Wellness Real Estate เมื่อสุขภาพกลายเป็นแรงขับเคลื่อนใหญ่ของเมือง อสังหา และการใช้ชีวิตยุคใหม่
ในงาน PropertyGuru Asia Real Estate Summit 2025 (ARES 2025) เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2025 ในวงเสวนาเรื่อง WellnessThe Wellness Edge:Transforming Communities พูดถึงเทรนด์ wellness ในบริบทของอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม สะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงสำคัญของวิถีชีวิตยุคใหม่ จากการมองสุขภาพแบบรักษาเมื่อป่วย สู่การมองสุขภาพเป็น “ประสบการณ์” และ “การลงทุนระยะยาว” ที่กำลังเปลี่ยนแนวทางทั้งการพัฒนาโครงการอสังหาฯ การท่องเที่ยว และความหมายของการอยู่อาศัยในเมืองใหญ่ของเอเชีย
ทีมงาน Propholic ขอสรุปเป็นหลายประเด็นย่อยจากการเสวนาดังนี้
1. ความหมายใหม่ของ Wellness สุขภาพไม่ใช่แค่ไม่ป่วยอีกต่อไป
ผู้ร่วมเสวนาเสนอภาพของ Wellness ที่ลึกกว่าแค่สุขภาพกาย
คุณ Kevin Tai (นักกายภาพบำบัด) มองว่า wellness คือความสมดุลของกาย ใจ อารมณ์ และสังคม และถูกหล่อหลอมอย่างมากจาก “สภาพแวดล้อม” ที่เราอยู่
คุณ Christine Li (หัวหน้าวิจัย Knight Frank APAC) เน้นว่า Wellness คือ “การแสวงหาอย่างกระตือรือร้น” ในการดูแลตัวเองทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และวิถีชีวิต
คุณ Pim (นักจิตวิทยาจาก Pimchology) ให้ความสำคัญกับความสมดุลทางอารมณ์และจิตใจในชีวิตที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ
คุณ Dino Sukosol (ผู้บริหารโรงแรม Sukosol) ขยายความว่า Wellness ในโลกโรงแรมต้องเป็น “ประสบการณ์” ที่มีความหมาย ไม่ใช่กิจกรรมสวยหรูเพียงเพื่อทำตามเทรนด์
2. ทำไม Wellness ถึงกลายเป็นเทรนด์ใหญ่ในอสังหาริมทรัพย์?
1) เพราะการเติบโตทางรายได้และการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน
Christine วิเคราะห์ว่า ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นและความสนใจด้านสุขภาพแบบป้องกัน (Preventive) ทำให้ผู้บริโภคยอมจ่ายมากขึ้นเพื่อสุขภาพของตัวเอง จากอุตสาหกรรมที่เคยต้องรอให้ป่วยก่อนค่อยดูแล กลายเป็นตลาดที่โตปีละกว่า 10% และมุ่งหน้าไปสู่มูลค่า 900,000 ล้านดอลลาร์ (28.8 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2028
2) เพราะสังคมสูงวัยและความอยากมีอายุยืนแบบมีคุณภาพ
ประชากรที่กำลังแก่ตัวทั้งในประเทศพัฒนาแล้วและเอเชียเกิดใหม่ ทำให้ผู้ซื้อบ้านมองหาโครงการที่ตอบโจทย์ด้านคุณภาพชีวิต เช่น โภชนาการ การออกกำลังกาย และสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับผู้สูงวัย
3. Wellness ในโรงแรม จากสปาหรู สู่ประสบการณ์ที่มี story
Dino จากโรงแรม Sukosol อธิบายว่าการเพิ่ม Wellness ในโลกการท่องเที่ยวต้อง “มีความหมายจริง” เช่น การสอนทำอาหาร plant-based เป็นหลักโดยเริ่มจากการพาลูกค้าไปเลือกวัตถุดิบที่ตลาด นอกจากนี้ยังมีคลาสมวยไทยที่เริ่มจากการฟังเรื่องราวชีวิตของแชมป์โลกก่อนจะเริ่มฝึก
ลูกค้าไม่ได้ต้องการ “กิจกรรม” แต่ต้องการ “ความเชื่อมโยง” และ “ความลึกซึ้ง” ของประสบการณ์




