครงการระดับพรีเมียม ที่มีราคาคุ้มค่าที่สุดในย่านพระราม 9 ครับ โดยถ้าเทียบกันกับโครงการใกล้เคียงที่กำลังก่อสร้างอย่าง Rhythm Asoke 1-2 รวมถึงโครงการมาใหม่อย่าง The Line Asoke-Ratchada ซึ่งในตอนนี้ ราคาก็ยังสูงกว่า Midst Rama 9 พอสมควร โดยที่ทำเล Midst Rama 9 นั้นดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด นั่นหมายความว่าโครงการนี้ยังมีโอกาสที่จะทำราคาเพิ่มได้มากกว่านี้อีกในอนาคต

ดังนั้นการเลือกซื้อ Midst Rama 9 ตั้งแต่วันนี้จะได้ราคาที่สมเหตุสมผลมากกว่า และได้ประโยชน์จากการไม่ต้องเอาเงินไปจ่ายดาวน์ไว้ก่อน แต่สามารถกู้ซื้อแล้วปล่อยเช่าให้มีรายได้ได้ทันที นอกจากนี้ Midst Rama 9 จะมีภาษีเรื่องทำเลมากกว่า Rhythm Asoke 1-2 เพราะ Midst Rama 9 ตั้งอยู่ใกล้สี่แยกมากกว่า มีร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงให้บริการพร้อมไฟส่องทางเดินที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย นอกจากนี้ถ้านำ Midst Rama 9 ไปท้าชนกับโครงการเปิดใหม่ในย่านพระราม 9 อย่าง The Line Asoke- Ratchada  (แต่จริงๆ ตั้งอยู่บนถนนดินแดง) จะทำให้ยิ่งเห็นความคุ้มค่าของราคา Midst Rama 9 มากครับเพราะแค่ราคาของ Midst ปัจจุบันก็ถูกกว่าราคาเปิดตัวของ The Line Asoke- Ratchada มากถึง 30% ไปแล้วครับ แต่ถ้าเทียบกับราคา The Line Asoke-Ratchada ตอนสร้างเสร็จในอนาคต จะทำให้ Midst Rama 9 ถูกกว่ามากถึง 50% ครับ เพราะแค่ตอนนี้ราคาซื้อขายจริงของ The Line Asoke-Ratchada ก็สูงถึง 200,000 บาทต่อตารางเมตรสำหรับชั้นสูงๆแล้วครับ

โครงการ Midst Rama 9 จึงเหมาะมากกับคนที่ซื้อเพื่ออยู่เอง และต้องการหวังผลกำไร Capital Gain ขายต่อในอนาคต นอกจากนี้ยังเหมาะกับนักลงทุนรายย่อย สายปล่อยเช่า เพราะในอนาคตดีมานด์การเช่าที่ย่านพระราม 9 จะเป็นที่ต้องการมากขึ้นกว่าเดิมในปัจจุบัน เนื่องจากใกล้ New CBD มาก และอาคารสำนักงานแต่ละอาคารก็กำลังทยอยสร้างเสร็จตามๆ กัน ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมอยากให้ผู้อ่านลองศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบราคาจากภาพประกอบด้านล่างได้ครับแล้วลองพิจารณาว่าตัวเราเหมาะกับโครงการใดในย่านพระราม 9 กันแน่

หากใครชอบคอนเซปต์การออกแบบ การตกแต่ง ทำเล สนใจสอบถามราคา และยูนิตที่ขายในโครงการ Midst Rama 9 ก็สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานขายใน Lobby ชั้น 1 ของโครงการพร้อมดูห้องจริง ที่คุณจะได้เห็นบรรยากาศจริงทันที โดยไม่ต้องดูแค่ในกระดาษครับ ผู้เขียนไปเยี่ยมชม เห็นโลเคชั่น เห็นคอนเซปต์การออกแบบแล้วยังอยากได้เก็บไว้สักหนึ่งห้อง แต่เสียดายงบหมดแล้ว คงต้องรออีกสักพักครับ (ฮา) ขอให้ทุกคนได้พักอาศัยในสถานที่ที่ใช่สำหรับคุณและมีความสุขกับการพักผ่อนครับ…