A5 พลิกโฉมแบรนด์ครั้งใหญ่ จับอินไซต์ของคนอยากมีบ้านเพื่อสร้าง Brand Purpose บนแนวคิด Greatness Inspired by Love พร้อมอวดโครงการล่าสุด VANA Ratchapruek – Westville
ช่วงปีที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปดูโครงการอสังหาฯระดับ Luxury – Ultra Luxury ที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่เยอะมากๆครับ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำแทบจะทั้งหมดล้วนทุ่มเท และทุ่มทุนไปที่การพัฒนาโครงการในระดับบน เพื่อให้สอดรับกับดีมานท์ และกำลังซื้อที่แข็งแกร่งแบบไม่มีวันหมดของผู้ซิ้อโครงการในระดับนี้ทั้งชาวไทยและต่างชาติ จึงทำให้หลายๆโครงการล้วนสร้างเสร็จพร้อมๆกันเพื่อช่วงชิงกำลังซื้อให้มาเป็นของตัวเอง แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงโครงการหรู ราคาแพง ตั้งอยู่บน Super Prime Area หลายๆคนก็จะมีภาพจำถึงแบรนด์ชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ฯว่าต้องเป็นเจ้าของโครงการนั้นๆ ซึ่งนั้นก็ค่อนข้างมีเหตุผลในระดับหนึ่งจากสายป่านในด้านเงินลงทุน รวมไปถึงเครือข่ายคอนเนคชั่นแลนด์ลอร์ด แต่เชื่อไหมครับ ว่าปีที่ผ่านมามีดีเวลลอปเปอร์รายกลางในตลาดเจ้าหนึ่งที่ทำให้ผมเซอร์ไพร์สไม่น้อยกับการเปิดตัวโครงการพร้อมอยู่ในระดับ Masterpiece ในย่านนั้นๆถึง 2 โครงการเลย นั่นก็คือบริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 ครับ เพราะ 2 โครงการดังกล่าวทั้ง Cinq Royal Krungthep Kreetha และ Tonson One Residence นั้นล้วนมีทำเลที่ตั้งอยู่ในจุดศูนย์กลางของย่านนั้นๆ และมีมูลค่าโครงการรวมกันกว่า 6,500 ล้านบาท ที่สำคัญก็คือมียอดขายและยอดโอนที่ดีมาก จนคู่แข่งโดยรอบต้องหันมามองด้วยความอิจฉา และที่ดีนี่ไม่ใช่ว่าจะเกิดจากการทำ Cost Leadership นะครับ แต่เกิดจากการมองขาดในเรื่องของรสนิยมที่แตกต่างของกลุ่มคนซื้อ และการบริหารต้นทุนที่ดิน รวมไปถึงการมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงการที่จับกลุ่มตลาดแบบเฉพาะเจาะจง (Niche Market) เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง
“ทำไมโครงการนี้ถึงกล้าที่จะพัฒนาบ้านหลังใหญ่เป็นพันตารางเมตร ด้วยจำนวน 46 ยูนิตในขณะที่เพื่อนบ้านรอบๆข้างก็ดูจะกังวลในเรื่องของขนาดและราคาที่อาจจะหาคนมาซื้อยาก…นี่คือสิ่งแรกที่ผมคิดเมื่อเข้าไปชมโครงการ Cinq Royal Krungthep Kreetha และในส่วนของ Tonson One Residence ก็สร้างความน่าสนใจให้กับผมไม่น้อยเมื่อได้เห็นการวางผังห้องแบบ Super Exclusive เป็นรูปแบบห้องหัวมุมทั้ง 80 ยูนิต มี Private Lift ทั้งๆที่เค้าทำเป็นตึกสูงถึง 29 ชั้น บนทำเลที่เป็นไข่แดงของคอนโด Leasehold เลย และยังทำราคาได้ดีกว่าคอนโดในบล๊อคข้างเคียงอีกเกือบ 50%…นี่ถ้าผู้พัฒนาไม่มี Passion ในการทำโครงการ ไม่ใจใหญ่ แต่ไปทำแบบกั๊กๆตามแบบสมัยนิยม เห็นทีผลตอบรับคงจะไม่เป็นแบบนี้”
ประโยคด้านบนคือคำถามที่อยู่ในใจของผมเสมอมานับตั้งแต่วันที่ได้เข้าไปดูโครงการ ซึ่งคำตอบบางส่วนผมเองก็เคยได้ฟังจากคำสัมภาษณ์ของคุณศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มาบ้างว่าการที่โครงการได้ผลตอบรับที่ดีมาจาก 2 ข้อหลัก 1. เน้นออกแบบโครงการให้ Differentiate ตรงใจกลุ่มตลาด Niche ของแต่ละ segment หรือกลุ่ม Real Demand ที่ต้องการซื้อบ้านแล้วไปเห็นโครงการอื่นทั่วไปแล้วไม่ชอบกับสไตล์บ้านแบบเดิมๆ และจับกลุ่มนักลงทุนที่มีแนวคิดการลงทุน Niche Investor ที่ไม่ลงทุนตามแบบคนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่ A5 เน้นเป็นพิเศษ คือ ตลาดของผู้มีกำลังซื้อที่อยากซื้อที่ดินสร้างบ้านเอง ที่เป็น Niche หนึ่งที่มี Need ในแบบของตัวเอง ซึ่งมีขนาดตลาดที่ใหญ่พอให้เข้าไปเล่นและบริษัทฯสนอง Value Gap ส่วนนี้ได้ และ 2. การบริหารต้นทุน โดยหลักๆ มาจากค่าที่ดิน และค่าก่อสร้าง โดยที่ผ่านมาได้ที่ดินมาในราคาต่ำกว่าตลาด ส่วนในเรื่องของต้นทุนการก่อสร้าง บริษัทก็มีพันธมิตรที่ทำงานร่วมกันมานาน และเป็นผู้รับเหมาที่มีคุณภาพดี ทำให้ใช้วัสดุมีคุณภาพดีอย่างเต็มที่
ก้าวต่อไปของ A5 สร้างความแตกต่างอย่างมีคุณค่าบนแนวคิด “ใช้หัวใจที่ยิ่งใหญ่ สร้างสรรค์ความสุข ให้คนที่เรารักทั้ง 5A”
สำหรับใครที่ยังไม่เคยรู้จัก A5 มาก่อน ผมขอถือโอกาสนี้บอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ในแบบย่อๆแล้วกันครับ โดยบริษัทAsset Five Group หรือ บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ปัจจุบันมีชื่อย่อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า “A5” เป็นบริษัท Holding Company ที่เน้นลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บนทำเลศักยภาพในกรุงเทพฯ และหัวเมืองต่างจังหวัด ที่ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 5 กันยายน 2556 มานานกว่า 10 ปีแล้วโดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงการที่จับกลุ่มตลาดแบบเฉพาะเจาะจง (Niche Market) เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง และพุ่งเป้าสู่การเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้าผู้แสวงหาประสบการณ์ที่โดดเด่น และยังสะท้อนอัตลักษณ์ของตัวเองในการอยู่อาศัยได้ดีที่สุด ซึ่งในปัจจุบัน A5 มีโครงการอสังหาฯอยู่ในมือหลายโครงการทั้งทำเลกรุงเทพฯ โซนตะวันออกและตะวันตก และหัวเมืองใหญ่ในภาคอีสาน เช่น อุดรธานี บน 4 แบรนด์หลัก ได้แก่ Tonson One Residence, Cinq Royal, VANA และรชยา เป็นบ้านเดี่ยวราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท ที่เน้นตลาดต่างจังหวัด โดยทิศทางในการพัฒนาในช่วง 2 ปีต่อจากนี้จะเน้นพัฒนาโครงการแนวราบในกลุ่มตลาด Luxury – Ultra Luxury เป็นหลัก และมีแผนพัฒนาโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ กับโครงการ VANA Ratchapruek – Westville (วนา ราชพฤกษ์ – เวสต์วิลล์) มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท บนเนื้อที่ประมาณ 17 ไร่ จำนวน 43 หลัง บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ราคา 25-50 ล้านบาท โดยในปี 2567 ก็ได้เตรียมจะพัฒนาอีก 2 โครงการคือ Cinq Royal 2 มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท และ VANA 3 มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท เนื้อที่ 21 ไร่
Tonson One Residence
Cinq Royal Krungthep Kreetha
Vana Residence พระราม 9 – ศรีนครินทร์
บ้านรชยา
แม้ว่าทิศทางในการเติบโตของบริษัท A5 ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้นำของกลุ่มตลาด Niche Market จะมีแนวโน้มที่สดใส จากผลตอบรับของตลาดที่ดีในแทบจะทุกโครงการทั้งบ้านเดี่ยว และคอนโด แต่อย่างไรก็ตามด้วยการที่บริษัทมีขนาดใหญ่ขึ้น มีกลุ่มลูกค้าที่มากขึ้น อีกทั้งทางบริษัทเองก็มีแผนในการพัฒนาโครงการเพื่อให้สอดคล้องไปกับความต้องการของตลาดที่แตกต่างกันไปในทุกกลุ่มเซกเมนท์ โดยจากการทำ Research พบว่าแบรนด์ Asset Five นั้นค่อนข้างมีภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราในแบบ Authentic Luxury แต้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในแบบ New Luxury ยาก ในขณะเดียวกันก็ยังมีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อยเลยที่ยังคงสับสน จำแบรนด์สลับกันกับดีเวลลอปเปอร์อีกรายในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นในปีนี้บริษัทจึงมีแผนปรับปรุงภาพลักษณ์และกลยุทธ์แบรนด์ใหม่ (Rebranding) โดยอนาคตก็วางแผนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท A5 จำกัด (มหาชน) เช่นกัน (อ่านว่า เอ – ไฟว์ แบบตรงๆเลยครับ) ซึ่งเป็นชื่อและภาพลักษณ์ที่มีความทันสมัยแฝงด้วยความอบอุ่น เพื่อให้กลุ่มลูกค้าได้เห็นถึงพัฒนาการของบริษัทซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นที่มีต่อโครงการต่างๆ ของบริษัทโดยตรง
ซึ่งการทำ Rebranding ในครั้งนี้จะอยู่ภายใต้ Brand Purpose ใหม่ล่าสุด คือ A5 Greatness Inspired by Love “ใช้หัวใจที่ยิ่งใหญ่ สร้างสรรค์ความสุข ให้คนที่เรารักทั้ง 5A” เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดีขึ้น ดูใกล้ชิด และมีความอบอุ่นสอดคล้องกับความต้องการของตลาด และแนวคิดการพัฒนาโครงการต่อจากนี้ของ A5 ที่ทางบริษัทฯต้องการสื่อให้เห็นว่าไม่ได้สร้างแค่บ้าน แต่ใช้ใจใหญ่สร้างความสุข ซึ่งจะถูกถ่ายทอดผ่านหลักปฎิบัติในการสร้างคุณค่าของแบรนด์ที่ชัดเจน โดยลงลึกไปถึงรายละเอียดองค์ประกอบทั้ง 5A ที่คนที่อยู่ในบ้านของ A5 จะสามารถสัมผัสประสบการณ์นี้ได้ ซึ่งจะประกอบได้ด้วย
A Better Me ความภาคภูมิใจในตัวเองที่ได้เลือกบ้านที่ใช่, A Happy Home ความสุขในครอบครัวผ่านบ้านที่ดีไซน์ทุกตารางเมตรให้มีช่วงเวลาที่ดีในทุกวัน, A Place Full of Memories ให้บ้านเป็นพื้นที่ความทรงจำพิเศษของทุกคนในช่วงเวลาต่างๆ, A Life Full of Joy ความสนุกของที่ได้ใช้เวลาร่วมกันกับเพื่อนที่ดี บนสังคมที่ดี และ A Better Planet ความโอบอ้อม แบ่งปันให้ผู้อื่น ผ่านการใช้นวัตกรรมที่ใส่ใจโลก เพื่อให้คุณได้อยู่ในอนาคตอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ทาง A5 ยังได้มีการปรับเปลี่ยนอัตลักษณ์ของ Logo ใหม่ จากเดิมเป็นที่เป็น Typo ของชื่อบริษัท Asset Five ก็ได้มีการปรับให้เป็น สัญลักษณ์ตัวอักษรพิเศษ รูปทรงหัวใจสะท้อนความรัก ที่วางคู่กับตัวอักษร A5 โดยสัญลักษณ์พิเศษนี้เกิดจากการนำเอาตัวอักษร A, 5 และรูปหัวใจ มาร้อยเรียงต่อกันให้เกิดเป็นมิติของความต่อเนื่อง ในแบบ Infinity เป็นสายใยผูกพันไม่รู้จบ เปรียบเสมือนการเชื่อมต่อความใส่ใจด้วยความรักของ A5 ไปสู่สายใยของผู้อยู่อาศัย และสังคมรอบข้าง หัวใจ 2 ดวงที่ผูกกันแบบ Balancing กัน ยังสื่อความหมายว่าทุกคนในบ้านมีความเสมอกัน เท่ากัน ไม่มีใครเด่นกว่าใครเปรียบเสมือน ความรักของ A5 ที่คล้องใจอีกดวงของลูกค้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ A5 GREATNESS Inspired by Love ใช้หัวใจที่ยิ่งใหญ่ สร้างสรรค์ “ความสุข” ให้คนที่เรารักผ่าน 5 A นอกจากนี้ภายใต้โลโก้จะประกอบไปด้วย A, เลข 5 และหัวใจที่จัดวางอย่างลงตัว โดยมีการเพิ่มอัตลักษณ์พิเศษที่อักษร A ให้ป็นเหมือนหลังคาบ้านที่มีลักษณะเป็นหัวลูกศรพุ่งขึ้น เพื่อสื่อถึงความตั้งใจในการพัฒนาโครงการเพื่อให้เกิดแต่สิ่งที่ดีๆขึ้นในบ้านทุกวัน นอกจากนี้ตัวอักษร A5 ที่อยู่ด้านข้างสัญลักษณ์ก็ยังเลือกรูปแบบที่ดูทันสมัย เป็นมิตร เข้าถึงง่าย เช่นกัน
สำหรับความหมายการเลือกใช้สีทองและสีแดงเบอร์กันดี้บนโลโก้ A5 ใหม่นั้น “สีทอง” หมายถึงความโชคดี ความเจริญรุ่งเรือง สื่อถึงความหรูหรา และเป็นมงคล นำพาเรื่องดีๆ มาให้เสมอ โดยที่สีทองยังเป็น DNA ของ A5 เสมอมา และยังนำมาใช้ในโลโก้ใหม่นี้ด้วย ส่วน “สีแดงเบอร์กันดี้” หมายถึง ความมีระดับ ความรัก ความใส่ใจ สื่อถึงความหรูหราอย่างมีระดับ และยังสื่อถึงความอดทนรอคอยความสำเร็จ เหมือนไวน์แดงที่ผ่านการบ่มมายาวนานจนได้ไวน์ชั้นดี