ต่อไปนี้สาทรจะมีอาคารกระจกที่เป็น Iconic Landmark และเป็น Background ของกันและกันมากถึง 2 แห่ง ทั้ง King Power Mahanakhon และ TAIT Sathorn 12 โดย Raimon Land X Tokyo Tatemono ที่ผมได้มีโอกาสขึ้นมาชมทุกซอกทุกมุมของโครงการในวันนี้ครับ…

Tait Sathorn 12 สื่อความหมายถึงความสดชื่นในภาษาของชาวนอร์ดิก และนับว่าเป็นการสานต่อความสำเร็จจากโครงการของ Raimon Land ในย่านใกล้กันอย่าง The Lofts Silom ซึ่ง Tait Sathorn 12 มีการออกแบบที่คำนึงถึงทัศนียภาพอันสวยงามของเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริบทรอบข้าง ซึ่งเป็นย่านที่รับรู้กันดีว่ามีอาคาร King Power Mahanakhon เป็น Iconic Landmark สำคัญระดับโลก โดยวันนี้ Tait Sathorn 12 ก้ได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นแล้วจากความสวยงามของตัวอาคารเอง ว่าที่นี่จะกลายเป็นอีกหนึ่ง Iconic Building ที่ตั้งตระหง่านเป็นฉากหลังของ King Power Mahanakhon ได้ในแบบกลมกลืนมากที่สุด ชนิดที่ว่าถ้ามี King Power Mahanakhon แล้วจะขาด Tait Sathorn 12 ไปก็ไม่ได้ เพราะจะเป็นอีกหนึ่ง Landmark ใหม่ของกรุงเทพฯ ซึ่งจะทำให้ทัศนียภาพโดยรวมของย่านสาทรตอนกลาง เติมเต็มซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง!

คุณกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RML เผยด้วยความภูมิใจว่า “เทตต์ สาทร ทเวลฟ์ นับเป็นความภาคภูมิใจครั้งใหม่ของ RML ซึ่งโครงการออกแบบตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองได้ครบทุกมิติ จึงทำให้กวาดยอดขายไปเร็วถึง 90% ตั้งแต่โครงการยังสร้างไม่เสร็จ รวมถึงลูกค้าต่างชาติตอบรับดีมาก ปัจจุบันมีโควต้าลูกค้าชาวต่างชาติไปแล้ว 40% โดยลูกค้าชาวต่างชาติที่ซื้อเทตต์ สาทร ทเวลฟ์ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน อเมริกัน สิงคโปร์ ไต้หวัน และออสเตรเลีย ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าซื้อโครงการเพื่ออยู่เอง 60% และซื้อไว้เพื่อลงทุน 40% เราตั้งเป้ายอดโอนโครงการดังกล่าวในปีนี้ไว้ที่ประมาณ 2,600 ล้านบาท ทว่าตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ลูกบ้านโอนไวมาก โดยมียอดโอนแล้วถึงประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งเกินครึ่งของเป้าหมายที่ตั้งไว้ สะท้อนถึงเสียงตอบรับที่ดี และความไว้วางใจจากลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ RML อย่างล้นหลาม เช่นเดียวกับโครงการ The Estelle Phrom Phong ที่ตอนนี้โควต้าต่างชาติเต็มหมดแล้ว และมียอดขาย 99% โดยห้องที่ยังเหลือจะมีราคาเริ่มต้นตรม.ละ 256,000 บาท

โดยตลาดคอนโดมิเนียมซุปเปอร์ไพรม์ที่มีราคาขายเฉลี่ย 200,000 บาท/ตร.ม.ขึ้นไป ซึ่งเป็นเซกเมนต์ของโครงการ ‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ ยังคงเติบโต แม้ว่าที่ดินในการพัฒนาจะน้อยลง แต่ความต้องการในตลาดกลุ่มนี้ยังมีสูง จากข้อมูลของฝ่ายวิจัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่าคอนโดฯ ซุปเปอร์ไพรม์ในไตรมาส 2 ปีนี้ มีอุปทาน (Supply) เปิดใหม่เพียงแค่ 1% เท่านั้น ในขณะที่มีอัตราดูดซับ (Absorption Rate) อยู่ที่ 87% ซึ่งทำเลที่มีศักยภาพในโซน CBD อย่าง สีลม สาทร มีอุปทานคอนโดฯ ซุปเปอร์ไพรม์อยู่ที่ 10% เพราะถูกดูดซับไปมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าทำเลนี้ยังคงได้รับความนิยม ด้วยทำเลที่มีปัจจัยที่ตอบโจทย์ทุกวิถีชีวิตได้อย่างดีเยี่ยม ที่ผ่านมา RML จึงได้พัฒนาโครงการในทำเลนี้มาแล้ว 2 โครงการ คือ ‘เดอะ ลอฟท์ สีลม’ และ ‘เดอะ ดิโพลแมท สาทร’ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก ปิดการขายทั้งหมดแล้ว ในขณะที่ราคาขายรีเซลก็เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ดังนั้นเราจึงพัฒนาโครงการที่สาม ‘เทตต์ สาทร ทเวลฟ์’ ขึ้นในทำเลนี้ รองรับดีมานด์ของคนที่มองหาที่อยู่อาศัยและ คอนโดฯ เพื่อลงทุนปล่อยเช่า” คุณนายกรณ์ กล่าวเสริม

Tait Sathorn 12 ตั้งอยู่ใกล้เพียง 180 เมตรจาก BTS สถานีเซนต์หลุยส์ ซึ่งเป็นสถานีใหม่บริเวณหน้าปากซอยสาทร 12 และยังไม่ไกลจาก BTS สถานีช่องนนทรี  โดยบริเวณฝั่งถนนสาทรเหนือ ช่วงซอยสาทร 12 นี้ เรียกว่าเป็นย่านที่แม้จะไม่ได้อยู่ริมถนนใหญ่สาทร แต่กลับมอบความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยรถยนต์ที่มากกว่า ให้ความ Privacy ที่แตกต่างจากการอยู่ริมถนนใหญ่ โดยซอยหลักอย่างสาทร 12 นั้นเป็นซอยคู่ขนานกับสาทร 10 ที่แยกย่อยทะลุออกไปฝั่งถนนสีลมผ่านทางสีลมซอย 9 จนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน สามารถหลบเลี่ยงการเดินทางบนถนนใหญ่สาทรในวันที่สภาพการจราจรไม่เป็นใจได้อย่างไม่ต้องกังวล ที่นี่จึงมีข้อได้เปรียบในเชิงทำเลที่แตกต่างจากโครงการริมถนนใหญ่สาทรอื่นๆ โดยหากใครที่ไม่ชอบความเงียบเหงาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของถนนสาทร ก็ยังสามารถลัดเลาะออกไปใช้ชีวิตแบบมีสีสันได้ในย่านสีลม – พระรามสี่ – หลังสวน ได้ง่ายมากๆเช่นกัน

โครงการโดดเด่นด้วยความสูงถึง 40 ชั้น จำนวน 231 ยูนิต เป็นอาคาร Glass Curtain Wall ในรูปแบบ Iconic Slope Design ออกแบบงานสถาปัตยกรรมโดย A49 งาน Interior โดย A49 และงานภูมิสถาปัตกรรมโดย Shma ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1-3-22.71 ไร่ โดยไฮไลท์ของที่นี่นอกจากจะเป็นดีไซน์ทันสมัยที่กลมกลืนไปกับอาคาร King Power Mahanakhon แล้ว ตัวอาคารยังนำกระจก Double-Glazed with Full Height Curtain Walls ช่วยกันความร้อน และเสียงรบกวนจากภายนอกมาตกแต่ง พร้อมพื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้าเล่นระดับ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันบนพื้นที่ 6 ชั้น กว่า 2,000 ตร.ม. อาทิ Sky Lounge, Amphitheater, Sky Gym, Sky Dining, Sky Pavilion, Sky Pool & Jacuzzi รวมถึงโครงการนี้เป็น Pet Friendly ที่มีพื้นที่สวนให้สัตว์เลี้ยงด้วย

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางบนยอดอาคาร TAIT Sathorn 12 ก็จัดมาให้อย่างจุใจต่อเนื่องถึง 6 ชั้น บนชั้น 35 – Rooftop ด้วยพื้นที่กว่า 2,000 ตรม. เริ่มจากชั้น 35 ที่เป็นห้อง Steam และ Sky Garden ส่วนชั้น 36 จะเป็นสระว่ายน้ำยาว 20 เมตร แบบปรับอุณหภูมิ พร้อมระบบกรองน้ำปราศจากคลอรีน พร้อมจากุซซี่ สระเด็ก และ Sky Deck พร้อม Cabana เอาไว้นั่งชมวิวมุมสูง

สระว่ายน้ำยาว 20 เมตร วิว 270 องศา หันไปทางฝั่งทิศใต้ โดยรับวิว King Power Mahanakhon ทางด้านทิศตะวันตก

ชั้น 37 มี Sky Lounge, Library & Study Area, Amphitheatre และ Cavern View Point โดย Amphitheatre ไล่ระดับสูงไปจนถึงชั้น 38 ที่เป็น Sky Gym พร้อมอุปกรณ์แนว Cross Fit และห้อง Multi-Purpose Gym Studio

ส่วนชั้น 39 และ Rooftop จะเป็นที่แฮงค์เอ้าท์ที่เหมาะกับคนสายชิลล์ กินบรรยากาศ โดยชั้น 39 ประกอบด้วยพื้นที Private Dining ที่มีทั้ง Pantry และ Wine Cellar ให้ พร้อม Sky Garden ที่บริเวณ Outdoor สุดท้ายที่ชั้น 40 Rooftop ก็จะเป็น Pavilion และ Sky Dining แบบ Outdoor

Tait Sathorn 12 มีห้องเริ่มต้นขนาดที่ไม่ใหญ่มากคือ 40 ตรม. – 141 ตรม. โดยมากกว่า 50% เป็นห้องแบบ 1 นอนขนาด 40-67 ตรม. ที่พักอาศัยมีโถงทางเดินแบบ Single Loaded Corridor เกือบทุกยูนิต โดยที่นี่จะเน้น Unit แบบ 1 ห้องนอน ที่มีให้เลือกทุกทิศ ไม่ว่าจะเป็น ทิศเหนือที่หันไปทางสีลม ทิศใต้ที่หันเข้าถนนสาทร ทิศตะวันตกหันเข้าสาทร 12 และถนนสุรศักดิ์ ส่วนทิศตะวันออกหันไปทางด้านตึก King Power Mahanakhon ด้านสถานี BTS ช่องนนทรี สำหรับความสูงของห้องจะแบ่งเป็น 2 ระดับคือ 3 เมตรที่ชั้น 9-20 และ 3.15 เมตรที่ชั้น 21-34 โดยมีบางห้องได้วิวสวนลอยฟ้า พร้อมที่จอดรถ 95% หรือราวๆ 211 คันแบบวนจอด โดยราคาเริ่มต้นของห้องที่เหลือคือประมาณตรม.ละ 263,000 บาทครับ (ข้อมูลเดือนพย. 2023) และราคาเฉลี่ยของห้องทั้งหมดประมาณตรม.ละ 280,000 บาท ราคาปรับขึ้นจากช่วงเปิดตัวครั้งแรกประมาณ 15% และปล่อยเช่าได้ประมาณตรม.ละ 800 – 900 บาทครับ

ปัจจุบันโครงการเหลือห้องขนาด 1-2 ห้องนอน โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 68 – 118 ตร.ม. ทั้งนี้มีห้องตัวอย่างใหม่ให้ชมบนตึกจริง 2 ห้อง คือ แบบ 1 ห้องนอน ‘ดิ ไอคอนิค สวีท’ ที่มีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์สามารถปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย พื้นที่ใช้สอย 68 ตร.ม. ความพิเศษของห้องนี้คือเน้นส่วนห้อง Grand Master Bathroom ที่กว้างมาก มีทั้งอ่างอาบน้ำ และ Walkin Closet เป็นห้องน้ำแบบ Double Access และห้อง Multi Purpose Room ข้างๆห้องครัว มีราคาเริ่มต้นเพียง 17.9 ล้านบาท ที่ชั้น 22 และแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้อง Powder ขนาด 135 ตรม. 45.6 ลบ. ขายพร้อมเฟอร์ฯ และห้องอื่นๆจะเป็นพื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 79-118 ตร.ม. โดยยูนิต 2 ห้องนอนปัจจุบันที่เหลืออยู่แต่ละห้องมี layout ที่แตกต่างเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งผู้ซื้อจะได้แบบห้องที่มีแบบเดียวในโลก ถือว่าเป็นไอคอนิคไลฟ์แท้จริง และทุกห้องอยู่บนชั้นสูงทั้งหมด มอบวิว ทั้งแบบพาโนรามา หรือ 360 องศา โดยห้องที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ที่เพิ่งขายไปเป็นห้อง Combined 3 ยูนิต ให้เป็นขนาด 280 ตรม. ขายไปในราคา 110 ลบ.ให้กับคนจีน

แถมรูปภาพโครงการแนวราบแห่งใหม่ของบริษัทฯมา 1 รูปครับ น่าจะเป็นที่สุขุมวิท 28 ดูทรงแล้วคล้ายๆ The Diplomat เลยครับ เริ่ม 300 ลบ.ต่อหลังจำนวนประมาณ 5 หลังครับ

มาสัมผัสโครงการที่เป็นแลนด์มาร์กของสาทรได้แล้ววันนี้ นัดหมายล่วงหน้าเพื่อเข้าชมโครงการได้ที่ โทร. 02 029 1888 Line Official @raimonland หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.raimonland.com

#Raimonland #RMLWellBeing #RMLReimagined #LuxuryReimagined