“SPACE MAKES POSSIBLE” คือสโลแกนของแคมเปญเปิดตัวโครงการคอนโดล่าสุด ที่ทาง Origin ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯที่มีการเติบโดมากที่สุดของเมืองไทย นำมาใช้กับโครงการ KNIGHTSBRIDGE ใหม่ทั้ง 3 โครงการ ด้วยความหมายที่สื่อโดยนัยว่า นี่คือคอนโดที่ให้ “Space” ที่มากกว่า และยังเป็นคอนโดระดับ Spaceship ที่พร้อมพา Origin พุ่งทะยานสู่จักรวาลอันกว้างใหญ่  สมดั่งเป้าหมายของ Origin คือ การก้าวมาเป็น Top 3 Developer ของเมืองไทย… โดย Origin เริ่มต้นปี 2018 นี้ด้วยการไปสู่จักรวาล ปล่อย 2 โครงการ KNIGHTSBRIDGE SPACE บนทำเลยอดฮิตทั้ง 2 ทำเล กับอีก 1 โครงการ KNIGHTSBRIDGE COLLAGE บนทำเลถนนสุขุมวิทส่วนต่อขยายช่วงแบร์ริ่ง ออกมา

สำหรับคนที่มองหาคอนโดตั้งแต่ช่วงปีที่แล้วเป็นต้นมา เชื่อว่าชื่อของ Origin คงไม่ใช่ชื่อที่แปลกหูอีกต่อไป ยิ่งสำหรับคนในวงการอสังหาฯ กลายเป็น  Developer ที่ต้องจับตาดู เพราะมีข่าวให้เราอัพเดทไม่ขาดช่วงตลอดปี เรียกว่าข่าวเก่าซาก็มีข่าวใหม่เข้ามาทันที

แรงไม่หยุด ORIGIN ลุยอสังหาฯ ครบวงจร

เรามาย้อนรอยความสำเร็จกันว่า จาก Developer เจ้าถิ่นคอนโด Economy ในชายขอบกรุงเทพในอดีตอย่าง แถวอ่อนนุช – แบริ่ง กลายมาเป็นดาวรุ่งพุ่งกระฉูดของวงการอสังหาฯ ในวันนี้ได้อย่างไร

หลังจากเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ปี 2558 ในชื่อ ORI หนึ่งในกุญแจความสำเร็จที่ถูกต้องที่สุดของ Origin คือ การใช้กลยุทธ์ Celebrity Marketing ดึง ณเดชน์ คูกิมิยะ มาเป็น  Brand Ambassador สิ่งสำคัญที่ Origin ได้จากณเดชน์  ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงและฐานแฟนคลับ  แต่เป็นภาพลักษณ์ของณเดชน์ ที่ Mass ทุกคนรู้จักณเดชน์ และผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ที่ณเดชน์เป็นพรีเซนต์เตอร์ มักเป็นผลิตภัณฑ์ที่ติดตลาดอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังได้ ความพรีเมี่ยมแบบคนรุ่นใหม่ที่ดูเข้าถึงได้ไม่ยาก เหมือนกับเหมือนกับคุณภาพและราคาของคอนโด

ตามมาด้วยการเข้าซื้อกิจการของ พราวด์ เรสซิเดนซ์ ผู้พัฒนาโครงการ Park 24 ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการดีไซน์ และการพัฒนาคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ สามารถขยายตลาดไปจับลูกค้าระดับบนและกลุ่มต่างชาติ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ เป็นการเสริมความพร้อมในการแข่งขันแย่งชิงตลาดอสังหาฯทุกระดับ แต่เหตุการณ์พีคที่สุดของ Origin ในปีที่แล้ว คือการประกาศร่วมทุนกับโนมุระ เรียล เอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ (Nomura Real Estate Development) บริษัทอสังหาฯ ที่มีส่วนแบ่งการตลาดติดอันดับ Top 3 ของญี่ปุ่น เหมือน Developer หลายเจ้าก่อนหน้า ซึ่งจะได้ทั้งเงินทุนและโนว์ฮาวมาเสริมความแกร่ง ส่งท้ายปีด้วยการซื้อ อารีน่า 10 ที่ดินใจกลางทองหล่อ ของคุณตัน เตรียมผุดคอนโดหรูภายใต้แบรน Park

สำหรับปี 2561 Origin วางเป้ายอดขายไว้ที่ 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ราว 43% เป้ารายได้ที่ 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ราว 67% และเตรียมเปิดโครงการใหม่ 14 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 10 โครงการ มูลค่า 26,000 ล้านบาท และโครงการบ้านแนวราบ 4 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาท โดยเน้นขยายการลงทุนบ้านแนวราบ ในแถบกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)

นอกจากนี้ยังมี 3 โครงการมิกยูส ภายใต้คอนเซ็ปต์ “พาร์ค ออริจิ้น คอมเพล็กซ์” บน 3 ทำเลศักยภาพ พร้อมพงศ์ ทองหล่อ และพญาไท เพื่อให้ครอบคลุมอสังหาฯทุกประเภท โดยธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียน อย่าง โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ สำนักงานเช่า คอมมูนิตี้มอลล์ จะเป็นตัวช่วยสร้างการรับรู้รายได้อย่างยั่งยืน รองรับทุกสภาพเศรษฐกิจ ร่วมกับโนมูระดึงเชนโรงแรมเครืออินเตอร์คอนติเนนตัล เปิดตัวแบรนด์ใหม่ Staybridge Suites ประเดิมที่แรกในซอยสุขุมวิท 55

ส่องไม้เด็ด ORIGIN ดันดีไซน์ DUO SPACE

ปัจจัยที่ทำให้ Origin ก้าวขึ้นมาเป็น Top 5 ได้ในระยะเวลาอันสั้น คือ Strategic Business Plan แผนกลยุทธ์ธุรกิจ โดยปีนี้ Origin เน้นไปที่ Segment กลุ่มบนที่มีกำลังซื้อสูง และมีแนวโน้มการชำระเงินที่ดี อย่างกลุ่มผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ แบบ Work hard Play hard ซึ่งแตกต่างจากคนรุ่นก่อน มีต้องการอะไรที่ฉีกไปจากกฎเกณฑ์แบบเดิมๆ

นอกนี้ยังสร้าง Uniqueness  การฉีกกรอบตลาด ออกแบบอะไรใหม่ๆ อย่าง Layout ห้องเพดานสูง ในคอนเซปต์ ‘DUO SPACE’ ออกแบบเพดานสูง 4.2 เมตร ทั้งโครงการ  ตอบโจทย์คนอยู่คอนโดกลางเมืองที่มีครอบครัว หรือต้องการพื้นที่ใช้งานเพิ่ม ในขณะที่เจ้าอื่นพยายามลดพื้นที่ให้เล็กลง เพื่อให้ราคาสามารถแข่งขันในตลาดได้ ORIGIN กลับพยายามทำให้พื้นเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองการใช้งานจริง เช่นเดียวกัน การทำยูนิตสูง 4.2  เมตร ที่หาไม่ได้ในคอนโดทั่วไป สิ่งสุดท้ายที่สำคัญสุด คือ Location is the Best โดย 3 คอนโดใหม่ที่ปล่อยออกมา จะอยู่ในทำเลที่เป็นมีศักยภาพสูง ใกล้รถไฟฟ้า BTS และ MRT นอกจากทำเลของ ORIGIN  จะขยับเข้าใกล้มาอยู่ใจกลางเมืองขึ้นมากขึ้น  แต่ละโครงการยังขยับเข้าใกล้สถานีรถไฟฟ้ามากกว่าเดิม

ORIGIN เลือกใช้แบรนด์ Flagship อย่าง KNIGHTSBRIDGE ที่ปล่อยออกมาทีเดียว 4 โครงการรวดปีก่อน และทำผลงานได้เป็นอย่างดี ลงสนามเป็นทัพแรก

KNIGHTSBRIDGE เป็นแบรนด์ที่มีพัฒนาการตามการเติมโตของ ORIGIN โดยปีนี้มีการจับเอาจุดเด่นในเรื่องของ Design & Space มาเป็นตัวกำหนดทิศทางในการพัฒนาโครงการภายใต้คอนเซปท์ The Revolutionary of Living

สถาปนิกทุกคนจะคุ้นเคยกับคำว่า  “Space”  หรือ “ที่ว่าง” สมัยที่ผมเรียน หนึ่งในสิ่งแรกๆ ที่อาจารย์สอน คือ สิ่งที่เราต้องออกแบบจริงๆ แล้ว คือ Space  ขณะที่สิ่งที่คนทั่วไปเห็นภายนอกคือเปลือกอาคาร อย่าง ผนัง เพดาน พื้น ซึ่งทำให้เกิด Space ขึ้น และ Space เป็นสิ่งที่คนเข้ามาใช้งานจริงๆ ดังนั้นการออกแบบ Space จึงสำคัญแบบนี้ที่ไม่ควรละเลย

Origin สร้างความแตกต่างด้วยการออกแบบ Space ทั้งภายในและภายนอกให้มีความเชื่อมโยงต่อเนื่องกันทุกมิติ ถ้านึกถึงคอนโดแล้วยังติดภาพยูนิตที่ แต่ละห้องตัดขาดจากพื้นที่อื่น ขอให้ลืมภาพนั้นไปก่อน Origin ได้สร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ ด้วย 4 แนวคิดการออกแบบ Space 3 มิติ โดยเฉพาะมิติความสูงที่พิเศษกว่าคอนโดทั่วไป

ไม่ว่าจะเป็น Vertical Space การใช้งานพื้นที่แนวตั้งให้มีประโยชน์สูงสุด เพราะพื้นที่เป็นสิ่งที่มีจำกัด อะไรที่ซ้อนกันได้ก็เอามาซ้อนกัน คล้ายกับการที่ที่ดินมีจำกัด จึงต้องเอาบ้านหลายๆหลังมาซ้อนกันเป็นคอนโด

Value Space การเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในห้องให้สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า แบบไม่เคยปรากฏมาก่อน (อันนี้ต้องมารอดูกันว่าคำว่า “ไม่เคยปรากฏมาก่อน” จะออกมาเป็นยังไง)

More Space การออกแบบให้ผู้อยู่อาศัย ใช้ชีวิตในพื้นที่ต่างๆ ได้มากขึ้น ทั้งพื้นที่ภายในห้อง รวมถึงพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ

และแนวคิดสุดท้าย Flow Space การเชื่อมต่อพื้นที่ภายในและภายนอกอาคารด้วยการออกแบบ Space ที่มีการเล่นระดับ สร้างความเชื้อเชิญให้เดินไปทำกิจกรรมยังพื้นที่ต่างๆ

จาก 4 แนวคิดนำไปสู่ Duo Space ห้องเพดานสูง ซึ่งเราจะได้ห้องเปิดโล่ง กว้างสบายไม่อึดอัด เพดานสูงช่วยทำให้ห้องดูหรู มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น และยังเพิ่มการมองเห็นวิวมากกว่าห้องรูปแบบเดิมๆ

3 KNIGHTSBRIDGE ทะยานสู่จักรวาล

ORIGIN ปล่อย 3 คอนโดใหม่บนทำเลสุดฮอต  KNIGHTSBRIDGE Space พระราม 9,   KNIGHTSBRIDGE Space รัชโยธิน และ KNIGHTSBRIDGE Collage สุขุมวิท 107 ในคอนเซปต์ “SPACE MAKES POSSIBLE” ให้พื้นที่ที่มากกว่ากับดีไซน์  “Duo Space” การออกแบบ  Lay out สไตล์เพดานสูง 4.2 เมตร ไม่ใช่แค่ยูนิตพิเศษ แต่เป็นทั้งโครงการ

KNIGHTSBRIDGE Space Rama 9

คอนโดสูง 28 ชั้น จำนวน 325 ยูนิต ห่างเพียง 350 เมตร จาก MRT พระราม 9 และเพียง 1 สถานี ถึง MRT เพชรบุรีที่เชื่อมต่อ Airport Link

ทำเลพระราม 9 เป็นทำเลร้อนแรง ขนาดที่ถ้า Developer เจ้าไหนยังไม่มีผลงานบนทำเลนี้ อย่าเพิ่งเรียกตัวเองว่า Developer  แถวหน้า ให้ถอยหลังกลับไปก่อน เนื่องจากเป็น New CBD ที่มีศักยภาพในการพัฒนาสูง ใกล้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, AIA Capital Center และ The Super Tower ที่จะกลายเป็นตึกที่สูงที่สุดในอาเซียน และยังเชื่อมกับย่านอโศกที่มีออฟฟิศขึ้นอยู่หนาแน่น ขณะที่กลางคืนก็กลายเป็น  Night light city  ทำให้ชีวิตราตรีมีไม่มีเหงา จะ Play hard แค่ไหนก็กลับมานอนแล้วไป Work hard วันต่อไปได้สบายๆ ใกล้แหล่งช้อปปิ้งอย่าง เซ็นทรัลฯพระราม9 ฟอร์จูน มีทางด่วนพระราม 9 ทำให้การเดินทางเข้า – ออกเมืองสะดวก

ราคาเฉลี่ยคอนโดในย่านนี้อยู่ที่ 120,000 – 250,000 บาท/ตร.ม. มารอดูกันว่าราคาของ  KNIGHTSBRIDGE Space Rama 9 ว่าจะเป็นยังไง

Origin ใช้แนวคิด Hidden Gems เชื่อมโยง Space กัน เหมือนแสงจากหมู่ดาวหรืออัญมณีบนพื้นดินที่ส่องประกายในความมืดมิดร้อยเรียงกันเกิดเป็นเส้นสายที่ไหลลื่น

KNIGHTSBRIDGE Space รัชโยธิน

ต่อยอดความสำเร็จจาก KNIGHTSBRIDGE Prime รัชโยธิน ที่เปิดตัวปีก่อน โดยส่งตัว KNIGHTSBRIDGE Space รัชโยธิน ตอบสนองความต้องการที่ยังมีอยู่ทันที ด้วยคอนโด 33 ชั้น จำนวน 488 ยูนิต ติด BTS พหลโยธิน 24 ใกล้ MRT และ Monorail สายสีเหลือง

KNIGHTSBRIDGE Space รัชโยธิน

ต่อยอดความสำเร็จจาก KNIGHTSBRIDGE Prime รัชโยธิน ที่เปิดตัวปีก่อน โดยส่งตัว KNIGHTSBRIDGE Space รัชโยธิน ตอบสนองความต้องการที่ยังมีอยู่ทันที ด้วยคอนโด 33 ชั้น จำนวน 488 ยูนิต ติด BTS พหลโยธิน 24 ใกล้ MRT และ Monorail สายสีเหลือง

เราจะเห็นแนวคิด Flow space ในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการนี้ โดย ORIGIN ได้ทำลายกำแพงของพื้นที่ต่างๆออกไป กลายเป็น Borderless space

FLOW GREEN SPACE /FEEL THE BEST PLACE

โครงการเชื่อมโยงทุกพื้นที่เข้าด้วยกันโดยเฉพาะพื้นที่สีเขียวเริ่มตั้งแต่ Landscape Corridor ก่อนเข้าอาคาร เมื่อเข้ามาใน Lobby จะมองเห็น Garden Lobby View ที่มี Water Feature โดยใช้เส้นสายของธรรมชาติเชื่อมโยงกับสวนด้านหลังที่เป็น Co-living garden สามารถพักผ่อนหรือนั่งทำงานชิลๆ ในสวนที่ร่มรื่นตลอดวัน เพราะได้ร่มเงาจากอาคารและต้นไม้ใหญ่ในสวน นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับ Co-working space ภายในอาคารอีกด้วย

SWIMMING POOL WITH HYDROTHERAPY

สระว่ายนํ้า L Shape ว่ายต่อเนื่องได้ยาวถึง 37 ม. ออกแบบให้เชื่อมต่อกับ Facilities หลักของโครงการ สามารถว่ายชมวิวได้โดยรอบ มีโซนว่ารีบำบัดที่มีทั้ง Water spout และ Jacuzzi ช่วยผ่อนคลายเวลาเล่นน้ำ และสำหรับคนที่อยากนอนอ่านหนังสือรับลมชิลๆ แต่ไม่อยากให้ตัวเปียก ก็มีโซนที่นั่งพักผ่อนริมสระไว้ให้

ROOFTOP GARDEN WITH CHILL CORNER

วิวสวนชั้นดาดฟ้าเป็นสิทธิพิเศษเฉพาะคนที่อยู่คอนโด High rise ซึ่งคนอยู่บ้านและคอน Low rise ไม่มี โครงการเห็นความสำคัญของจุดนี้ จึงดีไซน์ให้เป็นสวนสีเขียวที่มีจุดนั่งพักแทรกตัวอยู่ โดยคำนึงถึงเรื่องความ Flow ของ Space สามารถเดินชมวิวได้รอบ นอกจากนี้ยังเพิ่มความพิเศษด้วย Sunset amphitheatre  ที่เราสามารถนั่งทานอะไรระหว่างชมพระอาทิตย์ตกได้

KNIGHTSBRIDGE Collage สุขุมวิท 107

คอนโด 28 ชั้น 304 ยูนิต พร้อม 1 ชอปเฮ้าส์  ที่มาพร้อม พื้นที่ส่วนกลาง More Space เชื่อมต่อเนื่องกัน ถึง 4 ชั้น ตอกย้ำความเป็นเจ้าถิ่นอีกครั้งบนทำเลอ่อนนุช – แบริ่ง ORIGIN ได้ปล่อยคอนโดแบรนด์ KNIGHTSBRIDGE Collage โครงการที่ 2 ต่อยอดความสำเร็จจาก KNIGHTSBRIDGE Collage รามคำแหง ที่ปล่อยมาปีก่อน บนทำเล สุขุมวิท107 ใกล้ BTS แบริ่ง เพียง 300 เมตร

พร้อมกับ ไฮไลท์ คอนเซปต์ ‘‘SPACE CONNECT’’  ที่

เชื่อมต่อการเดินทางอย่างสะดวกสู่ใจกลางเมือง ด้วย BTS

เชื่อมต่อ พื้นที่ส่วนกลางที่ให้มากกว่าด้วย Facility บน Roof Top อาคารที่เชื่อมต่อกัน ถึง 4 ชั้น

เชื่อมต่อ ความสะดวกสบายของชีวิต กับ เทคโนโลยี ได้อย่างลงตัว กับ Home Automation และ Automatic Parking

อย่างที่รู้กันว่าทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียวเส้นสุขุมวิท ถือเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมสูงสุดอยู่แล้ว เพราะเป็นรถไฟฟ้าสายแรกที่มีจำนวนผู้ใช้งานต่อวันสูงและยังเดินทางเข้ามาแหล่งงานในทำเล CBD อย่าง เพลินจิต ชิดลม อโศก ได้สะดวก นอกจากนี้ ถ.สุขุมวิท107 ยังทะลุมาออก ถ.ศรีนครินทร์ได้ มีสถานี ศรีแบริ่ง รถไฟฟ้าสายสีเหลืองอยู่ปากซอย

Origin เลือกใช้ดีไซน์ที่มีการเอาความคลาสสิคมาตีความในรูปแบบใหม่ให้ทันสมัย และเข้ากับกลุ่มลูกค้าของตัวเองมากขึ้น แทนที่จะใช้ดีไซน์ธีมอวกาศ (Space) เหมือน 2 โครงการแรก เนื่องจากคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ยังคงกลิ่นอายของย่านที่พักอาศัยดั่งเดิม การวางโครงการที่แตกต่างจนไม่มีจุดเชื่อมโยงกับบริบทรอบข้าง จะทำให้เมืองเสียความเป็นกลมกลืนไป

แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ปล่อยให้โครงการกลมกลืนจนหายไปกับอาคารอื่นๆ ORIGIN สร้างความแตกต่างโดยเน้นความทันสมัยเรียบหรูจนคนแถวนั้นต้องอิจฉา ด้วยการใช้สีขาวเป็นจุดเด่นแทนคอนเซปต์ “Purity” ความบริสุทธิ์

การได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ดื่มน้ำบริสุทธิ์ อยู่ในที่ที่บริสุทธิ์ เหมือนการทำให้ชีวิตเราได้ Refresh ใหม่ รู้สึกสดใส ผ่อนคลาย จากสิ่งเจือปนหนักๆ ที่เข้ามาในชีวิตเราทุกวัน

แนวคิดของ Collage คือ การผสมผสาน ดีไซน์ที่เรียบง่าย ใช้สีขาว Monochrome ผนวกกับ เส้นสายที่มี Dynamic Movement ใหม่ๆ สร้าง Space ที่แตกต่างขึ้นมา

ORIGIN เปิดจอง Online Booking ครั้งแรก!

จะเห็นว่าทั้ง 3 โครงการ KNIGHTSBRIDGE ที่ปล่อยมา ต่างก็มีจุดเด่นด้านทำเลที่แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นทำเลดาวรุ่ง New CBD พระราม 9 อย่างโครงการ KNIGHTSBRIDGE Space พระราม9 ที่น่าจะเหมาะกับการลงทุนในศักยภาพที่สามารถพัฒนาได้อีกไกลของทำเลนี้ หรือที่คนทำงานตามแนว MRT ย่านสีลม สาทร อโศก เป็นทำเลที่จะทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตแบบชาวเมือง สามารถWork hard Play hard จบในที่เดียว หรือทำเล รัชโยธิน ของ KNIGHTSBRIDGE Space รัชโยธิน ที่มีแหล่งงานที่กระจายอยู่กับที่อยู่อาศัย ต่างจากทำเลกลาง CBD โดยเฉพาะอาหารการกินที่เดินยังไงก็เจอ และยังใกล้สถานศึกษาอย่าง ม.เกษตร รวมถึงทำเล BTS แบริ่ง ของ KNIGHTSBRIDGE Collage สุขุมวิท 107 ที่เหมาะกับคนทำงานย่าน CBD ที่กำลังมองหาคอนโดราคาดี เดินทางสะดวก รักใครชอบใครคงต้องไปตัดสินใจกันเอาเอง

ส่วนใครที่สนใจห้องแบบ  Duo Space ของทั้ง 3 คอนโดระดับ Spaceship จาก ORIGIN  KnightsBridge Space พระราม 9,  KnightsBridge Space รัชโยธิน และ  KnightsBridge Collage สุขุมวิท 107

สามารถลงทะเบียน https://goo.gl/TPJpw4 เพื่อรับสิทธิพิเศษ ส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท ในราคาสุดเอ็กคลูซีฟ ได้ก่อนใครได้ที่ โดยเปิดจอง Online Booking 8  มี.ค. Exclusive 100 ยูนิต แรกเท่านั้น!